หน้าแรกมือถือ > รวมข่าวมือถือ > หน้าบทความ ข่าวมือถือ
   
Date : 10/12/2561

เทียบภาพถ่ายระหว่าง OPPO R17 Pro มือถือกล้อง 3 ตัว vs iPhone XS Max มือถือกล้องคู่ตัวท็อป ต่างกันอย่างไร มาดูกัน!

 

หนึ่งในความสามารถเด่นของ OPPO R17 Pro สมาร์ทโฟน R-Series รุ่นใหม่ล่าสุดที่กำลังวางจำหน่ายในบ้านเราในราคา 24,990 บาท นั่นก็คือ ระบบกล้องหลังจำนวน 3 ตัว (Triple Camera) เป็นรุ่นแรกของค่าย รวมไปถึงโหมดถ่ายภาพแบบใหม่ในชื่อ Ultra Night Mode ที่ตอบโจทย์การถ่ายภาพกลางคืนเป็นอย่างมาก ด้วยการถ่ายภาพเป็นระยะเวลาประมาณ 2-4 วินาที เพื่อปรับสภาพแสงให้มีความเหมาะสม ช่วยให้ภาพที่ออกมามีความคมชัด และมีรายละเอียดมากยิ่งขึ้น (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟังก์ชัน Ultra Night Mode ได้ที่นี่)

และในวันนี้ทางทีมงาน Thaimobilecenter ได้รับเชิญจากทาง OPPO ให้เข้าร่วมทดสอบถ่ายภาพที่ตึกมหานครจึงถือโอกาสนำ OPPO R17 Pro ไปถ่ายภาพเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นท็อปของค่าย Apple อย่าง iPhone XS Max สมาร์ทโฟนกล้องคู่ตัวท็อปรุ่นล่าสุดของ Apple โดยผลที่ได้จะเป็นอย่างไร กล้องของสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นมีความแตกต่างมากน้อยขนาดไหน เราไปรับชมพร้อมกันเลยครับ

*ภาพทุกภาพสามารถกดเพื่อดูขนาดใหญ่ได้


คุณสมบัติกล้อง OPPO R17 Pro และ iPhone XS Max


OPPO R17 Pro

  • กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 25 ล้านพิกเซล พร้อมรูรูรับแสงกว้าง f/2.0
  • กล้องดิจิทัลด้านหลัง 3 ตัว (Triple Camera) โดยแบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี Smart Apeture สำหรับสลับค่ารูรับแสงอัตโนมัติระหว่าง f/1.5 - f/2.4, กล้อง TOF 3D Camera และกล้องตัวที่สามความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.6 สำหรับช่วยทำภาพหน้าชัดหลังเบลอ


iPhone XS Max

  • กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซลพร้อมรูรับแสงกว้าง f/2.2
  • กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual Camera) โดยแบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักแบบ Wide-Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ทางยาวโฟกัส 26 มม. พร้อมรูรับแสงกว้าง f/1.8 และกล้องตัวรองแบบ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ทางยาวโฟกัส 52 มม. พร้อมรูรับแสงกว้าง f/2.4

 

สำหรับโลเคชันที่นำมาทดสอบในครั้งนี้คือ มหานครสกายวอร์ค จุดชมวิวใน ตึกคิง เพาเวอร์ มหานคร ที่อยู่ระหว่างชั้น 74, 75 และ 78 สามารถมองเห็นวิวของ กรุงเทพฯ ได้แบบ 360 องศา โดยในซีนแรกทางทีมงานเลือกถ่ายผ่านกระจกของชั้น 74 ก็พบว่าทั้งสองรุ่นมีความแตกต่างกันในเรื่องของการวัดแสงโดย iPhone XS Max มีการอมฟ้าเล็กน้อย ส่วนการเก็บรายละเอียดของภาพถือว่าทำได้ดีใกล้เคียงกัน โดย OPPO R17 ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย 

 

 

เราลองมาเปลี่ยนมุมถ่ายภาพกันเล็กน้อยนะครับในครั้งนี้ iPhone XS Max เริ่มวัดแสงได้ถูกต้องมากขึ้น อย่างไรก็ดี ในซีนนี้ทีมงานใช้วิธีถ่ายกระจกเช่นเดิม เป็นไปได้ว่ากระจกส่งผลต่อการวัดแสงของตัวกล้อง 


คราวนี้เราลองมาถ่ายบนดาดฟ้าชั้น 78 ซึ่งเป็นดาดฟ้าโล่ง และลองถ่ายภาพเปรียบเทียบอีกครั้ง โดยในซีนนี้ทั้งสองรุ่นเปิดใช้งานฟังก์ชัน HDR (High Dynamic Range) เพื่อช่วยเก็บแสงเงาและรายละเอียดให้แบบอัตโนมัติ โดย OPPO R17 Pro จะเห็นได้ว่าอารมณ์ของภาพค่อนข้างแตกต่างกันและ iPhone XS Max จะวัดแสงออกมาได้ดีขึ้นกว่าเดิมแม้จะติดโทนฟ้าไปบ้าง แต่ก็สามารถเก็บรายละเอียดของท้องฟ้าได้ดี 

 

แต่เมื่อลองนำมาถ่ายภาพแบบย้อนแสงจะเห็นได้ว่าเป็นทางฝั่งของ OPPO R17 Pro ที่เก็บรายละเอียดของตึกได้ค่อนข้างมากกว่าแต่ก็มีส่วนที่มืดอยู่บ้าง (under expose) ในขณะที่ iPhone XS Max เก็บรายละเอียดของเมฆได้ดี แต่ภาพโดยรวมก็ยังติดโทนฟ้าอยู่

 

ลองมาถ่ายย้อนแสงกันอีกสักหนึ่งช็อต  OPPO R17 Pro จะเก็บรายละเอียดของแสงเงาออกมาได้ดี ส่วนภาพที่ได้จาก iPhone XS Max จะมีความฟุ้งมากกว่า และเริ่มปรากฏ Noise ให้เห็นบนภาพบ้างแล้ว

Crop 100%

เราลองเปลี่ยนมาถ่ายภาพ Portrait ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอของทั้งสองรุ่นกันดูบ้าง  OPPO R17 Pro มีการปรับสกินโทนของตัวแบบให้ออกมาในโทนที่ขาวกระจ่างใส ส่วน iPhone XS Max จะให้สีสันที่ค่อนข้างตรงเป็นธรรมชาติ แต่เมื่อเทียบการตัดขอบแบบแล้ว iPhone Xs Max ซอฟท์แวร์ยังคงตัดขอบผิดพลาดให้เห็นอยู่บ้าง (รูปขวา) ไม่ว่าจะเป็น บริเวณแขนเสื้อ และการตัดขอบของเส้นผม เป็นต้น

 

เมื่อถ่ายภาพ Portrait แบบย้อนแสงพบว่า  OPPO R17 Pro มีการปรับความสว่างที่ใบหน้าและมีการเกลี่ยแสงบนใบหน้าของตัวแบบในขณะที่ iPhone XS Max จะให้ภาพไปในโทนที่มืดกว่าเล็กน้อย อย่างไรก็ดีเนื่องจากเลนส์ของ OPPO R17 Pro มีระยะที่กว้างกว่า ทำให้ได้มุมภาพที่กว้างกว่า ซึ่งเป็นผลมาจากระยะเลนส์ของทั้งสองรุ่นที่ไม่เท่ากัน


Crop 100%

เมื่อสภาพแสงเริ่มน้อยลงก็พบว่า ภาพที่ได้จาก iPhone XS Max มีความมืดมากกว่าเมื่อเทียบกับ OPPO R17 Pro ค่อนข้างมาก เนื่องจากการถ่ายภาพด้วยโหมด Portrait บน iPhone XS Max จะสลับไปใช้กล้องตัวรองที่มีค่ารูรับแสงแคบกว่าที่ f/2.4 ส่งผลให้เปิดเลนส์เปิดรับแสงได้น้อยกว่า และเมื่อซูมเข้าไปดูรายละเอียดจะพบ Noise ที่มองเห็นได้ชัดเจนยิ่งกว่า OPPO R17 Pro แต่จะเห็นได้ว่า iPhone XS Max สามารถเก็บเงาที่สะท้อนในกระจกได้ชัดเจนมากกว่า

 

ลองถ่ายภาพเซลฟี่กันดูเล็กน้อย OPPO R17 Pro มีการปรับสกินของตัวแบบให้เรียบเนียน และได้ระยะของภาพที่กว้างกว่า เหมาะกับการนำไปถ่ายภาพเซลฟี่เพื่อเก็บรายละเอียดของวิวทิวทัศน์ หรือการถ่ายภาพเซลฟี่แบบกลุ่ม แต่ถ้าใครชอบภาพที่ดูเป็นธรรมชาติ iPhone XS Max จะมีการถ่ายทอดสีสันที่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบภาพเซลฟี่ที่มีความสดใสอาจต้องนำไปปรับแต่งเพิ่มเติม รวมทั้งภาพที่ได้จากกล้องหน้าของ iPhone XS Max จะมีระยะที่แคบกว่า ทำให้การถ่ายภาพเซลฟี่แบบกลุ่มกับเพื่อนๆ อาจต้องยื่นมือออกไปไกลกว่าปกติ

 

เราลองไปถ่ายภาพเซลฟี่แบบย้อนแสงกันบ้างในภาพนี้ iPhone XS Max เริ่มทำได้ดีขึ้นเนื่องจากสภาพพื้นที่ที่เปิดกว้างทำให้ปริมาณแสงมากขึ้นรวมถึงฟีเจอร์  HDR ก็สามารถก็บรายละเอียดสีสันของท้องฟ้าได้เป็นอย่างดี 

เราลองเปลี่ยนมาถ่ายภาพในตอนกลางคืนกันดูบ้าง อย่างที่กล่าวไปตั้งแต่ตอนต้นว่า OPPO R17 Pro มาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพแบบใหม่ในชื่อ Ultra Night Mode ที่ใช้เวลาในการถ่ายภาพนานกว่าปกติเพื่อช่วยปรับสภาพแสง และเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้ดีขึ้น ดังนั้นในการทดสอบนี้ทางทีมงานจะทำการถ่ายภาพกลางคืนบน OPPO R17 Pro ด้วยโหมดปกติ และ Ultra Night Mode เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับ iPhone XS Max ที่มีเพียงโหมดถ่ายภาพปกติให้ใช้งาน โดยจากภาพด้านบนจะเห็นว่า ในโหมดถ่ายภาพปกติของ OPPO R17 Pro นั้น จะให้ภาพที่มีความสว่างกว่า iPhone XS Max อย่างชัดเจน เนื่องจากขนาดรูรับแสงของกล้องหลักที่กว้างกว่าที่ f/1.5 เมื่อเทียบกับกล้องหลักของ iPhone XS Max ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/1.8 และเมื่อเปิดฟังก์ชัน Ultra Night Mode จะพบว่า OPPO R17 Pro สามารถเก็บรายละเอียดของตึกได้ดีมากขึ้น รวมทั้งภาพที่ออกมายังมายังมีความสว่างมากขึ้นอีกด้วย


ลองมาถ่ายอีกซีนนึงครับ iPhone Xs Max ภาพที่ออกมาจะค่อนข้างมืดกว่า ในขณะที่ OPPO R17 Pro โหมดปกติมีความสว่างกว่าทำให้เก็บรายละเอียดได้มากกว่าที่ในส่วนของ Ultra Night Mode ซึ่งออกแบบมาให้ถ่ายภาพกลางคืนโดยเฉพาะจะเห็นว่าเก็บรายละเอียดได้ดีกว่าปกติ (สังเกตตัวอักษรของตึกด้านซ้ายมือ) แต่ภาพที่ได้ค่อนข้างจะสว่างมากกว่าปกติเล็กน้อย

Crop 100%

ลองนำไปถ่าย Portrait ในสภาวะแสงน้อยกันดูบ้าง จะเห็นว่า OPPO R17 Pro มีการชดเชยแสงให้และเก็บสีสันได้สดใสกว่าเมื่อเทียบกับ iPhone XS Max ที่ภาพที่ได้ค่อนข้างมืด ทำให้รายละเอียดบนตัวแบบหายไป และเมื่อเปิดใช้งานฟังก์ชัน Ultra Night Mode บน OPPO R17 Pro แม้ว่าภาพที่ได้จะมีความมืดกว่าภาพที่ถ่ายด้วยโหมดปกติ แต่ก็แลกมาด้วยการเก็บดีเทลของภาพที่ดีขึ้น ซึ่งจะสังเกตุจากรายละเอียดเสื้อผ้าของตัวแบบ และนาฬิกาที่มองเห็นได้ชัดเจนกว่าเดิม

 

ปิดท้ายกับการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอในสภาวะแสงน้อยด้วยโหมด Portrait ก็พบว่า iPhone XS Max ปรากฏ Noise ให้เห็นค่อนข้างชัดเจน ส่วน OPPO R17 Pro ก็ยังคงจุดเด่นในเรื่องของความสว่าง และการทำสกินโทนที่มีความเรียบเนียนเช่นเดิม


 

สรุปผลการทดสอบกล้องถ่ายภาพระหว่าง OPPO R17 Pro vs iPhone XS Max

จากการทดสอบทั้งหมดจะเห็นได้ว่า กล้องของสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นต่างก็มีจุดเด่น และคาแรคเตอร์ของกล้องที่ต่างกันออกไป โดย OPPO R17 Pro มีจุดเด่นในเรื่องของการถ่ายทอดสีสันที่มีความสว่างสดใส และการทำสกินโทนของตัวแบบที่มีความเรียบเนียน ทำให้ผู้ใช้สามารถนำไปแชร์ต่อให้แก่เพื่อนๆ ในโชเชียลได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องนำไปปรับแต่งเพิ่มเติมมากนัก ขณะที่ iPhone XS Max จะเน้นความเป็นธรรมชาติตรงกับที่ตาเห็น ระบบ HDR ที่เพิ่มเข้ามาในรุ่นนี้สามารถเก็บรายละเอียดแสงเงา และสีสันของท้องฟ้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นผลมาจากฟังก์ชัน Smart HDR ที่ทาง Apple นำมาใช้ครั้งแรกบน iPhone XS และ iPhone XS Max เป็นครั้งแรกแต่ในสภาวะแสงน้อยยังทำงานได้ไม่ดีนัก 

จุดที่แตกต่างกันทั้งสองรุ่นอย่างเห็นได้ชัดคือการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย เนื่องจาก OPPO R17 Pro ดูจะมีการจัดการ Noise ได้ดีกว่า และสามารถเก็บรายละเอียดของภาพได้อย่างคมชัดมากกว่าเมื่อเทียบกับ iPhone XS Max ซึ่งเป็นผลมาจากขนาดของรูรับแสงของกล้องหลักที่มีความกว้างสูงสุดที่ f/1.5 นอกจากนี้ OPPO R17 Pro ยังได้เปรียบในด้านการถ่ายภาพกลางคืนเล็กน้อยด้วยฟังก์ชัน Ultra Night Mode ที่เป็นการถ่ายภาพหลายวินาทีคล้ายกับเทคนิคการถ่ายแบบ Long Exposure เพื่อปรับสภาพแสงให้มีความเหมาะสม และยังช่วยให้เก็บรายละเอียดของภาพได้ดีขึ้นด้วย ซึ่งนับว่าเป็นฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานทั่วไปที่อาจไม่คุ้นเคยกับการตั้งค่ากล้องสำหรับการถ่ายภาพกลางคืนมากนัก iPhone XS Max ถือว่ามีการพัฒนาจากรุ่นเดิมมากพอสมควรแต่ไม่เหมาะกับการถ่ายในสภาพแสงน้อยมากนักในส่วนของการตัดขอบแบบยังมีความผิดพลาดบ้างแต่ก็น้อยลงกว่ารุ่น iPhone X พอสมควร 

อย่างไรก็ตาม ความสวยของภาพถ่ายอาจจะไม่สามารถตัดสินได้ด้วยข้อมูลหรือการทดสอบใดๆ เพราะขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละท่านด้วยเช่นเดียวกัน จุดประสงค์ในการเทียบภาพถ่ายให้ชมกันในครั้งนี้ก็เพื่อให้ทุกท่านได้รับทราบ และเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจกันว่า สมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นในขณะนี้มีกล้องถ่ายภาพที่ถ่ายออกมาในเบื้องต้นแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ภาพจากรุ่นใดสวยงามถูกใจผู้ใช้มากที่สุดทุกท่านคงต้องตัดสินกันด้วยตัวเอง ก็หวังว่าบทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยของทุกท่านได้ในระดับหนึ่ง สำหรับวันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter ต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ

 

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
* บทความนี้เป็น Advertorial 


วันที่ : 10/12/2561

Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy