หน้าแรกมือถือ > รวมข่าวมือถือ > หน้าบทความ ข่าวมือถือ
   
Date : 8/8/2562

เปิดตัว Samsung Galaxy Note 10 (ซัมซุง กาแลกซี่ โน๊ต10) พร้อม Note 10+ และ Note 10+ 5G เรือธงจอไร้รอยบากรุ่นใหม่ พร้อมชิป Exynos 9825 กล้อง 4 ตัว แบตใหญ่ชาร์จไว 45W และปากกา S-Pen เวอร์ชันอัปเกรด

 

ล่าสุดก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วนะคะสำหรับ Samsung Galaxy Note 10 Series ได้แก่ Galaxy Note 10 และ Galaxy Note 10+ รวมถึง Galaxy Note 10+ 5G (ซัมซุง กาแล็กซี โน๊ต10) สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นท็อปที่มากับดีไซน์ใหม่ตามคาด ด้วยหน้าจอไร้รอยบากที่มีการฝังกล้องหน้าลงบนหน้าจอตำแหน่งใหม่แบบ  Cinematic Infinity-O Display บนตัวเครื่องกระจกเงางาม และปากกา S-Pen เวอร์ชันอัปเกรด รวมถึงกล้องหลังที่จัดเต็มกว่าเดิมถึง 4 ตัว (Quad Camera) ในรุ่น Note 10+ ส่วนในรุ่น Note 10 มีกล้องทั้งหมด 3 ตัว (Triple Camera) พร้อมกับฟีเจอร์ถ่ายภาพครบครัน และที่สำคัญคือครั้งนี้ไม่มีช่องเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรแล้ว โดยรองรับหูฟังแบบ USB Type-C หรือใช้สายแปลง USB Type-C ไปเป็นแบบ 3.5 มิลลิเมตรได้

 

สรุปฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจของ Samsung Galaxy Note 10 Series

จอไร้รอยบากแบบใหม่ Cinematic Infinity-O Display

Samsung Galaxy Note 10 Series มากับหน้าจอไร้ขอบ ไร้รอยบากแบบ Dymanic AMOLED บนดีไซน์ Cinematic Infinity Display ที่มีการติดตั้งกล้องหน้าคมชัด 10 ล้านพิกเซล พร้อมคุณสมบัติลดแสงสีฟ้าได้มากถึง 41% แม้ไม่เปิดใช้ฟังก์ชัน Blue Light Filter กับขนาด 6.3 นิ้ว และ 6.8 นิ้วตามลำดับ 

 

แรงด้วยชิปตัวใหม่ Exynos 9825 บนเทคโนโลยี 7nm

Samsung Galaxy Note 10 Series เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยชิปเซ็ตรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Exynos 9825 แบบ 8-แกน (Octa-Core) บนเทคโนโลยีการผลิตระดับ 7nm ที่มีความเร็วขึ้นกว่า Galaxy Note 9 ราว 33% พร้อมกับหน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G76 MP12 ที่เร็วขึ้นกว่าเดิม 42% จับคู่ RAM ขนาดสูงสุดที่ 12GB และมีความจุภายในตัวเครื่อง (ROM) มาตรฐาน UFS 3.0 ให้เลือกสูงสุดที่ 512GB 

 

กล้องอัปเกรด 4 ตัว พร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม

Samsung Galaxy Note 10+ มาพร้อมกล้องตัวหลักทั้งหมด 4 ตัว (Quad Camera) ที่ประกอบไปด้วย กล้องตัวหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์ Dual Aperture (F1.5/F2.4), กล้องตัวที่สองเลนส์มุมกว้างพิเศษ Ultra-Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เก็บภาพมุมกว้างสุด 123 องศา มีขนาดรูรับแสง F/2.2, กล้องตัวที่สามเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และกล้องตัวที่สี่เลนส์ DepthVision (ToF) 

โดยรองรับฟังก์ชัน Scene Optimizer ในการตรวจจับซีน พร้อมปรับค่ากล้องถ่ายภาพให้อัตโนมัติจากทั้งหมด 30 หมวดหมู่, ฟังก์ชัน Super Steady ช่วยป้องกันการสั่นไหวสำหรับการบันทึกวิดีโอ พร้อมนำระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วย และในโหมดนี้รองรับการซูมแบบ Optical ด้วยเช่นกัน รวมถึงโหมด Live Focus Video สำหรับถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ Real-Time พร้อมเปลี่ยนลักษณะ Bokeh ได้ 4 รูปแบบ และฟังก์ชันใหม่ป้ายแดงอย่าง Audio Zoom ที่ทำงานร่วมกับไมโครโฟนทั้ง 3 ตัว ที่ติดตั้งอยู่รอบตัวเครื่อง เพื่อวิเคราะห์ว่าเสียงมาจากทิศทางใด และจะทำการตัดเสียงที่ไม่จำเป็นออกไป พร้อมขยายเสียงขณะที่กล้องกำลังซมูเให้ชัดขึ้น เรียกได้ว่าสามารถบันทึกเสียงในระยะต่างๆ ที่ซูมได้คมชัดมากขึ้นนั่นเอง

สำหรับ Samsung Galaxy Note 10 มากับกล้องหลัง 3 ตัว (Triple Camera) แบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์ Dual Aperture (F1.5/F2.4), กล้องตัวที่สองเลนส์มุมกว้างพิเศษ Ultra-Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เก็บภาพมุมกว้างสุด 123 องศา มีขนาดรูรับแสง F/2.2 และกล้องตัวที่สามเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล 

นอกจากนี้กล้องหน้าของ Samsung Galaxy Note 10 Series ทั้งสามรุ่น ยังรองรับฟีเจอร์ Night Shot เพื่อช่วยให้การถ่ายภาพเซลฟี่ในสภาวะที่มีแสงน้อยนั่นเอง

 

ชาร์จเร็วขึ้นด้วยเทคโนโลยี 45W Superfast Charge

Samsung Galaxy Note 10+ และ Note 10+ 5G ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ Samsung ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ Superfast Charge ด้วยกำลังไฟสูงถึง 45W ที่ทาง Samsung ระบุว่าชาร์จแบตเตอรี่เพียง 30 นาที ก็สามารถใช้งานได้ยาวนาตลอดวัน ส่วนรุ่น Galaxy Note 10 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3500 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 25W Super Fast Charge ซึ่งทั้งสามรุ่นรองรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายความเร็วสูงแบบ 15W Wireless Charging

 

ปากกา S-Pen เวอร์ชันอัปเกรด

หากพูดถึง Samsung Galaxy Note Series ปากกา S-Pen ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย และการกลับมาของ Samsung Galaxy Note 10 Series ก็ได้ยกระดับปากกา S-Pen ขึ้นไปอีกขั้น ด้วยฟีเจอร์ Air Action ที่สามารถกดปากกา และวาดเป็นท่าทางต่างๆ เพื่อสั่งการ จากการติดตั้งเซ็นเซอร์ Gyroscope ในตัวนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น วาดปากกาไปทางซ้าย/ขวา เพื่อเปลี่ยนโหมดกล้องถ่ายภาพ, ตวัดปากกาขึ้นเพื่อสลับกล้อง หรือวาดปากกาเป็นรูปโค้งตามเข็มนาฬิกาเพื่อซูมเป็นต้น

นอกจากนี้ยังสามารถแปลงข้อความลายมือ ให้เป็นตัวอักษรได้ภายในแอปพลิเคชัน Note โดยไม่ต้องเขียนใส่ในกล่องเล็กๆ ก่อนแบบ Galaxy Note 9 และยังแปลงเป็นไฟล์ Word เพื่อนำไปใช้งานในโปรแกรมอื่นๆ ได้อีกด้วย รวมถึงในฟังก์ชัน Screen Off Memo สามารถเปลี่ยนสีปากกาได้ โดยไม่จำกัดตามสีของปากกา และเขียนข้อความลงบนวิดีโอแบบ Live Message ได้

 

สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ Samsung Galaxy Note 10

- หน้าจอแสดงผลแบบ Dynamic AMOLED Cinematic Infinity-O Display ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ 
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Exynos 9825 บนเทคโนโลยีการผลิต 7nm 
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G76 MP12
- หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4X ขนาด 8GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) มาตรฐาน UFS 3.0 ขนาด 256GB (ไม่รองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD)
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ Dual Pixel และรองรับ Night Shot สำหรับการถ่ายภาพเซลฟี่ในสภาวะที่มีแสงน้อย
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 ตัว (Triple Camera) โดยแบ่งออกเป็น
 กล้องตัวหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี Dual Aperture (F1.5/F2.4) สำหรับสลับค่ารูรับแสงให้อัตโนมัติ, เทคโนโลยีโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ Dual Pixel และระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS
กล้องตัวที่สองเลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง F/2.2 เก็บภาพมุมกว้างสุด 123 องศา
กล้องตัวที่สามเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง F/2.4 
- แบตเตอรี่ความจุ 3500 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 25W Superfast Charging และชาร์จไร้สาย 15W Fast Wireless Charging 2.0 
- ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย One UI 1.1
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (Ultrasonic Fingerprint Scanner)
- ระบบสแกนใบหน้า (Face Recognition)
- ระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos 3D 
- การป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
- รองรับการใช้งานร่วมกับระบบ Samsung DeX (Desktop Experience) และสายเชื่อมต่อแบบ DeX Cable เพื่อใช้งานสมาร์ทโฟนในโหมดเดสก์ท็อป
- รองรับการเชื่อมต่อ MST + NFC และบริการ Samsung Pay
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
- รุ่นรองรับเครือข่าย 5G วางจำหน่ายเฉพาะประเทศเกาหลีใต้เท่านั้น

 

สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ Samsung Galaxy Note 10+

- หน้าจอแสดงผลแบบ Dynamic AMOLED Cinematic Infinity-O Display ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียดระดับ QHD+ (1440x3040 พิกเซล) 
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Exynos 9825 บนเทคโนโลยีการผลิต 7nm 
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G76 MP12
- หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4X ขนาด 12GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) มาตรฐาน UFS 3.0 ขนาด 256GB / 512GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุดที่ขนาด 1TB
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ Dual Pixel และรองรับ Night Shot สำหรับการถ่ายภาพเซลฟี่ในสภาวะที่มีแสงน้อย
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 4 ตัว (Quad Camera) โดยแบ่งออกเป็น
 กล้องตัวหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์ Dual Aperture (F1.5/F2.4)
กล้องตัวที่สองเลนส์มุมกว้างพิเศษ Ultra-Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เก็บภาพมุมกว้างสุด 123 องศา มีขนาดรูรับแสง F/2.2
กล้องตัวที่สามเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล 
กล้องตัวที่สี่เลนส์ DepthVision (ToF) 
- แบตเตอรี่ความจุ 4300 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 45W Superfast Charging และชาร์จไร้สาย 15W Fast Wireless Charging 2.0 
- ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย One UI 1.1
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (Ultrasonic Fingerprint Scanner)
- ระบบสแกนใบหน้า (Face Recognition)
- ระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos 3D 
- การป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
- รองรับการใช้งานร่วมกับระบบ Samsung DeX (Desktop Experience) และสายเชื่อมต่อแบบ DeX Cable เพื่อใช้งานสมาร์ทโฟนในโหมดเดสก์ท็อป
- รองรับการเชื่อมต่อ MST + NFC และบริการ Samsung Pay
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C

 

สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ Samsung Galaxy Note 10+ 5G

- หน้าจอแสดงผลแบบ Dynamic AMOLED Cinematic Infinity-O Display ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียดระดับ QHD+ (1440x3040 พิกเซล) 
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Exynos 9825 บนเทคโนโลยีการผลิต 7nm 
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G76 MP12
- หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4X ขนาด 12GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) มาตรฐาน UFS 3.0 ขนาด 256GB / 512GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุดที่ขนาด 1TB
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ Dual Pixel และรองรับ Night Shot สำหรับการถ่ายภาพเซลฟี่ในสภาวะที่มีแสงน้อย
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 4 ตัว (Quad Camera) โดยแบ่งออกเป็น
 กล้องตัวหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์ Dual Aperture (F1.5/F2.4)
กล้องตัวที่สองเลนส์มุมกว้างพิเศษ Ultra-Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เก็บภาพมุมกว้างสุด 123 องศา มีขนาดรูรับแสง F/2.2
กล้องตัวที่สามเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล 
กล้องตัวที่สี่เลนส์ DepthVision (ToF) 
- แบตเตอรี่ความจุ 4300 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 45W Superfast Charging และชาร์จไร้สาย 15W Fast Wireless Charging 2.0 
- ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย One UI 1.1
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (Ultrasonic Fingerprint Scanner)
- ระบบสแกนใบหน้า (Face Recognition)
- ระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos 3D 
- การป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
- รองรับการใช้งานร่วมกับระบบ Samsung DeX (Desktop Experience) และสายเชื่อมต่อแบบ DeX Cable เพื่อใช้งานสมาร์ทโฟนในโหมดเดสก์ท็อป
- รองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G
- รองรับการเชื่อมต่อ MST + NFC และบริการ Samsung Pay
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C

 

สรุปราคา Samsung Galaxy Note 10

อัปเดตล่าสุด Samsung Galaxy Note 10 และ Note 10+ เปิดราคาทางการในประเทศไทยแล้ว เริ่มต้นที่ 32,900 บาท พร้อมเปิดจองแล้ววันนี้ - วันที่ 23 สิงหาคม พร้อมโปรโมชั่นจองกับผู้ให้บริการเครือข่ายเริ่มเพียง 15,900 บาท สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ : Samsung Galaxy Note 10 เปิดราคาไทยที่ 32,900 บาท

 

Samsung Galaxy Note 10 Series จะเริ่มวางจำหน่ายในต่างประเทศตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคมนี้ เป็นต้นไป โดยมีรายละเอียดราคาดังนี้

 

Samsung Galaxy Note 10

- รุ่นรองรับ LTE ราคาเริ่มต้นที่ $949 (ประมาณ 29,200 บาท)
- รุ่นรองรับ 5G (เฉพาะประเทศเกาหลีใต้) ราคาเริ่มต้นที่ $1,049 (ประมาณ 32,300 บาท)
- มีตัวเลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ Aura Glow, Aura White, Aura Black, Aura Pink และ Aura Red

 

Samsung Galaxy Note 10+

- รุ่นรองรับ LTE ราคาเริ่มต้นที่ $1,099 (ประมาณ 33,900 บาท)
- รุ่นรองรับ 5G ราคาเริ่มต้นที่ $1,299 (ประมาณ 40,000 บาท)
​- มีตัวเลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Aura Glow, Aura White, Aura Black, Aura Blue

ที่มา : Samsung


วันที่ : 8/8/2562

Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy