8 จุดเด่นของ Edits แอปตัดต่อตัวใหม่จาก Instagram ตัวเลือกใหม่ของครีเอเตอร์
ในยุคที่วิดีโอสั้นกำลังมาแรง ไม่ว่าจะเป็น Reels, TikTok หรือ Shorts เหล่าครีเอเตอร์ต่างมองหาแอปตัดต่อที่ทั้งเร็วและใช้งานง่าย ซึ่งที่ผ่านมา ตัวเลือกดี ๆ ก็มีอยู่ไม่กี่แอป หนึ่งในนั้นคือ CapCut ที่ได้รับความนิยมสูง แต่ล่าสุด Instagram ก็ลงสนามด้วยการเปิดตัวแอปตัดต่อของตัวเองในชื่อ Edits ที่ตอนนี้กำลังมาแรงและเริ่มเป็นที่จับตามองของครีเอเตอร์ทั่วโลก แอปนี้มีจุดเด่นอะไรบ้าง มาดูกันครับ
1. เร็วกว่า ลื่นกว่า แบบสัมผัสได้
ใครที่เคยลองใช้ Edits ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ลื่น" ไม่ว่าจะอัปโหลดคลิปหลายไฟล์ ตัดต่อ ย่อความยาว หรือเพิ่มเพลง ตัวแอปก็ยังทำงานได้ต่อเนื่องไม่สะดุด ขณะเดียวกัน UI ก็ออกแบบมาให้เบาและตอบสนองไว ช่วยให้ครีเอเตอร์ทำงานได้เร็วขึ้นไปด้วยเพราะไม่ต้องเสียเวลารอโหลดหรือแก้แอปค้างบ่อย ๆ ครับ
2. ผสานกับ Instagram ได้แบบไร้รอยต่อ
ถ้าเน้นทำคอนเทนต์สาย Reels หรือ IG Stories บอกเลยว่า Edits คือแอปที่ตอบโจทย์สุดตอนนี้ เพราะตัวแอปเชื่อมกับ Instagram ได้แบบไร้รอยต่อ จะโพสต์วิดีโอจาก Edits ขึ้น Instagram ก็ทำได้ทันที หรือจะดาวน์โหลดคลิปไปโพสต์ที่อื่นก็สะดวก ที่น่าสนใจเราสามารถเปิดดู Reels ที่เซฟไว้กับ Collections ได้เลยในแอป ไม่ต้องสลับจอไปมา แถมยังดูสถิติ Reels ได้ครบ ทั้งยอดวิว ไลก์ คอมเมนต์ และผู้ติดตามย้อนหลังได้ถึง 60 วันเลยทีเดียว
3. UI ใช้ง่าย ไม่ซับซ้อน
แม้ว่า Edits จะยังไม่มีฟีเจอร์ขั้นสูงเทียบเท่าแอปตัดต่อระดับโปร แต่ก็ชดเชยด้วยอินเทอร์เฟซที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้ทันที เมนูและไอคอนต่าง ๆ ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ เข้าใจได้แม้จะเป็นผู้ใช้ใหม่ รองรับทั้งการอัปโหลดวิดีโอจากคลังเดิมและการถ่ายใหม่ผ่านแอปโดยตรง จึงเหมาะกับครีเอเตอร์มือใหม่ ส่วนครีเอเตอร์มืออาชีพก็ตัดต่อวิดีโอได้เร็วขึ้นด้วยครับ
4. คลังเพลงสดใหม่ไม่ตกเทรนด์
หนึ่งในจุดเด่นของ Edits คือคลังเพลงที่สดใหม่และหลากหลาย เพราะใช้ฐานข้อมูลเดียวกับเพลงใน Instagram นั่นหมายความว่าผู้ใช้สามารถเลือกเพลงยอดนิยมล่าสุดที่ครีเอเตอร์บน IG กำลังใช้กันได้ทันที ช่วยให้ขั้นตอนการตัดต่อและใส่เพลงเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว ไม่ต้องตัดใน CapCut แล้วมาใส่เพลงใน IG ทีหลัง ใช้ Edits เพียงแอปเดียวจบครับ
5. ระบบเสียงคุมง่าย พร้อมลูกเล่น FX
นอกจากคลังเพลงที่หลากหลาย Edits ยังมาพร้อมเครื่องมือปรับแต่งเสียงที่ใช้งานง่ายและครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการลดเสียงรบกวน (Noise) ในวิดีโอ, ปิดเสียง (Mute) บางช่วงของคลิป หรือเพิ่มลูกเล่นเสียง เช่นซาวด์เอฟเฟกต์ หรือเสียงรีแอคชั่นต่าง ๆ รวมถึงฟีเจอร์แยกเสียง (Extract Audio) ออกจากวิดีโอ เพื่อให้ครีเอเตอร์สามารถนำไปต่อยอดในงานอื่นได้สะดวกยิ่งขึ้น
6. Export วิดีโอได้หลายความละเอียด
Edits เปิดโอกาสให้ผู้ใช้เลือกคุณภาพวิดีโอก่อนส่งออกได้หลากหลายระดับ ทั้ง HD, 2K และ 4K พร้อมตัวเลือกโหมดสีระหว่าง HDR หรือ SDR เพื่อให้วิดีโอที่ได้มีความคมชัดและสีสันตรงตามต้องการ ที่สำคัญ ฟีเจอร์เหล่านี้เปิดให้ใช้งานได้ฟรีทั้งหมด โดยไม่มีการล็อกไว้เฉพาะสมาชิกพรีเมียมครับ
7. Stickies จดไอเดียไว้ ไม่มีลืม
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจใน Edits คือ Stickies ซึ่งช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถบันทึกไอเดียหรือแผนการโพสต์ในอนาคตได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยสามารถเลือกสี, จัดหมวดหมู่, แก้ไข หรือลบ Stickies ได้ทุกเมื่อ ช่วยให้การวางแผนคอนเทนต์วิดีโอเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสำหรับครีเอเตอร์ที่ต้องจัดการวิดีโอหลายตัวในแต่ละสัปดาห์ครับ
8. ใช้ฟรี 100% (อย่างน้อยก็ตอนนี้)
อีกหนึ่งจุดแข็งของ Edits ในตอนนี้คือการเปิดให้ใช้งานได้ฟรี 100% โดยไม่มีค่าใช้จ่ายหรือการสมัครสมาชิกเพิ่มเติม ผู้ใช้สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ทั้งหมดได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อ, ใส่ลูกเล่น FX หรือส่งออกวิดีโอคุณภาพสูง ต่างจากบางแอปที่มีการจำกัดฟีเจอร์ไว้เฉพาะผู้ใช้พรีเมียม
ที่ Edits ยอมให้ใช้ฟรีไม่มีกั๊กแบบนี้ ก็เพื่อดึงดูดเหล่าครีเอเตอร์เข้ามาใช้งานให้ได้มากที่สุด ส่วนอนาคตจะมีแพ็คเกจพรีเมียมหรือไม่ก็ต้องรอดูกันต่อไปครับ
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 6/5/2568
