เปรียบเทียบ iPhone 11 Pro Max (ไอโฟน 11) กับ Galaxy Note10+, Xperia 1, Huawei P30 Pro และ OnePlus 7 Pro เรือธงรุ่นไหนใช่คุณ มาดูกัน
iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max ได้เปิดตัวออกมาเรียบร้อยแล้วเมื่อคืนนี้ ทำให้ตอนนี้มีสมาร์ทโฟนระดับเรือธงไฮเอนด์เพิ่มเข้ามาในแค็ทตาล็อกปี 2019 อีก 3 รุ่น ช่วงนี้จึงเป็นจังหวะเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเรือธงเครื่องใหม่อยู่เพราะมีตัวเลือกค่อนข้างเยอะ แต่หลายคนอาจจะลังเล ไม่แน่ใจว่าจะเลือกซื้อรุ่นไหนกันแน่ ในโอกาสนี้เราจึงนำ iPhone 11 Pro Max รุ่นท็อป มาเปรียบเทียบสเปกกับเรือธงชั้นนำของฝั่ง Android ในปัจจุบัน ได้แก่ Samsung Galaxy Note10+, Sony Xperia 1, Huawei P30 Pro และ OnePlus 7 Pro ให้เห็นจุดเด่นของแต่ละรุ่นชัดๆ และตัดสินใจเลือกรุ่นที่เหมาะกับตัวเองได้ง่ายขึ้นครับ
ก่อนอื่นต้องชี้แจงว่า การเปรียบเทียบสเปกในครั้งนี้ ไม่ได้ต้องการตัดสินว่าสมาร์ทโฟนรุ่นไหนดีกว่ากัน แต่เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นข้อแตกต่าง เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกสมาร์ทโฟนที่เหมาะกับสไตล์การใช้งานของท่านผู้อ่านเท่านั้นนะครับ
ด้านการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน
สมาร์ทโฟนเรือธงทั้ง 5 รุ่นข้างต้นล้วนมีชิปเซ็ตประมวลผลที่อยู่ในคลาสเดียวกัน แต่หากวัดกันด้วยค่า benchmark ชิปเซ็ต A13 ของ iPhone 11 Pro Max น่าจะทำได้ดีกว่าอีก 4 รุ่นที่เหลือพอสมควร เพราะชิปเซ็ต Apple A Series มีพลังการประมวลผลทั้ง CPU และ GPU สูงกว่าชิปเซ็ตฝั่ง Android มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว อย่างไรก็ตาม แค่พลังของชิปเซ็ตอย่างเดียวไม่อาจตัดสินประสิทธิภาพทั้งหมดของสมาร์ทโฟนได้ จำเป็นต้องพิจารณาส่วนอื่นๆ ประกอบเช่น RAM และประสิทธิภาพการจัดการทรัพยากรของตัว OS หากมองในแง่ของการใช้งานจริง สมาร์ทโฟนเรือธงทั้ง 5 รุ่นต่างก็มีการทำงานที่ลื่นไหล และตอบสนองได้รวดเร็วทันใจอยู่แล้ว ความเร็วอาจจะแตกต่างกันเพียงระดับวินาที หรือมิลลิวินาที ซึ่งแทบจะไม่รู้ถึงความแตกต่างระหว่างใช้งาน ในส่วนของการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน จึงถือว่าตอบสนองได้ดีสูสีกันทุกรุ่นครับ
ด้านความบันเทิงทั่วไป
เรือธงทั้ง 5 รุ่นมีสเปกที่รองรับการฟังเพลง และการดูวิดีโอได้หายห่วงอยู่แล้ว ดังนั้นสิ่งที่เราจะพิจารณากันในตอนนี้คือฟีเจอร์เสริมต่างๆ เช่น หน้าจอแสดงผล, ระบบเสียง และอื่นๆ
สำหรับรุ่นที่โดดเด่นด้านการแสดงผลที่สุด จะเป็น Samsung Galaxy Note10+ และ Xperia 1 โดย Samsung Galaxy Note10+ มีหน้าจอขนาดใหญ่ที่สุดคือ 6.8 นิ้ว และเป็นจอ Dynamic OLED เทคโนโลยีล่าสุดของ Samsung ที่ให้สีสันสดใสและแม่นยำกว่าจอ OLED ธรรมดา ในขณะที่ Xperia 1 มีจุดเด่นอยู่ที่ความละเอียดของหน้าจอที่สูงถึง 4K ซึ่งสูงที่สุดในทุกรุ่น และสูงที่สุดในวงการ ณ ขณะนี้ แต่หากมองในแง่การใช้งานจริง ความละเอียดระดับ 4K ค่อนข้างจะเกินความจำเป็น เพราะหน้าจอของสมาร์ทโฟนนั้นเล็กเกินกว่าจะแยกความแตกต่างระหว่าง Full HD+ และ UHD 4K ได้ด้วยตาเปล่า อีกทั้งการแสดงผลที่ความละเอียด 4K ยังเปลืองแบตเตอรี่อีกด้วย Samsung Galaxy Note10+ จึงน่าเป็นสมาร์ทโฟนที่เหมาะสำหรับการดูภาพยนตร์ที่สุดใน 5 รุ่นข้างต้น
ในส่วนของระบบเสียงภายนอก iPhone 11 Pro Maxมีเทคโนโลยีเสียงรอบทิศทางสำหรับลำโพงภายนอก พร้อมด้วยเอ็ฟเฟ็กต์เสียง Dolby Atmos ในขณะที่ Samsung Galaxy Note10+ มีลำโพงสเตอริโอที่ปรับจูนโดย AKG และมี Dolby Atmos เช่นกัน จึงดูโดดเด่นกว่าอีก 3 รุ่นที่เหลือ แต่คุณภาพของเสียง และความดัง จำเป็นต้องทดสอบจากตัวเครื่องจริง จึงแนะนำว่าควรทดลองฟังด้วยตัวเองที่ศูนย์บริการ หรือที่ช็อปใกล้บ้านดีกว่า ว่าจะถูกใจระบบเสียงของรุ่นไหนครับ
ด้านการเล่นเกม
เมื่อพูดถึงประสิทธิภาพในการเล่นเกม สมาร์ทโฟนเรือธงทั้ง 5 รุ่นมีสเปกระดับท็อปที่รองรับเกมส่วนใหญ่ในปัจจุบันได้ลื่นไหลอยู่แล้ว ในที่นี้เราจึงมาพิจารณาในส่วนฟีเจอร์เสริมอื่นๆ เช่น ฟังก์ชันของ Game mode, คุณภาพเสียง และการแสดงผล ซึ่งสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจเป็นพิเศษ คือ iPhone 11 Pro Max และ Samsung Galaxy Note10+ โดยไอโฟน 11 นั้นมีพลังการประมวลผลของชิปเซ็ตที่สูงมาก ใครที่เคยเล่นเกมบน iPhone มาก่อนจะทราบดีว่าลื่นกว่าสมาร์ทโฟน Android แม้จะ RAM น้อยกว่าก็ตาม ส่วน Samsung Galaxy Note10+ มี Game Launcher ฟีเจอร์สนับสนุนการเล่นเกมที่มีฟังก์ชันครบถ้วนและเสถียร ทั้งช่วยปิดกั้นการแจ้งเตือน, จับภาพสกรีนช็อตอย่างง่ายดายและรวดเร็ว, อัดวิดีโอการเล่น, เก็บสถิติระยะเวลาการเล่นอัตโนมัติ และยังสามารถสตรีมเกมจาก PC มาเล่นบน Samsung Galaxy Note10+ ได้ด้วย เรียกได้ว่าเป็น Game Machine ที่ครบเครื่องทีเดียว
อีกเรื่องหนึ่งที่ควรนำมาพิจารณาด้วยคือแอปพลิเคชันสโตร์ โดย iPhone 11 Pro Max มี App Store ที่มีเกม exclusive เฉพาะ App Store ค่อนข้างมาก และกำลังจะมีบริการ Apple Arcade ที่ทาง Apple ได้จับมือกับผู้พัฒนาเกมชั้นนำให้มาพัฒนาเกมคุณภาพสำหรับบริการนี้ และจะมีเกมใหม่ๆ มาให้เล่นทุกเดือน โดยมีค่าบริการรายเดือนเล็กน้อย แต่ทั้งนี้ Samsung Galaxy Note10+ ก็มีเกม exclusive บน Galaxy Store เช่นกัน เช่น Fortnite แต่ไม่มากเท่า App Store ความพิเศษของ Galaxy Store ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสิทธิพิเศษสำหรับเกมดังๆ เช่นดาวน์โหลดผ่าน Galaxy Store เพื่อรับไอเท็มพิเศษ หรือได้สิทธิ์เข้าเล่นก่อนใคร เป็นต้น
ด้านการถ่ายภาพ
การถ่ายภาพเป็นคุณสมบัติที่สมาร์ทโฟนเรือธงทั้ง 5 รุ่นยกเป็นจุดขาย แต่จริงๆ แล้วการจะตัดสินว่ารุ่นไหนถ่ายภาพได้ดีกว่าเป็นเรื่องยาก เพราะแต่ละรุ่นมีองค์ประกอบของการถ่ายภาพที่ต่างกัน ตั้งแต่ระบบประมวลผลภาพ, ฟีเจอร์, สเปกของตัวกล้อง, การทำงานของแอปพลิเคชัน ไปจนถึงระบบ AI เบื้องหลัง ภาพถ่ายจากกล้องของแต่ละรุ่นจึงมีสไตล์ที่ต่างกัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้จะถูกใจสไตล์ไหนมากกว่า
อย่างไรก็ดี หากวัดกันที่สเปกและฟีเจอร์ รุ่นที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็น Samsung Galaxy Note10+ และ Huawei P30 Pro โดยทั้ง 2 รุ่นมีกล้องหลัง 4 ตัวที่ครบทั้งเลนส์ ultra wide, telephoto และ depth sensor ทำให้รองรับการถ่ายภาพนิ่งได้ทุกมุมมอง และเบลอฉากหลังได้อย่างแนบเนียนเป็นธรรมชาติ พร้อมด้วย Night Mode สำหรับถ่ายภาพกลางคืน และลูกเล่นอื่นๆ เช่นการถ่ายวิดีโอแบบโบเก้ของ Galaxy Note10+ และซูม 50 เท่าใน Huawei P30 Pro
ทั้งนี้ iPhone 11 Pro Max ก็มีลูกเล่นการถ่าย และการตัดต่อวิดีโอที่น่าสนใจเช่นกัน โดยสามารถถ่ายวิดีโอได้พร้อมกันถึง 4 มุมมอง ได้แก่มุมปกติ, มุม ultra wide 2 ระยะ และมุมซูม 2 เท่า โดยสามารถปรับแต่ง และตัดต่อผ่านแอปพลิเคชันในเครื่องได้ทันที แต่ในการใช้งานจริงจะทำได้ดีหรือไม่ ต้องรอทดสอบกันอีกครั้งครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- เปิดตัว iPhone 11 ไอโฟน 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max
- สรุปราคา iPhone 11 ไอโฟน 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max ในต่างประเทศ
- สรุปฟีเจอร์เด่น iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max
- เทียบสเปก iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max
- เทียบสเปก iPhone 11, iPhone 11 Pro/Pro Max กับ iPhone XR, iPhone XS/XS Max
- เทียบสเปก iPone 11 Pro Max และ Samsung Galaxy Note10+
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 11/9/2562