รีวิว HUAWEI P50 Pro ที่สุดสมาร์ทโฟนเพื่อการถ่ายภาพ กับกล้อง Leica ตัวเทพอัปเกรดใหม่ พร้อมพลิกโฉมดีไซน์สวยหรูคูณสอง
20 มกราคม 2022 - สมาร์ทโฟนตระกูล P Series ของ Huawei
ได้พิสูจน์ความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการถ่ายภาพมาโดยตลอด ตั้งแต่รุ่น P9
Series ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมกล้องคู่ที่พัฒนาร่วมกับ Leica ล่าสุดก็พัฒนามาจนถึง HUAWEI
P50 Pro
รุ่นใหม่ล่าสุดที่ยกระดับนวัตกรรมกล้องถ่ายภาพให้ก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยชุดกล้องแบบ True-Form Dual-Matrix Camera
ที่พัฒนาร่วมกับแบรนด์กล้องระดับโลกอย่าง Leica เช่นเคย
สำหรับความโดดเด่นของกล้องถ่ายภาพรอบนี้ HUAWEI P50 Pro
จัดเต็มมากับชุดกล้องหลังจำนวน 4 ตัว ที่ถูกออกแบบมาในดีไซน์แบบคู่
Dual-Matrix Camera Design พร้อมนวัตกรรมด้านการถ่ายภาพสุดล้ำจัดเต็มทั้ง HUAWEI XD Fusion Pro Image Engine
ที่จะช่วยปรับรายละเอียดของภาพถ่ายให้มีความละเอียดมากยิ่งขึ้น, True-Chroma
Image Engine ที่จะช่วยถ่ายทอดรายละเอียดของสีสันตามขอบเขตสีแบบ
DCI-P3 และ XD Optics ที่จะช่วยให้การถ่ายภาพเป็นไปอย่างคมชัดกว่าที่เคย ซึ่งจากความก้าวล้ำด้านการถ่ายภาพนี้เอง ส่งผลให้
HUAWEI P50 Pro ได้รับคะแนนทดสอบจากสถาบันทดสอบกล้อง
และเลนส์ชั้นนำอย่างระดับโลก DxOMark ด้วยคะแนนสูงถึง 144
คะแนน ซึ่งนับว่าเป็นคะแนนที่สูงที่สุดเท่าที่ DxOMark เคยทดสอบมา
และยังคว้ารางวัล "สมาร์ทโฟนถ่ายภาพยอดเยี่ยม (Best Camera Smartphone)"
จากการประกาศรางวัล TMC
Award 2021 ของเราไปอีกด้วย
ด้านประสิทธิภาพการทำงานก็ถือว่าจัดเต็มสมฐานะสมาร์ทโฟนระดับเรือธงด้วยชิปเซ็ตตัวท็อปอย่าง Snapdragon 888 4G โดยมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล True-Chroma OLED ขอบโค้งขนาด 6.6 นิ้ว ที่ลื่นไหลเนียนตาทุกการแสดงผลด้วยค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz รวมถึงค่า Touch Sampling Rate ระดับ 300Hz ที่จะช่วยให้การสัมผัสตอบสนองได้อย่างฉับไว พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4360 mAh ที่รองรับระบบชาร์จความเร็วสูงแบบ HUAWEI SuperCharge 66W และระบบชาร์จไร้สายความเร็วสูงแบบ Wireless HUAWEI SuperCharge 50W บนบอดี้เบาบางที่มีมาตรฐานทนน้ำ-ทนฝุ่นในระดับ IP68
สำหรับตัวเครื่องจริงของ HUAWEI P50 Pro จะมีความสวยงามเพียงใด และจะมีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจบ้างนั้น ไปติดตามรีวิวฉบับเต็มจากทีมงาน Thaimobilecenter กันได้เลยครับ
เปิดกล่อง ส่องรูปลักษณ์ภายนอก และการออกแบบดีไซน์
HUAWEI P50 Pro
มาพร้อมกับกล่องผลิตภัณฑ์สีขาวสะอาดตาตัดด้วยชื่อรุ่นสีทอง
พร้อมดีไซน์กล้องแบบคู่ Dual-Matrix Camera ที่โดดเด่นมาแต่ไกล
สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องประกอบไปด้วยอแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ที่มีกำลังการจ่ายไฟสูงสุดระดับ 66W (HUAWEI SuperCharge 66W), สาย USB Type-C, เคสใสกันกระแทก, เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด และคู่มือการใช้งาน
มาดูที่ตัวเครื่องกันบ้าง HUAWEI P50 Pro
มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ True-Chroma OLED ขอบโค้งขนาด 6.6
นิ้ว ความละเอียดระดับ 2700x1228 พิกเซล พร้อมอัตราการรีเฟรชหน้าจอ (Refresh Rate) สูงสุดระดับ 120Hz,
อัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอสูงสุด (Touch Sampling Rate) ระดับ 300Hz
รวมถึงอัตราเฟรม PWM Dimmer ระดับ 1440Hz
ที่ช่วยลดอาการล้าของสายตา และรองรับการแสดงสีสันระดับ 1.07 พันล้านสี
ที่ด้านบนของหน้าจอแสดงผลมาพร้อมกับกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4
ที่ด้านล่างของหน้าจอแสดงผลมาพร้อมกับ ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีปุ่ม ควบคุมใด ๆ
ที่ด้านบนของตัวเครื่องประกอบไปด้วย ไมโครโฟนจำนวน 2 ตัว, ลำโพงเสียง และ Infrared Sensor
ที่ด้านขวาของตัวเครื่องประกอบไปด้วย ปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิด เครื่อง และล็อกหน้าจอแสดงผล รวมถึงปุ่มปรับระดับเสียง
ที่ด้านล่างของตัวเครื่องประกอบไปด้วย ถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Dual Nano SIM ที่สามารถใส่หน่วยความจำเสริมแบบ NM Card (Nano Memory Card) ความจุสูงสุด 256GB เพิ่มได้, ไมโครโฟนสำหรับสนทนา, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C และลำโพงเสียง
ที่ด้านหลังของตัวเครื่องนั้นถูกครอบทับด้วยกระจกขอบโค้งที่มีความเงางาม ยิ่งเมื่อได้เจอกับแสงก็จะยิ่งขับความแวววาวพรีเมียมออกมาได้มากเป็นพิเศษ พร้อมน้ำหนักตัวเครื่องที่เบา สามารถจับถือได้อย่างถนัดมือ โดยสีที่ทางทีมงานได้รับมารีวิวในวันนี้คือสี Cocoa Gold
ส่วนตัวเครื่องอีกสีที่เปิดตัวมาพร้อมกันก็คือสี Golden Black ซึ่งก็สวยหรูดูดีไปอีกแบบ สำหรับใครที่ชอบสีโทนเข้มก็น่าจะถูกใจกับสีนี้
ภายในตัวเครื่องสวย ๆ
แบบนี้มาพร้อมกับคุณสมบัติของการทนน้ำ และทนฝุ่นในระดับ IP68
โดยด้านในมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 4360 mAh
ที่รองรับระบบชาร์จความเร็วสูงแบบ HUAWEI SuperCharge 66W
กับระบบชาร์จไร้สายความเร็วสูงแบบ Wireless HUAWEI SuperCharge 50W ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งการอัปเกรดที่น่าประทับใจเมื่อเทียบกับรุ่นเดิมอย่าง HUAWEI P40
Pro ซึ่งมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 4200 mAh และรองรับระบบชาร์จความเร็วสูงแบบ
HUAWEI SuperCharge 40W กับการชาร์จไร้สายความเร็วสูงแบบ Wireless HUAWEI
SuperCharge 27W
ที่ด้านบนมาพร้อมกับกล้องถ่ายภาพแบบ True-Form Dual-Matrix Camera โดยใช้ดีไซน์การจัดวางกล้องแบบคู่ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งกล้องถ่ายภาพของ HUAWEI P50 Pro นั้นพัฒนาร่วมกับแบรนด์กล้องระดับโลกอย่าง Leica เช่นเคย ประกอบไปด้วยชุดกล้อง 4 ตัวดังนี้
- กล้อง True-Chroma (Color) ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f1.8, ทางยาวโฟกัส 23 มิลลิเมตร, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS และระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF+Contrast AF
- กล้อง True-Chroma (MONO) ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f1.6 และทางยาวโฟกัส 23 มิลลิเมตร
- กล้อง Ultra-Wide Angle ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.2 และมุมรับภาพ 120 องศา (ทางยาวโฟกัส 13 มิลลิเมตร)
- กล้อง Periscope Telephoto ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสดงขนาด f3.5, ทางยาวโฟกัส 90 มิลลิเมตร, ระยะซูมแบบ 3.5x Optical Zoom, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS และระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF
เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นพี่
อย่าง HUAWEI P40 Pro จะเห็นได้ว่า ส่วนของหน้าจอขอบโค้งของ
P50 Pro ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยเป็น 6.6 นิ้ว จากเดิม 6.58 นิ้ว
ในขณะที่มีน้ำหนักเบาลงเหลือ 195 กรัม (เดิม 209 กรัม) และบางลงเหลือ 8.5
มิลลิเมตร จากเดิม 9 มิลลิเมตร
ในส่วนของด้านหลังของทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับบอดี้กระจกที่มีความโค้งโอบรับกับอุ้งมือ
แต่ในส่วนของดีไซน์กล้องจะเห็นว่ามีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่าง ๆ
HUAWEI P50 Pro มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ EMUI 12.0.1 เวอร์ชันใหม่ล่าสุดตั้งแต่แกะกล่อง
สำหรับหน้าโฮมสกรีนถูกออกแบบมาให้เน้นใช้งานได้อย่างสะดวก ด้วยการจัดเรียงแอปพลิเคชันทั้งหมดเอาไว้ในหน้าโฮมสกรีน พร้อมแบ่งกลุ่มโฟลเดอร์แอปพลิเคชันตามประเภทเอาไว้อย่างชัดเจน
เมื่อปัดไปทางด้านขวาจากหน้าโฮมสกรีนจะ พบกับ Assistant Today ที่รวบรวมการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันที่กำหนดไว้ รวมถึงข่าวสารอัปเดตล่าสุดส่งตรงให้กับผู้ใช้งาน
เมื่อลากนิ้วจากบนลงล่างจะพบกับ Control Panel ที่รวบรวมคีย์ลัดสำหรับตั้งค่าแบบเร่งด่วน สามารถจัดเรียงตำแหน่งไอคอนคีย์ลัดได้ด้วยตนเองผ่านการแตะที่ไอคอนมุมขวาบน
HUAWEI P50 Pro มาพร้อมกับ AppGallery
ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน และเกมจากผู้พัฒนาชั้นนำ?
โดยในปัจจุบันมีแอปพลิเคชันครอบคลุมการใช้งานทั้ง แอปพลิเคชันธนาคาร,
แอปพลิเคชันไลฟ์สไตล์ ไปจนถึงแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดีย
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับ Petal Search
ที่ช่วยค้นหาแอปพลิเคชันที่อยู่นอกเหนือ AppGallery
ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่ต้องการ แต่อย่างไรก็ตาม
เนื่องจาก HUAWEI P50 Pro ไม่รองรับ Google Mobile Services (GMS)
จึงทำให้ยังไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชันที่ใช้บริการจาก Google
ได้อย่างสมบูรณ์ เช่น Google Maps หรือ Gmail เป็นต้น แต่ก็ทดแทนด้วย HUAWEI
Mobile Services (HMS) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน แอปพลิเคชันต่าง
ๆ ได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของฟีเจอร์ด้านการใช้งาน HUAWEI P50 Pro
รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ด และรองรับการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 4G LTE
ทั้งสองซิมการ์ด
มาพร้อมกับฟีเจอร์ Device+ ที่
จะช่วยให้เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ ใน Ecosystem ของ Huawei
ได้อย่างไร้รอยต่อ
มาพร้อมกับธีมให้เลือกหลากหลายรูปแบบ
และสามารถดาวน์โหลดธีมเพิ่มเติมได้ที่เมนู More Themes
รองรับฟีเจอร์ Always On Display
สำหรับแสดงการแจ้งเตือน นาฬิกา และข้อความต่าง ๆ แม้ว่าจะดับหน้าจอไปแล้ว
รองรับการใช้งานร่วมกับ Dark Mode
สำหรับปรับเปลี่ยนการแสดงผลให้อยู่โทนสีดำ
เพื่อช่วยประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น
มาพร้อมกับฟีเจอร์ Eye Comfort
สำหรับปรับอุณหภูมิสีของหน้าจอแสดงผลให้อยู่ในโทนอุ่น
เพื่อช่วยให้ใช้งานได้อย่างสบายตา
สามารถปรับเปลี่ยนขนาดของตัวอักษรได้ ทั้งหมด 5
ระดับ และสามารถปรับความหนาของตัวอักษรได้ทั้งหมด 3 ระดับ
สามารถปรับความละเอียดของหน้าจอแสดงผล
ได้ทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ Smart Resolution
สำหรับปรับเปลี่ยนความละเอียดของการแสดงผลได้แบบอัตโนมัติ, High
สำหรับปรับความละเอียดการแสดงผลของหน้าจอระดับสูงสุด และ Low
สำหรับปรับการแสดงผลของหน้าจอให้มีความละเอียดระดับต่ำ
เพื่อช่วยประหยัดการใช้งานแบตเตอรี่
และสามารถปรับอัตราการรีเฟรชได้ทั้งหมด 3
รูปแบบ ได้แก Dynamic สำหรับปรับค่า Refresh Rate
ให้เหมาะสมกับคอนเทนต์แบบอัตโนมัติเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน, High
สำหรับปรับค่า Refresh Rate ให้แสดงผลระดับสูงสุด 120Hz
เพื่อช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างลื่นไหลเนียนตา และ Standard
สำหรับจำกัดค่า Refresh Rate ให้อยู่ในระดับ 60Hz
เพื่อช่วยประหยัดการใช้พลังงาน
ในส่วนของแบตเตอรี่มาพร้อมกับ Performance
mode สำหรับปรับการทำงานของตัวเครื่องให้อยู่ในระดับสูงสุด
เพื่อช่วยรีดการทำงานของตัวเครื่องให้เต็มประสิทธิภาพ
ตอบโจทย์การใช้งานที่จำเป็นต้องมีการประมวลผลหนัก เช่น การตัดต่อ
หรือการเล่นเกม เป็นต้น รวมทั้งยังมาพร้อมกับ Power Saving Mode
สำหรับปรับการทำงานของตัวเครื่องให้ประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น
มาพร้อมกับผู้ช่วยอัจฉริยะ Celia
เพื่อตอบสนองการใช้งานที่คล่องตัวมากยิ่งขึ้น เช่น การสั่งงานด้วยเสียง,
การค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อแค่ใช้กล้องส่อง
หรือการแปลภาษาจากหน้าเว็บไซต์แบบเร่งด่วน เป็นต้น
ในส่วนของความปลอดภัย
มาพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ? (Fingerprint ID)
และระบบสแกนใบหน้าแบบ 2 มิติ รวมทั้งยังมาพร้อมกับ Smart Unlock
สำหรับปลดล็อกสมาร์ทโฟนเพื่อสวมใส่อุปกรณ์ที่มีการเชื่อมต่อบน Bluetooth
ติดตัวไว้
ในส่วนของประสิทธิภาพการทำงาน HUAWEI P50 Pro
ขับเคลื่อนการทำงานด้วยชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888 4G
พร้อมหน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB และหน่วยความจำ ROM ขนาด 256GB
พร้อมระบบปฏิบัติการ EMUI 12.0.1
ที่พัฒนาอยู่บนพื้นฐานของ Android 11 ตั้งแต่แกะกล่อง
เมื่อทดสอบประสิทธิภาพของการประมวลผลโดยรวมด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ก็พบว่าสามารถทำคะแนนได้ทั้งหมด 511,018 คะแนน
เมื่อทดสอบประสิทธิภาพด้านการประมวลผลของหน่วยประมวลผลกลาง (CPU)
ด้วยแอปพลิเคชัน GeekBench 5 ก็พบว่าสามารถทำคะแนนการประมวลผลแบบ Single-Core
ได้ทั้งหมด 772 คะแนน และทำคะแนนการประมวลผลแบบ Multi-Core
ได้ทั้งหมด 2,901 คะแนน
ทดสอบการประมวลผลของหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)
ด้วยแอปพลิเคชัน 3DMark พบว่า สามารถทำคะแนนทดสอบได้ทั้งหมด 5,634
คะแนน
ทดสอบการเล่นเกมประเภท Role-playing
ยอดนิยมอย่าง Ragnarok X : Next Generation
พร้อมปรับกราฟิกระดับสูงสุด ก็พบว่าสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล
แต่จะมีอากาสะสมความร้อนให้พบเจอจนสังเกตได้เมื่อเล่นต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่ง
การใช้งานกล้องสำหรับถ่ายภาพ และวิดีโอ
สำหรับ UI กล้องถ่ายภาพของ HUAWEI P50 Pro
ถูกออกแบบมาให้เน้นใช้งานได้ง่าย และสะดวก ซึ่งผู้ที่เคยใช้ HUAWEI P Series
รวมถึง Mate Series น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
โดยที่ด้านบนมาพร้อมกับคีย์ลัดสำหรับเปิด ใช้งานฟังก์ชันต่างๆ แบบเร่งด่วน
เริ่มตั้งแต่ Master AI สำหรับ ใช้ปัญญาประดิษฐ์วิเคราะห์ฉาก
และวัตถุ เพื่อประมวลผลภาพถ่ายให้มีความสวยงามแบบอัตโนมัติ, การเปิด-ปิด
ไฟแฟลช ไปจนถึงการเปิดใช้งานฟิลเตอร์สี
ที่ด้านล่างมาพร้อมกับปุ่มสำหรับเปลี่ยนเลนส์ถ่ายภาพ
โดยหากเลื่อนไปทางด้านซ้ายจะเป็นการเปลี่ยนไปใช้งานเลนส์มุมกว้างพิเศษแบบ
Ultra-Wide Angle
หากปัดไปทางด้านขวาจะเป็นการซูมภาพซึ่งมีกำลังการขยายสูงสุด 100 เท่า
ถัดลงมาจะเป็นโหมดถ่ายภาพในรูปแบบต่าง ๆ
เริ่มตั้งแต่โหมด Portrait สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ
ซึ่งสามารถปรับเอฟเฟกต์การเบลอได้ 7 รูปแบบ ได้แก่ Super, Circles,
Hearts, Swirl, Photo Booth และ Stage Lightning
โหมด Night
สำหรับถ่ายภาพกลางคืนให้มีความสว่างคมชัดโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง
โหมด Aperture
สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอแบบจำลองค่ารูรับแสงตั้งแต่ f0.95-f16
โหมด Pro
สำหรับถ่ายภาพระดับมืออาชีพที่ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการตั้งค่าของกล้องถ่าย
ภาพได้อย่างอิสระ รวมทั้งยังสามารถถ่ายภาพแบบไฟล์ RAW
เพื่อนำไปปรับแต่งในแอปพลิเคชันอื่น ๆ ได้อย่างยืดหยุ่น
นอกจากนี้ ยังมีโหมดการถ่ายภาพที่น่าสนใจซึ่งถูกจัดเก็บไว้ในแถบ More เช่น โหมด Panorama สำหรับถ่ายภาพมุมกว้าง, โหมด Snapshot สำหรับถ่ายภาพวัตถุที่มีการเคลื่อนไหวเร็ว รวมถึง Monochrome สำหรับถ่ายภาพแบบขาวดำ เป็นต้น
ในส่วนของการถ่ายวิดีโอ รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K พร้อมรองรับการถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอ (Background Blur) รวมถึงการถ่ายวิดีโอแบบดูดสีเฉพาะตัวแบบ (AI Color)
ในส่วนของกล้องหน้าเซลฟี่ มีการจัดรูปแบบหน้า UI ให้ใช้งานได้ง่ายเหมือนกับกล้องหลัง โดยแถบด้านบนประกอบไปด้วยฟังก์ชันต่าง ๆ ได้แก่ การเปิด-ปิด ไฟแฟลช และการเปิดใช้งานฟิลเตอร์ ส่วนที่ด้านล่างจะเป็นเมนูสำหรับปรับมุมมองในการถ่ายภาพเซลฟี่ได้ทั้งหมด 3 ระดับ ได้แก่ W (มุมในการรับภาพกว้างระดับ 100 องศา), 0.8x และ 1x
รองรับการถ่ายภาพเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอผ่านโหมด Portrait
และรองรับการปรับเอฟเฟกต์การเบลอของฉากหลัง
พร้อมรองรับการปรับแต่งใบหน้าให้มีความสวยงามผ่านฟีเจอร์ Beauty
ในส่วนของการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้า
รองรับการบันทึกภาพที่ความละเอียดสูงสุด 4K ระดับ 60FPS
พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ AIS Anti-Shake และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ
Ultra Slow Motion ที่ระดับสูงสุด 960FPS บนความละเอียดระดับ Full HD
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง 4 ตัว แบบ True-Form Dual-Matrix ความละเอียดระดับ 50+40+13+64 ล้านพิกเซล ของ HUAWEI P50 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Ultra-Wide Angle
ตัวอย่างภาพถ่ายระยะใกล้ (Macro)
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Aperture
ตัวอย่างภาพถ่ายแบบขาว-ดำจากโหมด Monochrome
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดกลางคืน (Night)
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Portrait
ตัวอย่างภาพถ่ายในระยะ Ultra Wide (0.5x) ไปจนถึงระยะไกลสุดแบบ Telephoto (100x) ก็จะมีช่วงซูมรวมมากถึง 200 เท่า (200x Zoom Range) หรือเทียบได้กับทางยาวโฟกัสในช่วง 13 มิลลิเมตร ถึง 2700 มิลลิเมตร เลยทีเดียว
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า ความละเอียด 13
ล้านพิกเซลของ HUAWEI P50 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Portrait
สรุปผลการทดสอบของ HUAWEI P50 Pro
การกลับมาของ HUAWEI P50 Pro
ในครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นการปลุกกระแสกล้องถ่ายภาพสมาร์ทโฟนให้ตื่นเต้น
และน่าสนใจอีกครั้ง ด้วยนวัตกรรม และฟีเจอร์การถ่ายภาพในรูปแบบต่าง ๆ ที่
Huawei ได้จัดเต็มมาให้ทุกการใช้งาน เริ่มตั้งแต่กล้องถ่ายภาพจำนวน 4
ตัวที่พัฒนาร่วมกับแบรนด์กล้องชั้นนำระดับโลกอย่าง Leica,
ระยะการถ่ายภาพที่ครอบคลุมทุกการใช้งานทั้งการถ่ายภาพแบบใกล้ และไกล,
เทคโนโลยี HUAWEI XD Fusion Pro Image Engine รวมถึง True-Chroma
Image Engine
ที่จะช่วยปรับแต่งสีสันให้ภาพถ่ายมีความสมจริงตรงกับที่ตาเห็น,
การออกแบบโครงสร้างภายในของเลนส์แบบ HUAWEI XD Optics
เพื่อเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ของภาพถ่ายได้อย่างคมชัด ไปจนถึงเทคโนโลยี True-Focus
Fast Capture ที่ช่วยให้การบันทึกภาพมีความรวดเร็วฉับไว
ไม่พลาดทุกโมเมนต์ความประทับใจ ซึ่งจากคะแนนการทดสอบของ DxOMark ที่
HUAWEI P50 Pro ทำคะแนนได้สูงสุด ณ ตอนนี้ที่ 144 คะแนน
ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยการันตีได้อย่างดีเยี่ยมว่า HUAWEI P50 Pro
ยังคงเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการถ่ายภาพแห่งโลกสมาร์ทโฟน
และไม่น่าแปลกใจว่าทำไม HUAWEI P50 Pro จึงถูกยกให้เป็น "สมาร์ท
โฟนถ่ายภาพยอดเยี่ยม" จากการประกาศผลรางวัลสมาร์ทโฟนยอดเยี่ยมแห่งปี
TMC Award 2021 โดยทีมงาน Thaimobilecenter
ในส่วนของประสิทธิภาพการทำงานก็ถือว่า
ค่อนข้างน่าสนใจไม่แพ้กัน เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลแบบ True-Chroma OLED
ขอบโค้งขนาด 6.6 นิ้ว ที่มีค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz
เพื่อช่วยให้การแสดงผลเป็นไปอย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด รวมถึงค่า Touch
Sampling Rate ที่ช่วยตอบสนองต่อการสัมผัสได้อย่างฉับไว
และที่สำคัญยังรองรับการแสดงสีสันแบบ 1.07 พันล้านสี ช่วย
ให้ทุกคอนเทนต์ที่แสดงผลผ่านหน้าจอ HUAWEI P50 Pro
จะเป็นไปอย่างสมจริงมากยิ่งขึ้น รวมถึงชิปเซ็ตประมวลผลตัวท็อปอย่าง
Snapdragon 888 4G ที่ทำงานควบคู่กับหน่วยความจำ RAM ขนาด
8GB และหน่วยความจำภายในความจุ 256GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4360 mAh
ที่รองรับระบบชาร์จความเร็วสูงแบบ HUAWEI SuperCharge 66W
และระบบชาร์จไร้สายความเร็วสูงแบบ Wireless HUAWEI SuperCharge 50W
ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเติมแบตเตอรี่กลับเข้าสู่ตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็วใน
ระยะเวลาไม่กี่อึดใจ
นอกเหนือจากคุณสมบัติภายในที่จัดเต็มมาให้แบบรอบด้าน อีกหนึ่งสิ่งที่ถือว่าเป็นความโดดเด่นของ HUAWEI P50 Pro ก็คือดีไซน์ ด้วยตัวเครื่องที่มีความบาง และเบา ช่วยให้จับถือใช้งานได้อย่างกระชับมือ รวมถึงการออกแบบดีไซน์กล้องหลังแบบ Dual Matrix Camera ที่ ผสมผสาน 2 เมตริกซ์เข้าด้วยกัน ได้แก่ Main Camera Matrix และ SuperZoom Matrix ซึ่งเมื่อประกอบกับฝาหลังที่มีความเงางามแล้ว ทำให้ดีไซน์ของ HUAWEI P50 Pro มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และดูสวยงามพรีเมียมเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจากคุณสมบัติทั้งหมดก็เรียกได้ว่า HUAWEI P50 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่เหมาะกับผู้ที่มองหามือถือเพื่อการถ่ายภาพแบบจริงจัง ที่มีประสิทธิภาพการทำงานระดับเรือธง บนดีไซน์ตัวเครื่องที่มีความสวยหรู ดูพรีเมียมสะดุดตาเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ดีสิ่งที่เราต้องทราบด้วยก็คือ HUAWEI P50 Pro นั้นติดตั้ง HUAWEI Mobile Services (HMS) มาแทน Google Mobile Services (GMS) และไม่รองรับการใช้งานเครือข่าย 5G ซึ่งหากท่านพิจารณาแล้วทั้ง 2 สิ่งนี้ไม่ได้มีผลกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน HUAWEI P50 Pro ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจอันดับต้น ๆ ในกลุ่มสมาร์ทโฟนเรือธงตัวท็อปในชั่วโมงนี้ด้วยเช่นกัน
สำหรับ HUAWEI P50 Pro เปิดราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้วที่ 33,990 บาท โดยเปิดให้สั่งจองล่วงหน้า (Pre-Order) ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม-11 กุมภาพันธ์ 2565 พร้อมรับฟรี HUAWEI WATCH GT 2 Pro มูลค่า 9,990 บาท
สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Huawei ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง HUAWEI P50 Pro มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
สรุปคุณสมบัติ และจุดเด่นของ HUAWEI P50 Pro
- ดีไซน์กล้องแบบ Dual-Matrix Camera Design ที่มีความสมมาตร พร้อมตัวเครื่องที่มีความโค้งมน กับพื้นผิวที่เงางามพรีเมียม ดูสวยหรูสะดุดตาเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อเวลากระทบกับแสง
- ตัวเครื่องมีคุณสมบัติของการทนน้ำ-ทนฝุ่นในระดับ IP68 (ทนน้ำได้ลึกสูงสุด 1.5 เมตร เป็นเวลาต่อเนื่องสูงสุด 30 นาที)
- ระบบระบายความร้อนแบบ 3D Graphene Liquid Cooling System
---------------------------------------
จอแสดงผลแบบ True-Chroma OLED Display ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด 2700x1228 พิกเซล (450 ppi)
- อัตราการรีเฟรช (Refresh Rate) สูงสุดที่ 120Hz
- อัตราการตอบสนองของระบบสัมผัส (Touch Sampling Rate) สูงสุดที่ 300Hz
- เทคโนโลยี High Frequency PWM Dimming (Pulse-Width Modulation) ด้วยความถี่สูงสุดที่ 1440Hz
- แสดงผลสีได้สูงสุด 1.07 พันล้านสี
- รองรับช่วงสีแบบ DCI-P3
- เซนเซอร์ 360° Light-sensing
สำหรับตรวจจับสภาพแสงรอบทิศทางเพื่อปรับแสงหน้าจอให้เหมาะสมแบบอัตโนมัติ
---------------------------------------
- ประมวลผลด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888 4G
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 660
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8 GB
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูล (ROM) ขนาด 256 GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมแบบ NM Card (Nano Memory Card) ได้สูงสุดที่ขนาด 256 GB
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ EMUI 12 (พัฒนาอยู่บนพื้นฐานของระบบปฏิบัติการ Android 11)
- ชุดบริการของ HUAWEI (HMS : HUAWEI Mobile Services)
---------------------------------------
- แบตเตอรี่ความจุ 4360 mAh
- ระบบชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ HUAWEI SuperCharge 66W
- ระบบชาร์จแบตเตอรี่ไร้สายความเร็วสูงแบบ Wireless HUAWEI SuperCharge 50W
---------------------------------------
กล้องตัวหลักด้านหลัง 4 ตัว (True-Form Dual-Matrix Camera) ประกอบด้วย
- กล้อง True-Chroma (Color) ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f1.8, ทางยาวโฟกัส 23 มิลลิเมตร, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS และระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF+Contrast AF
- กล้อง True-Chroma (MONO) ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f1.6 และทางยาวโฟกัส 23 มิลลิเมตร
- กล้อง Ultra-Wide Angle ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.2 และมุมรับภาพ 120 องศา (ทางยาวโฟกัส 13 มิลลิเมตร)
- กล้อง Periscope Telephoto ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสดงขนาด f3.5, ทางยาวโฟกัส 90 มิลลิเมตร, ระยะซูมแบบ 3.5x Optical Zoom, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS และระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF
พร้อมการพัฒนาเลนส์กล้องร่วมกับบริษัท LEICA, เลนส์กล้องแบบ HUAWEI XD Optics, หน่วยประมวลผลภาพแบบ HUAWEI XD Fusion Pro Image Engine กับ True-Chroma Image Engine, ระบบซูมแบบ 3.5x Optical Zoom, ระยะซูมสูงสุด 200 เท่า (200x Zoom Range) ด้วยเทคโนโลยี SuperZoom, ระบบ True-Focus Fast Capture, ระบบ Master AI, ระบบป้องกันการสั่นแบบ AIS Pro True-Steady Shot, รองรับการถ่ายภาพมาโคร (Macro) ได้ที่ระยะใกล้สุด 2.5 เซนติเมตร และรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K UHD (60 fps)
กล้องด้านหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล แบบ Ultra-Wide Angle
พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4, ระบบโฟกัสอัตโนมัติ, ระยะโฟกัสใกล้สุดที่ 14 เซนติเมตร, มุมรับภาพ 100 องศา, บันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K UHD (30 fps) และระบบป้องกันการสั่นแบบ AIS Anti-Shake
---------------------------------------
- ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบเครือข่าย Wi-Fi 6, 4G LTE, 3G WCDMA และ 2G EDGE/GPRS
- เทคโนโลยี Wi-Fi 2x2 MIMO, HE160, 4096 QAM และ 8 Spatial-Stream Sounding MU-MIMO
- เชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านทาง Bluetooth 5.2 และ NFC
- ระบุตำแหน่ง และนำทางผ่านระบบดาวเทียม GPS+A-GPS, Galileo, Glonass, BeiDou, QZSS และ NavIC
- พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C (USB 3.1 Gen1) พร้อมรองรับการใช้งาน OTG (USB On-The-Go)
---------------------------------------
- ลำโพงเสียงแบบคู่ (Dual Stereo Speakers) พร้อมระบบเสียงแบบ HUAWEI Histen
- ระบบจัดการไฟล์แบบ Distributed File System
- ฟังก์ชัน Smart Folder
- Control Panel รูปแบบใหม่
- แอปพลิเคชัน MeeTime สำหรับการสนทนาแบบวิดีโอ
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติม ของ
HUAWEI P50 Pro
- ติดตั้ง HUAWEI Mobile Services (HMS) มาให้ใช้งานแทน Google Mobile Services (GMS)
- ไม่รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 5G
- ตัวเครื่องมีความเงางามสูง จึงทำให้เกิดคราบรอยนิ้วมือได้ง่าย
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ HUAWEI P50 Pro
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติ (สเปก) และราคา ของ HUAWEI P50 Pro ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้
สรุปคุณสมบัติ (สเปก) และราคา ของ HUAWEI P50 Pro
รีวิว HUAWEI P50 Pocket | P50 Pocket Premium Edition
รีวิว HUAWEI P50 Pocket | P50 Pocket Premium Edition
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางผู้ผลิต เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบ หรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
วันที่ : 20/01/2022