รีวิว OPPO A5x สมาร์ตโฟนแบตอึด 6000 mAh พร้อมชาร์จไว 45W SUPERVOOC บนบอดี้สวยแกร่ง ในราคาไม่ถึง 4 พัน และ OPPO Enco Buds3 หูฟังไร้สายตัวคุ้ม เบสแน่น แบตอึด ในราคาหลักร้อย
เปิดตัว และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ OPPO A5x สมาร์ตโฟนน้องเล็กรุ่นใหม่ กับสโลแกน สวย ครบ จบทุกดาเมจ โดยรุ่นนี้ ชูจุดเด่นในเรื่องของแบตเตอรี่ที่มีความจุใหญ่ที่สุดในระดับราคาเดียวกัน ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6,000 mAh พร้อมรองรับระบบชาร์จไว 45W SUPERVOOC จึงสามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน อีกทั้งตัวแบตเตอรี่ยังทนทาน การันตีการใช้งานนานกว่า 5 ปีเลยทีเดียว
นอกเหนือจากเรื่องของแบตเตอรี่แล้ว OPPO A5x ยังมาพร้อมกับจอแสดงผลที่มีความสว่างพิเศษในระดับ 1,000 nits ซึ่งใช้งานได้ดีแม้จะอยู่ในที่กลางแจ้ง พร้อมบอดี้ทนทานด้วยมาตรฐานระดับทหาร และมีคุณสมบัติของการทนน้ำ และทนฝุ่นในระดับ IP65 อีกด้วย
ด้านการประมวลผล OPPO A5x มากับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 6s 4G Gen 1 Mobile Platform พร้อมหน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB ที่รองรับฟีเจอร์ขยาย RAM สูงสุด 4GB รวมเป็น 8GB, หน่วยความจำ ROM ขนาด 128GB และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ ColorOS 15 Lite
สำหรับกล้องถ่ายรูป มีความละเอียดอยู่ที่ 32 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับการถ่ายภาพ Portrait และมีฟีเจอร์ยางลบ AI 2.0 สำหรับลบสิ่งที่ไม่ต้องการได้ในคลิกเดียว
นอกจากนี้ OPPO A5x ยังมีราคาค่าตัวสบายกระเป๋า เพราะเคาะราคาเพียง 3,999 บาทเท่านั้น โดยในวันนี้ทีมงานของเราก็ได้รับเครื่อง OPPO A5x มาทดสอบใช้งานแล้ว มาดูกันว่าน้องเล็กคนใหม่ในตระกูล OPPO A Series รุ่นนี้จะคุ้มค่าคุ้มราคาแค่ไหน
แกะกล่อง OPPO A5x
กล่องแพ็กเกจของ OPPO A5x เป็นกล่องสีขาว พร้อมระบุชื่อ A5x อย่างชัดเจน ซึ่งอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง ได้แก่ ตัวเครื่อง OPPO A5x, เคสซิลิโคนสีดำ, สายชาร์จ USB-C, อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ 45W SUPERVOOC, เข็มสำหรับจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด และคู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ดีไซน์ภายนอกของ OPPO A5x
OPPO A5x รุ่นที่นำมารีวิวนี้ เป็นตัวเครื่องสีน้ำเงิน Midnight Blue มาพร้อมกับหน้าจอแบบ LCD ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 720x1604 พิกเซล มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 89.9% และรองรับอัตราการรีเฟรชสูงสุด 90Hz ซึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือ มาพร้อมกับหน้าจอสว่างพิเศษ 1,000 nits ทำให้ไม่ว่าจะใช้งานในที่แสงจ้า หรืออยู่กลางแจ้ง หน้าจอก็ยังคงมองเห็นได้อย่างชัดเจน และสบายตา
กรอบตัวเครื่องเป็นทรงขอบแบน พร้อมขอบโค้งมนทั้ง 4 ด้าน ซึ่งด้านขวาของตัวเครื่อง จะเป็นปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดตัวเครื่อง โดยปุ่มนี้มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังอยู่ภายใน ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่อง จะเป็นถาดใส่ซิมการ์ด ซึ่งรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
ด้านล่างของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ลำโพงเสียง, พอร์ต USB-C, ไมโครโฟนหลักสำหรับสนทนา และพอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
โหมดกลางแจ้ง (Outdoor) เพิ่มความสว่าง เสียง และประสิทธิภาพเครือข่าย
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ถูกใส่เข้ามาใน OPPO A5x รุ่นนี้ก็คือ โหมด Outdoor หรือโหมดกลางแจ้ง ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากสำหรับคนขับไรเดอร์ ทำให้รับ และส่งมอบคำสั่งซื้อได้เร็วขึ้น โดยเมื่อเปิดใช้งานโหมดดังกล่าว จะเพิ่มประสิทธิภาพ 3 ด้านด้วยกัน ได้แก่
- รับคำสั่งซื้อได้เร็วขึ้น กดตอบรับในระบบได้อย่างรวดเร็ว
- เพิ่มความแม่นยำของการระบุพิกัด ทำให้ไม่พลาดตำแหน่งในการค้นหาจุดรับส่งสินค้า
- เมื่อสลับไปใช้งานแอปอื่น แอปก็ยังทำงานแบบเบื้องหลังอยู่
นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกเปิดฟีเจอร์เปิดลำโพง และเพิ่มเสียงอัตโนมัติเมื่อรับสาย, ขยายเวลาปิดหน้าจออัตโนมัติ รวมถึงเพิ่มระดับเสียงการแจ้งเตือน และเสียงเรียกเข้าได้
และสำหรับไรเดอร์ที่สวมถุงมือขณะขับขี่ OPPO A5x ก็มีฟีเจอร์ Glove Touch สามารถใช้งานสมาร์ตโฟนได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องถอดถุงมือออก
แบตเตอรี่ขนาด 6,000 mAh ใหญ่จุใจที่สุดในกลุ่ม
จุดขายหลักของ OPPO A5x รุ่นนี้ก็คือ มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6,000 mAh ซึ่งมีขนาดความจุเยอะที่สุดในกลุ่มสมาร์ตโฟนระดับราคาเดียวกัน อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีชาร์จไว 45W SUPERVOOC ซึ่งการชาร์จ 50% ใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น อีกทั้งยังมีระบบควบคุมอุณหภูมิภายใน ทำให้ชาร์จได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ แบตเตอรี่ของ OPPO A5x ยังมีความทนทานสูง ซึ่งยังสามารถคงความจุเดิมไว้กว่า 80% แม้ว่าจะผ่านการใช้งานมาแล้วกว่า 5 ปีก็ตาม
ทนน้ำ-ทนฝุ่นตามมาตรฐาน IP65
ถึงแม้ว่า OPPO A5x จะเป็นสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้น แต่ยังใส่คุณสมบัติในการทนน้ำ และทนฝุ่นตามมาตรฐาน IP65 มาให้ จึงสามารถใช้งานในช่วงหน้าฝนได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังผ่านการรับรองมาตรฐานความทนทานในระดับทหาร จึงสามารถใช้งานแบบสมบุกสมบันได้อย่างสบาย ๆ
ระบบปฏิบัติการ ColorOS 15 Lite และ Trinity Engine
OPPO A5x มาพร้อมกับชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 6s 4G Gen 1 Mobile Platform, ชิปประมวลผลภาพกราฟิก Adreno 610, หน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB และระบบปฏิบัติการ ColorOS 15 ที่มี Trinity Engine หรือตัวเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำการปรับจูนการทำงานของสมาร์ตโฟน ไม่ว่าจะเป็น การใช้พลังงาน, หน่วยความจำ และการทำงานของแอปพลิเคชันต่าง ๆ ให้สมดุล เพื่อให้ตัวเครื่องประมวลผลได้อย่างลื่นไหล เสถียร และตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง
OPPO A5x ยังมีฟีเจอร์ขยาย RAM กับการสร้าง RAM เสมือนจากพื้นที่จัดเก็บภายในตัวเครื่องที่ไม่ได้ใช้งาน โดยสามารถขยายได้สูงสุด 4GB รวมกับ RAM ที่มีอยู่ในตัวเครื่องเป็น 8GB นอกจากนี้ OPPO A5x ยังผ่านการรับรองมาตรฐานการใช้งาน 48-month Fluency Protection รับประกันการใช้งานลื่นไหลยาวนานถึง 4 ปีอีกด้วย
กล้อง 32MP พร้อมโหมดถ่ายภาพ Portrait
OPPO A5x มาพร้อมกล้องหลัก AI Camera ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f1.8 และโหมด Portrait สำหรับถ่ายภาพบุคคล นอกจากนี้ ยังมีโหมดถ่ายภาพอื่น ๆ ให้เลือกด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น โปร, วิดีโอ, กลางคืน, ความละเอียดสูง, พาโนรามา, Timelapse และอื่น ๆ
ถัดจากกล้องหลัก จะเป็นหลอดอินฟราเรด ที่มีฟีเจอร์ IR Remote Control สำหรับควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์, พัดลม, เครื่องปรับอากาศ หรือแม้แต่ระบบไฟฟ้า ซึ่งควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน รีโมตอินฟราเรด
ส่วนกล้องด้านหน้า มีความละเอียดอยู่ที่ 5 ล้านพิกเซล
มีฟีเจอร์ AI Editor สำหรับปรับแต่งภาพถ่ายด้วยเทคโนโลยี AI อย่างเช่น AI Eraser หรือยางลบ AI ที่สามารถลบสิ่งไม่ต้องการในภาพถ่ายออกไปได้ในคลิกเดียว ซึ่งจากการทดสอบถือว่าทำได้เนียนตาเป็นธรรมชาติดีเลยทีเดียว
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลังของ OPPO A5x
ราคา และโปรโมชันของ OPPO A5x
OPPO A5x มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว Laser White และสีน้ำเงิน Midnight Blue วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 3,999 บาท (ความจุ 4GB+128GB) ที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
สรุปคุณสมบัติเด่น และสิ่งที่น่าสนใจของ OPPO A5x
- มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,000 mAh ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นที่มีแบตเตอรี่ความจุมากที่สุดในบรรดาสมาร์ตโฟนระดับเดียวกัน
- หน้าจอแสดงผลสว่างพิเศษ 1,000 nits ใช้งานได้แม้อยู่กลางแจ้ง
- รองรับคุณสมบัติด้านการกันน้ำและกันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP65 พร้อมบอดี้สุดแกร่งมาตรฐานระดับทหาร
- ผ่านการรับรองมาตรฐานการใช้งาน 48-month Fluency Protection รับประกันการใช้งานลื่นไหลยาวนานถึง 4 ปี
-----------------------------------
- หน้าจอแสดงผลแบบ LCD ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 720x1604 พิกเซล (264 ppi)
- อัตราการรีเฟรชสูงสุด 90Hz
- อัตราความไวต่อการสัมผัส สูงสุด 180Hz
- รองรับการแสดงผลช่วงสีแบบ DCI-P3 (83%) และ sRGB (71%)
- อัตราส่วนพื้นที่แสดงผลต่อตัวเครื่อง 89.9%
-----------------------------------
- ประมวลผลด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 6s 4G Gen 1 Mobile Platform
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 610
- หน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR4X ขนาด 4GB พร้อมฟีเจอร์ขยาย RAM ได้สูงสุด 4GB
- พื้นที่จัดเก็บภายในตัวเครื่อง (ROM) แบบ UFS 2.1 ขนาด 128GB
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 15 พร้อมครอบทับด้วย ColorOS 15
-----------------------------------
- แบตเตอรี่ความจุ 6,000 mAh
- ระบบชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ 45W SUPERVOOC
- รองรับระบบชาร์จแบบ 13.5W PD
- ชาร์จแบตเตอรี่ได้ 50% ภายในเวลา 36 นาที
-----------------------------------
กล้องตัวหลักที่ด้านหลัง ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
- รูรับแสงขนาด f1.8, ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ และโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์
- โหมดการถ่ายภาพกล้องด้านหลัง ได้แก่ ถ่ายภาพ, วิดีโอ, พอร์ตเทรต, กลางคืน, PRO, พาโนรามา, ไทม์แลปส์, สติกเกอร์, HI-RES, Hypertext และ Google Lens
กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- รูรับแสงขนาด f2.2 และโครงสร้างแบบ 3 ชิ้นเลนส์
- โหมดการถ่ายภาพกล้องด้านหน้า ได้แก่ ถ่ายภาพ, วิดีโอ, พอร์ตเทรต, กลางคืน, พาโนรามา, วิดีโอกล้องคู๋, ไทม์แลปส์, สติกเกอร์, รีทัช, เติมแสงหน้าจอ และ HI-RES
-----------------------------------
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
- เชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านทาง Bluetooth 5.0
- พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
- พอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
- เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง (Side Mounted Fingerprint Sensor) พร้อมระบบจดจำใบหน้า (Face Recognition)
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ OPPO A5x
- ไม่รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 5G
- ลำโพงเสียงเป็นแบบเดี่ยว
- พื้นผิวที่ด้านหลังตัวเครื่องติดรอยนิ้วมือได้ค่อนข้างง่าย
รีวิว OPPO Enco Buds3 หูฟังไร้สายตัวคุ้ม ของดีที่ทุกคนเอื้อมถึง
นอกจากสมาร์ตโฟนแล้ว ล่าสุดทาง OPPO ก็ได้มีการเปิดตัวหูฟัง True Wireless รุ่นเล็กสุดคุ้มตัวใหม่ด้วยเช่นกัน นั่นก็คือ OPPO Enco Buds3 รุ่นนี้นั่นเอง โดยหูฟังรุ่นนี้ นอกจากจะเปิดตัวด้วยราคาประหยัดด้วยค่าตัวที่ไม่ถึง 1,000 บาทแล้ว ในส่วนของคุณสมบัติก็ถือว่า จัดมาให้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย มาดูกันว่า ฟีเจอร์เด่น ๆ ของหูฟัง True Wireless รุ่นเล็กราคาสุดประหยัดรุ่นนี้มีอะไรบ้าง
จุดเด่นของหูฟัง OPPO Enco Buds3 รุ่นนี้ก็คือ มีน้ำหนักที่เบาเพียง 3.8 กรัมเท่านั้น อีกทั้งหูฟังยังมีการดีไซน์ตามหลักสรีรศาสตร์ในแบบหูฟังกึ่งอินเอียร์ จึงมีความกระชับเข้ากับใบหู ทำให้สวมใส่สบายตลอดทั้งวันโดยไม่รู้สึกอึดอัด
สำหรับเคสชาร์จของหูฟัง OPPO Enco Buds3 เป็นดีไซน์รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีความโค้งมน ขนาด 5x5 เซนติเมตร เท่านั้น จึงพกพาได้อย่างสะดวก ด้านหน้ามีไฟแสดงปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ และพอร์ตชาร์จแบบ USB-C ซึ่งแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 48 ชั่วโมง อีกทั้งยังรองรับการชาร์จไว ซึ่งการชาร์จเพียง 10 นาที สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว
เห็นดีไซน์เล็กกะทัดรัดแบบนี้ แต่ OPPO Enco Buds3 มาพร้อมกับไดรเวอร์ขนาดใหญ่พิเศษ 12.4 มิลลิเมตร เคลือบไทเทเนียม ให้เสียงเบสที่ลึก และทรงพลัง นอกจากนี้ ยังรองรับ OPPO Alive Audio ที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการฟังเพลง และชมภาพยนตร์ให้มีมิติ และสมจริงยิ่งขึ้น
สำหรับการเชื่อมต่อ OPPO Enco Buds3 กับสมาร์ตโฟน OPPO A5x ก็ไม่ยุ่งยากด้วย Bluetooth 5.4 และ Google Fast Pair เพียงแค่เปิดฝาเคสชาร์จแบตเตอรี่ ระบบก็จะทำการเชื่อมต่อเข้ากับ OPPO A5x นอกจากนี้ ยังสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน HeyMelody เพื่อตรวจสอบปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ของทั้งตัวหูฟัง และเคสชาร์จ รวมถึงปรับเอฟเฟกต์เสียง Enco Master EQ ได้จากแอปนี้เช่นกัน ซึ่งปรับจูนเสียงได้ 3 โหมด ได้แก่ Clear Vocals, Bass Boost และ Original Sound
ราคาหูฟัง OPPO Enco Buds3
หูฟัง OPPO Enco Buds3 เคาะราคาเบา ๆ เพียง 799 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ Slate Black และสีขาว Snow White วางจำหน่ายแล้วที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
วันที่ : 30/05/2025