เจาะลึกเทคโนโลยี AI บน Huawei Mate 20 Series อีกขั้นของความฉลาดบนสมาร์ทโฟน มีฟีเจอร์เด่นอย่างไร ช่วยจัดการในด้านใดบ้าง มาดูกัน!
เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ สำหรับ Huawei Mate 20 Series ทั้ง 4 รุ่นใหม่ ได้แก่ Huawei Mate 20 / Mate 20 Pro / Mate 20 RS Porsche Design / Mate 20X ที่มาพร้อมกับการปรับโฉมดีไซน์ใหม่หมดจดด้วยจอไร้ขอบที่มีขอบบางเฉียบกว่าเดิม และกล้องหลัง 3 ตัวจาก Leica รูปแบบใหม่ในลักษณะสี่เหลี่ยมจัตุรัส รวมถึงการอัปเกรดฟีเจอร์ภายในอีกหลายด้าน ซึ่งไฮไลท์สำคัญที่ไม่พูดไม่ได้เลยก็คือชิปเซ็ตตัวแรงใหม่ล่าสุดอย่าง Kirin 980 พร้อมกับหน่วยประมวลผล AI แบบคู่ (Dual-NPU) ภายในตัวนั่นเอง
และในวันนี้ทางทีมงานจะมาเจาะลึกเทคโนโลยี AI จากขุมพลัง Kirin 980 บน Huawei Mate 20 Series ใหม่ล่าสุดนี้ให้ได้ชมกัน ว่าจะรองรับการทำงานในด้านใดบ้าง และมีความชาญฉลาดมากเพียงใด หากพร้อมแล้วไปชมกันเลยค่ะ
Master AI
ย้อนกลับไปในรุ่น Huawei Mate 10 Pro กับการใช้งานชิปเซ็ต Mobile AI รุ่นแรกของค่ายอย่าง Kirin 970 กับครั้งแรกของการนำระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาช่วยในการรับรู้วัตถุ และสภาพแวดล้อมรูปแบบต่างๆ ภายใต้ชื่อฟีเจอร์ Real-Time Scene and Object Recognition ที่สามารถแยกรูปแบบของวัตถุ และสภาพแวดล้อมที่ต่างกันได้ถึง 13 รูปแบบ ต่อมาในปี 2018 นี้ ทาง Huawei ได้พัฒนาต่อยอดฟีเจอร์จดจำรูปแบบวัตถุต่างๆ ภายใต้ชื่อ Master AI และนำมาใช้บน Huawei P20 Series เป็นครั้งแรก จนมาถึงล่าสุดกับรุ่น Mate 20 Series การนำเอาปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาช่วยจำแนกซีน และวัตถุต่างๆ ได้ถึง 1,500 ซีนจากทั้งหมด 25 หมวดหมู่ จากเดิม 19 หมวดหมู่บน P20 Series เพื่อนำไปปรับแต่งการตั้งค่าของกล้องถ่ายภาพ และปรับแต่งสีสันของภาพถ่ายให้มีความสวยงามแบบอัตโนมัติ ซึ่งถือว่าเป็นลูกเล่นที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่อาจไม่คุ้นชินกับการตั้งค่ากล้องเองมากนัก
Huawei AIS - AI Image Stabilization
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Night Mode เปิดหน้าชัตเตอร์ค้าง 4 วินาที
Huawei Mate 20 Series มาพร้อมกับเทคโนโลยี Huawei AIS (AI Image Stabilization) ระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่ทาง Huawei พัฒนาขึ้นเอง ด้วยการนำเอาระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยล็อกเฟรมในภาพถ่าย ทำให้เราเปิดหน้าชัตเตอร์ค้างเพื่อถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยผ่านโหมด Night Mode ได้ด้วยมือโดยไม่จำเป็นต้องใช้ขาตั้งกล้อง ที่เป็นจุดเด่นมาตั้งแต่ในรุ่น P20 Series นั่นเอง
AI HDR
ฟีเจอร์ AI HDR รองรับเฉพาะบนกล้องหน้าของ Huawei Mate 20 Series กับความสามารถในการใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์เข้ามาเกลี่ยแสง เพื่อให้สามารถถ่ายภาพแบบย้อนแสงได้ โดยที่ยังเก็บรายละเอียดบนตัวแบบ และวัตถุภายในภาพได้อย่างครบถ้วน
AI Cinema
การถ่ายวิดีโอบน Huawei Mate 20 Series มาพร้อมกับฟีเจอร์ AI Cinema ที่เป็นการนำเอาระบบปัญญาประดิษฐ์ มาช่วยประมวลผลสำหรับปรับโทนสี หรือการเพิ่มเอฟเฟ็กต์ให้แก่การถ่ายวิดีโอแบบ Real-Time โดย AI Cinema ประกอบไปด้วยลูกเล่นที่น่าสนใจมากมาย ได้แก่ AI Colour - ปรับฉากหลังเป็นโทนสีขาว-ดำ ในขณะที่เก็บสีของตัวแบบไว้ / Background Blur - ถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอ / Vintage - ถ่ายวิดีโอในโทนสีแบบวินเทจ / Suspense - ถ่ายวิดีโอในแบบคุมโทนสีน้ำเงิน / Fresh - ถ่ายวิดีโอโดยเน้นปรับสีสันให้มีความสว่างสดใส
นอกจากนี้ยังสามารถตรวจจับข้อต่อของร่างกายได้อย่างแม่นยำ ทำให้วิเคราะห์ท่าโพสของตัวแบบได้ นำไปสู่การจับจังหวะการถ่ายภาพ และการวาง Composition ที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงสามารถติดตามวัตถุ และปรับค่าแสง-สีต่างๆ ให้ผู้ใช้เห็นได้แบบ Real-Time
AI Video Editior
AI Video Editor ฟีเจอร์สำหรับนักตัดต่อมือใหม่ ที่ระบบปัญญาประดิษฐ์จะจดจำใบหน้าของบุคคลทั้งหมดที่ปรากฎอยู่ภายในวิดีโอ และเราสามารถตัดต่อวิดีโอไฮไลท์เฉพาะบุคคลได้ เพียงกดเลือกคนนั้นๆ และสามารถส่งต่อให้กับเพื่อนได้อย่างง่ายดายอีกด้วย
AI Live Model
ลูกเล่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่มเข้ามาใน Huawei Mate 20 Series อย่าง AI Live Model กับความสามารถในการจำลองวัตถุต่างๆ ให้เป็นแบบ 3 มิติ พร้อมแปลงเป็นโมเดลที่สามารถสั่งการเคลื่อนไหวในอิริยาบถต่างๆ ได้ รวมถึงนำไปใช้ร่วมกับเทคโนโลยี AR ที่สามารถถ่ายภาพในแอคชั่นต่างๆ กับตัวโมเดลได้
Hi Vision
Hi Vision บน Huawei Mate 20 Series กับการนำระบบปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ และค้นหาข้อมูลต่างๆ จากการสแกนวัตถุนั้นๆ ผ่านทางกล้องถ่ายภาพไม่ว่าจะเป็น จุดชมวิว, ภาพวาดที่มีชื่อเสียง, ข้อมูลการขายสินค้านั้นๆ (ราคาเท่าใด/หาซื้อได้ที่ไหน), การคำนวณแคลอรี่ของอาหาร และการแปลภาษา
EMUI 9.0
สำหรับ EMUI 9.0 ระบบจัดการตัวเครื่องของ Huawei Mate 20 Series ในเวอร์ชันล่าสุดนี้ มาพร้อมการนำระบบปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยจัดการอย่าง AI Prediction สำหรับจดจำพฤติกรรมการใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ พร้อมคาดการณ์การใช้งานแอปพลิเคชันต่อไป โดยจะช่วยลดระยะเวลาในการเข้าแอปพลิเคชันนั้นๆ ให้รวดเร็วมากขึ้น และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ GPU Turbo ในการเล่นเกม โดยช่วยลดการดีเลย์จากการสัมผัสหน้าจอ พร้อมกับลดอุณหภูมิหน้าจอได้ถึง 3.6 องศาเซลเซียส
และสำหรับนักช็อปออนไลน์เมื่อพบสินค้าที่สนใจสามารถค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้เพียงกดที่ภาพพร้อมกัน 2 นิ้ว หรือถ่านภาพสินค้าจริงด้วยฟีเจอร์ AI E-Commerce
เรียกได้ว่า Huawei Mate 20 Series มาพร้อมกับเทคโนโลยี AI ที่ช่วยประมวลผลรอบด้านเลยทีเดียว จากพลังของชิปเซ็ตรุ่นล่าสุดอย่าง Kirin 980 ที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล AI แบบคู่ (Dual-NPU) ภายในตัวที่พัฒนาขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Kirin 970 ที่มีหน่วยประมวลผล AI เพียงตัวเดียว โดยยกระดับทั้งในด้านการจัดการพลังงาน และความชาญฉลาด ซึ่งสามารถทำการจดจำภาพได้มากถึง 4,500 รูปต่อ 1 วินาทีเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังเอื้อในักพัฒนาด้วยการรองรับ AI เฟรมเวิร์คอย่าง Caffee, Tensorflow และ Tensorflow Lite รวมถึงรองรับชุดเครื่องมือที่ช่วยให้การพัฒนาระบบ AI บนมือถือนั้นง่ายขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ Huawei Mate 20 Series ยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่อีกหลายด้านด้วยกัน ซึ่งสามารถติดตามอ่านต่อได้ที่นี่ค่ะ
- เจาะลึก Kirin 980 ชิปเซ็ตระดับ 7nm รุ่นแรกของโลกบน Huawei Mate 20 Series
- เจาะลึกระบบกล้อง Leica 3 ตัวบน Huawei Mate 20 Series
ท่านใดที่สนใจ Huawei Mate 20 Series สามารถติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับกำหนดการวางจำหน่าย และราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทยได้ภายในงานเปิดตัววันที่ 25 ตุลาคมนี้ ซึ่งทางทีมงานจะรีบมาอัปเดตให้ได้ทราบกันค่ะ อย่าลืมติดตามเพจ Thaimobilecenter.com กันนะคะ
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 24/10/2561