รีวิว (Review) OPPO F1s
สมาร์ทโฟน Selfie Expert น้องใหม่ เพื่อคอเซลฟี่พันธุ์แท้ ด้วยกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล (F/2.0) พร้อมจอ IPS 2.5D Gorilla Glass 4 ใหญ่เต็มตา 5.5 นิ้ว, ชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6750, RAM 3 GB, ROM 32 GB, กล้องหลัง PDAF 13 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ บนบอดี้โลหะบางเฉียบ ในราคาเพียง 9,990 บาท
Review
Date (11-สิงหาคม-2559)
เมื่อบ่ายวานนี้ ทาง OPPO ได้จัดงานเปิดตัว OPPO F1s สมาร์ทโฟนดีไซน์เรียบหรูใหม่ล่าสุดในตระกูล F-Series ในราคาสุดคุ้มเพียง 9,990 บาท พร้อมแถมฟรีหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ความจุ 32 GB ซึ่งการเปิดตัวของ OPPO F1s ในครั้งนี้ก็ได้สร้างความเซอร์ไพรส์ได้ไม่น้อย โดยเฉพาะบรรดาขาเซลฟี่ทั้งหลาย และในวันนี้ก็ถือเป็นฤกษ์งามยามดีที่จะนำเสนอบทความรีวิว OPPO F1s ให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน
สำหรับดีไซน์ตัวเครื่องของ OPPO F1s จะมีความคล้ายคลึงกับ OPPO F1 Plus เป็นอย่างมาก และใช้นวัตกรรมในการผลิตตัวเครื่องแบบ Metal-Unibody ซึ่งมีความบางเพียง 7.38 มิลลิเมตร จึงทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ อีกทั้งยังเพิ่มความสวยหรูให้กับตัวเครื่องด้วยการตัดขอบคู่สีเงินทั้งด้านข้าง และด้านหลังของตัวเครื่อง
ทางด้านจุดขายของ OPPO F1s ก็คงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของกล้องถ่ายภาพ โดย OPPO F1s นั้นมาพร้อมกับกล้องดิจิทัลด้านหน้าที่มีความละเอียดมากเป็นพิเศษถึง 16 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/3.1 นิ้ว พร้อมรูรับแสงขนาด F/2.0 และรองรับการใช้งานควบคู่กับฟังก์ชัน Screen Flash ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหลังจะมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) ซึ่งสามารถโฟกัสภาพได้ภายในเวลาเพียง 0.1 วินาที, ขนาดรูรับแสง F/2.2 และไฟแฟลช LED ซึ่งเรียกได้ว่า OPPO F1s ถอดแบบความสามารถของกล้องดิจิทัลมาจาก OPPO F1 Plus เลยก็ว่าได้
อีกหนึ่งความน่าสนใจบน OPPO F1s คือ มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ สำหรับตรวจสอบสิทธิ์การเข้าใช้งานตัวเครื่อง พร้อมเทคโนโลยี Touch Access ที่ปลดล็อกได้รวดเร็วขึ้นภายในเวลาเพียง 0.22 วินาที เท่านั้น (OPPO F1 Plus ใช้เวลาในการปลดล็อก 0.25 วินาที) ไม่เพียงเท่านั้น OPPO F1s ยังมาพร้อมกับถาดใส่ซิมการ์ด โดยมีช่องแยกสำหรับเพิ่มหน่วยความจำภายนอก นั่นหมายความว่า OPPO F1s นั้น สามารถใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด และยังสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้พร้อมๆ อีกด้วย
ในส่วนของคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ก็ถือว่าครบเครื่องทุกการใช้งาน เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว ซึ่งเป็นดีไซน์กระจกหน้าจอขอบนูนแบบ 2.5D Gorilla Glass 4 จึงทำให้หน้าจอมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ, ชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6750 ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิกแบบ Mali-T860, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB, หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, แบตเตอรี่ Li-Ion Polymer 3075 mAh และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.0 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop)
หากพิจารณาข้อมูลในข้างต้น จะเห็นได้ว่า OPPO F1s ถือเป็นสมาร์ทโฟนอีกเครื่องหนึ่งที่มีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ดีไซน์การออกแบบตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน, ฟีเจอร์ต่างๆ จะตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีเพียงใด และกล้องดิจิทัลด้านหน้าจะถ่ายภาพเซลฟี่ได้สวยสมคำร่ำลือหรือไม่ ขอเชิญท่านผู้อ่านไปชมรีวิว OPPO F1s พร้อมกันได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์
OPPO F1s มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว ซึ่งเป็นดีไซน์กระจกหน้าจอขอบนูนแบบ 2.5D Gorilla Glass 4 จึงทำให้หน้าจอมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ โดยมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 154.5x76x7.38 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 160 กรัม
ด้านหน้าส่วนบนประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/3.1 นิ้ว พร้อมรูรับแสงขนาด F/2.0, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, เซ็นเซอร์ Accelerometer Sensor สำหรับช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และเซ็นเซอร์ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
ด้านหน้าส่วนล่างมาพร้อมกับปุ่มการสั่งงานแบบสัมผัส ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนเทคโนโลยี Touch Access โดยใช้เวลาในการปลดล็อกภายในเพียง 0.22 วินาที และปุ่มย้อนกลับ
ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับตัดเสียงรบกวนขณะบันทึกวิดีโอ หรือบันทึกเสียง
ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องสำหรับเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ลำโพงเสียงภายนอก และช่องเชื่อมต่อกับสาย microUSB สำหรับโอนถ่ายข้อมูล หรือชาร์จแบตเตอรี่
ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ Triple-Slot ซึ่งสามารถใส่ซิมการ์ดที่ 1, ซิมการ์ดที่ 2 และช่องเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้พร้อมๆ กัน
ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับเสียง
กล้องดิจิทัลด้านหลังมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) ซึ่งสามารถโฟกัสภาพได้ภายในเวลาเพียง 0.1 วินาที, รูรับแสงขนาด F/2.2 และไฟแฟลช LED
โดย OPPO F1s มีใช้เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Metal-Unibody พร้อมตัวขอบคู่สีเงินทั้งด้านหน้า และด้านหลังของตัวเครื่อง จึงทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ และยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 3075 mAh
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ
สำหรับ OPPO F1 นั้นขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 5.1 พร้อมด้วยหน่วยความจำภายในขนาด 32 GB และรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB
อีกทั้งยังมีหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด และรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตระบบ 4G LTE กับ 3G ได้
โดยมีฟังก์ชันการแจ้งเตือนให้ใช้งาน และสามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดต่างๆ ได้ตามต้องการ เช่น GPS หรือกาปรับความสว่างของหน้าจอ
ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน และสามารถเปลี่ยนเอฟเฟกต์การปลดล็อกหน้าได้
อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนธีม หรือดาวน์โหลดธีมอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Theme Store
ในส่วนของบริการต่างๆ จากทาง Google ก็มีให้ใช้งานหลากหลาย เช่น Google Maps หรือ Youtube
OPPO F1s ยังมีบริการสำหรับสำรองข้อมูลให้ใช้งาน โดยผู้ใช้งานสามารถสำรองข้อมูลผู้ติดต่อ กับข้อความ SMS ได้ผ่านระบบคลาวด์ของแอปพลิเคชัน O-Clound
และยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชัน "ศูนย์รักษาความปลอดภัย" ที่สามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวต่างๆ ได้ โดยคุณสามารถป้องกันการเข้าถึงแอปพลิเคชันที่คุณไม่ต้องการให้บุคคลอื่นเห็น, สามารถบล็อคสายเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่ต้องการให้ติดต่อ หรือตั้งค่าการใช้งานของปริมาณอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงการ ซ่อนรูปภาพ, ซ่อนวิดีโอ และซ่อนแอปพลิเคชัน ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
สำหรับฟังก์ชันโทรศัพท์ก็มีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย พร้อมด้วยปุ่มตัวเลขขนาดใหญ่ จึงช่วยให้กดหมายเลขได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังเข้าดูรายชื่อโทรศัพท์ทั้งหมดได้อีกด้วย
ทางด้านเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างไหลลื่น และสามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้ครบถ้วน
นอกจากนี้ OPPO F1s ยังมาสามารถเปิดใช้งานระบบป้องกันสายตาด้วยการลดแสงสีฟ้าได้ ซึ่งตัวระบบจะทำการลดแสงสีฟ้าได้ 3 ระดับตามความต้องการ เนื่องด้วยแสงสีฟ้ามีส่วนทำให้เมื่อยล้าดวงตาขณะที่ใช้งานต่อเนื่อง
ไม่เพียงเท่านั้น ผู้ใช้งานยังสามารถตั้งค่าในส่วนของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือได้ อีกทั้งยังทำการล็อกแอปพลิเคชัน หรือไฟล์สำคัญๆ ซึ่งจะต้องปลดล็อกจากลายนิ้วมือของผู้ที่ลงทะเบียนเสียก่อน จึงสามารถใช้งานแอปพลิเคชัน หรือไฟล์นั้นๆ ได้
อีกหนึ่งความน่าสนใจบน OPPO F1s คือ รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง (Motion Control) ได้ เช่น เคาะที่หน้าจอแสดงผล 2 ครั้ง เพื่อปลุกการทำงานของ OPPO F1, วาดตัวโอเพื่อเปิดใช้งานกล้อง และสามารถเพิ่มท่าทางด้วยตนเองได้
อีกทั้งยังสามารถ เปิด-ปิด การสั่งงานด้วยนิ้วมือได้อีกหลายแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การใช้ 3 นิ้วเลื่อนขึ้น หรือลง เพื่อจับภาพหน้าจอ, การใช้ 2 นิ้ว เลื่อนขึ้น หรือลง ในการ เพิ่ม-ลด ระดับของเสียง และการเปิดโหมดการใช้งานมือเดียวด้วยการใช้นิ้วเลื่อนจากมุมขวาล่าง หรือซ้ายล่าง ของหน้าจอ
OPPO F1s นั้นมาพร้อมกับแอปพลิเคชัน Kingsoft Office สำหรับเปิดอ่าน หรือสร้างไฟล์เอกสารต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น Word, Excel และ PowerPoint
ส่วนแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลงก็มีให้ใช้งานด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังสามารถเปิดใช้งานระบบเสียง Dirac Power Sound ได้อีกด้วย (ซึ่งการกำหนดค่าต่างๆ จำเป็นต้องเสียบหูฟังเสียก่อน)
OPPO F1s สามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น แต่อย่างไรก็ดี OPPO F1s ไม่สามารถแสดงผลเต็มความละเอียดของไฟล์วิดีโอได้ เนื่องด้วยหน้าจอแสดงผลมีความละเอียด 1280x720 พิกเซล เท่านั้น
และมีฟังก์ชัน Popup Play ให้ใช้งาน
OPPO F1s นั้นมาพร้อมกับชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6750 ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิกแบบ Mali-T860, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB, หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.0 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop)
ด้วยคุณสมบัติภายในที่อัดแน่นไปด้วยประสิทธิภาพ จึงทำให้ OPPO F1s นั้นสามารถเล่นเกมที่มีกราฟิกระดับสูงได้อย่างไหลลื่น และไม่มีอาการหน่วงให้พบเจอ อีกทั้งตัวเครื่อง ยังไม่มีการสะสมความร้อนอีกด้วย
และเมื่อนำ OPPO F1s มาทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 39468 คะแนน
ต่อด้วยการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu 3DRating Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 5024 คะแนน
สำหรับ OPPO F1s สามารถรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด
และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store
กล้องดิจิทัล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ
สำหรับ Interface กล้องถ่ายภาพบน OPPO F1s นั้นมีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย อีกทั้งยังแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน และมีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพปกติ, โหมดถ่ายภาพ Ultra HD, โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า และโหมดถ่ายภาพไฟล์ GIF
นอกจากนี้ กล้องดิจิทัลด้านหลังยังมีโหมดถ่ายภาพโปร และโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beauty) ให้ใช้งานอีกด้วย โดยโหมดถ่ายภาพสวย นั้นสามารถปรับค่าผิวเนียนได้ 7 ระดับ และสามารถปรับค่าผิวอมชมพูได้อีกด้วย
อีกทั้งยังสามารถตั้งค่าการใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใช้งานไฟแฟลช LED, การเปิดใช้งานฟังก์ชัน HDR
การเปิดใช้งานฟังก์ชันสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ, สามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้นานสูงสุด 10 วินาที และสามารถเลือกสัดส่วนของภาพถ่ายได้ และยังมีเอฟเฟกต์ หรือลายน้ำสำหรับถ่ายภาพให้ใช้งานอีกด้วย
นอกจากนี้ กล้องดิจิทัลด้านหลังของ OPPO F1s สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดระดับ Full HD (1080p) และมีโหมด Time-Lapse ให้ใช้งานด้วยเช่นกัน
ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็มีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกับกล้องดิจิทัลด้านหลัง อีกทั้งยังมีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลายแบบ เช่น โหมดถ่ายภาพปกติ, โหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beautify 4.0) หรือโหมดถ่ายภาพ Panorama Selfie
และสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชัน Screen Flash ที่ใช้งานแสงสว่างของหน้าจอแทนไฟแฟลชได้ ซึ่งรวมถึงเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพ ก็มีให้ใช้งานบน OPPO F1s ด้วยเช่นกัน
ไม่เพียงเท่านั้น ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมได้อีกหลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ การ เปิด-ปิด ฟังก์ชันต่างๆ ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น การสัมผัสหน้าจอเพื่อถ่ายภาพ, การสั่งงานถ่ายภาพด้วยเสียง, การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ, การสั่งงานถ่ายภาพด้วยการชูฝ่ามือ, การเลือกสัดส่วนของภาพถ่าย และกระจกสะท้อน ในส่วนของโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beautify 4.0) สามารถปรับค่าผิวเนียนได้ 7 ระดับ และยังสามารถปรับให้สีผิวอมชมพูดูมีเลือดฝาดเป็นธรรมชาติได้อีกด้วย
นอกจากนี้ กล้องดิจิทัลด้านหน้าของ OPPO F1s สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดระดับ Full HD (1080p) และมีโหมด Time-Lapse ให้ใช้งานด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล ของ OPPO F1s
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ผ่านโหมด Beautify เวอร์ชัน 4.0 ของ OPPO F1s
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมด Beautify ปรับค่าระดับ 3
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมด Beautify ปรับค่าระดับ 5
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมด Beautify ปรับค่าระดับ 7
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมด Beauty พร้อมปรับสีผิวอมชมพูระดับน้อยสุด
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมด Beauty พร้อมปรับสีผิวอมชมพูระดับปานกลาง
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมด Beauty พร้อมปรับสีผิวอมชมพูระดับมากสุด
ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมด Beauty ปรับค่าระดับ 7 พร้อมปรับสีผิวอมชมพูระดับมากสุด
ภาพซ้ายถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติแบบไม่เปิดใช้งานฟังก์ชัน Screen Flash ส่วนภาพขวาถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติแบบพร้อมเปิดใช้งานฟังก์ชัน Screen Flash ซึ่งจะเห็นได้ว่าภาพถ่ายที่เปิดใช้งานฟังก์ชัน Screen Flash มีสีสันที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยเอฟเฟกต์ "อ่อนหวาน"
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยเอฟเฟกต์ "สดใหม่"
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดพาโนราม่าเซลฟี่
สรุปผลการทดสอบของ OPPO F1s
จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับการรีวิวสมาร์ทโฟนเซลฟี่ดีไซน์เรียบหรูรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล F-Series อย่าง OPPO F1s สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกต้องยอมรับว่าออกแบบมาได้สวยงามลงตัวเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ และพกพาไปใช้งานตามสถานที่ต่างๆ ได้อย่างคล่องตัว อันเป็นผลมาจากเทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Unibody และมีความบางเฉียบเพียง 7.38 มิลลิเมตร พร้อมตัดขอบคู่สีเงีน ทั้งด้านหน้า และด้านหลังของตัวเครื่อง นอกจากนี้ ตรงมุมตัวเครื่องทั้งสี่ด้านยังมีความโค้งมน บวกกับพื้นผิวแบบด้านที่ด้านหลังตัวเครื่อง จึงช่วยให้จับ หรือถือใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย และไม่เกิดคราบเปื้อน หรือรอยนิ้วมืออีกด้วย
สำหรับ OPPO F1s นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่สมกับฉายา Selfie Expert และเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเซลฟี่เป็นอย่างมาก นั่นก็เนื่องด้วย OPPO F1s นั้นมาพร้อมกับกล้องดิจิทัลด้านหน้าที่มีความละเอียดมากถึง 16 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/3.1 นิ้ว พร้อมรูรับแสงขนาด F/2.0 และรองรับการใช้งานควบคู่กับฟังก์ชัน Screen Flash ซึ่งจากการทดสอบก็พบว่าภาพถ่ายที่ได้มีความสวยคมชัด สีสันสมจริง ไม่เพียงเท่านั้น ยังสามารถทำงานร่วมกับโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beauty เวอร์ชัน 4.0) ที่สามารถปรับค่าผิวเนียบได้ถึง 7 ระดับ ได้อย่างลงตัว อีกทั้งสามารถปรับสีผิวให้อมชมพูดูเป็นธรรมชาติได้อีกด้วย นอกจากนี้ OPPO F1s สามารถถ่ายภาพเซลฟี่พร้อมกับเพื่อนๆ แบบไม่ต้องกลัวหลุดเฟรมได้ผ่านโหมดถ่ายภาพ Panorama Selfie ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) ซึ่งสามารถโฟกัสภาพได้ภายในเวลาเพียง 0.1 วินาที, ขนาดรูรับแสง F/2.2 และไฟแฟลช LED ก็สามารถตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพได้ดีไม่แพ้กัน โดยภาพถ่ายที่ได้ก็มีความคมชัด สีสันสดใส ถึงแม้จะเป็นการถ่ายภาพในสถานที่แสงน้อยก็ตาม
ทางด้านเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ก็สามารถปลดล็อกได้รวมเร็วทันใจฉับไวมากกว่า OPPO F1 Plus รุ่นเดิม (ปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 0.22 วินาที) ก็สามารถตอบสนองต่อการสัมผัสได้รวดเร็วฉับไว อีกทั้งยังรองรับการใช้งานได้พร้อมกันถึง 2 ซิมการ์ด และยังมีช่องแยกออกมาสำหรับเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ จึงสามารถใส่ใช้งานทั้งหมดได้ในเวลาเดียวกัน
ในส่วนของคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ก็ถือว่าครบเครื่องทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว ซึ่งเป็นดีไซน์กระจกหน้าจอขอบนูนแบบ 2.5D Gorilla Glass 4 จึงทำให้หน้าจอมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ, ชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6750 ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิกแบบ Mali-T860, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB, หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, แบตเตอรี่ Li-Ion Polymer 3075 mAh และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.0 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop) ซึ่งจากการทดสอบด้วยการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD (1080p) แบบต่อเนื่อง หรือจะเป็นการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติสวยๆ OPPO F1s ก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างลื่นไหล และไม่มีอาการหน่วงให้พบเจอ อีกทั้งยังไม่มีการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องอีกด้วย
หลังจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็พอที่จะสรุปได้ว่า OPPO F1s น่าจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับกล้องหน้าที่ละเอียดคมชัดเป็นพิเศษ, ดีไซน์สวยหรูพกพาสะดวก, วัสดุแข็งแรงทนทาน, มีฟีเจอร์ตอบรับการใช้งานหลากหลาย และที่สำคัญก็คือรักการถ่ายภาพเซลฟี่เป็นชีวิตจิตใจ ซึ่ง OPPO F1s ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม
และสำหรับท่านใดที่สนใจก็สามารถสั่งจอง OPPO F1s ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 10-15 สิงหาคม 2559 ณ OPPO Brand Shop, ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย และ Lazada สำหรับผู้ที่สั่งจองจะได้รับของขวัญสุดพิเศษ และได้รับเครื่องในวันที่ 17 สิงหาคม 2559 (ซึ่งเป็นวันจำหน่าย OPPO F1s อย่างเป็นทางการวันแรก) โดย OPPO F1s ได้ประกาศราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทยออกมาแล้วที่ 9,990 บาท พร้อมแถมฟรีหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ความจุ 32 GB ซึ่งจะวางจำหน่ายทั้งหมด 2 สี คือ สีทอง (Gold) และสีทองกุหลาบ (Rose Gold) สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง OPPO ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง OPPO F1s มาให้ทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ OPPO F1s
- ตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 7.38 มิลลิเมตร
- เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Metal-Unibody (กรอบตัวเครื่องโลหะถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน) พร้อมตัดขอบคู่สีเงินทั้งด้านหน้า และด้านหลังของตัวเครื่อง
- จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x720 Pixels ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T860
- ซึ่งเป็นดีไซน์กระจกหน้าจอขอบนูนแบบ 2.5D Gorilla Glass 4 จึงทำให้หน้าจอมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ
- รองรับการเปลี่ยนธีม (Themes) พร้อมทั้งสามารถดาวน์โหลดธีมมาใช้งานเพิ่มเติมได้มากมาย
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต 64-bit Octa-Core MediaTek MT6750 ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.0 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB
- กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) ซึ่งสามารถโฟกัสภาพได้ภายในเวลาเพียง 0.1 วินาที, ขนาดรูรับแสง F/2.2, ไฟแฟลช LED และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p
- กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 16 ล้าน Pixels โดยตัวเซ็นเซอร์มีขนาดใหญ่ถึง 1/3.1 นิ้ว, รูรับแสงขนาด F/2.0, เทคโนโลยี Beautify เวอร์ชัน 4.0 และฟังก์ชัน Screen Flash สำหรับการให้ความสว่างขณะถ่ายเซลฟี่ ด้วยไฟของหน้าจอแสดงผล พร้อมระบบปรับความสว่างอัตโนมัติ และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว พร้อมช่องสำหรับเพิ่มหน่วยความจำภายนอก (Triple-Slot)
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, EDGE และ GPRS
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- แอปพลิเคชัน Security Centre สำหรับการจัดการกับแบตเตอรี่, หน่วยความจำภายใน, หน่วยความจำแรม และระบบความปลอดภัย
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ปุ่มโฮม สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน ซึ่งทำงานอยู่บนพื้นฐานของเทคโนโลยี Touch Access โดยใช้เวลาในการปลดล็อกเพียง 0.22 วินาที
- รองรับเทคโนโลยี USB OTG (USB On-the-Go) ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้โดยตรง โดยไม่ต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นทางผ่าน
- มีระบบเสียง Dirac Power Sound
- แบตเตอรี่ Li-Ion Polymer 3075 mAh
- มีวิทยุ FM ในตัว
- ราคา 9,990 บาท พร้อมแถมฟรีหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ความจุ 32 GB
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ OPPO F1s
- หน้าจอมีความละเอียดค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนที่มีในระดับเดียวกัน
- แบตเตอรี่เป็นแบบ Built-in Battery จึงไม่สามารถถอด หรือเปลี่ยนด้วยตนเองได้
- ยังคงทำงานอยู่บนพื้นฐานของระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop ซึ่งยังไม่ใช่แอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่ล่าสุด
- ไม่มีโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงให้ใช้งาน
- ไม่รองรับการส่งผ่านข้อมูลไร้สายแบบ NFC
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปข้อมูลล่าสุด และคุณสมบัติของ OPPO F1s
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป และข้อมูลข่าวสารล่าสุดของ OPPO F1s ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้
สรุปข้อมูล และข่าวสารล่าสุดของ OPPO F1s
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ OPPO F1s title="Sony Xperia ZL Specification">
:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|