Pixel 4 เผยภาพแรก กล้องหลังมากกว่า 1 ตัว เรียงทรงสี่เหลี่ยมคล้าย iPhone XI, จอรอยบาก และไร้หูฟัง 3.5 มม.
หนึ่งในสมาร์ทโฟนที่มีข่าวมาอย่างต่อเนื่อง และมีกำหนดการเปิดตัวให้เห็นภายในปีนี้นั่นก็คือ Pixel 4 นั่นเอง โดยก่อนหน้านี้เคยมีข่าวออกมาว่า Pixel 4 จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่นับจากรุ่น Pixel 3 ล่าสุดก็ได้มีภาพเรนเดอร์เบื้องต้นหลุดออกมาให้รับชมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ภาพชุดนี้ถูกเผยแพร่มาจาก OnLeaks แหล่งข่าวหลุดที่มีความน่าเชื่อถือที่ได้ร่วมมือกับเว็บไซต์ Pircebaba ในการปั้นภาพเรนเดอร์ Pixel 4 แบบสามมิติขึ้น โดยอ้างอิงจากข้อมูลตัวต้นแบบที่ได้รับมา โดยจากภาพจะเห็นว่า สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปใน Pixel 4 คือการปรับไปวางกล้องเอาไว้ในทรงสี่เหลี่ยมคล้ายกับ iPhone XI ที่เคยมีภาพหลุดออกมาก่อนหน้านี้ รวมทั้งแหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า กล้องหลังจะไม่ได้มีเพียงแค่ตัวเดียวเหมือนกับ Pixel รุ่นก่อนๆ ซึ่งทาง Google น่าจะมีการใส่เลนส์ Ultra Wide หรือเลนส์ Telephoto มาให้ด้วย และที่สำคัญหากสังเกตดีๆ จะเห็นว่า ด้านหลังตัวเครื่องไม่มีปุ่มสแกนลายนิ้วมือแล้ว ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า Google อาจปรับไปใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือฝังใต้หน้าจอเหมือนกับสมาร์ทโฟนหลายรุ่นในปัจจุบัน หรืออาจปรับไปใช้ระบบสแกนหน้า 3 มิติคล้ายกับ iPhone รุ่นปัจจุบันก็เป็นได้
ส่วนทางดีไซน์ด้านหน้านั้น แหล่งข่าวให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า Google จะยังคงใช้ดีไซน์จอรอยบากเช่นเดิมโดยสังเกตได้จากการวางตำแหน่งลำโพงสนทนาเอาไว้ที่ตรงกลางของตัวเครื่อง ยังไม่ซ่อนเอาไว้บริเวณขอบบนเหมือนกับสมาร์ทโฟนจอไร้ขอบอย่าง OPPO Reno หรือ Vivo V15 อย่างไรก็ดี หากมองอีกมุมหนึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่าทาง Google อาจใช้จอเต็มขอบแล้วเว้นพื้นที่เอาไว้เล็กน้อยสำหรับติดตั้งลำโพงสนทนาเท่านั้น ส่วนที่ด้านล่างยังคงใช้ USB Type-C เป็นพอร์ตชาร์จแบตเตอรี่ และพอร์ตหูฟังในตัวเดียว ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม. เหมือนกับรุ่น Pixel 3a แต่อย่างใด
สำหรับคุณสมบัติของ Pixel 4 ยังคงปรากฏให้เห็นน้อยมาก แต่จากข้อมูลที่ผ่านมาระบุว่า Pixel 4 จะมาพร้อมกับขุมพลังตัวใหม่ล่าสุดอย่าง Snapdragon 855 ประกบคู่กับหน่วยความจำ RAM เริ่มต้นที่ขนาด 6GB และรันด้วยระบบปฏิบัติการ Android Q เวอร์ชันใหม่ล่าสุดตั้งแต่แกะกล่อง โดยคาว่าจะมีการเปิดตัวให้เห็นภายในช่วงเดือนตุลาคมที่กำลังจะถึงนี้ อย่างไรก็ดี ข้อมูลด้านต้นยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ รวมทั้งภาพเรนเดอร์ก็อ้างอิงมาจากตัวต้นแบบ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้อีกครั้งในอนาคต ทำให้เราคงต้องจับตาดูกันต่อไปครับ
ที่มา : Pricebaba
วันที่ : 11/6/2562