เทียบภาพถ่ายระหว่าง Vivo V11 และ iPhone X สองมือถือกล้องคู่รุ่นท็อปในราคาห่างกันเกินเท่าตัว ต่างกันแค่ไหน ไปดูกัน!
หากพูดถึงสมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศไทย และมาพร้อมกับจุดเด่นด้านการถ่ายภาพ หลายท่านน่าจะต้องนึกถึง Vivo V11 กันอย่างแน่นอน เนื่องจากสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวมาพร้อมกับกล้องหลังแบบคู่ พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพ Dual Pixel ที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้ความละเอียดสูงสุด 24 ล้านพิกเซล และระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ Dual Pixel ที่โฟกัสวัตถุได้ฉับไวในระยะเวลาเพียง 0.03 วินาที นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับช่วยถ่ายภาพในสถานการณ์ต่างๆ และฟังก์ชันถ่ายภาพบุคคล (Portrait) หรือการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอโดยเฉพาะ ซึ่งทาง Vivo เปิดราคาวางจำหน่ายของ Vivo V11 ในประเทศไทยเอาไว้ที่ 13,999 บาท
ในวันนี้ทางทีมงานจึงได้นำ Vivo V11 ไปลองทดสอบประสิทธิภาพของกล้องถ่ายภาพบุคคล หรือ Portrait ร่วมกับสมาร์ทโฟนกล้องคู่ตัวท็อปอย่าง iPhone X ที่ได้รับคะแนนทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญการทดสอบชั้นนำอย่าง DxOMark ติดอันดับท็อป 10 ของโลก ณ ชั่วโมงนี้ รวมทั้งยังมาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพ Portrait โดยเฉพาะ ซึ่งการถ่ายภาพในครั้งนี้ทางทีมงานจะตั้งค่าทุกอย่างเป็น Auto เพื่อให้กล้องคำนวนค่าต่างๆ ด้วยตัวเอง ส่วน iPhone X ทางทีมงานเลือกรูปแบบการจัดแสงในโหมดถ่ายภาพบุคคลเป็น แสงธรรมชาติ (Natural Light) ซึ่งเป็นค่า Default ของกล้องถ่ายภาพ โดยผลที่ได้จะเป็นอย่างไรนั้น ไปติดตามพร้อมกันเลยครับ
*ภาพทุกภาพสามารถกดเพื่อดูขนาดใหญ่ได้
คุณสมบัติกล้อง Vivo V11 และ iPhone X
Vivo V11
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 25 ล้านพิกเซล พร้อมรูรูรับแสงกว้าง f/2.0
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual Camera) โดยแบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์รับภาพแบบ Dual Pixel พร้อมรูรับแสงกว้าง f/1.8 และกล้องตัวรองความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้าง f/2.4
iPhone X
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล ทางยาวโฟกัส 32 มม. พร้อมรูรับแสงกว้าง f/2.2
- กล้องดิิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual Camera) โดยแบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักแบบ Wide-Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ทางยาวโฟกัส 28 มม. พร้อมรูรับแสงกว้าง f/1.8 และกล้องตัวรองแบบ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ทางยาวโฟกัส 52 มม. พร้อมรูรับแสงกว้าง f/2.4
เริ่มต้นซีนแรกด้วยการถ่ายภาพ Portrait ในสภาวะแสงปกติกันก่อน โดยฉากนี้ทั้งสองรุ่นถือว่าทำผลงานได้ใกล้เคียงกัน ด้วยการตัดขอบขอบที่มีความแม่นยำ และการละลายฉากหลังได้อย่างเนียนตา แต่ทั้งสองรุ่นมีความแตกต่างในเรื่องของสีสัน ซึ่ง Vivo V11 จะให้ภาพที่ออกโทนสว่างสดใส ส่วน iPhone X จะให้สีสันที่ตรงเป็นธรรมชาติเหมือนกับที่ตาเห็น ซึ่งหากใครที่อยากให้ภาพมีความสดใสอาจต้องนำไปปรับแต่งในแอปพลิเคชันอื่นๆ เพิ่มเติม
ในซีนนี้ที่ฉากหลังเริ่มมีความซับซ้อน ก็ยังพบว่าทั้งสองรุ่นสามารถตัดขอบได้ดีด้วยกันทั้งคู่ แต่หากสังเกตจะเห็นได้ ภาพที่ได้จากของ Vivo V11 จะมีความกว้างกว่าเมื่อเทียบกับ iPhone X ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานของโหมด Portrait และระยะเลนส์ของมือถือทั้งสองรุ่นที่ไม่เหมือนกัน โดยเมื่อถ่ายภาพ Portrait Vivo V11 จะถ่ายภาพด้วยกล้องที่มีทางยาวโฟกัส 30 มม. ซึ่งเป็นระยะที่ค่อนข้างกว้าง ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดของต่างๆ ของฉากหลังได้มากกว่า ส่วน iPhone X จะสลับไปใช้งานกล้องตัวรอง ที่มีทางยาวโฟกัส 52 มม. เมื่อถ่ายภาพด้วยโหมด Portrait ซึ่งเป็นระยะเลนส์ที่แคบกว่านั่นเอง
Crop 100%
ในซีนนี้ทั้งสองรุ่นอาจดูรวมๆ ไม่แตกต่างกันมากนัก แต่หากลองซูมภาพเข้าไปใกล้ๆ จะเห็นว่า Vivo V11 สามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ของตัวแบบได้ค่อนข้างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น ดีเทลบนเสื้อผ้า หรือเส้นผม รวมไปถึงการตัดขอบบริเวณเส้นผมที่มีความแม่นยำ ต่างจาก iPhone X ที่พยายามดึงไฮไลท์บริเวณใบหน้าให้มีความคมชัด จนทำให้รายละเอียดส่วนอื่นๆ ขาดหายไป
ตัวอย่างการทำงานของฟังก์ชัน Portrait Bokeh บน Vivo V11
อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้ Vivo V11 ได้เปรียบในการถ่ายภาพ Portrait นั่นก็คือ การมาพร้อมกับฟีเจอร์ปรับระดับของการเบลอฉากหลัง (Portrait Bokeh) ผ่านการจำลองค่ารูรับแสงระหว่าง f/0.95 - f/16 (ยิ่งค่า f น้อย ฉากหลังยิ่งละลาย) แม้ว่าจะถ่ายรูปเสร็จสิ้นไปแล้ว ต่างจาก iPhone X ที่จะปรับระดับความเบลอของฉากหลังมาให้แบบอัตโนมัติ และไม่สามารถนำไปปรับเองในภายหลังได้
ตัวอย่างการทำงานของฟังก์ชัน AI Portrait Framing บน Vivo V11
รวมทั้ง Vivo V11 ยังมาพร้อมฟังก์ชันเด่นตอบโจทย์การถ่ายภาพ Portrait ในชื่อ AI Portrait Framing ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยจัดองค์ประกอบของภาพ Portrait ให้มีความสวยงาม ซึ่งนับว่าเหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไปที่ไม่คุ้นชินกับการถ่ายภาพบุคคลมากนัก
เปลี่ยนมาทดสอบถ่ายภาพแบบย้อนแสงกันดูบ้าง ซึ่งซีนนี้ทางทีมงานได้เปิดฟังก์ชัน HDR เพื่อช่วยเก็บรายละเอียด โดยจะเห็นได้ว่า รุ่นมีความแตกต่างในเรื่องการวัดแสงอย่างชัดเจน โดย Vivo V11 จะวัดแสงไปในโทนสว่างใส และยังสามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ของภาพได้ดีกว่า ส่วน iPhone X มีการวัดแสงติดเหลือง ทำให้ใบหน้าของตัวแบบดูมืด และสีสันโดยรวมของภาพอาจไม่ตรงกับที่ต้องการ
สาเหตุที่ภาพของ Vivo V11 มีความสว่าง และคมชัดมากกว่านั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ Vivo V11 มีฟังก์ชัน AI HDR Backlight ซึ่งเป็นการนำเอาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยวิเคราะห์ฉากด้านหน้า หลังจากนั้นจะทำการถ่ายภาพหลายๆ ใบ และนำมาประมวลผลรวมกันเป็นภาพเดียว เพื่อช่วยเก็บรายละเอียดต่างๆ ภายในฉาก
อย่างไรก็ดี ทางทีมงานได้ลองถ่ายภาพมุมเดิมด้วย iPhone X ซ้ำกันอีก 2 ครั้ง ก็พบว่า iPhone X ยังวัดแสงติดโทนเหลือง และภาพที่ได้มีความมืดเช่นเดิม ซึ่งคาดว่าทาง Apple อาจมีการปล่อยอัปเดตเพื่อแก้ไขซอฟท์แวร์กล้องอีกครั้งในระบบปฏิบัติการ iOS 12 เวอร์ชันอัปเดต
เปลี่ยนมาซีนแสงน้อยกันบ้าง โดยในซีนนี้แม้ว่าทั้งสองรุ่นยังคงมีความแตกต่างในเรื่องโทนสี แต่หากลองซูมภาพเข้าไปดูใกล้ๆ จะพบว่า Vivo V11 สามารถจัดการจุดรบกวนบนภาพ (Noise) ได้ดีกว่า และเก็บรายละเอียดได้คมชัดกว่าเมื่อเทียบกับ iPhone X ที่ปรากฏ Noise บนภาพให้เห็นแบบชัดเจน
ข้ามมาที่การถ่ายภาพเซลฟี่กันบ้าง ซึ่งก็พบว่า Vivo V11 มีจุดเด่นด้านสีสันที่จัดจ้าน รวมไปถึงการทำสกินโทนของตัวแบบที่มีความสว่างสดใส และการเก็บรายละเอียดต่างๆ บนตัวแบบ ส่วน iPhone X มีจุดเด่นด้านการถ่ายทอดสีสันที่เป็นธรรมชาติ แต่สกินโทนจะติดเหลืองเล็กน้อย ซึ่งผู้ที่ชื่นชอบภาพเซลฟี่แบบขาวใส อาจต้องนำไปปรับแต่งในแอปพลิเคชันอื่นๆ อีกครั้ง
เมื่อลองนำไปถ่ายภาพเซลฟี่ในสภาวะย้อนแสง ก็พบว่า Vivo V11 ให้ภาพไปในโทนที่สว่าง และมีอาการ overexposure ส่วน iPhone X ที่ภาพใบหน้าของตัวแบบมีความมืดไปสักหน่อย ทำให้อาจต้องนำไปปรับแต่งเพิ่มเติม แต่ก็มีจุดเด่นในเรื่องของการเก็บรายละเอียดที่สามารถทำได้ดีกว่า
ปิดท้ายด้วยการถ่ายภาพเซลฟี่หน้าชัดหลังเบลอ พบว่า ทั้งสองรุ่นสามารถจัดขอบระหว่างตัวแบบ และฉากหลังได้อย่างน่าประทับใจ แต่กล้องหน้าของ Vivo V11 จะมีมุมมองที่กว้างกว่า ซึ่งเหมาะกับการนำไปถ่ายภาพเซลฟี่กลุ่มกับเพื่อนๆ โดยไม่จำเป็นต้องยื่นแขนไปจนสุดนั่นเอง
สรุปผลการเปรียบเทียบ
หลังจากที่ทางทีมงานได้นำสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นไปเปรียบเทียบภาพถ่าย Portrait ก็พบว่า แต่ละรุ่นมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป โดย Vivo V11 มีจุดเด่นในเรื่องของโทนสีของภาพที่มีความสว่างสดใส การเก็บรายละเอียดที่มีความคมชัด และการตัดขอบที่ค่อนข้างเนียนตา รวมไปถึงระยะเลนส์ที่มีความกว้าง ทำให้เก็บรายละเอียดต่างๆ ของฉากหลังได้ดีกว่า นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันที่ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการถ่ายภาพ Portrait โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น AI HDR Backlight สำหรับช่วยถ่ายภาพในสภาวะย้อนแสง, AI Portrait Framing สำหรับช่วยจัดองค์ประกอบของภาพถ่ายบุคคล และ Portrait Bokeh สำหรับปรับแต่งระดับการเบลอของฉากหลังได้ด้วยตนเอง
ส่วนทางด้าน iPhone X แม้จะมาพร้อมกับลูกเล่นด้านการถ่ายภาพ Portrait ที่น้อยกว่า Vivo V11 แต่ก็ทดแทนด้วยจุดเด่นด้านการถ่ายทอดสีสันได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการนำไปปรับแต่งเพิ่มเติม รวมไปถึงการทำเอฟเฟ็กต์โบเก้ที่เป็นดวงกลมคมชัด อย่างไรก็ดี แม้ว่าในบางซีนอาจมีการวัดแสงที่ผิดพลาดไปบ้าง รวมที่งการถ่ายภาพ Portrait ในบางครั้งที่ซอฟท์แวร์พยายามดึงไฮไลท์บริเวณใบหน้าให้มีความคมชัด จนทำให้รายละเอียดส่วนอื่นๆ ของตัวแบบขาดหายไป แต่ก็คาดว่าทาง Apple อาจมีการปล่อยซอฟท์แวร์เพื่อแก้ไขในอนาคต รวมทั้งคาดว่า iPhone รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปทั้งสามรุ่นไม่ว่าจะเป็น iPhone Xr, iPhone Xs และ iPhone Xs Max อาจมีการปรับปรุงแก้ไขในจุดนี้แล้ว ซึ่งหากมีโอกาส ทางทีมงานจะนำ iPhone รุ่นใหม่มาเปรียบเทียบให้ทุกท่านได้รับชมในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ความสวยของภาพถ่ายอาจจะไม่สามารถตัดสินได้ด้วยข้อมูลหรือการทดสอบใดๆ เพราะขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละท่านด้วยเช่นเดียวกัน จุดประสงค์ในการเทียบภาพถ่ายให้ชมกันในครั้งนี้ก็เพื่อให้ทุกท่านได้รับทราบ และเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจกันว่า สมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นในขณะนี้มีกล้องถ่ายภาพที่ถ่ายออกมาในเบื้องต้นแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ภาพจากรุ่นใดสวยงามถูกใจผู้ใช้มากที่สุดทุกท่านคงต้องตัดสินกันด้วยตัวเอง ก็หวังว่าบทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยของทุกท่านได้ในระดับหนึ่ง สำหรับวันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter ต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 4/10/2561