เทียบสเปก Samsung Galaxy Note10 และ iPhone XS สองเรือธงตัวท็อป รุ่นไหนเหมาะกับใคร มาดูกัน
เพิ่งเปิดตัวในบ้านเราไปสดๆ ร้อนๆ เลยนะคะสำหรับ Samsung Galaxy Note10 และ Note10+ สมาร์ทโฟนเรือธงตัวท็อปใหม่ล่าสุดจากทาง Samsung ที่มาพร้อมกับการประบโฉมดีไซน์ใหม่หมดจด และอัปเกรดสเปกภายในหลายด้าน โดยเฉพาะการถ่ายภาพ และปากกา S-Pen ที่เปรียบเสมือนหัวใจของสมาร์ทโฟนในตระกูลนี้
วันนี้ทางทีมงานจึงได้นำ Samsung Galaxy Note10 มาเปรียบเทียบสเปกกับ iPhone XS เรือธงคู่แข่งตลอดกาล ให้ได้ชมกันเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจของท่านที่สนใจ ซึ่งแต่ละรุ่นจะโดดเด่นในด้านไหน และเหมาะกับใคร ไปชมพร้อมกันเลยค่ะ
จากตารางข้างต้นจะเห็นได้ว่าเรือธงของสองค่ายนี้มีจุเด่นที่แตกต่างกันออกไปอย่างเห็นได้ชัด โดย Samsung Galaxy Note10 มากับดีไซน์จอไร้รอยบากโฉมใหม่แบบ Dynamic AMOLED Cinematic Infinity-O Display ขนาดใหญ่ 6.3 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ (1080x2280 พิกเซล : 401 ppi) รองรับมาตรฐาน HDR10+ และยังติดเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic Fingerprint Sensor ไว้ใต้หน้าจออีกด้วย บนตัวเครื่องขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ที่ 151.0x71.8 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 168 กรัมที่ไม่หนักมากจนเกินไป กับเทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Glass ที่ให้ความเงางาม พร้อมการไล่เฉดในสีใหม่อย่าง Aura Glow โดยขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Exynos 9825 รุ่นใหม่ จับคู่กับ RAM ขนาด 8GB และมี ROM มาตรฐาน UFS 3.0 ขนาด 256GB บนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ที่ครอบทับด้วย One UI ซึ่งมีแบตเตอรี่ความจุ 3500 mAh ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟน Galaxy Note Series รุ่นก่อนๆ แต่ก็ทดแทนด้วยระบบชาร์จเร็วแบบ 25W Superfast Charging และการชาร์จไร้สายแบบ 15W Fast Wireless Charging 2.0
อีกหนึ่งด้านที่เป็นจุดเด่นของ Galaxy Note10 ก็คือกล้องตัวหลักที่ด้านหลังทั้งหมด 3 ตัว (Triple Camera) แบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์ Dual Aperture (F1.5/F2.4), กล้องตัวที่สองเลนส์มุมกว้างพิเศษ Ultra-Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เก็บภาพมุมกว้างสุด 123 องศา มีขนาดรูรับแสง F/2.2 และกล้องตัวที่สามเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ยังรองรับการทำงานร่วมกับปากกา S-Pen ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานด้านต่างๆ อีกด้วย
iPhone XS มีตัวเครื่องขนาดกะทัดรัดกว่าที่ 143.6x70.9 มิลลิเมตร โดยมีกรอบตัวเครื่องสแตนเลสสตีล ผสานกระจกที่ด้านหลัง และมีหน้าจอ OLED Super Retina HD ขนาด 5.8 นิ้ว คมชัด 1125x2436 พิกเซล (458 ppi) พร้อมฟังก์ชัน 3D Touch และมาตรฐาน HDR ซึ่งมีรอยบาก (Notch) อยู่ด้านบน สำหรับวางกล้องหน้า TrueDepth คมชัด 7 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์ต่างๆ และ Dot Projector โดยจะทำงานร่วมกับฟังก์ชัน Face ID เวอร์ชันล่าสุดที่สามารถปลดล็อกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยการฉายจุดแสงจับโครงสร้างใบหน้า 30,000 จุด และสามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้แม้ในที่แสงน้อย
iPhone XS ขับเคลื่อนการทำงานด้วยชิปเซ็ต Apple A12 Bionic กับ Neural Engine เวอร์ชันใหม่ ผสาน GPU แบบ Quad-Core ที่มีความจุภายในให้เลือกมากถึง 512GB เลยทีเดียว และมีแบตเตอรี่ความจุ 2658 mAh ที่รองรับทั้งการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง (15W Fast Charging) และการชาร์จแบบไร้สาย (Qi Wireless Charging) โดยมีกล้องตัวหลักแบบคู่ (Dual Camera) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เลนส์ Wide + Telephoto กับการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ ที่สามารถปรับความเบลอได้ในภายหลัง และรองรับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ Dual-OIS ซึ่งรองรับการซูมภาพแบบ 10X Digital
สำหรับจุดที่ทั้งสองรุ่นมีร่วมกันก็คือ ไม่รองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card แต่หากพิจาณาจากความจุภายในตัวเครื่องที่ 256GB และ 512GB ตามลำดับ ก็สามารถกล่าวได้ว่าเพียงพอต่อการใช้งานอย่างแน่นอน ส่วนอีกจุดได้แก่ การตัดช่องเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรออก จึงทำให้ผู้ใช้ Samsung Galaxy Note10 ต้องใช้งานหูฟังที่มีพอร์ตแบบ USB Type-C หรือใช้สายแปลง USB Type-C to 3.5mm และผู้ใช้ iPhone XS ก็ต้องใช้หูฟังที่มีพอร์ตแบบ Lightning หรือหาสายแปลงเป็น 3.5mm เช่นเดียวกัน
จากการเปรียบเทียบสองเรือธงของสองค่ายนี้ ก็พอจะกล่าวได้ว่า Samsung Galaxy Note10 เหมาะสำหรับนักธุรกิจ หรือท่านที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่สามารถตอบโจทย์ทั้งด้านการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น ท่องโซเชียล, เล่นเกม, ถ่ายภาพ และการทำงานต่างๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ด้วยฟังก์ชันที่ช่วยอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน โดยเฉพาะปากกา S-Pen รวมถึงมีฟีเจอร์ระดับไฮเอนด์ บนการดีไซน์ระดับพรีเมียม และฟังก์ชันการถ่ายภาพเทียบเท่ากล้องใหญ่
สำหรับ iPhone XS เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนระดับท็อป เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในระดับไฮเอนด์ได้อย่างครบครัน พร้อมการดีไซน์สมัยนิยมที่มีความพรีเมียมด้วยจอไร้ขอบอัตราส่วนใหม่ที่ช่วยให้ใช้งานในด้านต่างๆ ได้เต็มตามากขึ้น และมีคุณสมบัติภายในระดับท็อปแบบจัดเต็ม
อย่างไรก็ดี ทางทีมงานไม่สามารถกล่าวได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใดดีกว่ากัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบ และไลฟ์สไตล์ของแต่ละท่านค่ะ ซึ่งทางทีมงานขอแนะนำว่าควรไปทดลองจับถือตัวเครื่องจริง พร้อมทดสอบฟีเจอร์ในเบื้องต้นก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นคุ้มค่าแก่เงินที่เสียไปนั่นเองค่ะ สำหรับวันนี้คงต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เปิดตัว Samsung Galaxy Note10 และ Note10+
- สรุปราคาในไทย Samsung Galaxy Note 10 และ Note10+
- พรีวิว (Preview) Samsung Galaxy Note10 และ Note10+
- รวมโปรจอง Samsung Galaxy Note10 และ Note10+
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 9/8/2562