ย้อนรอยเทคโนโลยีภาพพอร์ตเทรตจากอดีต สู่การถ่ายภาพพอร์ตเทรตระดับโปรจากมือถือด้วย OPPO Reno7 Series 5G
การถ่ายภาพแนวพอร์ตเทรต (Portrait) เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับวงการถ่ายภาพ และมนุษยชาติมาเป็นเวลาเกือบ 200 ปีแล้ว ซึ่งในแต่ละยุคก็มีแนวทางในการถ่ายภาพพอร์ตเทรตที่แตกต่างกันออกไป แต่กว่าที่ภาพพอร์ตเทรตจะออกมาสวยงามเหมือนกับปัจจุบัน ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย วันนี้เรามาดูวิวัฒนาการของภาพพอร์ตเทรตในแต่ละยุคแต่ละสมัยกันดีกว่าครับ
จุดเริ่มต้นของภาพพอร์ตเทรต
ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1839 ช่างภาพชาวอเมริกัน Robert Cornelius (รอเบิร์ต คอร์เนเลียส) ได้ริเริ่มด้านการถ่ายภาพพอร์ตเทรตเป็นคนแรกของโลก แต่การถ่ายภาพพอร์ตเทรตในยุคนั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายเหมือนกับปัจจุบัน เพราะการภ่ายภาพในสมัยนั้นจะต้องใช้กระบวนการดาแกโรไทป์ (daguerreotype) ซึ่งมีความซับซ้อนด้านการตั้งค่า แถมยังการถ่ายภาพแต่ละครั้งก็ค่อนข้างใช้เวลา และยุ่งยากพอสมควร
จุดเริ่มต้นของภาพพอร์ตเทรตที่คมชัดกว่าเดิม
ต่อมาในยุคปี ค.ศ. 1841 เริ่มมีการนำกล้องแบบ Daguerreotype มาพัฒนาต่อยอด ด้วยการใส่เลนส์สำหรับช่วยถ่ายภาพ แต่กระบวนการถ่ายภาพในแต่ละครั้งก็ยังคงใช้เวลา และไม่สะดวกมากนัก อีกทั้งการถ่ายภาพพอร์ตเทรตในสมัยนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่ เพราะการถ่ายภาพมีความซับซ้อน มีค่าใช้จ่ายสูง ไม่สามารถถ่ายได้บ่อย ๆ ดังนั้นผู้ที่ต้องการถ่ายภาพพอร์ตเทรตก็ต้องเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผม เพื่อให้มั่นใจได้ว่าตัวเองจะดูดีที่สุดในการถ่ายภาพในยุคนั้น
จุดเริ่มต้นของภาพพอร์ตเทรตที่ถ่ายได้ทุกที่
เมื่อเข้าสู่ยุคปี ค.ศ. 1897 กล้องถ่ายภาพก็ถูกย่อส่วนลงจนเป็นขนาดที่พอจะพกพาไปถ่ายภาพพอร์ตเทรตกันได้ง่ายขึ้น ด้วยกลไกกล้องที่สามารถยืดหดได้เหมือนหีบเพลง และมีลักษณะคล้ายกับกระเป๋าเดินทาง ทำให้พกพาไปถ่ายนอกสถานที่กันได้ง่ายขึ้น ซึ่งเริ่มใกล้เคียงกับการถ่ายภาพในยุคปัจจุบันที่สามารถบันทึกภาพความประทับใจได้ในทุกที่ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดเรื่องผลลัพธ์ของภาพถ่ายที่ไม่สามารถรู้ได้ล่วงหน้าว่าภาพจะออกมาเป็นอย่างไร
จุดเริ่มต้นของสีสันแห่งภาพพอร์ตเทรต
หลังจากที่กล้องถ่ายได้แต่ภาพแบบขาวดำมาเป็นระยะเวลาอย่างยาวนาน ในช่วงปี 1950s เทคโนโลยีของกล้องถ่ายภาพถูกพัฒนาแบบก้าวกระโดด กล้องสามารถถ่ายภาพสีได้ ทำให้ภาพพอร์ตเทรตเริ่มมีสีสัน เรียกได้ว่าเป็นยุคแห่งสุนทรียของการถ่ายภาพพอร์ตเทรตเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ กล้องถ่ายภาพยังมีคุณสมบัติที่ใช้งานได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น การปรับค่ารูรับแสง ไปจนถึงปรับระยะโฟกัสได้ที่หน้าเลนส์ ทำให้คนเริ่มมีการครอบครองกล้อง และพกพากล้องไปถ่ายภาพนอกสถานที่กันมากขึ้น ซึ่งเรียกได้ว่าใกล้เคียงกับการถ่ายภาพในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก
จากทั้งหมดเราจะเห็นวิวัฒนาการของการถ่ายภาพตั้งแต่อดีตที่เป็นภาพขาวดำ และมีความยากลำบากในการถ่าย มาจนถึงยุคที่ภาพพอร์ตเทรตเริ่มมีสีสัน และคนเริ่มครอบครองกล้องถ่ายภาพที่สามารถพกพาไปถ่ายนอกสถานที่ได้ง่าย ๆ หากเรามาลองพิจารณาการถ่ายภาพในยุคปัจจุบันจะเห็นว่า เทคโนโลยีการถ่ายภาพมีการพัฒนาไปไปไกลกว่าเดิมมาก เพราะสมาร์ทโฟนเครื่องเล็ก ๆ ก็สามารถถ่ายภาพได้สวยงามราวกับการถ่ายด้วยกล้องระดับโปรแล้ว ซึ่งหนึ่งในแบรนด์สมาร์ทโฟนที่มุ่งพัฒนาเรื่องการถ่ายภาพ portrait อย่างจริงจังก็คือ OPPO
ในช่วงปี 2000 สมาร์ทโฟนจอทัชสกรีนเริ่มได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ซึ่งหนึ่งในฟีเจอร์สำคัญที่มีอยู่ในสมาร์ทโฟนยุคนั้นก็คือ กล้องถ่ายภาพดิจิทัล โดยหนึ่งในแบรนด์ที่มีการคิดค้น และบุกเบิกนวัตกรรมกล้องถ่ายภาพบนมือถือก็คือ OPPO โดยในปี 2014 OPPO ได้ปลุกกระแสการถ่ายภาพพอร์ตเทรตด้วยมือถือ ด้วยการการเปิดตัวสมาร์ทโฟนแห่งการถ่ายภาพ ที่มาพร้อมกับกลไกกล้องหมุนได้แบบ 206 องศา เป็นทั้งกล้องหน้า-หลังในตัว ช่วยเพิ่มอิสระในการถ่ายภาพได้เป็นอย่างดี ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งาน และเป็นหนึ่งในข้อพิสูจนว่า OPPO เป็นแบรนด์ที่มุ่งเน้นพัฒนากล้องถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่สะดวก
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า OPPO F1s
ต่อมา OPPO ก็ได้พัฒนาการถ่ายภาพพอร์ตเทรตบนมือถือให้มีความคมชัดไปอีกขั้น กับรุ่น OPPO F1s ที่เปิดตัวเมื่อปี 2017 โดยมาพร้อมกับจุดเด่นด้านกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียดสูงถึง 16 ล้านพิกเซลสมกับฉายา Selfie Expert ทำให้ภาพเซลฟี่จากกล้องหน้ามีความคมชัดไม่แพ้กับกล้องหลังเลยทีเดียว
และในปีเดียวกัน OPPO ได้ปฏิวัติการถ่ายภาพเซลฟี่พอร์ตเทรตบนมือถือ ด้วยการใส่ฟีเจอร์สุดล้ำที่เรียกว่า A.I. Beauty ที่มีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาพัฒนาร่วมกับซอฟต์แวร์ Beauty ของ OPPO ที่ขึ้นชื่อด้านการถ่ายภาพเซลฟี่ มาทำการเรียนรู้ใบหน้าของผู้ใช้แต่ละคน เพื่อปรับแต่งให้ใบหน้าของผู้ใช้มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ
จากรุ่น OPPO F1s ที่ขึ้นชื่อด้านการถ่ายภาพเซลฟี่ และการปรับแต่งใบหน้าให้มีความสวยงามดูเป็นธรรมชาติ ทาง OPPO ก็เริ่มมีการพัฒนากล้องถ่ายภาพบนมือถือให้สามารถถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้อย่างสวยงาม จนทำให้เกิดจุดเริ่มต้นใหม่ของการถ่ายภาพพอร์ตเทรตบนมือถือกับรุ่น OPPO F11 Pro ที่มาพร้อมกับฉายา The Portrait Expert ซึ่งสามารถถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้สวยทุกสภาพแสง
หลังจากที่ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี OPPO ก็ไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาการถ่ายภาพพอร์ตเทรตให้ใช้งานได้ง่าย และถ่ายภาพได้อย่างสวยงาม จึงทำให้เกิดฟีเจอร์ใหม่ ๆ เกี่ยวกับการถ่ายภาพพอร์ตเทรตในสมาร์ทโฟนตระกูล OPPO Reno Series นั่นเอง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด AI Color Portrait ของ OPPO Reno4
ความสามารถด้านการถ่ายภาพพอร์ตเทรตของ OPPO Reno Series มีความโดดเด่นมาตั้งแต่รุ่น OPPO Reno4 ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ AI Color Portrait เป็นครั้งแรก ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพแบบดูดสีเฉพาะตัวแบบได้อย่างง่ายดาย จากที่ปกติต้องไปปรับแต่งในแอปพลิเคชันอื่นเพิ่มเติม
ต่อมาก็มีการพัฒนารุ่น OPPO Reno5 Series ที่เรียกได้ว่าเป็นที่สุดของวิดีโอ Portrait โดยมาพร้อมกับ AI Mixed Portrait หรือการถ่ายพอร์ตเทรตแบบใช้เทคนิคภาพซ้อน เพิ่มความแปลกใหม่ให้แก่การถ่ายภาพนิ่ง และวิดีพอร์ตเทรตได้เป็นอย่างดี หรือกล่าวง่าย ๆ ก็คือ เพียงกดชัตเตอร์เพียงคลิ๊กเดียว ก็ได้ภาพบุคคลในระดับ Professional แล้ว
ต่อมาในรุ่น OPPO Reno6 Series ก็มาพร้อมกับฟีเจอร์การถ่ายภาพพอร์ตเทรตแบบใหม่ในชื่อ Bokeh Flare Portrait ที่ยกระดับการถ่ายภาพพอร์ตเทรตไปอีกขั้นด้วยการเบลอฉากหลัง พร้อมปรับดวงไฟโบเก้ให้มีความสวยงามราวกับกล้องระดับโปรราคาแพง แถมในบางครั้งยังทำได้เหมือนกว่ากล้องโปร เพราะสามารถปรับรูปแบบของดวงไฟโบเก้ได้อย่างหลากหลายโดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคพิเศษ หรือปรับแต่งเพิ่มเติมในแอปพลิเคชันอื่น ๆ
ภาพถ่ายแนวพอร์ตเทรตถือว่าเป็นหนึ่งในภาพถ่ายที่มีความสำคัญกับวงการถ่ายภาพ เพราะเป็นการบันทึกเรื่องราว และความทรงจำของบุคคลต่าง ๆ เอาไว้ในภาพถ่าย ซึ่งในเร็ว ๆ นี้ OPPO เตรียมที่จะยกระดับการถ่ายภาพ Portrait ไปอีกขั้นด้วย OPPO Reno7 Series 5G ที่คาดว่ากำลังจะเปิดตัวในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้ โดยในรุ่นนี้มาพร้อมกับสโลแกน Portrait Expert ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า OPPO Reno7 Series จะเป็นตัวจริงด้านการถ่ายภาพพอร์ตเทรต รวมถึงกล้องถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก OPPO Reno Series รุ่นก่อน ๆ ที่ทำเอาไว้อย่างดีเยี่ยม โดย OPPO Reno7 Series จะมีฟีเจอร์การถ่ายภาพบุคคลที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างไรบ้างนั้น อีกไม่นานเราก็จะได้ทราบกันแล้วครับ
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
[บทความนี้เป็น Advertorial]
วันที่ : 4/2/2565
