รีวิว (Review) Samsung Gear S2

ยอดนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นล่าสุด บนดีไซน์ใหม่หมดจด กับตัวเรือนกันน้ำ พร้อมจอ Super AMOLED สีสวยสดใส, เซ็นเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ และฟีเจอร์ที่สะดวกครบเครื่องลงตัวกว่าที่เคย

Review Date (16-พฤศจิกายน-2558)

ยังจำกันได้ใช่ไหมครับว่า เมื่อค่ำคืนของวันที่ 13 สิงหาคม 2558 ตามเวลาประเทศไทย ทาง Samsung ได้จัดงาน Samsung Galaxy Unpacked 2015 ขึ้นที่เมือง New York ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งนอกจากภายในงานดังกล่าวจะมีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงอย่าง Samsung Galaxy Note5 กับ Samsung Galaxy S6 edge+ แล้ว ทาง Samsung ก็ยังได้ทำการเผยโฉมนาฬิกาอัจฉริยะสุดล้ำรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Samsung Gear S2 ภายในงานด้วยเช่นกัน ซึ่งก็สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้ที่มาร่วมงานไม่น้อย แถมยังมีดีไซน์ที่มีรูปลักษณ์เหมือนกันนาฬิกาจริงๆ มากขึ้น และยังคงไว้ซึ่งความสวยงามพรีเมียมเหมือนเคย

โดย Samsung Gear S2 ได้รับการปรับปรุงใหม่จาก Samsung Gear S รุ่นแรกหลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของดีไซน์ที่จากเดิมหน้าปัดเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าบนขนาด 2 นิ้ว กลายเป็นหน้าปัดจอ Super AMOLED แบบกลมขนาด 1.2 นิ้ว ซึ่งแม้จะมีขนาดหน้าจอแสดงผลที่เล็กลง แต่ก็ให้ความรู้สึกว่าเป็นนาฬิกามากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ สายรัดข้อมือก็ได้เปลี่ยนจากกิ๊บล็อค เป็นแบบหัวเข็มแทน ซึ่งช่วยให้ตัวเรือนของ Samsung Gear S2 ไม่หลุดออกจากข้อมือได้ง่ายๆ นั่นเอง สำหรับเซ็นเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ถูกใส่มาไว้ใต้เครื่องของ Samsung Gear S2 ด้วยเช่นกัน และที่พิเศษไปมากกว่านั้น คือ Samsung Gear S2 มาพร้อมกับความสามารถในการกันน้ำ และกันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP68 เรียกได้ว่า หากต้องใช้งานแบบลุยๆ Samsung Gear S2 ก็ไม่หวั่น

สำหรับคุณสมบัติของตัวเครื่องก็แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยจะมาพร้อมกับชิปเซ็ต Dual-Core Exynos 3250, หน่วยความจำแรมขนาด 512 MB, หน่วยความจำภายในขนาด 4 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Tizen OS

สำหรับ Samsung Gear S2 จะแบ่งออกเป็น 2 รุ่นด้วยกัน คือ Samsung Gear S2 Sport ราคา 9,900 บาท กับ Samsung Gear S2 Classic ราคา 11,900 บาท (รุ่นที่นำมารีวิวคือ Gear S2 Sport) โดยทั้ง 2 เรือนจะมีดีไซน์แบบหน้าปัดกลม และมีความสามารถในการกันน้ำ-กันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP68 อีกทั้ง Samsung Gear S2 ยังใช้ระบบปฏิบัติการ Tizen OS ที่ทาง Samsung พัฒนาขึ้นเองอีกด้วย ส่วน Samsung Gear S2 จะมีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจ ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยขนาดไหน และคุ้มค่าคุ้มราคาหรือไม่ ขอเชิญทุกท่านไปชมรีวิว Samsung Gear S2 พร้อมกันได้เลยครับ

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

สำหรับแพ็กเกจของ Samsung Gear S2 จะมาในสีฟ้าน้ำทะเล ที่มีรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส และดูทันสมัย

Samsung Gear S2 Sport ที่ทีมงานนำมารีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกันนั้น ตัวเรือนจะเป็นสีเงิน (Silver)

ซึ่งภายในกล่องก็จะมีอุปกรณ์มาให้ใช้งานอย่างครบครัน ได้แก่ คู่มือการใช้งาน, สายรัดข้อมือไซส์ S, อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ พร้อมหัวต่อแบบ microUSB และแท่น Wireless Charge สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย

Samsung Gear S2 จะมาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสแบบ Full Circular Super AMOLED ความละเอียด 360x360 พิกเซล (302 ppi) ขนาด 1.2 นิ้ว โดยจะมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 42.3x49.8x11.4 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 47 กรัม

ด้านข้างจะมีปุ่มโฮม, ไมโครโฟน และปุ่มย้อนกลับ

ส่วนด้านใต้จะมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ และภายในตัวเครื่องจะมีแบตเตอรี่ขนาด 250 mAh บรรจุอยู่

โดยกรอบของตัวเครื่องจะเป็นสเตนเลสสตีลที่มีความแข็งแรงทนทาน และเพรียวบางเป็นพิเศษ

สำหรับสายรัดข้อมือจะทำมาจากเรซิ่น ที่มีความยืดหยุ่น และเข้ารูปกับข้อมือของผู้สวมใส่ แถมยังให้ตัวได้ดี และไม่อมเหงื่อ โดยตัวสายจะมีให้เลือกสองไซส์ คือ ไซส์ L กับ S (สายไซส์ S จะแถมมาให้ภายในแพ็กเกจด้วย) รวมทั้งเรายังสามารถซื้อสายนาฬิกาทั่วๆ ไปมาเปลี่ยนแทนได้ตามใจชอบ

ตัวล็อกสายรัดข้อมือจะเป็นแบบขาล็อกเดี่ยว และทำมาจากสเตนเลสสตีลเช่นเดียวกับกรอบตัวเครื่อง

นอกจากนี้ ตัวกรอบของหน้าจอยังทำหน้าที่ในการเลื่อนฟังก์ชันไปทางซ้าย หรือทางขวาได้อีกด้วย ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนเพลง และซูมภาพ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

Samsung Gear S2 ยังมาพร้อมกับความสามารถในการกันน้ำ และกันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP68 ซึ่งช่วยให้นำไปใช้งานในทุกสถานการณ์ได้อย่างมั่นใจ

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ

เพื่อการใช้งานอย่างเต็มระบบ อันดับแรกต้องทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Samsung Gear Manager มาติดตั้งที่สมาร์ทโฟนเสียก่อน

โดยแอปพลิเคชัน Samsung Gear Manager จะสามารถตั้งค่าการใช้งานต่างๆ บน Samsung Gear S2 ได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนหน้าปัดนาฬิกา ซึ่งก็มีให้เลือกใช้งานหลากหลายแบบด้วยกัน หรือจะเป็นการตั้งค่าการแจ้งเตือนบน Samsung Gear S2 ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

สำหรับแอปพลิเคชันที่สามารถแจ้งเตือนบน Samsung Gear S2 ได้ก็มีมากกว่า 32 แอปพลิเคชันเลยทีเดียว เช่น Facebook, Gmail, Line และสายที่ไม่ได้รับ เป็นต้น ซึ่งการแจ้งเตือนก็สามารถเลือกได้ว่า จะให้แอปพลิเคชันใดเตือนได้บ้าง และไม่ให้แอปพลิเคชันใดแจ้งเตือน นอกจากนี้ ยังสามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันอื่นๆ เพิ่มเติมได้ เช่น ปิดการแจ้งเตือนต่างๆ บน Samsung Gear S2 ขณะกำลังใช้โทรศัพท์, เปิดหน้าจอ Gear S2 เมื่อมีการแจ้งเตือนใหม่เข้ามา และแสดงรายละเอียดของการแจ้งเตือนนั้นๆ โดยอัตโนมัติ เป็นต้น

แอปพลิเคชัน Samsung Gear Manager ยังสามารถทำการจัดเรียง หรือถอนการติดตั้งแอปพลิเคชันที่อยู่บน Samsung Gear S2 ได้ และรวมถึงการซิงค์เพลง และภาพถ่ายเพื่อไปแสดงบนหน้าจอของ Samsung Gear S2 ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ ได้อีกหลายอย่างด้วยกัน เช่น เปิดใช้งานการกดที่หน้าจอสองครั้งเพื่อเข้าสู่แอปพลิเคชันที่กำหนดเอาไว้ หรือเปิดฟังก์ชันการส่งข้อความด่วนด้วยการกดปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง 3 ครั้ง

สามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้ และยังสามารถสั่งค้นหา Samsung Gear S2 ได้ แต่ที่น่าเสียดาย คือ Samsung Gear S2 จะส่งสัญญาณเตือนด้วยการสั่นเท่านั้น ไม่มีเสียงร้องเตือนแต่อย่างใด

ส่วนบน Samsung Gear S2 จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Tizen OS (เวอร์ชัน R732XXU2AOIL) ซึ่งก็มีฟังก์ชันให้ใช้งานหลากหลายด้วยกัน เช่น หน้าจอโฮมสกรีน ที่แสดงวันที่ เวลา ในรูปแบบของนาฬิกาเข็มที่ดูเหมือนนาฬิกาข้อมือจริงๆ หรือฟังก์ชันการแจ้งเตือนต่างๆ

และเมื่อใช้นิ้วมือปัดที่หน้าจอจากด้านบนลงด้านล่าง จะพบกับฟังก์ชันลัดต่างๆ โดยสามารถ ปรับความสว่างของหน้าจอ หรือเข้าวิดเจ็ตสำหรับฟังเพลงได้ทันที อีกทั้งยังแสดงสถานะการเชื่อมต่อบลูทูธกับสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย

อีกทั้งยังมี Widget ต่างให้เลือกใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วิดเจ็ตการนับก้าวเดิน, วิดเจ็ตสำหรับควบคุมเพลง และวิดเจ็ตสำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ เป็นต้น

อีกทั้งยังสามารถเพิ่มวิดเจ็ตอื่นๆ มาใช้งานได้

โดย Samsung Gear S2 สามารถแจ้งเตือนเป็นข้อความได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ แต่ไม่สามารถตอบกลับได้

สำหรับแอปพลิเคชันบน Samsung Gear S2 ก็มีให้ใช้งานมากมาย

มาเริ่มกันที่ฟังก์ชันโทรศัพท์ ซึ่งสามารถใช้งานเพียงแค่สั่งงานเพื่อโทร หรือรับสาย แต่จะไม่สามารถสนทนาผ่าน Samsung Gear S2 ได้

นอกจากนี้ ยังสามารถดูรายชื่อโทรศัพท์ทั้งหมดได้อีกด้วย (รายชื่อทั้งหมดจะแสดงได้ก็ต่อเมื่อทำการซิงค์ Samsung Gear S2 กับสมาร์ทโฟนที่ใช้งานเสียก่อน)

Samsung Gear S2 จะมีคีย์บอร์ดให้ใช้งาน สามารถพิมพ์ข้อความได้ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ แต่อย่างไรก็ดี คีย์บอร์ดบน Samsung Gear S2 จะเหมือนกันปุ่มบนโทรศัพท์ฟีเจอร์โฟนสมัยก่อน ที่ต้องกดปุ่มเดิมหลายๆ ครั้งเพื่อเลือกตัวอักษรที่ต้องการ จึงอาจจะใช้งานค่อนข้างลำบากกว่า Samsung Gear S รุ่นเดิม ที่เป็นคีย์บอร์ดแบบเดียวกับสมาร์ทโฟนนั่นเอง

สามารถตั้งนาฬิกาปลุกผ่าน Samsung Gear S2 ได้

สามารถบันทึกเสียงผ่าน Samsung Gear S2 ได้ ซึ่งไฟล์จะถูกบันทึกไปที่สมาร์ทโฟน และสามารถเปิดฟังเสียงที่บันทึกผ่านสมาร์ทโฟนได้ทันที หรืออาจเชื่อมต่อ Samsung Gear S2 กับหูฟัง หรือลำโพงผ่านบลูทูธ ก็สามารถเปิดฟังเสียงที่บันทึกได้เช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ บน Samsung Gear S2 ยังมีฟังก์ชันที่กดเพื่อเรียกหาสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย ซึ่งมีประโยชน์มากๆ ในกรณีที่หาสมาร์ทโฟนไม่เจอ แต่การจะเรียกหาสมาร์ทโฟนจำเป็นต้องเชื่อมต่อบลูทูธระหว่าง Samsung Gear S2 กับสมาร์ทโฟนที่ใช้งาน ถึงจะทำการเรียกหากันได้

Samsung Gear S2 ยังมีแอปพลิเคชัน Maps for Gear สำหรับดูแผนที่ และการนำทาง อีกด้วย การใช้งานก็ไม่ได้ซับซ้อน เพียงแค่ทำการใส่จุดหมายที่ต้องการเดินทางไป และก็สั่งนำทางได้ทันที (แต่ก็มีข้อจำกัด คือ ต้องทำงานร่วมกับ GPS บนสมาร์ทโฟนด้วย)

นอกจากนี้ Samsung Gear S2 ยังสามารถแสดงภาพถ่ายจากสมาร์ทโฟนได้

สำหรับท่านใดที่ต้องการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานบน Samsung Gear S2 ก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ผ่านแอปพลิเคชัน Samsung Gear Apps

อีกหนึ่งความน่าสนใจบน Samsung Gear S2 คือ มีแอปพลิเคชัน S Health ให้ใช้งาน โดยคุณสามารถเลือกการออกกำลังกายได้หลายแบบ เช่น การวิ่ง, การเดิน, การปั่นจักรยาน และการปีนเขา เป็นต้น

เมื่อเลือกการออกกำลังกายที่ต้องการได้แล้ว ต่อมาก็มาทำการระบุเป้าหมายในแต่ละหมวดต่างๆ เช่น ระยะในการออกกำลังกาย, ระยะทาง และอัตราการเผาผลาญ ซึ่งเราสามารถระบุค่าได้ตามต้องการ

นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดการระบุตำแหน่งขณะออกกำลังกายได้อีกด้วย (แต่ก็มีข้อจำกัด คือ ต้องทำงานร่วมกับ GPS บนสมาร์ทโฟนด้วย)

Samsung Gear S2 ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานของตัวเครื่องได้หลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนหน้าปัดนาฬิกา

การเปิดใช้ Samsung Gear S2 แสดงหน้าปัดนาฬิกาตลอดเวลา (ข้อเสีย คือ จะทำให้ใช้งานแบตเตอรี่มากขึ้นกว่าเดิม)

สามารถปรับความสว่างสูงสุดได้ที่ระดับ 7

สามารถเลือกระบบสั่นได้ 3 แบบ คือ สั่นแรงมาก, สั่นเบา กับสั่นต่อเนื่อง

สามารถเพิ่มฟังก์ชันในการกดปุ่มโฮมได้หลายอย่าง เช่น เพื่อเข้าสู่โหมดการฟังเพลง, อีเมล หรือการบันทึกเสียง เป็นต้น

สามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันรับแรงสั่นสะเทือนเพื่อปลุก Samsung Gear S2 ให้ตื่นจากโหมดสลีป

สามารถ เปิด-ปิด การรับสาย หรือปฏิเสธการรับสายด้วยเสียงได้

Samsung Gear S2 สามารถเชื่อมต่อแบบไร้สายได้ทั้งหมด 3 แบบ คือ Bluetooth, WiFi และ NFC

สามารถตั้งรหัสสำหรับล็อกหน้าจอโฮมสกรีนบน Samsung Gear S2 ได้

สามารถเพิ่มภาษาบนคีย์บอร์ดที่ต้องการใช้งานได้ตามต้องการ

อีกทั้งยังสามารถเลือกขนาดของตัวอักษร กับฟอนต์สำหรับแสดงบนหน้าจอได้

Samsung Gear S2 ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันการประหยัดพลังงานขั้นสูง ซึ่งตัว Samsung Gear S2 จะปิดการทำงานของฟังก์ชันบางอย่างออกไป และเปลี่ยนสีของหน้าจอโฮมสกรีนเป็นสีขาวดำ เพื่อการประหยัดพลังงานให้มากที่สุดนั่นเอง

Samsung Gear S2 มีหน่วยความจำภายในขนาด 4 GB

สามารถตรวจสอบเวอร์ชันซอฟต์แวร์ได้

และยังสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้อีกด้วย

สรุปผลการทดสอบของ Samsung Gear S2

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Samsung Gear S2 รุ่นนี้ อันดับแรกต้องขอชมเชยในเรื่องของดีไซน์ Samsung Gear S2 ที่ใหม่หมดจด ดูมีความเป็นนาฬิกามากขึ้นกว่ารุ่นเดิม แถมยังมีขนาดไม่เล็ก ไม่ใหญ่ จนเกินไป สามารถสวมใส่ได้ทั้งผู้ชาย และผู้หญิง ใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างคล่องตัว แถมตัวเครื่องยังมีความแข็งแรง ทนทาน เป็นพิเศษ เพราะผลิตจากสแตนเลสสตีลนั่นเอง นอกจากนี้ Samsung Gear S2 ยังมีความสามารถที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การแจ้งเตือนการติดต่อสื่อสาร, การส่งข้อความแบบ SMS และยังสามารถตรวจสอบนัดหมายสำคัญผ่านปฏิทินได้อีกด้วย อีกทั้งยังสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาติดตั้งเพื่อใช้งานเพิ่มเติมได้

อีกหนึ่งความน่าสนใจบน Samsung Gear S2 สำหรับคนรักสุขภาพ คือ Samsung Gear S2 สามารถเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวในการออกกำลังกายได้ ไม่ว่าจะเป็น การวิ่ง, การเดิน และการปั่นจักรยาน เป็นต้น โดยตัว Samsung Gear S2 สามารถแสดงผลต่างๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกายได้หลายรูปแบบ เช่น ระยะทาง, อัตราการเผาผลาญ และระยะเวลาในการออกกำลังกายได้อีกด้วย และที่พิเศษไปมากกว่านั้น Samsung Gear S2 ยังมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งจะช่วยให้คุณออกกำลังในโซนอัตราการเต้นของหัวใจได้ตามต้องการนั่นเอง

สำหรับคุณสมบัติภายในก็ถือว่าครบเครื่อง สามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี โดยจะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Dual-Core Exynos 3250, หน่วยความจำแรมขนาด 512 MB, หน่วยความจำภายในขนาด 4 GB, ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Tizen OS และมีความสามารถของการกันน้ำ กันฝุ่นได้ตามมาตรฐาน IP68 อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth, WiFi และ NFC ได้

อย่างไรก็ดี ด้วยดีไซน์ตัวเครื่องที่โดนจับปรับปรุงใหม่ จึงทำให้ความสามารถบางอย่างถูกลดทอนลงไป ไม่ว่าจะเป็น การใส่ซิมการ์ด, การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และแบตเตอรี่ก็ถูกลดทอนจากรุ่นเดิมเหลือเพียง 250 mAh (เดิมแบตเตอรี่ขนาด 300 mAh) ถึงแม้ว่า Samsung Gear S2 จะมีแบตเตอรี่ที่น้อยกว่า แต่ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานประมาณ 1-3 วัน เลยทีเดียว (ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน) นอกจากนี้ Samsung Gear S2 นั้นรองรับการใช้งานกับสมาร์ทโฟนที่มีระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.4 (KitKat) ขึ้นไปเท่านั้น และขณะนี้ยังไม่รองรับการใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการ iOS

โดย Samsung Gear S2 จะแบ่งออกเป็น 2 รุ่นด้วยกัน คือ Samsung Gear S2 Sport กับ Samsung Gear S2 Classic ซึ่งจะมีราคาอยู่ที่ 9,900 บาท กับ 11,900 บาท ตามลำดับ และจะแบ่งออกเป็น 2 สีด้วยกัน คือ สีเงิน กับสีดำ สำหรับท่านใดที่สนใจ Samsung Gear S2 ทั้ง 2 รุ่น ก็สามารถหาซื้อได้แล้วที่ Samsung Shop ทั่วประเทศ สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Samsung ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจ ส่งเครื่อง Samsung Gear S2 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน พบกันได้ใหม่ ในโอกาสหน้า สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน สวัสดีครับ

จุดเด่นของ Samsung Gear S2

- ตัวเรือนมีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
- จอแสดงผลแบบ  Super AMOLED ความละเอียด 360x360 Pixels ขนาด 1.2 นิ้ว
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Dual-Core Exynos 3250 ความเร็วในการประมวลผล 1.0 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Tizen OS
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 512 MB
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 4 GB
- เซ็นเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate Sensor)
- เซ็นเซอร์ตรวจวัดความกดอากาศ (Barometer Sensor)
- เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ Acceleration Sensor และ Gyro Sensor
- เซ็นเซอร์ตรวจวัดระดับแสงในสภาพแวดล้อม (Ambient Light Sensor)
- รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สายแบบ NFC, Bluetooth 4.1 และ Wi-Fi
- ราคา 9,990 บาท

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Samsung Gear S2

- ไม่รองรับการใส่ซิมการ์ด
- ไม่รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G HSPA+, EDGE และ GPRS
- ไม่มี GPS ในตัว
- ไม่มีลำโพงเสียงในตัว
- ยังไม่รองรับการใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการ iOS

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

สรุปข้อมูล และคุณสมบัติของ Samsung Gear S2

ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Samsung Gear S2 ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้

Samsung Gear S2 title="Sony Xperia ZL Specification">

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::