เทียบสเปก Samsung Galaxy Note10+ vs OPPO Reno 10x Zoom สองรุ่นไฮเอนด์ มีฟีเจอร์เด่นอย่างไร รุ่นไหนเหมาะกับใคร มาดูกัน

ล่าสุดก็เปิดตัวในบ้านเราไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ Samsung Galaxy Note10 และ Note10+ สองเรือธงรุ่นท็อปใหม่ล่าสุดจากทาง Samsung พร้อมเปิดให้สั่งจองแล้ววันนี้ (สามารถชมรายละเอียดโปรจองจาก 3 ค่ายใหญ่ได้ที่นี่ : รวมโปรจอง 3 ค่าย Samsung Galaxy Note10 และ Note10+) กับการดีไซน์โฉมใหม่หมดจด และอัปเกรดฟีเจอร์ภายในครบครัน รวมถึงปากกา S-Pen เวอร์ชันใหม่

ในวันนี้ทางทีมงานได้นำ Samsung Galaxy Note10+ และ OPPO Reno 10x Zoom มาทำการเปรียบเทียบคุณสมบัติ และฟีเจอร์เด่นให้ได้ชมกัน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับท่านที่สนใจ ซึ่งทั้งสองจะมีฟีเจอร์เด่นในด้านใด และรุ่นไหนเหมาะกับใคร เชิญรับชมไปพร้อมกันเลยค่ะ

จากตารางข้างต้นจะเห็นได้ว่าทั้งสองรุ่นมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปอย่างเห็นได้ชัด โดย Samsung Galaxy Note10+ มาในดีไซน์ใหม่อย่าง Dynamic AMOLED Cinematic Infinity-O Display ที่มีหน้าจอไร้ขอบขนาดใหญ่ 6.8 นิ้ว คมชัดระดับ QHD+ (1440x3040 พิกเซล : 498 ppi) รองรับมาตรฐาน HDR10+ และยังติดเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic Fingerprint Sensor ไว้ใต้หน้าจออีกด้วย โดยตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Glass ที่ให้ความเงางาม พร้อมการไล่เฉดในสีใหม่อย่าง Aura Glow และขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Exynos 9825 รุ่นใหม่ จับคู่กับ RAM มากถึง 12GB และมี ROM มาตรฐาน UFS 3.0 ขนาดสูงสุดถึง 512GB ที่ยังสามารถเพิ่ม microSD ได้อีก 1TB บนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ที่ครอบทับด้วย One UI ซึ่งมีแบตเตอรี่ความจุ 4300 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็วแบบ 45W Superfast Charging และการชาร์จไร้สายแบบ 15W Fast Wireless Charging 2.0 รวมถึงแบ่งปันแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จไร้สายได้ด้วยฟังก์ชัน Wireless Power Share (9W)

Galaxy Note10+ ยังมากับกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว (Quad Camera) ที่แบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์ Dual Aperture (F1.5/F2.4), กล้องตัวที่สองเลนส์มุมกว้างพิเศษ Ultra-Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เก็บภาพมุมกว้างสุด 123 องศา มีขนาดรูรับแสง F/2.2, กล้องตัวที่สามเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และกล้องตัวที่สี่เลนส์ DepthVision Camera นอกจากนี้ยังรองรับการทำงานร่วมกับปากกา S-Pen ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานด้านต่างๆ โดยสามารถสั่งงานด้วยท่าทางได้ผ่านฟังก์ชัน Air Action

ทางด้าน OPPO Reno 10x Zoom ชูโรงด้านการถ่ายภาพด้วยระบบซูมสุดถึง 60 เท่า (60x Digital Zoom) ด้วยกล้องหลัง 3 ตัว (Triple Camera) ที่ประกอบด้วย กล้องตัวที่หนึ่งเลนส์ Ultra-Clear ความละเอียดระดับ 48 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX586 มีขนาดเลนส์ 1/2.0 นิ้ว และขนาดรูรับแสงที่ f/1.7, กล้องตัวที่สองเลนส์ Telephoto แบบ Periscope พร้อมเทคโนโลยี D-Cut ความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล มีขนาดรูรับแสงที่ f/3.0 และกล้องตัวที่สามเลนส์มุมกว้าง Wide Angle ความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล มีขนาดรูรับแสงที่ f/2.2 และเก็บภาพมุมกว้างสุด 120 องศา ผสานกับกล้องหน้าเลื่อนได้อัตโนมัติแบบ Pivot Rising Camera ที่มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล

OPPO Reno 10x Zoom มาในดีไซน์จอไร้ขอบ ไร้รอยบาก และไร้ติ่งแบบ AMOLED Panoramic Screen ที่มีการการฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ภายใต้หน้าจอ (Hidden Fingerprint Unlock 2.0) บนตัวเครื่องไร้รอยต่อที่ออกแบบมาให้มีความสมมาตร ด้วยกรอบโลหะ และกระจก พร้อมเทคโนโลยีไล่เฉดสีผิวสัมผัสหลายชั้นแบบ Iridescent Multi-Layer Finish รวมถึงมี O-Dot ปุ่มเซรามิกที่อยู่ใต้หลังหลักทั้ง 3 ตัวที่ด้านหลัง ซึ่งจะช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อป้องกันการเกิดรอยบนฝาหลัง โดยขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 855 จับคู่กับ RAM ขนาด 8GB + ROM 256GB พร้อมเพิ่ม microSD Card ได้อีก 256GB และแบตเตอรี่ความจุ 4065 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0 บนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6.0 เวอร์ชันใหม่

และจากการเปรียบเทียบทั้งหมด พอจะกล่าวได้ว่า Samsung Galaxy Note10+ เหมาะสำหรับนักธุรกิจ หรือท่านที่อาจต้องทำงานบนสมาร์ทโฟนอยู่เป็นประจำ รวมถึงท่านที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่สามารถตอบโจทย์ทั้งด้านการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น ท่องโซเชียล, เล่นเกม, ถ่ายภาพ และการทำงานต่างๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว พร้อมกับปากกา S-Pen ที่ช่วยอำนวยความสะดวกการใช้งานในหลายๆ ด้าน รวมถึงมีฟีเจอร์ระดับไฮเอนด์ บนการดีไซน์ระดับพรีเมียม และฟังก์ชันการถ่ายภาพเทียบเท่ากล้องใหญ่

สำหรับ OPPO Reno 10x Zoom ถือว่าเหมาะสำหรับท่านที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนระดับท็อป ที่พร้อมตอบโจทย์การใช้งานในระดับไฮเอนด์อย่างครบครันทุกด้าน โดยเฉพาะการถ่ายภาพด้วยลูกเล่นมากมาย รวมทั้งใช้งานด้านความบันเทิงได้อย่างเต็มที่ และชื่นชอบการดีไซน์ระดับพรีเมียม

อย่างไรก็ดี ทางทีมงานไม่สามารถกล่าวได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใดดีกว่ากัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบ และไลฟ์สไตล์ของแต่ละท่านค่ะ ซึ่งทางทีมงานขอแนะนำว่าควรไปทดลองจับถือตัวเครื่องจริง พร้อมทดสอบฟีเจอร์ในเบื้องต้นก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นคุ้มค่าแก่เงินที่เสียไปนั่นเองค่ะ สำหรับวันนี้คงต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ