เทียบภาพถ่ายเซลฟี่ OPPO R15 Pro / OPPO F7 / iPhone X สมาร์ทโฟนต่างสไตล์แบบข้ามรุ่น ช็อตต่อช็อต จะต่างกันแค่ไหน มาดูกัน!

เรียกได้ว่าหนึ่งในคุณสมบัติที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแบรนด์ต่างๆ ได้ทำการพัฒนามากันอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานด้วยนั่นก็คือ กล้องดิจิทัลด้านหน้าสำหรับถ่ายภาพเซลฟี่ เนื่องจากผู้ใช้ในปัจจุบันหลายต่อหลายคนชื่นชอบการใช้ Social Network บนแพลตฟอร์มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Line, Youtube, Instagram หรือ Twitter ซึ่งแน่นอนว่า กล้องหน้าที่มีความคมชัด ก็ถือเป็นอีกหนึ่งส่วนที่เข้ามาช่วยให้เราถ่ายทอดเรื่องราวของแต่ละวันได้อย่างสนุกมากยิ่งขึ้น

และหากกล่าวถึงสมาร์ทโฟนที่โดดเด่นในด้านการถ่ายภาพเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าคมชัด OPPO ก็ถือเป็นหนึ่งในหลายๆ แบรนด์ที่ผู้ใช้ให้ความสนใจ โดยในล่าสุดก็ได้ส่ง OPPO R15 Pro มาทำตลาดเพิ่มเติม ในวันนี้ทางทีมงานจึงได้นำ OPPO R15 Pro และ OPPO F7 สมาร์ทโฟนเซลฟี่รุ่นใหม่ที่กำลังเป็นที่พูดถึงในขณะนี้มาทำการเปรียบเทียบภาพถ่ายจากกล้องหน้ากับ iPhone X สมาร์ทโฟนเรือธงที่ใครๆ ก็รู้จักกันเป็นอย่างดี เราลองมาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าภาพจากสมาร์ทโฟนรุ่นใดจะถูกใจผู้ใช้มากกว่า ติดตามชมไปพร้อมกันได้เลยค่ะ
 

*คลิกที่ภาพเพื่อรับชมในขนาดใหญ่*

(โหมดปกติ)

เริ่มต้นกันที่การถ่ายเซลฟี่ในโหมดปกติ จะเห็นได้ว่าทางด้านของ OPPO R15 Pro และ F7 เกลี่ยแสงบนใบหน้าได้ค่อนข้างดีกว่า และมีมุมของภาพที่กว้างกว่าทำให้เก็บรายละเอียดของฉากหลังได้มากกว่า ซึ่งมีประโยชน์ในด้านการถ่ายภาพเซลฟี่แบบกลุ่ม โดยในรุ่น R15 Pro ให้โทนสีของภาพที่แลดูเป็นธรรมชาติตรงกับสภาพแสง ณ ขณะนั้น ทั้งตัวแบบ และฉากหลัง พร้อมกับจัดการแสง (White Balance) ได้ดีกว่า ส่วน F7 ดูจะมีการเร่ง Contrast ซึ่งสังเกตได้จากสีเสื้อ และต้นไม้ที่มีความเข้ม ซึ่งส่งผลให้ภาพมีสีสันที่โดดเด่นกว่ารุ่นอื่น ในขณะที่ iPhone X จะให้ภาพไปในโทนสีตรงกับแสง ณ ขณะนั้น โดยไม่มีการปรับแสง หรือสีผิวของตัวแบบแต่อย่างใด ซึ่งท่านใดที่ชอบภาพในโทนสีสว่างสดใส อาจต้องมีการนำไปปรับแต่งในแอปพลิเคชันอื่นเพิ่มเติม 

(การถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ)

มาต่อกันที่การถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ หรือโหมด Portrait พบว่าทั้ง 3 รุ่นสามารถตัดขอบได้ค่อนข้างน่าพอใจ และช่วยเสริมให้ตัวแบบดูมีความโดดเด่นมากขึ้นแต่อาจมีปอยผมเส้นเล็กๆ ที่เบลอไปกันฉากหลัง โดยเฉพาะการตัดขอบของทาง iPhone X ที่มีการเบลอปอยผมจำนวนหนึ่ง ในขณะที่ OPPO R15 Pro สามารถเก็บรายละเอียดไว้ได้มากที่สุดในบรรดาทั้ง 3 รุ่น และ OPPO ทั้งสองรุ่นก็ให้มีโทนสี และแสงคล้ายคลึงกัน ซึ่งแตกต่างไปจาก iPhone X อย่างเห็นได้ชัด 

สำหรับจุดที่ได้เปรียบของ OPPO R15 Pro และ F7 ก็คือการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอพร้อมกับโหมด Beauty ได้พร้อมกัน ซึ่งภาพในข้างต้นเป็นการปรับแบบอัติโนมัติ หรือ AI Beauty นั่นเอง ซึ่งจะเห็นได้ว่าทั้ง 2 รุ่นปรับให้ผิวของตัวแบบมีความเนียน แลดูเป็นธรรมชาติ พร้อมลบรอยสิว และจุดด่างดำเล็กๆ บนใบหน้าด้วยเช่นกัน

(การถ่ายภาพย้อนแสง)

ในซีนสุดท้ายเราขอพาทุกท่านชมภาพจากการถ่ายย้อนแสง โดยที่มีดวงอาทิตย์อยู่ที่ด้านหลังของตัวแบบพอดี จะเห็นได้ว่า iPhone X เก็บรายละเอียดต่างๆ บนใบหน้าของตัวแบบได้ค่อนข้างดี รวมถึงถ่ายทอดสีสันได้ค่อนข้างตรง ส่วน OPPO ทั้งสองรุ่นได้เปรียบเรื่องของความสว่างของใบหน้า ทำให้ไม่จำเป็นต้องนำไปปรับแต่งในแอปพลิเคชันอื่นเพิ่มเติม และเก็บภาพในมุมที่กว้างกว่า รวมถึงมี Dynamic Range ที่กว้างกว่าเล็กน้อย ซึ่งสังเกตได้จากการเก็บรายละเอียดสีสันของท้องฟ้า ซึ่งทาง OPPO R15 Pro ให้แสง และสีตัวแบบที่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติกว่า ในขณะที่ตัวแบบจาก OPPO F7 มีสีหน้าที่ขาวซีดกว่าเล็กน้อย ส่วน iPhone X มีความสว่างของใบหน้าน้อยที่สุด

สำหรับ OPPO R15 Pro และ F7 ยังมาพร้อมกับลูกเล่นที่น่าสนใจอย่าง AR Stickers ที่มีสติกเกอร์ให้เลือกใช้งานหลากหลายรูปแบบ ที่ช่วยเพิ่มความสนุกสนานให้กับการถ่ายภาพเซลฟี่ของผู้ใช้นั่นเอง

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับการเทียบภาพถ่ายเซลฟี่แบบข้ามรุ่น ระหว่าง OPPO R15 Pro / OPPO F7 / iPhone X จะเห็นได้ว่า สมาร์ทโฟน OPPO ทั้ง 2 รุ่นมีจุดเด่นในเรื่องของโหมด AI Beauty ที่สามารถปรับผิวของตัวแบบให้มีความเนียน แลดูเป็นธรรมชาติ ในขณะที่ยังรักษารายละเอียดต่างๆ บนใบหน้าของตัวแบบไว้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้การถ่ายภาพเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอ OPPO R15 Pro และ F7 ก็สามารถตัดขอบตัวแบบได้ค่อนข้างแม่นยำ และเบลอฉากหลังได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ส่วน iPhone X ถึงแม้จะไม่มีโหมด Beauty มาให้ใช้งาน แต่ก็มีจุดเด่นในเรื่องการเก็บรายละเอียดภาพ และโทนสีที่ค่อนข้างแม่นยำ โดยจะเน้นไปที่ความสมจริงของแสง และสีในขณะนั้นเป็นหลัก แต่อาจจะมีการติดโทนเหลืองกว่าปกติเล็กน้อยในบางซีน ซึ่งอาจต้องนำไปปรับโทนสีที่แอปพลิเคชันอื่นเพิ่มเติม เพื่อให้ตรงตามความชอบของผู้ใช้ นอกจากนี้ iPhone X ยังตัดขอบภาพในการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้ไม่ดีเท่าที่ควร จะเห็นได้จากการเบลอผมส่วนนึงของตัวแบบไปด้วยนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ความสวยของภาพถ่ายอาจจะไม่สามารถตัดสินได้ด้วยข้อมูลหรือการทดสอบใดๆ เพราะขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละท่านด้วยเช่นเดียวกัน จุดประสงค์ในการเทียบภาพถ่ายให้ชมกันในครั้งนี้ก็เพื่อให้ทุกท่านได้รับทราบ และเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจกันว่า สมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นในขณะนี้มีกล้องถ่ายภาพที่ถ่ายออกมาในเบื้องต้นแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ภาพจากรุ่นใดสวยงามถูกใจผู้ใช้มากที่สุดทุกท่านคงต้องตัดสินกันด้วยตัวเอง ก็หวังว่าบทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยของทุกท่านได้ในระดับหนึ่ง สำหรับวันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter ต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

วันที่ : 21/5/2561