Who is Huawei? บุกสำนักงานใหญ่ รู้จัก Huawei ให้ถึงแก่น เผยเส้นทางสู่แบรนด์ชั้นนำของโลก และกลยุทธ์สู่ความยิ่งใหญ่ในอนาคต!
อย่างที่กล่าวกันมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่าว่า “ถ้าอยากจะทำความรู้จักกับใคร ก็ต้องไปให้ถึงบ้านของเขา” และหนึ่งในแบรนด์ที่ผมอยากจะทำความรู้จักมากที่สุด ณ เวลานี้ก็คือ Huawei (หัวเว่ย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในฝั่งของ Huawei Consumer Business Group ที่เจาะกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคโดยตรง เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน แบรนด์ Huawei ได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดมาสู่การเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิภายในระยะเวลาอันรวดเร็วเกินกว่าที่หลายคนจะคาดคิด เรียกว่าเป็นการพลิกภาพลักษณ์จาก “แบรนด์จีน” ไปสู่ “แบรนด์โลก” ก็คงไม่ผิดนัก
ในที่สุดเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ผมในฐานะตัวแทนของเว็บไซต์ thaimobilecenter.com ก็มีโอกาสได้บินไปเยี่ยมเยือน Huawei ถึงบ้านเกิดในประเทศจีน จริงๆ เสียที พร้อมกับเพื่อนสื่อมวลชนในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก หรือ APAC (ไทย, สิงคโปร์, มาเลเซีย และอินโดนีเซีย) เริ่มที่เมืองปักกิ่ง (Beijing) ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์วิจัย และพัฒนาสมาร์ทโฟน พร้อมบินลงมายังเมืองเซินเจิ้น (Shenzhen) ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ Huawei โดยเมืองเซินเจิ้นนี้ถูกขนานนามว่าเป็น “Silicon Vallley of China” หรือซิลิคอนแวลลีย์เมืองจีน ด้วยการที่เป็นเมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุด เป็นศูนย์รวมของบริษัทด้านเทคโนโลยีระดับชั้นนำมากมาย รวมถึงบรรดาบริษัทสตาร์ทอัพใหม่ๆ นับเป็นย่านธุรกิจอย่างแท้จริง จนนักวิเคราะห์หลายคนคาดกันว่าเศรษฐกิจของเซินเจิ้นอาจแซงหน้าฮ่องกงได้ภายในปี 2018 นี้เลยทีเดียว
พร้อมกันนี้ก็ยังได้รับฟังข้อมูลเบื้องลึกจากตัวจริงเสียงจริงของผู้บริหารระดับสูงของ Huawei Consumer Business Group รวมถึง 4 ท่านด้วยกัน ได้แก่
- Mr. Jim Xu ผู้ดำรงตำแหน่ง Vice President, Marketing and Sales Service
- Ms. Fan Fei ผู้ดำรงตำแหน่ง Vice President, Handset Business
- Mr. Clement Wong ผู้ดำรงตำแหน่ง Head of Global Product Marketing
- Mr. Eric Tran ผู้ดำรงตำแหน่ง Vice President, Cloud Service
ดังนั้นก็แน่นอนว่าข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับมาย่อมถูกต้องแม่นยำ, ตรงประเด็น และมีรายละเอียดปลีกย่อยที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนอย่างแน่นอน ซึ่งผมก็ขอถือโอกาสนี้ นำข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Huawei มาแชร์ให้ได้ทราบกัน เพื่อให้ทุกท่านได้รู้จักกับ Huawei มากขึ้นด้วยครับ
Huawei คือใคร ทำไมโลกต้องจับตามอง?
ในอดีตนั้น Huawei เป็นบริษัทชั้นนำของโลกของธุรกิจด้านระบบเน็ตเวิร์ก เรียกว่าโครงการขนาดใหญ่เกี่ยวกับระบบเครือข่าย ชื่อของ Huawei อยู่ในระดับหัวแถวมาเนิ่นนาน แต่หากนับเฉพาะวงการโทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทโฟนโลก ทาง Huawei นั้นเริ่มเข้ามาสู่สมรภูมินี้ตั้งแต่ปี 2003 หรือกว่า 15 ปีแล้ว แต่ในระยะแรกๆ ยังต้องเจอกับของแข็งคือแบรนด์มือถือรายใหญ่ที่ติดตลาดอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ชื่อของโทรศัพท์มือถือ Huawei ในขณะนั้นยังแทบไม่มีใครรู้จัก และสำหรับในบ้านเรา สมาร์ทโฟน Huawei ก็เพิ่งเริ่มเป็นที่รู้จักกันก็เมื่อราว 6 ปีที่แล้ว เนื่องจากเริ่มมีผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตของ Huawei เข้ามาวางจำหน่าย แต่ก็ต้องยอมรับว่าในช่วงเวลาดังกล่าว ท่ามกลางแบรนด์สมาร์ทโฟนชั้นนำมากมาย ผู้ซื้อสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ในประเทศไทยอาจไม่ได้มอง Huawei เป็นตัวเลือกแรกๆ
อย่างไรก็ดี ภายในระยะเวลาไม่นานนัก ปัจจุบัน Huawei ได้ก้าวมาสู่ตำแหน่งผู้นำสมาร์ทโฟนโลกได้อย่างรวดเร็วเหลือเชื่อ จนล่าสุดมีตำแหน่งอยู่บนโพเดียมอันทรงเกียรติที่อันดับ 3 ของโลก ซึ่งไม่ได้มากันง่ายๆ และไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างจริงจังในทุกด้าน ตั้งแต่การทุ่มงบประมาณ, การวิจัย, การพัฒนา, กระบวนการผลิต, การตรวจสอบคุณภาพ และบริการต่างๆ สำหรับผู้บริโภคที่ครบวงจร ดังนั้นเดี่ยวเรามาดูกันครับว่าผู้บริหารแต่ละท่านที่ให้เกียรติมาพูดคุยกับพวกเราในทริปนี้ จะได้ให้ข้อมูล และทรรศนะต่างๆ ไว้อย่างไร
Clement Wong : ภาพรวมของ Huawei กว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ ต้องผ่านอะไรมาบ้าง?
ผมขอเริ่มที่การให้ข้อมูลจากคุณ Clement Wong ผู้ดำรงตำแหน่ง Head of Global Product Marketing กันก่อนนะครับ เพื่อให้ทราบถึงภาพรวม, ตัวตน และทิศทางที่จะเดินต่อไปในอนาคตของ Huawei Consumer Business Group โดยคุณ Clement Wong ได้ออกมาเล่าให้พวกเราฟังว่า เป้าหมายสำคัญของ Huawei คือการมุ่งวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ และเป็นผู้นำในเรื่องนวัตกรรมที่เข้ามาตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภค โดยปี 2017 ที่ผ่านมา Huawei ทุ่มเงินทุนด้านการวิจัย และพัฒนา (R&D) ไปกว่า 13.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี กระจายไปยังศูนย์วิจัย และพัฒนา ทั้ง 16 แห่งทั่วโลก ทั้งที่จีน, สหรัฐอเมริกา, เยอรมนี, สวีเดน, รัสเซีย และอินเดีย กับพนักงานด้านการวิจัย และพัฒนาร่วมกว่า 10,000 ชีวิต และหากนับช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมารวมกัน Huawei ลงทุนด้าน R&D ไปแล้วกว่า 62.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นมูลค่าการลงทุนด้าน R&D ที่มากเป็นอันดับ 6 ของโลก
ดังนั้นการที่จะบอกว่าผลิตภัณฑ์ Huawei เป็นสินค้าจีน 100% ก็คงจะไม่ถูกเสียแล้ว เพราะมันเกิดจากทีม R&D ที่กระจายอยู่ตามประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่ร่วมกันพัฒนาขึ้น โดยปัจจุบันสินค้าของ Huawei มีวางจำหน่ายอยู่ 170 ประเทศทั่วโลก และหากนับจากจำนวนของผู้ที่ใช้งานผลิตภัณฑ์ของ Huawei แล้ว มีอัตราส่วนถึง 1 ใน 3 ของประชากรโลกเลยทีเดียว ซึ่งก็สอดคล้องกับจำนวนตัวเลขของผู้ที่รู้จักแบรนด์ Huawei (Brand Awareness) นอกประเทศจีน ที่เพิ่มขึ้นกว่า 330% และ Clement Wong ยังให้ข้อมูลด้วยว่าหากนับเฉพาะที่ UK หรือสหราชอาณาจักร ผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนของ Huawei นั้นเติบโตขึ้นกว่า 500% เลยทีเดียว
ด้วยการทุ่มทุนด้านงาน R&D มหาศาลขนาดนี้ Huawei จึงเป็นเจ้าของนวัตกรรมมากมาย โดยในคราวนี้ Clement Wong ได้เลือกเอา 7 สุดยอดนวัตกรรมสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดเพื่อชาวโลกของ Huawei (7 Best Huawei Innovation for the World) มาแนะนำให้เราได้รู้จักกันดังนี้
1. สมาร์ทโฟนเพื่อการถ่ายภาพที่ดีที่สุด นั่นคือ Huawei P20 และ P20 Pro
2. ชิปเซ็ต AI ตัวแรกของโลก นั่นคือ Kirin 970
3. การใช้ AI ช่วยในการถ่ายภาพ นั่นคือ AI Image Stabilization, Master AI Filters และ Object Identification
4. แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน นั่นคือ แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh บน Huawei Mate 10 Pro
5. เทคโนโลยี SuperCharge ชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง บนมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกของ TUV Rheinland
6. เทคโนโลยี 5G นั่นคือเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเครือข่าย 5G ที่กำลังจะได้ใช้งานจริงในอนาคตอันใกล้ ด้วยอุปกรณ์ของ Huawei ที่พร้อมรองรับ
7. ระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐานเดียวกับธนาคารครั้งแรกของโลก นั่นคือ Huawei CloudFabric Security Solution
สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มสมาร์ทโฟนของ Huawei ปัจจุบันแบ่งออกเป็น 4 ซีรีส์แยกกันอย่างชัดเจน เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ทุกกลุ่ม ตามการใช้งาน และงบประมาณ ได้แก่
Huawei Mate Series : มุ่งเน้นไปที่เรื่องของเทคโนโลยี เป็นการรวมนวัตกรรมระดับสูงสุดเข้าไว้ด้วยกัน เช่น AI พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่, หน่วยประมวลผลตัวท็อป, กล้องที่ยอดเยี่ยม และจอขนาดใหญ่
Huawei P Series : มุ่งเน้นไปที่ เรื่องของความมีสไตล์, มีความเป็นแฟชั่นมากขึ้น และเน้นเรื่องกล้องถ่ายภาพมากเป็นพิเศษ
Huawei Nova Series : มุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้บริโภคที่เป็นวัยรุ่น ที่ใช้งานทุกฟังก์ชัน ทั้งถ่ายภาพ, เล่นเกม และโซเชียลเน็ตเวิร์ก
Huawei Y Series : มุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้ใช้ระดับเริ่มต้น ด้วยราคาย่อมเยาเข้าถึงได้ง่ายที่สุด พร้อมฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ดี
แต่เทคโนโลยี กับนวัตกรรม ก็เป็นเพียงแค่ปัจจัยหนึ่งเท่านั้น อีกวิสัยทัศน์ของ Huawei ที่ส่งผลมากก็คือการจับมือกับพันธมิตรที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นที่สุดของแต่ละด้าน เพื่อเสริมภาพลักษณ์ในระดับสากล และเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ซึ่งพันธมิตรยักษ์ใหญ่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ก็มีตั้งแต่ Leica แบรนด์ผู้ผลิตกล้องถ่ายภาพชั้นนำของโลก ที่มีชื่อเสียงในวงการมาอย่างยาวนาน เรียกว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ประวัติศาสตร์ของวงการกล้องถ่ายภาพโลกที่มีอายุร่วม 100 ปี ดังนั้นการที่ Huawei ร่วมวิจัย และพัฒนาด้านกล้องถ่ายภาพกับ Leica จึงทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นได้อย่างเต็มที่ว่ากล้องถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟน Mate Series และ P Series นั้นต้องยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน
และผลที่ได้จากการร่วมมือครั้งนี้ก็นับว่าคุ้มค่า เพราะล่าสุด Huawei P20 Pro ได้ถูกทีมทดสอบกล้องชื่อดังอย่าง DxOMark ยกให้เป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพได้ดีที่สุดในโลกไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยคะแนนสูงถึง 109 คะแนน และนอกจากแบรนด์ Leica แล้ว ก็ยังมีแบรนด์แฟชั่นชั้นนำของโลกอย่าง Porsche Design ที่มาจับมือกันพัฒนารุ่นพิเศษที่เรียกว่า Porsche Design เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมขึ้นไปอีกขั้น และยังมีพันธมิตรชั้นนำของโลกอีกมากมายที่พร้อมจะก้าวไปกับ Huawei ไม่ว่าจะเป็น Pantone ผู้นำเทรนด์สีของโลก, Google, Microsoft, Intel, Amazon, Audi, ARM, Daydream และ Dolby
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อยอดขายโดยตรงก็คือช่องทางการจัดจำหน่ายนั่นเอง ยิ่งผู้ซื้อหาซื้อได้ง่ายมากเท่าไหร่ ก็มีโอกาสที่จะสร้างยอดขายได้มากขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เราจึงเห็นช้อปของ Huawei กระจายอยู่มากมาย และไม่ได้มีแค่การขายแบบออฟไลน์เท่านั้น ยุคนี้ต้องมีการขายแบบออนไลน์ด้วย
เป้าหมายแรกของ Huawei ในตลาดสมาร์ทโฟนโลกนั้นได้สำเร็จไปแล้ว กับอันดับ 3 ของโลก แต่ Huawei ไม่ต้องการหยุดอยู่เพียงแค่นี้ เพราะ Huawei มีเป้าหมายที่จะทะยานขึ้นสู่อันดับ 1 ภายในปี 2020 ซึ่งหากดูจากปัจจัยต่างๆ ก็ถือว่ามีความเป็นไปได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะผู้ครองตำแหน่งในปัจจุบันมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง
Jim Xu : เกาะประเด็น สัมภาษณ์ ถาม-ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับ Huawei กับคุณ Jim Xu
อีก Session ที่บรรดาสื่อมวลชนจาก APAC รอคอยกันก็คือ ช่วงสัมภาษณ์ ถาม-ตอบ กับคุณ Jim Xu ซึ่งผู้บริหารท่านนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ถือเป็นผู้ที่อยู่ในยุคบุกเบิกของ Huawei คนหนึ่ง เพราะร่วมสู้กับ Huawei มาอย่างยาวนานกว่า 21 ปี หรือตั้งแต่ปี 1997 จนปัจจุบันท่านดำรงตำแหน่ง President, Marketing and Sales Service ซึ่งอาจเรียกได้ว่ามีบทบาทสำคัญไม่แพ้ท่านประธาน Richard Yu เลยทีเดียว
คำถามที่บรรดาสื่อมวลชนถามคุณ Jim Xu ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นคำถามเกี่ยวกับการทำตลาด, ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ รวมถึงคำถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ซึ่งผมขอนำเอาแค่บางประเด็นที่น่าสนใจใกล้ตัวเรามาสรุปให้ติดตามกันพอสังเขป แต่ก็คงไม่ได้แปลมาแบบคำต่อคำนะครับ ขอจับเอาใจความสำคัญมาเท่านั้น
คำถาม : แบรนด์จีนมักถูกมองว่าไม่เน้นคุณภาพ เน้นสเปก, ราคา, ยอดขาย และการผลิตจำนวนมากๆ ทาง Huawei มีวิธีแก้ไขภาพลักษณ์เหล่านี้หรือไม่อย่างไร?
คำตอบ : เราคงปฏิเสธความเป็นแบรนด์จีนไม่ได้ แต่สิ่งที่ทำให้เราแตกต่างจากแบรนด์จีนอื่นๆ ก็คือการเป็นผู้นำเรื่องนวัตกรรม, เทคโนโลยีใหม่ๆ, คุณภาพการผลิต และมาตรฐานระดับโลก ซึ่งสุดท้ายแล้วภาพลักษณ์ของเราก็จะแตกต่าง
คำถาม : สังเกตว่าในประเทศจีน ป้ายโฆษณาของ Huawei จะน้อยกว่าแบรนด์อื่น เพราะอะไร?
คำตอบ : ปัจจุบันสินค้า Huawei มีวางจำหน่ายตามร้านค้าทั่วประเทศจีนถึงกว่า 85% เราจึงอาจยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับการโฆษณาเท่าที่ควร แต่เราก็ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ และอาจมีการพิจารณาเรื่องการโฆษณาประชาสัมพันธ์มากขึ้นในอนาคต
คำถาม : Huawei มองว่าแบรนด์ใดคือคู่แข่ง และจะทำอย่างไรเพื่อให้ได้รับชัยชนะ?
คำตอบ : ชื่อแบรนด์เราขอไม่พูดถึง เราเชื่อมั่นว่าแบรนด์ของเราสู้แบรนด์ต่างชาติ และแบรนด์จีนได้ เรามั่นใจในทีมงานของเรา แต่เราก็ต้องทำงานกันอย่างหนักเช่นกัน และทุกอย่างต้องอาศัยเวลา ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดก็คือการทุ่มงบประมาณด้าน R&D ไปอย่างมหาศาล เกินกว่าที่คู่แข่งบางรายจะกล้าทำ
และกับคำถามที่คล้ายๆ กันนี้ คุณ Jim Xu ก็ได้ให้ทรรศนะว่า คู่แข่งที่แท้จริงของ Huawei ไม่ใช่ใครอื่นไกล เพราะนั่นคือตัวของ Huawei เอง อย่างความผิดพลาดก่อนหน้านี้เกี่ยวกับเรื่องหน่วยความจำ ROM ที่เป็นข่าวใหญ่ เป็นสิ่งที่เรายอมรับไม่ได้ เราต้องใช้ความพยายามในการแก้ไข และทำทุกอย่างให้ถูกต้อง จนในที่สุดเราก็กลับมาได้รับความเชื่อมั่นอีกครั้งในรุ่น Mate 10
คำถาม : เราจะมีโอกาสได้เห็นสมาร์ทโฟน Huawei ที่เกิดมาเพื่อการเล่นเกมบ้างหรือไม่?
คำตอบ : เรื่องนี้เราได้เริ่มต้นวางแผน และพัฒนาไปเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดก็เพิ่งเปิดตัวเทคโนโลยี GPU Turbo ที่ช่วยรีดประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) บนสมาร์ทโฟนให้ออกมาได้มากที่สุด
จริงๆ แล้วยังมีคำถาม-คำตอบอีกหลายประเด็นที่บรรดาสื่อมวลชนทั้ง 4 ประเทศ ช่วยกันยิงไปยังคุณ Jim Xu แต่คำตอบที่คัดมาข้างต้นก็น่าจะได้ทราบทิศทางโดยรวมของ Huawei พอสมควร หากมีเวลาอาจจะหาโอกาสนำมาเพิ่มเติมให้อีกครั้งนะครับ
Eric Tran : Cloud Service สิ่งที่ใกล้ตัวเรามากขึ้นทุกขณะ
ในวันเดียวกันนี้ นอกจากจะมีคุณ Jim Xu และคุณ Clement Wong ออกมาให้ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับ Huawei แล้ว ก็ยังมีอีกท่านที่ออกมาให้ข้อมูลเรื่อง Huawei Mobile Cloud นั่นคือคุณ Eric Tran ผู้ดำรงตำแหน่ง Vice President, Cloud Service นั่นเอง โดยเรื่องของ Cloud Service ในความจริงเราได้ใช้งานกันอย่างจริงจังมาหลายปีแล้ว โดยเฉพาะผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนที่ต้องมีการซิงค์ข้อมูล, อัปโหลดไฟล์ หรือสำรองข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตขึ้นไปเก็บอยู่กับผู้ให้บริการ Cloud Service เจ้าต่างๆ หรือแม้แต่การดึงข้อมูลกลับมาใช้งานในสมาร์ทโฟน ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวเราแต่อย่างใด อย่างเช่นจากการสำรวจของ Huawei เองพบว่าแต่ละวันมีผู้ใช้งานทั่วโลกอัปโหลดรูปกว่า 80 ล้านรูป และมีการอัปเดตรายชื่อกว่า 35 ล้านรายชื่อเลยทีเดียว
Huawei เองก็ตระหนักในจุดนี้ และด้วยการที่เป็นผู้นำด้านระบบเน็ตเวิร์กอยู่แล้ว หลายๆ อย่างเกี่ยวกับ Cloud Service จึงถูกออกแบบ และพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งงานนี้ทาง Huawei ตั้งเป้าขอเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) และ Solution โดยเน้นไปที่อุปกรณ์ IOT (Internet of Things) และบรรดาสมาร์ทดีไวซ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สมาร์ทโฟนที่เราทุกคนใช้งานกันอยู่นั่นเอง อย่างในขณะนี้ใครที่อยากอัปโหลดรูปขึ้น Cloud ก็สามารถอัปโหลดขึ้น Huawei Cloud ได้แล้ว
เรียกได้ว่าไหนๆ แล้ว Huawei ก็มีทั้งผลิตภัณฑ์เน็ตเวิร์ก และสมาร์ทโฟน เป็นของตัวเองอยู่แล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ทำระบบ Cloud Service หรือ Huawei Mobile Cloud ขึ้นมาเองเสียเลย จะได้ครบวงจรเป็น Ecosystem ของตัวเอง ด้วยการทำงานเชื่อมต่อกันระหว่างชิปเซ็ตในสมาร์ทโฟน, อุปกรณ์รอบข้าง และระบบคลาวด์ จนเกิดเป็น Experience, Security, Technology และ Ecosystem
ซึ่งโครงสร้างโดยรวมคือ มี Huawei Mobile Service (HMS Core) อยู่ตรงกลาง และถูกขนาบข้างด้วยผู้ใช้งาน (Consumer) หรือบรรดาแอปพลิเคชันต่างๆ ส่วนอีกฝั่งจะถูกขนาบด้วยพันธมิตร และนักพัฒนาแอปพลิเคชัน พร้อมระบบความปลอดภัยแบบ 3 ชั้น และระบบสำรองข้อมูลอัตโนมัติ โดยบริการของ Huawei Cloud Service นั้นแบ่งออกเป็นหลายประเภท ล้วนแล้วแต่น่าสนใจทั้งสิ้น ได้แก่
- Huawei App Gallery ซึ่งเป็นศูนย์รวมแอปพลิเคชันที่มีความปลอดภัย ด้วยระบบคัดกรองของ Huawei เอง และสามารถเลือกแอปพลิเคชันที่เหมาะสมให้กับเราได้
- Huawei Assistant ซึ่งเหมือนเป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่ทำงานอยู่บนพื้นฐานของ AI และ Cloud Service
- Huawei Pay ซึ่งเป็นระบบการทำธุรกรรมการเงินผ่านสมาร์ทโฟน โดยไม่ต้องพกเงินสด หรือบัตรเครดิต และมีระบบความปลอดภัยแบบหลายชั้นที่ผู้ใช้งานมั่นใจได้เต็มที่
- Huawei Video ซึ่งเป็นศูนย์รวมภาพยนตร์ Hollywood และอื่นๆ ทั่วโลก ให้รับชมแบบ Streaming มากกว่า 5,000 เรื่อง บนคุณภาพระดับสูง (High Quality)
- Huawei Music ซึ่งเป็นศูนย์รวมเพลงคุณภาพสูงแบบ Hi-Res
- Huawei Reader ซึ่งเป็นศูนย์รวม e-Book
- Huawei Theme ซึ่งเป็นศูนย์รวมธีม, ฟอนต์, ภาพพื้นหลัง, เกมบนหน้า Lock Screen และมินิเกม ซึ่ง Huawei ได้ให้ข้อมูลว่ามีผู้เข้ามาดาวน์โหลดคอนเทนต์ใน Huawei Theme มากถึง 330 ล้านครั้งต่อเดือนเลยทีเดียว
โดย Huawei Mobile Service นี้มีอัตราการเติบโตที่รวดเร็ว ล่าสุด ณ ไตรมาสที่ 1 ของปี 2018 มีผู้ใช้งานรวมแล้วกว่า 400 ล้านคน และจะเร่งเดินหน้าร่วมมือกับพันธมิตร กับนักพัฒนาแอปพลิเคชันในประเทศกลุ่มเอเชียแปซิฟิก หรือ APAC ต่อไป
สรุปส่งท้าย
ก็เรียกได้ว่าการไปเยี่ยมเยือน Huawei ถึงสำนักงานใหญ่ในประเทศจีนครั้งนี้ ผมได้รับข้อมูลใหม่ๆ มามากมายเลยทีเดียวครับ และสัมผัสได้ทันทีว่าองค์กรนี้มีความมุ่งมั่น และวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล สมกับเป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับโลก ซึ่งก็น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งว่าผลิตภัณฑ์รุ่นต่อๆ ไปของ Huawei จะสร้างความเซอร์ไพรส์ได้ขนาดไหน แต่ก็น่าเสียดายไม่น้อยที่ส่วนใหญ่แล้วทาง Huawei ไม่อนุญาตให้เก็บภาพกลับมาได้ เนื่องจากกระบวนการวิจัย และพัฒนา รวมถึงข้อมูลภายในต่างๆ ของ Huawei นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด และต้องเก็บเป็นความลับขั้นสุดยอดจริงๆ แต่เดี่ยวก่อนครับ เพราะบทความนี้เป็นข้อมูลเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ในบทความถัดไป ผมจะพาทุกท่านไปสำรวจถึงสายการผลิต และกระบวนการทดสอบสมาร์ทโฟนของ Huawei ว่ากว่าจะมาเป็นสมาร์ทโฟนดีๆ เครื่องหนึ่งที่เราใช้งานกันอยู่นี้ มันต้องมีกระบวนการผลิตอย่างไร และผ่านการทดสอบที่หฤโหดเข้มข้นบนมาตรฐานที่สูงขนาดไหน รอติดตามชมกันได้นะครับ
อ่านเพิ่มเติม
วันที่ : 13/7/2561
