พรีวิว Samsung Galaxy Note10 และ Note10+ สัมผัสแรกเรือธงรุ่นท็อปใหม่ล่าสุด พร้อมปากกา S-Pen เวอร์ชันอัปเกรด บนดีไซน์จอไร้รอยบากแบบ Cinematic ผสานสแกนนิ้วใต้จอ และกล้อง 4 ตัว
Samsung Galaxy Note10 และ Note10+ เรือธงรุ่นใหม่ป้ายแดงจากทาง Samsung ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อคืนที่ผ่านมา กับการอัปเกรดความสามารถในหลายด้าน บนการดีไซน์โฉมใหม่ที่สวยพรีเมียมมากขึ้น กับราคาวางจำหน่ายทางการในประเทศไทยเริ่มต้นที่ 32,900 บาท
ในวันนี้ทางทีมงานจึงไม่พลาดที่จะเก็บภาพตัวเครื่องจริงของ Samsung Galaxy Note10 และ Note10+ มาฝากกัน ซึ่งจะสวยพรีเมียมเพียงไหน ไปชมการพรีวิว (Preview) Samsung Galaxy Note10 และ Note10+ กันเลยค่ะ
Samsung Galaxy Note10 และ Note10+ มาในกล่องแพกเกจสีดำสุดคลาสสิก พร้อมภาพปากกา S-Pen ตามสีเครื่อง
พร้อมอุปกรณ์พื้นฐานอย่าง หูฟัง AKG, อะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 25W Superfast Charge และสายเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
Samsung Galaxy Note10 และ Note10+ มาพร้อมหน้าจอไร้รอยบากแบบ Cinematic Infinity-O Display ที่มีการติดตั้งกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่คมชัด 10 ล้านพิกเซล พร้อมคุณสมบัติลดแสงสีฟ้าได้มากถึง 41% แม้ไม่เปิดใช้ฟังก์ชัน Blue Light Filter กับขนาด 6.3 นิ้ว และ 6.8 นิ้วตามลำดับ โดยรองรับมาตรฐาน HDR 10+ และมีค่าความสว่างสูงสุดที่ 1200 nit
โดย Galaxy Note10 มีขนาดตัวเครื่อง151x71.8x7.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 168 กรัม ส่วนรุ่น Galaxy Note10+ มีขนาดตัวเครื่อง162.3x77.2x7.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 196 กรัม (รุ่น Galaxy Note10+ 5G มีน้ำหนัก 198 กรัม)
ด้านหน้าส่วนบนมีลำโพงเสียงสำหรับสนทนา และติดตั้งเซ็นเซอร์ Proximity สำหรับปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน กับเซ็นเซอร์ Ambient Light สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอ และแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
Samsung Galaxy Note10 และ Note10+ รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแบบ Ultrasonic Fingerprint sensor ที่สแกนได้รวดเร็ว พร้อมทำงานร่วมกับระบบการสแกนใบหน้า (Face Recognition)
ด้านซ้ายตัวเครื่องมีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม เปิด-ปิด หรือล็อกหน้าจอ ซึ่งแน่นอนว่ามีการตัดปุ่ม Bixby ออกไปนั่นเอง
ด้านขวาของตัวเครื่องไม่มีปุ่มใดๆ
ส่วนที่ด้านบนตัวเครื่องประกอบด้วย ไมโครโฟนตัวที่สอง พร้อมกับถาดใส่ซิมการ์ด โดยรุ่น Galaxy Note10 จะเป็นถาดแบบ Dual Nano-SIM ที่ไม่รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ micriSD Card ส่วน Galaxy Note10 เป็นแบบ Hybrid-Slot ซึ่งช่องใส่ซิมการ์ดที่สอง ต้องเลือกใส่อย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างซิมการ์ดแบบ nanoSIM หรือการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD
ที่ด้านล่างตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัวหลัก, พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C, ลำโพงเสียงภายนอก และช่องเก็บปากกา S-Pen โดยไม่มีช่องเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร เหมือนรุ่นก่อนๆ
โดย Samsung Galaxy Note10 และ Note10+ มาพร้อมกับลำโพงเสียงแบบคู่ ที่อยู่ด้านบน กับด้านล่างของตัวเครื่อง ซึ่งถูกปรับแต่งเสียงโดย AKG และมีระบบเสียงรอบทิศทางแบบ Dolby Atmos 3D
Samsung Galaxy Note10 และ Note10+ ครอบทับฝาหลังด้วยกระจก พร้อมกรอบอะลูมิเนียมแบบ Metal-Glass ที่มีความเงางาม และช่วยเพิ่มความพรีเมียมให้กับตัวเครื่องเป็นอย่างดี โดยรุ่นที่ทางทีมงานนำมาพรีวิวให้ได้ชมกันเป็นสี Aura Pink (Note10) และ Aura Glow (Note10+)
ที่ด้านหลัง Galaxy Note10 ติดตั้งกล้องมาทั้งหมด 3 ตัว (Triple Camera) แบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์ Dual Aperture (F1.5/F2.4), กล้องตัวที่สองเลนส์มุมกว้างพิเศษ Ultra-Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เก็บภาพมุมกว้างสุด 123 องศา มีขนาดรูรับแสง F/2.2 และกล้องตัวที่สามเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
สำหรับที่ด้านหลังของ Samsung Galaxy Note10+ จัดเต็มกว่าด้วยกล้อง 4 ตัว (Quad Camera) ที่ประกอบไปด้วย กล้องตัวหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์ Dual Aperture (F1.5/F2.4), กล้องตัวที่สองเลนส์มุมกว้างพิเศษ Ultra-Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เก็บภาพมุมกว้างสุด 123 องศา มีขนาดรูรับแสง F/2.2, กล้องตัวที่สามเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และกล้องตัวที่สี่เลนส์ DepthVision (ToF) พร้อมกับเพิ่มไมโครโฟนตัวที่สามเข้ามา สำหรับฟีเจอร์ Audio Zoom เพื่อช่วยตัดเสียงรบกวน และสามารถบันทึกเสียงขณะซูมภาพได้ จึงทำให้เสียงที่ได้มีความคมชัดมากขึ้น
และที่ขาดไม่ได้ก็คือปากกา S-Pen ที่เปรียบเสมือนหัวใจของสมาร์ทโฟน Galaxy Note Series โดยบน Samsung Galaxy Note10 และ Note10+ ได้ยกระดับการใช้งานด้วยปากกาให้ดียิ่งขึ้น ด้วยฟีเจอร์ Air Action ที่สามารถกดปากกา และวาดเป็นท่าทางต่างๆ เพื่อสั่งการ จากการติดตั้งเซ็นเซอร์ Gyroscope ในตัวนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น วาดปากกาไปทางซ้าย/ขวา เพื่อเปลี่ยนโหมดกล้องถ่ายภาพ, ตวัดปากกาขึ้นเพื่อสลับกล้อง หรือวาดปากกาเป็นรูปโค้งตามเข็มนาฬิกาเพื่อซูมเป็นต้น
นอกจากนี้ยังสามารถแปลงข้อความลายมือ ให้เป็นตัวอักษรได้ภายในแอปพลิเคชัน Note ได้ในทันที สำหรับฟังก์ชัน Screen Off Memo เองก็สามารถเปลี่ยนสีปากกาได้ โดยไม่จำกัดตามสีของปากกา และเขียนข้อความลงบนวิดีโอแบบ Live Message ได้
โดยตัวปากกามีขนาด 105.08x5.8x4.35 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 3.04 กรัม ซึ่งทาง Samsung ระบุว่าสามารถใช้งานได้ประมาณ 1 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ Samsung Galaxy Note10
- หน้าจอแสดงผลแบบ Dynamic AMOLED Cinematic Infinity-O Display ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Exynos 9825 บนเทคโนโลยีการผลิต 7nm
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G76 MP12
- หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4X ขนาด 8GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) มาตรฐาน UFS 3.0 ขนาด 256GB (ไม่รองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD)
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ Dual Pixel และรองรับ Night Shot สำหรับการถ่ายภาพเซลฟี่ในสภาวะที่มีแสงน้อย
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 ตัว (Triple Camera) โดยแบ่งออกเป็น
กล้องตัวหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี Dual Aperture (F1.5/F2.4) สำหรับสลับค่ารูรับแสงให้อัตโนมัติ, เทคโนโลยีโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ Dual Pixel และระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS
กล้องตัวที่สองเลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง F/2.2 เก็บภาพมุมกว้างสุด 123 องศา
กล้องตัวที่สามเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง F/2.4
- แบตเตอรี่ความจุ 3500 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 25W Superfast Charging และชาร์จไร้สาย 15W Fast Wireless Charging 2.0
- ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย One UI 1.1
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (Ultrasonic Fingerprint Scanner)
- ระบบสแกนใบหน้า (Face Recognition)
- ระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos 3D
- การป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
- รองรับการใช้งานร่วมกับระบบ Samsung DeX (Desktop Experience) และสายเชื่อมต่อแบบ DeX Cable เพื่อใช้งานสมาร์ทโฟนในโหมดเดสก์ท็อป
- รองรับการเชื่อมต่อ MST + NFC และบริการ Samsung Pay
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ Samsung Galaxy Note10+
- หน้าจอแสดงผลแบบ Dynamic AMOLED Cinematic Infinity-O Display ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียดระดับ QHD+ (1440x3040 พิกเซล)
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Exynos 9825 บนเทคโนโลยีการผลิต 7nm
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G76 MP12
- หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4X ขนาด 12GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) มาตรฐาน UFS 3.0 ขนาด 256GB / 512GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุดที่ขนาด 1TB
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ Dual Pixel และรองรับ Night Shot สำหรับการถ่ายภาพเซลฟี่ในสภาวะที่มีแสงน้อย
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 4 ตัว (Quad Camera) โดยแบ่งออกเป็น
กล้องตัวหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์ Dual Aperture (F1.5/F2.4)
กล้องตัวที่สองเลนส์มุมกว้างพิเศษ Ultra-Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เก็บภาพมุมกว้างสุด 123 องศา มีขนาดรูรับแสง F/2.2
กล้องตัวที่สามเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
กล้องตัวที่สี่เลนส์ DepthVision (ToF)
- แบตเตอรี่ความจุ 4300 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 45W Superfast Charging และชาร์จไร้สาย 15W Fast Wireless Charging 2.0
- ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย One UI 1.1
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (Ultrasonic Fingerprint Scanner)
- ระบบสแกนใบหน้า (Face Recognition)
- ระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos 3D
- การป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
- รองรับการใช้งานร่วมกับระบบ Samsung DeX (Desktop Experience) และสายเชื่อมต่อแบบ DeX Cable เพื่อใช้งานสมาร์ทโฟนในโหมดเดสก์ท็อป
- รองรับการเชื่อมต่อ MST + NFC และบริการ Samsung Pay
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
สำหรับ Samsung Galaxy Note10 เปิดราคาในประเทศไทยที่ 32,900 บาท กับความจุ 8GB+256GB โดยมีตัวเลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Aura Glow, Aura Black และ Aura Pink
ส่วน Samsung Galaxy Note10+ วางจำหน่าย 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น 12GB+256GB ราคา 37,900 บาท โดยมีตัวเลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Aura Glow, Aura Black และ Aura White ทางด้านรุ่น 12GB+512GB ราคา 40,900 บาท มีตัวเลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Aura Glow, Aura Black และ Aura Pink
Samsung Galaxy Note10 และ Note10+ เปิดให้สั่งจองระหว่างวันที่ 8 - 23 สิงหาคมนี้ พร้อมกับโปรโมชั่นราคาพิเศษเมื่อสั่งจองผ่านทางผู้ให้บริการเครือข่าย เริ่มต้นเพียง 15,900 บาท รับฟรีประกันหน้าจอแตกนาน 1 ปี และสำหรับการสั่งจองผ่านร้าน Samsung Brand Shop จะได้รับสิทธิพิเศษอัปเกรด Galaxy Note10+ จากรุ่นความจุ 256GB เป็น 512GB ฟรี ส่วนผู้ที่สั่งจอง Samsung Galaxy Noe10 จะได้รับฟรี หูฟัง Galaxy Buds มูลค่า 4,990 บาท สามารถอ่านรายละเอียดโปรโมชั่นการจอง Samsung Galaxy Note10 และ Note10+ ได้ที่นี่ : รวมโปรจอง 3 ค่าย Samsung Galaxy Note10 และ Note10+
และจากพรีวิวที่เราได้ชมกันไปข้างต้นก็จะเห็นได้ว่า หน้าจอของ Galaxy Note10 กับ Note10+ นั้นเป็นหน้าจอที่ดีที่สุดเท่าที่ Samsung เคยทำมาเลยทีเดียว ซึ่งหากเกิดการแตกร้าว หรือเกิดรอยขีดข่วนขึ้นมา ก็คงเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นการหากระจกกันรอยดีๆ มาปกป้องเอาไว้ตั้งแต่แรกจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และช่วยให้ใช้งานได้อย่างมั่นใจ โดยในวันนี้เราก็มีมาแนะนำอยู่ 2 รุ่นได้แก่
Hi-Shield
กระจกนิรภัย Hi-Shield UV Glue สำหรับ Galaxy Note10 Series มีคุณสมบัติเด่นดังนี้
- ความใส ระดับ HD
- รับประกันนาน 90 วัน
- อบด้วยแสง UV
- กาวไม่เหม็น กาววิ่งทั่วแผ่นกระจกได้เร็วขึ้น
- ติดแนบสนิท กระจกไม่เด้ง
- ทัชสกรีนไม่ติดขัด
- กระจกใสไร้ขอบ ไม่มีดอท
- ใส่ได้กับเคสทุกรูปแบบ
- สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (Ultrasonic Fingerprint Sensor) ได้ โดยไม่มีรูที่ตัวกระจก
ราคา : 1,590 บาท (พร้อมเครื่องฉาย)
พิเศษสำหรับลูกค้าที่แจ้งว่ามาจาก Thaimobilecenter ซื้อได้ราคาเพียง 1,290
COMMY
COMMY 3D UV Curve กระจกนิรภัยรุ่นใหม่สำหรับ Samsung Galaxy Note10 มีจุดเด่นดังนี้
- แข็งแรงระดับ 9H ป้องกันรอยขีดข่วน
- ขอบไม่เด้ง เหมาะสำหรับโทรศัพท์จอโค้งรุ่นใหม่ๆ
- หนาเพียง 0.2 mm
- ป้องกันรอยนิ้วมือด้วยสารเคลือบพิเศษ
- ป้องกันการจับตัวของหยดน้ำ
- บางเฉียบเหมือนไม่ได้ติด
- ทัชจอได้ไม่มีปัญหา
- สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (Ultrasonic Fingerprint Sensor) ได้
ราคา : กระจก 3D UV Samsung Note10 ราคา 1,090 บาท
เครื่องฉาย UV lamp ราคา 300 บาท
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 8/8/2562
