หน้าแรกมือถือ > รวมข่าวมือถือ > หน้าบทความ ข่าวมือถือ
   
Date : 15/12/2561

รวม 5 ฟีเจอร์เด่นของ iPhone XS Max มือถือตัวท็อปสุดของ Apple ด้วยจอใหญ่เต็มตา, กล้องคู่ผสานฟังก์ชัน Smart HDR และชิป Apple A12 Bionic ทรงพลัง!

 

ในช่วงกำลังเข้าสู่เทศกาลปีใหม่แบบนี้ หลายท่านน่าจะกำลังมองหาของขวัญเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่กันอยู่อย่างแน่นอน ซึ่งหากพูดถึงหนึ่งในสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปที่มีความน่าสนใจในปีนี้ก็คงหนีไม่พ้น iPhone XS Max สมาร์ทโฟนตัวท็อปสุดจากค่าย Apple ที่มีการปรับปรุงยกเครื่องใหม่หลายต่อหลายด้าน

และในวันนี้ทางทีมงาน Thaimobilcenter จึงจะมาสรุป 5 จุดเด่นหลักๆ ของ iPhone XS Max สมาร์ทโฟนตัวท็อปสุดของ Apple แห่งปี 2018 เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้แก่ทุกท่าน โดย iPhone XS Max จะมีจุดเด่นอะไรบ้างนั้น เราไปติดตามกันเลยครับ

 

จอใหญ่สุดเท่าที่ Apple เคยทำมา คุณภาพระดับ A+ พร้อมความแข็งแกร่งขั้นสุด

แม้ว่า iPhone XS Max ยังคงเลือกใช้หน้าจอแบบ Super Retina OLED บนดีไซน์จอขอบจรดขอบแบบ All-Screen เหมือนกับ iPhone X และ iPhone XS แต่ก็มาพร้อมกับขนาดของหน้าจอที่ใหญ่ถึง 6.5 นิ้ว บนความละเอียดคมชัดระดับ 2688x1242 พิกเซล ซึ่งถือว่าเป็นหน้าจอขนาดใหญ่เท่าที่ Apple เคยนำมาใช้กับ iPhone เลยทีเดียว

 

ไม่เพียงแค่ขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นเท่านั้น แต่คุณภาพการแสดงผลก็มีการอัปเกรดขึ้นเช่นเดียวกัน โดยทาง DisplayMate ผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบคุณภาพหน้าจอระดับโลก ได้ให้คะแนนหน้าจอของ iPhone XS Max อยู่ที่ระดับ A+ พร้อมกับยกให้เป็นสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอดีที่สุดเท่าที่เคยทดสอบมา โดยให้คะแนนในเรื่องของจุดเด่นด้านการแสดงสีสันที่เที่ยงตรง, ความสว่าวของหน้าจอที่สูงถึง 660 nits, รองรับการแสดงสีสันตามมาตรฐาน sRGB / Rec.708 และ Wide DCI-P3 ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับที่ใช้บโทรทัศน์ระดับ 4K Ultra HD, ค่า Contrast Ratio ที่สูง รวมถึงอัตราการทะส้อนของหน้าจอที่อยู่ในระดับต่ำ

นอกจากนี้ iPhone XS Max ยังเลือกใช้กระจกที่มีความแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีบนสมาร์ทโฟน (Most durable glass ever in smartphone) ส่งผลให้การป้องกันรอยขีดข่วน รวมถึงป้องกันความเสียหายจากการตกกระแทกได้ดีขึ้น ซึ่งจากการทดสอบโดยสื่อต่างประเทศหลายเจ้าก็พบว่า iPhone XS Max สามารถกันรอยขีดข่วนจากการใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดีโดยไม่เกิดรอยบนหน้าจอ แต่อย่างไรก็ดี แม้กระจกของ iPhone XS Max จะป้องกันรอยได้ดีขนาดไหน แต่ผู้ใช้ควรที่จะติดตั้งกระจกกันรอยนิรภัยเพื่อช่วยป้องกันหน้าจอสมาร์ทโฟนอีกชั้นหนึ่ง เพราะหากหน้าจอเกิดความเสียหาย ก็อาจต้องจ่ายเงินในการเปลี่ยนหน้าจอเป็นจำนวนหลักหมื่นบาทเลยทีเดียว (อ้างอิงจากเว็บไซต์ของ Apple) ซึ่งในปัจจุบันก็มีกระจกนิรภัยสำหรับ iPhone XS Max วางจำหน่ายแล้ว อย่างเช่น Focus Full Frame กระจกกันรอยแบบต็มจอ พร้อมความแข็งแกร่งระดับ 9H พร้อมคุณสมบัติ Smooth Touch ที่ช่วยให้ทัชสกรีนได้อย่างลื่นไหล และคุณสมบัติ Shatter Proof ที่แม้ว่ากระจกกันรอยจะเสียหาย แต่ตัวกระจกก็จะไม่แตกกระจาย และไม่บาดมือ

 

Apple A12 Bionic ชิปเซ็ตทรงพลัง แรงสุดในวงการสมาร์ทโฟน

iPhone XS Max ยกเครื่องประสิทธิภาพการทำงานใหม่หมดจดด้วยชิปเซ็ต Apple A12 Bionic ซึ่งเป็นขุมพลังตัวใหม่ล่าสุดของ Apple มีจุดเด่นด้านการผลิตด้วยสถาปัตยกรรมระดับ 7 นาโนเมตร ช่วยให้แรงขึ้น และประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น โดยโครงสร้าง CPU แบ่งออกเป็น แกนประสิทธิภาพจำนวน 2 คอร์ และแกนประหยัดพลังงานอีก 4 คอร์ แต่ด้วยสถาปัตยกรรมการผลิตที่เล็กลงส่งผลให้ประหยัดพลังงานมากขึ้นจากรุ่นก่อนราว 50% และยังแรงขึ้นกว่าเดิมถึง 15% นอกจากนี้ Apple A12 Bionic ยังมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) แบบ 4 คอร์ ที่ทาง Apple พัฒนา และออกแบบขึ้นมาเอง ซึ่งแรงขึ้นกว่าชิปกราฟิกตัวเก่ากว่าครึ่งด้วยกัน รวมถึงยังมาพร้อมกับ Neural Engine สำหรับช่วยประมวลผลการทำงานด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI โดยเฉพาะ

 

นอกจากนี้ iPhone XS Max ยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่อย่าง iOS 12 ตั้งแต่แกะกล่อง ซึ่งระบบปฏิบัติการเวอร์ชันนี้ทาง Apple เน้นไปในเรื่องของการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่าเดิม ซึ่งจากการที่นำไปทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu ก็พบว่า สามารถทำคะแนนได้สูงถึง 366470 คะแนน ซึ่งถือว่าเป็นคะแนนที่สูงที่สุดของสมาร์ทโฟน ณ ชั่วโมงนี้ ทำให้มั่นใจได้ว่า การใช้งานทั่วไป รวมถึงการเล่นเกมหนักๆ จะสามารถทำได้อย่างลื่นไหลอย่างแน่นอน

 

กันน้ำดีกว่าเดิม แถมกันเบียร์ (?) ได้ด้วย!

iPhone XS Max มาพร้อมกับคุณสมบัติกันน้ำที่ดีขึ้นที่ระดับ IP68 จากเดิมที่สามารถกันน้ำได้ที่ระดับ IP67 โดยสามารถกันน้ำได้ที่ความลึกสุด 2 เมตร เป็นระยะเวลานานสุด 30 นาที ซึ่งในงานเปิดตัวทาง Apple เคลมว่า ได้มีการนำไปทดสอบกับของเหลวรูปแบบต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น กาแฟ, ชา, น้ำผลไม้, ไวน์ หรือแม้แต่เบียร์ ก็ตาม แต่อย่างไรก็ดี คุณสมบัติกันน้ำที่ Apple ใส่มาให้บน iPhone XS Max ก็เพื่อป้องกันอุบัติเหตุเท่านั้น และทางทีมงานไม่แนะนำให้ผู้ใช้นำไปถ่ายใต้น้ำโดยไม่ใส่อุปกรณ์ป้องกันอย่าเช่น เคสกันน้ำ เนื่องจากทาง Apple ได้ระบุบนหน้าเว็บไซต์เอาไว้อย่างชัดเจนว่า “การรับประกันไม่ครอบคลุมความเสียหายจากของเหลว”

 

กล้องคู่ปรับหน้าชัดหลังเบลอได้ พร้อมของใหม่ Smart HDR

iPhone XS Max ยังคงเลือกใช้เซ็ทอัพกล้องคู่ที่แบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องตัวรองเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เหมือนกับ iPhone X แต่เปลี่ยนไปใช้เซ็นเซฮร์ตัวใหม่ พร้อมกับเพิ่มลูกเล่นใหม่ที่เรียกว่า Depth Control ซึ่งเป็นการปรับระดับความเบลอของฉากหลังเมื่อถ่ายภาพด้วยโหมด Portrait ผ่านการจำลองค่ารูรับแรงระหว่าง f/1.4 ไปจนถึง f/16 (ยิ่งตัวเลขน้อย ฉากหลังยิ่งละลายมาก) ซึ่งนับว่าเป็นการพัฒนาขึ้นจาก iPhone X ที่กล้องไม่สามารถปรับระดับความเบลอได้

นอกจากนี้ iPhone XS Max ยังมีลูกเล่นใหม่อีกหนึ่งอย่างนั่นก็คือ Smart HDR ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง Image Signal Processor (หน่วยประมวลผลภาพ) และ Neural Engine ที่มีอยู่บนชิปเซ็ต Apple A12 Bionic โดย Smart HDR ของ iPhone XS Max นั้น จะทำการภาพหลายๆ ในสภาวะแสงที่หลากหลายเหมือนกับโหมด HDR บนสมาร์ทโฟนทั่วไป แต่ Smart HDR เหนือกว่านั้นเพราะมีการถ่ายภาพแยกย่อยอีกหลายใบในเวลาเสี้ยววินาที เพื่อช่วยเก็บรายละเอียดของภาพให้ได้มากที่สุด รวมทั้งยังมีการถ่ายด้วยเทคนิค Long Exposure อีกหนึ่งใบเพื่อช่วยเก็บรายละเอียดแสงเงา ซึ่งภาพต่างๆ เหล่านี้ ตัวระบบจะนำไปวิเคราะห์อีกชั้นหนึ่งเพื่อหาว่าภาพใดที่เหมาะกับการนำมาผสานรวมกันเป็นภาพใบเดียว ทำให้ภาพสุดท้ายที่ออกมาจะมีความเพอร์เฟ็กต์มากที่สุดนั่นเอง ซึ่งกระบวนการที่กล่าวมาทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้น ซึ่งเป็นผลมาจาก Image Signal Processor และ Nerual Engine ที่สามารถทำงานได้มากถึง 1 ล้านล้านคำสั่งต่อหนึ่งวินาที

 

สีทองโฉมใหม่

ปิดท้ายด้วยของใหม่ที่เพิ่มเข้ามาบน iPhone XS Max คือตัวเลือกสีใหม่อย่างสีทอง (Gold) ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกที่ทาง Apple นำสีทองมาใช้บนซีรีส์ iPhone X โดยงานออกแบบนั้น ทาง Apple ได้ขึ้นโครงด้วยเฟรมแบบสเตนเลสสตีลเกรดเดียวกับที่ใช้ผลิตเครื่องมือศัลยกรรม พร้อมกระบวนการเคลือบผิวสัมผัส PVD (Physical Vapour Deposition) ซึ่งเป็นกระบวนการเคลือบผิวด้วยไอทางกายภาพ ทำให้สีของขอบสเตนเลสสตีลตัดเข้ากับสีทองของกระจกด้านหลังอย่างลงตัว

 

อย่างไรก็ดี นี่เป็นเพียงจุดเด่นส่วนหนึ่งของ iPhone XS Max เท่านั้น เพราะสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวยังมีฟีเจอร์อื่นๆ อีกมายมาย ไม่ว่าจะเป็น ระบบปลดล็อกด้วยใบหน้าแบบ Face ID, ลำโพงเสียงแบบ Streo, ฟังก์ชัน True Tone Display ที่เป็นการใช้เซ็นเซอร์ตรวจวัดสภาพแสงโดยรอบ เพื่อปรับสีสันของหน้าจอให้มีความเหมาะสม หรือระบบชาร์จไร้สาย (Wireless Charging) โดยสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมผ่านรีวิวฉบับเต็มได้ลิงก์ด้านล่างครับ

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

 

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com


วันที่ : 15/12/2561

Tags :
  

Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy