ทดสอบถ่ายภาพ Portrait ด้วย OPPO R15 Pro มือถือกล้องคู่ตัวท็อปรุ่นล่าสุด จะเป็นอย่างไร ทำได้ดีแค่ไหน มาดูกัน!

สำหรับ OPPO R15 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นท็อปใหม่ล่าสุดจาก OPPO ที่กำลังวางจำหน่ายในบ้านเรา นอกเหนือจากจะมีจุดเด่นในเรื่องของหน้าจอไร้ขอบ พร้อมบอดี้แบบกระจกโค้งแบบ 3 มิติ ที่ได้รับการออกแบบร่วมกับดีไซน์เนอร์ชื่อดังระดับโลกอย่าง Karim Rachid แล้ว OPPO R15 Pro ยังมาพร้อมกับความโดดเด่นด้านการถ่ายภาพ ด้วยกล้องหลังคู่ความละเอียด 20 + 16 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดถ่ายภาพ AI Portrait ซึ่งเป็นโหมดถ่ายภาพที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อถ่ายภาพบุคค ด้วยการละลายฉากหลังเพื่อเสริมให้ตัวแบบดูมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

และด้วยความน่าสนใจของกล้อง OPPO R15 Pro นี่เอง วันนี้ทางทีมงานจึงลองนำ OPPO R15 Pro ไปถ่ายภาพแนว Portrait กันดูสักหน่อย เพื่อทดสอบว่าสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวจะทำได้ดีเพียงไหน เหมาะกับการถ่ายภาพบุคคลหรือไม่ เราไปดูผลงานที่ได้จากกล้องหลังคู่ของ OPPO R15 Pro กันเลยดีกว่าครับ

*หมายเหตุ : ภาพทุกภาพเป็นภาพจากกล้องของ OPPO R15 Pro โดยไม่ผ่านโปรแกรมตกแต่งภาพใดๆ

สำหรับสถานที่ที่ทางทีมงานเลือกไปถ่ายในวันนี้คือ บริเวณทางเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรี กับรถด่วนพิเศษ BRT ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของกรุงเทพฯ ที่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ ด้วยโครงขนาดใหญ่คล้ายกับงาช้างที่ด้านบน และยังเป็นสถานที่เปิดกว้าง ทำให้มีแสงแดดจากธรรมชาติเหมาะกับการถ่ายภาพ โดยช็อตนี้ทีมงานลองเปิดโหมด AI Portrait แล้วยกขึ้นมาถ่ายภาพทันที ก็พบว่า OPPO R15 Pro จับโฟกัสตัวแบบได้ค่อนข้างรวดเร็ว พร้อมกับละลายฉากหลังให้แบบอัตโนมัติ

ด้านการจัดการแสงของ OPPO R15 Pro ก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีพอสมควร ซึ่งจะสังเกตได้จากการเก็บรายละเอียดของแสงเงาที่ตกกระทบบนใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูมีมิติ และไม่แบน นอกจากนี้ ยังรักษารายละเอียดแสงเงาบนตัวแบบออกมาได้ค่อนข้างครบถ้วนเลยทีเดียว

กล้องของ OPPO R15 Pro ยังมีความสามารถในการตรวจจับระยะของ Object และตัวแบบได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะสังเกตได้จากภาพด้านบน ที่กล้องสามารถทำการเบลอฉากหลังแบบไล่ระดับได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยที่ตัวแบบ และใบไม้ด้านหน้าไม่ถูกทำการเบลอไปกับฉากหลังด้วย 

ลองทดสอบความสามารถด้านการตัดขอบกันดูสักหน่อย ซึ่งก็พบว่า OPPO R15 Pro สามารถตัดขอบได้ค่อนเนียนตาเลยทีเดียว และหากลองสังเกตให้ดี จะเห็นได้ว่า OPPO R15 Pro ยังสามารถเบลอช่องว่างระหว่างแขนได้อย่างแม่นยำ ในขณะที่ยังเก็บรายละเอียดเส้นผมนางแบบเอาไว้ได้

เปลี่ยนมาถ่ายภาพแบบย้อนแสงกันดูบ้าง ซึ่งในซีนนี้กล้องของ OPPO R15 Pro มีการเปิดใช้งานฟังก์ชัน HDR (High Dynamic Rage) ให้แบบอัตโนมัติ เพื่อช่วยถ่ายภาพในสถานการณ์ที่มีความแตกต่างของแสงค่อนข้างมาก ส่งผลให้ภาพที่ได้มีความสว่างอยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่มีส่วนไหนมืด หรือสว่างเกินไปจนกลบรายละเอียดส่วนอื่นๆ ของภาพ

อีกหนึ่งฟีเจอร์เด่นของ OPPO R15 Pro ที่เอื้อต่อการถ่ายภาพ Portrait คือ ฟีเจอร์การปรับระยะการการซูมภาพแบบ Close-up เพื่อให้กล้องซูมเข้าไปใกล้ตัวแบบมากยิ่งขึ้น ซึ่งเหมาะกับการถ่ายภาพ Portrait ที่เน้นถ่ายทอดรายละเอียดบนใบหน้าของตัวแบบโดยเฉพาะ

ด้านกล้องหน้าเซลฟี่ของ OPPO R15 Pro แม้จะมาพร้อมกับกล้องเดี่ยว แต่ก็สามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ ด้วยฟีเจอร์ Bokeh Effect ซึ่งจากที่ลองนำไปทดสอบก็พบว่าสามารถตัดขอบได้ค่อนข้างแม่นยำไม่แพ้กล้องหลังเลยทีเดียว

พร้อมทั้งยังมีเทคโนโลยี AI Beauty 2.0 ซึ่งเป็นการนำเอาปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยวิเคราะห์ใบหน้าของผู้ถ่าย เพื่อนำไปปรับแต่งสีผิวให้มีความเรียบเนียน พร้อมเพิ่มเอฟเฟ็กต์ให้ดวงตาเป็นประกาย ดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ กล้องหน้า และกล้องหลังของ OPPO R15 Pro ยังมีฟังก์ชันที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มลูกเล่นสนุกๆ ให้กับภาพถ่ายด้วย นั่นก็คือ AR Stickers หรือการเพิ่มเอฟเฟ็กต์สติกเกอร์ในรูปแบบต่างๆ ลงบนใบหน้าของตัวแบบ เช่น หูน้องแมว หรือหูกระต่าย เป็นต้น

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับการนำ OPPO R15 Pro ไปลองถ่ายภาพคน หรือ Portrait ซึ่งจะเห็นได้ว่า OPPO R15 Pro เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่มีความโดดเด่นด้านการถ่ายภาพบุคคลเป็นอย่างมาก เนื่องจากมาพร้อมกับฟังก์ชันต่างๆ ที่ออกแบบมาสำหรับการถ่ายภาพคนโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น โหมด AI Portrait สำหรับช่วยถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ ที่สามารถตัดขอบระหว่างตัวแบบ และฉากหลังได้ค่อนข้างแม่นยำ แม้ว่าจะมีบางจุดที่อาจจะยังเบลอได้ไม่เนียนตาเท่าที่ควร แต่ก็ถือว่าทำผลงานได้ดีในฐานะของกล้องสมาร์ทโฟน ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ของ OPPO R15 Pro ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยี AI Beauty 2.0 ที่ช่วยปรับแต่งใบหน้าให้มีความเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ และฟังก์ชัน Bokeh Effect สำหรับถ่ายภาพเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอ รวมไปถึงฟังก์ชัน AR Stickers ที่ช่วยเพิ่มลูกเล่นสนุกๆ เพื่อให้ภาพถ่ายมีชีวิตชีวายิ่งกว่าเดิม

นอกเหนือจากฟังก์ชันด้านการถ่ายภาพแล้ว OPPO R15 Pro ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติภายในที่น่าสนใจหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลไร้ขอบแบบ Super Full Screen ขนาด 6.28 นิ้ว พร้อมสัดส่วนในการแสดงผลแบบ 19:9 ทำให้รับชมคอนเทนท์ได้กว้างเต็มตา พร้อมชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 660 AIE ที่มีจุดเด่นด้านความเร็วแรงด้านการประมวลผลของ CPU รวมไปถึงการเล่นเกมยอดฮิตต่างๆ ได้อย่างลื่นไหล เช่น เกม PUBG Mobile หรือ RoV ที่เฟรมเรทระดับ 60fps

สำหรับ OPPO R15 Pro เริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้วในราคา 19,990 บาท โดยมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีม่วง Cosmic Purple และ Ruby Red ซึ่งเป็นสีแดงแบบไล่เฉดสี สะท้อนเล่นกับแสงได้อย่างมีมิติ โดยผู้ที่ซื้อ OPPO R15 Pro จะได้รับ Premium Service หรือสิทธิพิเศษในการเปลี่ยนเครื่องได้ทันที หากตัวเครื่องมีปัญหาอันเกิดมาจากการผลิต ซึ่งสำหรับใครที่สนใจ OPPO R15 Pro ก็สามารถแวะเวียนไปทดลองใช้งานเบื้องต้นได้ที่ OPPO Brand Shop และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านได้ครับ

**บทความนี้เป็นบทความ Advertorial

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

วันที่ : 14/6/2561