หน้าแรกมือถือ > รวมข่าวมือถือ > หน้าบทความ ข่าวมือถือ
   
Date : 17/6/2565

ส่องมือถือในอนาคต 2030 จะเป็นอย่างไร ?

 

 

หากทุกท่านลองมองย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อน ครั้งหนึ่งเราเคยมองมือถือขอบจอหนาเตอะขนาด 3.5 นิ้วว่าเป็นนวัตกรรม จนทุกวันนี้ได้พัฒนากลายเป็นมือถือจอยักษ์ไร้ขอบ ด้วยมูลค่าตลาดมือถือทั่วโลกเติบโตขึ้นเรื่อยๆจนพุ่งสูงถึงกว่า 378.29 พันล้านเหรียญฯในปี 2020  หลากหลายแบรนด์จากหลายสัญชาติต้องแข่งขันกันอย่างดุเดือดในการเข็นเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาด ทำให้ 10 ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีสมาร์ทโฟนได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดดภายในพริบตา หาก 10 ปีที่แล้วยังเปลี่ยนแปลงได้ถึงขนาดนี้ แล้วอีก 10 ปีข้างหน้าล่ะ? ในวันนี้เราจึงได้รวบรวมนวัตกรรมที่อาจกลายเป็นบรรทัดฐานในสมาร์ทโฟนปี 2030  ส่วนจะมีอะไรบ้าง ติดตามอ่านกันได้เลยครับ

 

จอพับแทนที่จอปกติ?

ในปี 2022 เราได้เห็นสมาร์ทโฟนจอพับได้หลากหลายแบรนด์วางขายในตลาดกันบ้างแล้ว แต่ด้วยเทคโนโลยีในตอนนี้ที่ยังมีข้อจำกัด มีราคาที่ค่อนข้างสูง และอาจดูเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่มในสายตาของคนทั่วไป แต่ถึงกระนั้น อ้างอิงจากสถิติของ Omdia ในช่วงครึ่งหลังของปี 2021 ยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนจอพับได้พุ่งสูงถึง 9 ล้านเครื่องในปีเดียว โดยคิดเป็น 309% เมื่อเทียบสถิติปีต่อปีนับตั้งแต่สมาร์ทโฟนจอพับเครื่องแรกลงสู่ตลาดในปี 2019 ด้วยแนวโน้มยอดขายที่พุ่งสูงขึ้นในทุกปี นี่อาจเป็นสัญญาณที่สมาร์ทโฟนจอพับอาจกลายเป็นที่นิยม และเป็นบรรทัดฐานให้แก่สมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ ในปี 2030 อีกทั้งในตอนนี้ หลายแบรนด์ยักษ์ใหญ่ก็ยังคงพัฒนามือถือพับได้ของตัวเองไม่หยุดนิ่งเพื่อสร้างจุดเด่นให้กับตัวเอง อย่างเช่น OPPO ที่เคยนำเทคโนโลยีจอม้วนได้ออกมาโชว์เมื่อปีก่อนอย่าง OPPO X 2021

มากไปกว่านั้น ล่าสุด Samsung เจ้าตลาดมือถือจอพับเองก็เพิ่งมีสิทธิบัตรสุดล้ำออกมาโชว์ว่าทางแบรนด์ก็กำลังซุ่มพัฒนาจอพับ และเลื่อนได้  โดยกลไกจะซ่อนอยู่ด้านล่าง กับด้านบนของเครื่อง อิงจากดีไซน์ Clamshell ของรุ่น Z Flip เมื่อกลไกทำงาน จอภาพจะยื่นออกมาจากทั้งสองด้านเพื่อเพิ่มพื้นที่จออีก 1 เท่าจากขนาดเดิม โดยตรงกลางเครื่องจะมีกลไกแม่เหล็ก ซึ่งทำให้จอสามารถเลื่อนประกบกันในลักษณะตรง คล้ายเครื่องรุ่น Z Flip หันหลังชนกัน ซึ่งในสิทธิบัตรเผยให้เห็นว่า ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ในการเล่นเกมแบบ Mutiplayer โดยจอที่พับประกบกันตรงกลางจะทำหน้าที่เป็นจอแสดงผลในการเล่นเกม ส่วนที่เหลือจะทำหน้าที่เป็นปุ่มกดจำลองให้กับผู้เล่นทั้งสองฝั่ง

 

ท่ามกลางการแข่งขันเทคโนโลยีจอที่ดุเดือด  ในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่สมาร์ทโฟนจอพับอาจพัฒนาไปไกลกว่าที่มีอยู่ในตอนนี้

 
เน็ตมือถือที่เร็วกว่า 5G ถึง 50 เท่า
 

ถึงแม้ในตอนนี้เทคโนโลยี 5G อาจยังไม่ได้ครอบคลุมทุกพื้นที่บนโลก แต่ล่าสุดมีข่าวมาว่า Samsung ได้จับมือกับ University of California และอีกหลายพาร์ทเนอร์ ได้ซุ่มพัฒนาเทคโนโลยี 6G ซึ่งคาดการณ์ไว้ว่าจะทำความเร็วได้สูงกว่า 5G ถึง 50 เท่า โดยล่าสุดมีผลการทดลองจากกลุ่มนักวิจัยจีนของสถาบัน Tsinghua School of Space Engineering ที่สามารถส่งไฟล์วิดีโอระดับ HD มากกว่า 10,000 ไฟล์ ขนาด 1TB ในระยะห่าง 1 กิโลเมตร ในเวลาเพียงแค่ 1 วินาทีเท่านั้น ซึ่งความเร็วคิดเป็น 8 Gbps เลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ เทคโนโลยี 6G ก็ยังมีข้อจำกัดทางเทคนิคที่ท้าทายอยู่พอควร เนื่องจากจำเป็นต้องขยายคลื่นความถี่ถึง 3,000 GHz รวมทั้งยังต้องสร้างสัญญาณ และโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมเพื่อให้รองรับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ดังนั้นการมาของ 6G อาจทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก เราสามารถท่องเว็บได้รวดเร็วขึ้น โดยมีค่า latency ที่ต่ำลง พร้อมกับสตรีมหนังไฟล์ใหญ่ได้ในพริบตาแบบไม่มีสะดุด รวมทั้งอาจมีการใช้ประโยชน์จาก 6G ในการส่งภาพโฮโลแกรมเพื่อใช้ในการสื่อสาร ทั้งนี้ Samsung ได้คาดการณ์ไว้ว่าเราจะได้ใช้ 6G กันภายในปี 2030 ซึ่งเราอาจจะได้เห็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่รองรับ 6G ลงสู่ตลาดภายในปีนั้นก็เป็นได้ 

 
ลาก่อนสายรุงรัง ตัวเครื่องไร้พอร์ตกำลังมา
 
 
ในยุคเทคโนโลยีไร้สายแบบ Blutooth, NFC รวมถึงเทคโนโลยีการชาร์จไร้สายเริ่มมีความเสถียรกว่าหลายปีก่อน และด้วยเทรนด์ในปัจจุบันที่สมาร์ทโฟนแข่งกันทำตัวเครื่องให้บางลง เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ก็อาจจะเป็นไปได้ที่สมาร์ทโฟนในปี 2030 จะไม่มีพอร์ตการเชื่อมต่อใด ๆ เลย บวกกับช่วงไม่กี่ที่ผ่านมาเรามักได้ยินข่าวลือกันอยู่เนือง ๆ ว่าสมาร์ทโฟนเจ้าใหญ่อย่าง Apple อาจจะตัดพอร์ตชาร์จออกไปจากเครื่องรุ่นใหม่ ๆ และพยายามดันเทคโนโลยี MagSafe ของตัวเองให้เป็นวิธีการชาร์จหลัก 
Android เองก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวตั้งแต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากทาง vivo โดยได้ปล่อยรูปเครื่องต้นแบบของสมาร์ทโฟนไร้พอร์ตอย่าง vivo Apex 2019 และ 2020 ออกมาให้ชมกัน อีกทั้งยังมี Meizu Zero ที่เปิดตัวออกมาในปี 2019 ในดีไซน์แบบไร้พอร์ต ไร้ปุ่ม จากหลายข่าวลือ หลายคอนเซปต์ที่หลาย ๆ แบรนด์กำลังพยายามทำอยู่ อาจเป็นการบอกทิศทางของสมาร์ทโฟนในอนาคตปี 2030 ที่สมาร์ทโฟนแบบไร้พอร์ตจะมาแทนที่เครื่องแบบเดิม ๆ ที่เราใช้อยู่

เทคโนโลยีการชาร์จผ่านอากาศ แค่เดินผ่านก็ชาร์จได้

การชาร์จผ่านอากาศอาจฟังดูน่าเหลือเชื่อในปี 2022 แต่ในขณะนี้ หลาย ๆ แบรนด์ดังอย่าง OPPO, Motorola และ Xiaomi ได้ซุ่มพัฒนา และนำวิดีโอสาธิตออกมาโชว์กันแล้วในช่วงปีก่อน

โดย Xiaomi ได้ออกมาอธิบายหลักการการทำงานของเทคโนโลยีนี้ว่า จะต้องมีแท่นชาร์จซึ่งทำหน้าที่เป็นเสาสัญญาณเพื่อจับตำแหน่งที่อยู่ของสมาร์ทโฟน เมื่อสมาร์ทโฟนอยู่ในระยะสัญญาณของแท่นชาร์จแล้ว ตัวแท่นชาร์จจะปล่อยคลื่นขนาดมิลลิเมตรตรงไปที่มือถือผ่านเทคโนโลยี Beamfoaming ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถยิงสัญญาณไร้สายจากจุดนึง ไปยังจุดปลายทางได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ เป็นลำแนวเดียวกัน ไม่ใช่การกระจายสัญญาณไปรอบ ๆ เหมือนเทคโนโลยีก่อน
เนื่องจากยังมีข้อจำกัดสุดท้าทายในหลายด้าน เช่น ความเสถียรของคลื่นวิทยุต่อระยะทาง หากอยู่ไกลจากจุดปล่อยสัญญาณอาจทำให้ประสิทธิภาพในการชาร์จแย่ลง และยังมีทั้งข้อจำกัดด้านความแรงของคลื่นวิทยุในอากาศที่คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ ได้จำกัดไว้ เหตุเพราะหากมีคลื่นความถี่ในปริมาณที่มากเกินไป อาจรบกวนการทำงานของอุปกรณ์อื่น ๆ หรือนำไปสู่ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ได้ จึงไม่มีแบรนด์ไหนนำออกมาทำตลาดแบบจริงจัง หากทั้งสามแบรนด์สามารถทำลายข้อจำกัดเหล่านี้ได้ อาจไม่เกินจริงที่จะได้เห็นเทคโนโลยีถูกใช้ในการชาร์จมือถือภายในปี 2030
 
กล้องมือถือที่ชัดกว่า DSLR แถมอาจบินได้ !
 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจุดขายหลักๆ ในสมาร์ทโฟนยุคนี้คือกล้องถ่ายภาพ หลากหลายแบรนด์ได้พยายามพัฒนาจุดเด่นในกล้องตัวเองเพื่อให้เป็นที่สนใจในตลาด ถึงที่ขนาดซัพพลายเออร์เซนเซอร์กล้องรายใหญ่อย่าง Sony ยังได้เคลมไว้ว่า คุณภาพกล้องมือถืออาจแซงหน้ากล้อง DSLR ภายในปี 2024 ซึ่งอาจเป็นความจริง เพราะทุกวันนี้เซนเซอร์กล้องบนสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการถ่ายภาพให้ดียิ่งขึ้น

นอกเหนือจากในด้านเซนเซอร์แล้ว ยังมีการจดสิทธิบัตรเกี่ยวกับกล้องมือถือที่น่าสนใจ อย่างล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว vivo ได้จดสิทธิบัตรกล้องโดรนบินได้ในสมาร์ทโฟน และกล้อง Pop-up ทรงพีระมิดที่ช่วยเพิ่มระยะซูมในการถ่ายภาพ Xiaomi และ Samsung เองก็มีสิทธิบัตรระบบกล้องเคลื่อนที่ได้ ที่จะช่วยเพิ่มค่ารูรับแสงให้ภาพสว่างขึ้น เพิ่มให้คุณภาพให้กับรูปถ่ายแบบ Ultra-wide และช่วยให้การซูมแบบดิจิตอลในโหมดวิดีโอมีความลื่นไหลมากยิ่งขึ้น โดยสิทธิบัตรเหล่านี้ยังไม่ได้ถูกใช้บนสมาร์ทโฟนรุ่นใดในช่วงหลายปีนี้ แต่ไม่แน่ว่าเราอาจได้เห็นไอเดียเหล่านี้อยู่ในสมาร์ทโฟนปี 2030 ก็เป็นได้  

 
 

อ้างอิง: TechAdvisor, Omdia, WashingtonPost, NotebookCheck (1) (2), SamMobile, Enterprise ITPro, US Mobile, LetsGoDigital (1) (2) (3) , GizmoChina, IndiaToday

 

วันที่ : 17/6/2565

Tags :
  

Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy