หน้าแรกมือถือ > รวมข่าวมือถือ > หน้าบทความ ข่าวมือถือ
   
Date : 12/6/2561

เปรียบเทียบภาพถ่ายระหว่าง OPPO R15 Pro และ iPhone X ในโหมดถ่ายภาพบุคคล (Portrait Mode) แตกต่างกันแค่ไหน ใครทำได้ดีกว่า มาดูกัน!

 

เริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ OPPO R15 Pro มือถือในตระกูล R-Series รุ่นล่าสุด ที่นอกเหนือจะมาพร้อมกับจุดเด่นด้านดีไซน์หน้าจอไร้ขอบ และสเปกแบบครบเครื่อง กล้องถ่ายภาพของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เนื่องจากมาพร้อมกับระบบกล้องหลังคู่ (Dual Camera) และโหมดถ่ายภาพบุคคลโดยเฉพาะ หรือ Portrait Mode ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้อย่างง่ายดาย รวมทั้งยังมีฟังก์ชันการจัดแสงแบบ 3 มิติ หรือ Portrait Lighting ให้เลือกใช้งานด้วย

ดังนั้น ในวันนี้ทางทีมงานจึงได้นำ OPPO R15 Pro ไปถ่ายภาพบุคคลเทียบกับมือถือตัวท็อปอย่าง iPhone X กันดูซักหน่อย เนื่องจากมือถือรุ่นดังกล่าวมีความโดดเด่นด้านกล้องถ่ายภาพด้วยกล้องหลังคู่ และมีโหมดถ่ายภาพบุคคลโดยเฉพาะคล้ายกับ OPPO R15 Pro นั่นเอง สำหรับการทดสอบครั้งนี้ทางทีมงานจะตั้งค่ากล้องทุกอย่างเป็น Auto พร้อมเลือกรูปแบบการจัดแสงในโหมดถ่ายภาพบุคคลเป็นแสงธรรมชาติ (Natural Light) ซึ่งเป็นค่า Default ของทั้งสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่น โดยผลที่ได้จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เราไปติดตามกันได้เลยครับ (สามารถกดที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ได้)

 

คุณสมบัติกล้องหลัง OPPO R15 Pro และ iPhone X

 

  • OPPO R15 Pro - กล้องตัวที่หนึ่ง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/1.7 และกล้องตัวที่สองความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/1.7

 

  • iPhone X - กล้องตัวที่หนึ่งแบบ Wide-Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/1.8 และกล้องตัวที่สองแบบ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.4


เริ่มต้นที่ซีนแรกกับการถ่าย Portrait แบบครึ่งตัวกันก่อน โดยกล้องของ OPPO R15 Pro และ iPhone X มีความแตกต่างกันในเรื่องของสีสันโดย iPhone X จะให้โทนสีของภาพที่เป็นธรรมชาติ ตรงกับสภาพแสง ณ ขณะนั้น ส่วน OPPO R15 Pro จะให้ภาพไปในโทนที่มีความสว่างสดใส พร้อมกับมีการปรับแสง และสีผิวของตัวแบบให้ดูมีความเรียบเนียนดูเป็นธรรมชาติ ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องนำไปปรับแต่งแสงในแอปพลิเคชันอื่นเพิ่มเติมแต่อย่างใด

 

ลองถ่ายภาพที่เน้นรายละเอียดใบหน้าของตัวแบบกันบ้าง จะเห็นว่ากล้องคู่ของ iPhone X และ OPPO R15 Pro มีความแตกต่างในเรื่องของการตัดขอบ และการละลายฉากหลัง ซึ่งหากมองจากภาพด้านต้นจะเห็นได้ว่า iPhone X ดูจะมีระดับการเบลอฉากหลังที่มากกว่า OPPO R15 Pro 

 

อย่างไรก็ดี ในส่วนของการตัดขอบระหว่างตัวแบบ และฉากหลังนั้น เป็นทางฝั่งของ OPPO R15 Pro ที่ทำได้ค่อนข้างดีกว่า ซึ่งจะสังเกตเห็นได้จากการตัดขอบของเส้นผมที่ OPPO R15 Pro สามารถแยกแยะรายละเอียดได้ค่อนข้างแม่นยำ ทำให้เส้นผมไม่ถูกเบลอไปกับฉากหลัง ต่างจาก iPhone X ที่มีการเบลอปอยผมบางส่วนของตัวแบบไปด้วย 

 

มาต่อที่การถ่ายภาพแบบย้อนแสงกันดูบ้าง ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งซีนที่ค่อนข้างท้าทายสำหรับกล้องสมาร์ทโฟน เนื่องจากหากกล้องวัดแสงออกมาไม่ดี ก็อาจทำให้ภาพเกิดอาการมืดจนเกินไปได้ แต่จากภาพข้างต้นจะเห็นได้ว่า ทั้งสองรุ่นถือว่าสามารถจัดการแสงได้ดี ด้วยใบหน้าของตัวแบบที่ไม่มืดจนมองไม่เห็นรายละเอียด หรือสว่างมากเกินไปจนสูญเสียรายละเอียดบางส่วน แต่ภาพที่ได้จาก OPPO R15 Pro จะมีความสว่างกว่า iPhone X พร้อมกับมีการเร่ง Contrast ของสีให้ดูมีความสดมากยิ่งขึ้น 

 

นอกจากนี้ โหมดการถ่ายภาพบุคคลของ OPPO R15 Pro ยังมีจุดเด่นในเรื่องของการปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ บนใบหน้าตัวแบบเมื่อเทียบกับ iPhone X ซึ่งจะสังเกตเห็นได้ว่า โหมดถ่ายภาพบุคคลของ OPPO R15 Pro มีการเกลี่ยสีผิวให้มีความเรียบเนียน พร้อมกับกลบรอยสิว จุดด่างดำบนใบหน้า และเพิ่มเอฟเฟ็กต์ของดวงตาให้มีความแวววาว คล้ายกับถ่ายภาพด้วยโหมด Beauty ซึ่งน่าจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการภาพที่จบหลังกล้อง เพื่อนำไปแชร์ต่อให้กับเพื่อนๆ บนโลกโซเชียลได้ทันที

 

อีกทั้ง โหมด Portrait ของ OPPO R15 Pro ยังมีจุดเด่นที่ได้เปรียบกว่า iPhone X อยู่เล็กน้อย นั่นก็คือ ฟีเจอร์การซูมของกล้องถ่ายภาพให้เข้าไปใกล้ตัวแบบ หรือฟังก์ชัน Close-Up ซึ่งเหมาะกับการบันทึกภาพเพื่อถ่ายทอดรายละเอียดบนใบหน้า โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องยื่นกล้องเข้าไปใกล้ตัวแบบแต่อย่างใด ต่างจากโหมด Portrait ของ iPhone X ที่ถ่ายได้เพียงแค่ระยะเดียวเท่านั้น

 

สรุปการถ่ายภาพเปรียบเทียบระหว่าง OPPO R15 Pro และ iPhone X

จากการทดสอบการถ่ายภาพเปรียบเทียบในโหมดบุคคล (Portrait Mode) ของทั้งสองรุ่น จะเห็นได้ว่า OPPO R15 Pro มีจุดเด่นในเรื่องของการตัดขอบที่ค่อนข้างแม่นยำ ซึ่งจะเห็นได้จากภาพตัวอย่างด้านต้นที่ OPPO R15 Pro ไม่ค่อยมีการเบลอเส้นผมรวมไปกับฉากหลัง นอกจากนี้ OPPO R15 Pro ยังมีจุดเด่นในเรื่องของโทนสีของภาพที่มีความสว่างสดใส พร้อมกับมีการเกลี่ยสีผิวของตัวแบบให้มีความเรียบเนียน รวมไปถึงการลบริ้วรอยต่างๆ ของใบหน้า ในขณะที่ยังรักษารายละเอียด และแสงเงาที่ตกกระทบบนใบหน้าตัวแบบเอาไว้ได้ค่อนข้างครบถ้วน ทำให้ใบหน้าดูมีมิติ และไม่แบน อีกทั้ง ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันการปรับระยะแบบ Close-up ที่ช่วยซูมภาพเข้าไปใกล้ตัวแบบมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ถ่ายไม่จำเป็นต้องขยับกล้องเข้าไปเองแต่อย่างใด

ส่วนทางด้าน iPhone X แม้ว่าจะมีบางซีนที่ยังตัดขอบระหว่างตัวแบบ และฉากหลังผิดพลาดไปบ้าง ซึ่งสังเกตได้จากการเบลอปอยผมบางส่วนของตัวแบบไปกับฉากหลัง ทำให้ภาพถ่าย Portrait อาจดูไม่เนียนตาเท่าที่ควร แต่ก็มาพร้อมกับจุดเด่นในเรื่องของการเก็บรายละเอียดภาพ รวมไปถึงการถ่ายทอดโทนสีที่เป็นธรรมชาติ และให้สีสันที่ตรงกับสภาพแสง ณ ขณะนั้น ซึ่งน่าจะเหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการภาพที่มีความสมจริง

อย่างไรก็ตาม ความสวยของภาพถ่ายอาจจะไม่สามารถตัดสินได้ด้วยข้อมูลหรือการทดสอบใดๆ เพราะขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละท่านด้วยเช่นเดียวกัน จุดประสงค์ในการเทียบภาพถ่ายให้ชมกันในครั้งนี้ก็เพื่อให้ทุกท่านได้รับทราบ และเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจกันว่า สมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นในขณะนี้มีกล้องถ่ายภาพที่ถ่ายออกมาในเบื้องต้นแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ภาพจากรุ่นใดสวยงามถูกใจผู้ใช้มากที่สุดทุกท่านคงต้องตัดสินกันด้วยตัวเอง ก็หวังว่าบทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยของทุกท่านได้ในระดับหนึ่ง สำหรับวันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter ต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ

 

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com


วันที่ : 12/6/2561

Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy