พรีวิว OnePlus 7 Pro มือถือระดับ Super Flagship กับสเปกจัดเต็มทั้งจอ Fluid AMOLED, กล้อง 3 ตัว 48 ล้าน, ชิปตัวท็อป Snapdragon 855 ในราคาเริ่ม 24,990 บาท
เปิดราคาในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ OnePlus 7 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ทาง OnePlus ตั้งใจให้เป็น Super Flagship หรือสุดยอดของสมาร์ทโฟนระดับเรือธง ด้วยคุณสมบัติที่จัดเต็มแบบรอบด้านยิ่งกว่าเดิม และเนื่องในโอกาสที่ทีมงานได้มีโอกาสได้ทดลองใช้งาน OnePlus 7 Pro ก่อนเป็นกลุ่มแรกๆ จึงไม่พลาดที่จะเก็บภาพมาทำพรีวิวเพื่อเป็นข้อมูลให้แก่ทุกท่าน หากพร้อมแล้วไปติดตามกันเลยครับ
สำหรับ OnePlus 7 Pro เรียกว่ามีการปรับโฉมใหม่หมดจดเริ่มตั้งแต่หน้าจอแสดงผลที่เปลี่ยนไปใช้จอไร้ขอบไร้รอยบากบนขนาดใหญ่เต็มตาที่ 6.67 นิ้ว พร้อมขอบตัวเครื่องที่มีความโค้งมนทั้งสี่ด้าน โดยทาง OnePlus เรียกหน้าจอแบบใหม่ว่า Fluid AMOLED โดยเป็นหน้าจอที่มีการพัฒนาโดยยึดพื้นฐานมาจากแพนแนลจอแบบ AMOLED ที่ใช้กันอยู่บน OnePlus รุ่นปัจจุบัน แต่เพิ่มความละเอียดของหน้าจอให้มากขึ้นเป็นระดับ QHD+ พร้อมความหนาแน่นพิกเซลสูงถึง 516 PPI และค่า Contrast Ratio ที่ 100,000:1 รวมทั้งยังรองรับเทคโนโลยีการแสดงผลแบบ HDR10+ ซึ่งช่วยให้การแสดงสีสัน และคอนทราสจากคอนเทนต์ที่รองรับได้ดีมากยิ่งขึ้น
ด้วยการเปลี่ยนแปลงทางด้านหน้าจอแสดงผลครั้งใหญ่นี้เองทำให้ OnePlus 7 Pro ได้รับการตัดเกรดคุณภาพหน้าจอจาก DisplayMate ผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบจอระดับโลก ให้อยู่ในระดับสูงสุดที่ A+ ซึ่งทาง DisplayMate ให้ความเห็นว่า หน้าจอของ OnePlus 7 Pro มีความโดดเด่นในเรื่องของการแสดงสีสันได้อย่างเที่ยงตรง รวมถึงค่า Contrast ที่สูง และความสามารถในเรื่องโหมดของสีสันที่ผู้ใช้สามารถเลือกปรับได้อย่างหลากหลาย
และที่สำคัญหน้าจอของ OnePlus 7 Pro ยังเป็นรุ่นแรกของค่ายที่มาพร้อมกับค่า Refresh Rate ที่ระดับ 90Hz ซึ่งด้วยค่า Refresh Rate ที่เพิ่มมากขึ้นนี้เองช่วยให้การทัช หรือการสัมผัสต่างๆ จะดูสมูธ และลื่นไหลมากขึ้นกว่าสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไปที่มักจะมีค่า Refresh Rate ของหน้าจออยู่ที่ระดับ 60Hz เท่านั้น
ที่ด้านบนของหน้าจอมีการซ่อนเซ็นเซอร์ต่างๆ เอาไว้อย่างแนบเนียน พร้อมกับลำโพงสนทนาที่มีความยาวเป็นพิเศษเนื่องจากจะถูกใช้เป็นลำโพงตัวที่สองสำหรับช่วยขับเสียงเพิ่มเติมจากลำโพงตัวหลักที่อยู่ด้านล่างนั่นเองครับ
ด้านกล้องหน้าเซลฟี่ถูกย้ายไปซ่อนเอาไว้ในกลไกกล้องเลื่อนได้แบบ Pop-up Camera เหมือนกับมือถือหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน โดยทาง OnePlus ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กลไกกล้องหน้าของ OnePlus 7 Pro รองรับการใช้งานได้สูงถึง 300,000 ครั้ง ซึ่งเมื่อคำนวนออกมาเป็นตัวเลขแล้ว หากเราเลื่อนกล้องหน้าถ่ายภาพเซลฟี่วันละ 150 ครั้ง ก็จะใช้ได้นานถึง 5.5 ปีเลยทีเดียว นอกจากนี้ กลไกกล้องหน้าเลื่อนได้ยังมีกลไกป้องกันความปลอดภัย หากเครื่องตกก็จะทำการพับเก็บให้อัตโนมัติ อีกทั้ง ยังกลไกช่วยป้องกันฝุ่นติดรอบกล้องหน้าอีกด้วยครับ
ในส่วนของตัวกล้องหน้าเซลฟี่ มาพร้อมกับความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 โดยใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX471 ซึ่งจากที่ลองนำไปทดสอบถ่ายภาพก็พบว่า สามารถทำได้ค่อนข้างดีในเรื่องของสีสัน และการตัดขอบในโหมดหน้าชัดหลังเบลอ แต่จะมีในบางช็อตเช่นการถ่ายภาพย้อนแสงที่รายละเอียดบางส่วนที่อยู่ด้านหลังจะขาดหายไปบ้างแม้ว่าจะเปิดโหมด HDR แล้ว แต่เนื่องจากเครื่องที่ทีมงานได้รับมายังคงเป็นเวอร์ชันทดสอบ ซึ่งทาง OnePlus จะมีการปรับปรุงแก้ไขซอฟท์แวร์กล้องอีกครั้งในเครื่องวางจำหน่ายจริงครับ
ขยับมาดูที่ด้านล่างของตัวเครื่องกันบ้าง โดยขอบตัวเครื่องยังคงมีความบางเฉียบเหมือนกับด้านบน พร้อมปุ่มควบคุมแบบสัมผัสบนหน้าจอ ซึ่งเราสามารถปรับไปใช้การสัมผัสด้วยรูปแบบ Gesture ได้ในหน้าการตั้งค่า ซึ่งจะเป็นการซ่อนปุ่มเอาไว้ด้านล่าง และใช้นิ้วในการลากเพื่อสั่งการแทน
ด้านล่างของหน้าจอยังมีการฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้ด้านใต้คล้ายกับรุ่น OnePlus 6T แต่ทาง OnePlus ระบุว่า ตัวเซ็นเซอร์มีการปรับปรุงใหม่ช่วยให้ปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 0.21 วินาทีเท่านั้น ซึ่งหากเทียบกับสแกนนิ้วใต้จอของ OnePlus 6T แล้ว ถือว่าเร็วกกว่าราว 38% ด้วยกัน
ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะติดตั้งปุ่มปรับระดับเสียงเอาไว้
ส่วนที่ด้านหลังของตัวเครื่องมาพร้อมกับปุ่ม Alert Slider สำหรับเปิด-ปิด เสียงแจ้งเตือนแบบเร่งด่วน และปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ
ที่ด้านบนของตัวเครื่องจะเป็นพื้นที่สำหรับกลไกกล้องหน้าแบบสไลด์ พร้อมกับติดตั้งไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวนเอาไว้
ที่ด้านล่างของตัวเครื่องประกอบไปด้วย ถาดใส่ซิมการ์ด, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C, ไมโครโฟนสำหรับสนทนา และลำโพงเสียงหลัก ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีลำโพงแบบคู่ หรือ Stereo Speakers ทำให้ถ่ายทอดเสียงได้ดีกว่าเดิม นอกจากนี้ ลำโพงของ OnePlus 7 Pro ยังมีระบบเสียง Dolby Atmos ซึ่งเป็นระบบเสียงแบบเดียวกันกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์อีกด้วย
พลิกมาดูที่ด้านหลังของตัวเครื่องกันบ้าง โดยฝาหลังของ OnePlus 7 Pro ถูกขึ้นรูปด้วยกระจก Gorilla Glass แบบขอบโค้งที่โอบรับเข้ากับอุ้งมือผู้ใช้งานพอดิบพอดี โดยสีที่ทีมงานได้รับมาทดสอบคือสี Nebula Blue ซึ่งจะมีความแตกต่างกับ OnePlus 7 Pro สีอื่นๆ เนื่องจากผิวสัมผัสจะเป็นแบบด้าน ขณะที่สีอื่นๆ ได้แก่ สีทอง Almond* (ยังไม่เข้าไทย) และสีดำ Mirror Grey จะมีผิวสัมผัสแบบเงาสะท้อนเหมือนกับกระจก
ที่ด้านบนติดตั้งชุดกล้องหลัง 3 ตัว (Triple Camera) ซึ่งถือว่าเป็นมือถือ OnePlus รุ่นแรกที่ได้ใช้ระบบกล้องแบบนี้เลยทีเดียว โดยกล้องแต่ละตัวมีรายละเอียดดังนี้
- กล้องตัวหลัก เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX586 ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, โครงสร้าง 7 ชิ้นเลนส์, รูรับแสงกว้าง f/1.6, ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS เม็ดพิกเซล 0.8 ไมครอน (มีเทคโนโลยี 4-in-1 สำหรับรวมเม็ดพิกเซล 1.6 ไมครอนเพื่อช่วยรับแสง แต่จะถ่ายภาพบนความละเอียด 12 ล้านพิกเซล)
- กล้องเลนส์มุมกว้าง Ultra Wide Angle ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2 องศาในการรับภาพกว้าง 117 องศา
- กล้องเลนส์ซูม Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้าง f/2.4, ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS, เม็ดพิเซลขนาด 1.0 ไมครอน
- ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ PDAF, LAF และ CAF
สำหรับภาพที่ได้จากกล้องของ OnePlus 7 Pro ก็ถือว่าค่อนข้างน่าประทับใจ โดยมีจุดเด่นในเรื่องของสีสันที่ค่อนข้างตรง และ Dynamic Range ที่ค่อนข้างกว้าง ซึ่งการที่ทาง OnePlus เพิ่มเลนส์ Ultra Wide มาให้นั้นถือว่าตอบโจทย์มากเลยทีเดียว
ส่วนไฟล์ภาพของ OnePlus 7 Pro ก็ถือว่าค่อนข้างดี ตอบโจทย์การนำไปปรับแต่งต่อในโปรแกรมอื่นๆ ภายหลัง เนื่องจากสีของกล้อง OnePlus 7 Pro จะค่อนข้าง Flat ไม่หนักไปทางใดทางหนึ่ง
ข้ามมาที่เรื่องประสิทธิภาพการทำงานกันสักเล็กน้อย โดย OnePlus 7 Pro เลือกใช้ขุมพลังตัวล่าสุดอย่าง Snapdragon 855 ประกบคู่กับหน่วยความจำ RAM สูงสุด 12GB พร้อมหน่วยความจำภายในแบบ UFS 3.0 ที่อ่านเขียนข้อมูลได้เร็วกกว่าเดิมถึง 79% นอกจากนี้ ยังมีระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบ 10 เลเยอร์ภายในตัว เพื่อช่วยถ่ายเทความร้อนออกจากตัวเครื่องให้เร็วขึ้นเมื่อมีการประมวลผลหนักๆ ซึ่งจากที่ลองนำไปทดสอบการประมวลผลโดยรวมด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu ก็พบว่าสามารถทำคะแนนได้สูงที่ 363602 คะแนน
นอกจากนี้ OnePlus 7 Pro ยังมาพร้อมกับระบบชาร์จเร็วแบบ Warp Charge ที่จ่ายไฟได้สูงสุด 30W โดยเป็นระบบเดียวกันกับที่ใช้บน OnePlus 6T McLaren Edition นั่นเอง ซึ่งจะสามารถชาร์จแบตเตอรี่0kd 0-50% ได้ในเวลาราว 20 นาที
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับพรีวิวแบบคร่าวๆ ของ OnePlus 7 Pro โดยในขณะนี้ทาง OnePlus ได้เปิดราคาวางจำหน่าย OnePlus 7 Pro อย่างเป็นทางการในไทยแล้วเริ่มต้นที่ 24,990 บาท สามารถหาซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2562 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 23/5/2562
