เรียกได้ว่าแบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนต่างก็ส่งสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ออกมากันอย่างต่อเนื่อง โดยในแต่ละรุ่นก็มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ได้รับการอัปเกรดขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งหนึ่งในคุณสมบัติที่ผู้ใช้ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ก็คือ กล้องถ่ายภาพ สำหรับเก็บภาพเหตุการณ์ในทุกวินาทีที่สำคัญ และโพสต์อัปเดตเรื่องราวลงใน Social Network ต่างๆ ที่ถือเป็นกิจกรรมที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้คนในยุคดิจิทัลเช่นนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งในปัจจุบันก็มีการพัฒนามาเป็นกล้องคู่ (Dual Camera) ที่ล้ำหน้าขึ้น และไม่เพียงแต่ในรุ่นเรือธงเท่านั้น ในรุ่นราคาประหยัดเองก็รองรับฟังก์ชันนี้แล้วเช่นเดียวกัน

และอีกหนึ่งคุณสมบัติที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ การดีไซน์รูปแบบใหม่ที่มีชื่อว่า FullView Display / Full Screen ด้วยหน้าจอขนาดกว้าง และยาวกว่าในอัตราส่วน 18:9 หรือ 19:9 (จากเดิม 16:9) ที่นอกจากจะช่วยเพิ่มความพรีเมียมให้กับตัวเครื่องแล้ว ยังช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกม หรือชมภาพยนตร์ให้เต็มตากว่าเคยอีกด้วย

ในวันนี้ทางทีมงาน Thaimobilecenter ได้ทำการรวบรวมสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกล้องคู่ (Dual Camera) บนการดีไซน์แบบ FullView Display ในช่วงราคาสบายกระเป๋าที่ไม่เกิน 7,000 บาท มาให้ได้ชมกันเพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนสำหรับคอบันเทิงทุกรูปแบบ ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ครอบคลุมทั้งหมด ในราคาที่ไม่แพงมากจนเกินไป ซึ่งจะมีสมาร์ทโฟนรุ่นเด่น จากแบรนด์ใดที่ตรงใจ และโดนใจท่านผู้อ่านบ้างนั้น ติดตามชมไปพร้อมกันได้เลยค่ะ 
 

Samsung Galaxy J6+ ราคา 6,990 บาท

สมาร์ทโฟนน้องใหม่จากตระกูล Galaxy J Series ที่อัปเกรดด้วยกล้องคู่ (Dual Camera) ที่ด้านหลัง พร้อมย้ายตำแหน่งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาไว้ที่ด้านขวาของตัวเครื่อง ฌเยมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจดังนี้

- ตัวเครื่องมีขนาด 161.4x76.9x7.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 178 กรัม
- หน้าจอแสดงผลขนาด 6.0 นิ้ว แบบ Infinity Display ในอัตราส่วน 18.5:9 ความละเอีดยระดับ HD+ (720x1480 พิกเซล)
- ชิปเซ็ตประมวลผล Quad-Core Qualcomm Snapdragon 425 ที่มีความเร็ว 1.4 GHz
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุดที่ขนาด 512GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual Camera) ความละเอียด 13+5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9+F/2.2
- กล้องดิจิทัลด้าหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9
- แบตเตอรี่ความจุ 3300 mAh
- ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) ที่ด้านขวาของตัวเครื่อง
- ระบบสแกนใบหน้า
- รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE 
- รองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM)
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 b/g/n และ Bluetooth 4.2
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ microUSB
- ตัวเลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีเทา และสีแดง

สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Samsung Galaxy J6+

 

Huawei Y9 2019 ราคา 6,990 บาท

Huawei Y9 2019 สมาร์ทโฟนน้องใหม่จาก Huawei ที่มาพร้อมการดีไซน์จอไร้ขอบแบบใหม่กับรอยบากที่ด้านบน ขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 6.5 นิ้ว บนตัวเครื่องเงางามคล้ายกระจก รวมถึงอัปเกรดฟีเจอร์ภายในหลายด้านดังนี้

- ตัวเครื่องมีขนาด 162.4x77.1x8.05 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 173 กรัม
- หน้าจอแสดงผล FullView Display ขนาด 6.5 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9 ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2340 พิกเซล)
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Kirin 710 
- เทคโนโลยี GPU Turbo
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุดที่ขนาด 256GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (AI Dual Camera) ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล  พร้อมไฟแฟลช LED และเทคโนโลยี AI สำหรับแยกซีน และวัตถุต่างๆ กว่า 500 ฉากจาก 22 หมวดหมู่
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าแบบคู่ (AI Dual Camera) ความละเอียด 16+2 ล้านพิกเซล และเทคโนโลยี AI สำหรับแยกซีน และวัตถุต่างๆ 
- แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ซึ่งถูกครอบทับด้วย EMUI 8.2
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE

สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Huawei Y9 2019
รีวิว (Review) Huawei Y9 2019

 

OPPO A7 ราคา 6,990 บาท

OPPO A7 มาพร้อมกับจอไร้ขอบแบบ Waterdrop Screen บนตัวเครื่องสีใหม่อย่าง Glaze Blue และลวดลายเส้นตรงในแนวตั้งที่สวยพรีเมียมมากขึ้น รวมถึงรองรับระบบกล้องคู่ (Dual Camera) และพกแบตมาให้ถึง 4230 mAh ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง ซึ่งมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจดังนี้

- ตัวเครื่องมีขนาด 155.9x75.4x8.1 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 168 กรัม
- หน้าจอแสดงผล Waterdrop Screen ขนาด 6.2 นิ้ว ในอัตราส่วน 19:9 ความละเอียดระดับ HD+ (720x1520 พิกเซล)
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 450
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 506
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุดที่ขนาด 256GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual Camera) ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED โดยรองรับการถ่ายภาพแบบโบเก้ และเทคโนโลยี AI Beauty
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อม AI Beauty 2.1
- แบตเตอรี่ความจุ 4230 mAh
- ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ซึ่งถูกครอบทับด้วย ColorOS 5.2
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- รองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM)
- รองรับการเชื่อมต่อแ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n 

สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ OPPO A7
รีวิว (Review) OPPO A7

 

Vivo Y91i ราคา 4,999 บาท

Vivo Y91i มาพร้อมกับหน้าจอไร้ขอบแบบหยดน้ำโฉมใหม่ บนตัวเครื่องไล่เฉดสี และมีแบตเตอรี่ความจุถึง 4030 mAh ที่สามารถใช้งานได้ตลอดวัน รวมถึงระบบกล้องคู่ (Dual Camera) ที่ด้านหลัง ซึ่งมีคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นดังนี้

- หน้าจอแสดงผลขนาด 6.2 นิ้ว ในอัตราส่วน 19:9 ความละเอียดระดับ HD+ (720x1520 พิกเซล)
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core MediaTek (MTK6762R) Helio P22
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) IMG PowerVR GE8320
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 16GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual Camera) ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ขนาด F/2.2+F/2.4 รองรับเทคโนโลยี AI และระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี AI Face Beauty โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.8
- แบตเตอรี่ความจุ 4030 mAh 
- ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo 
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- ระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Wake)
- รองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM) 
- รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ microUSB 

สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Vivo Y91i
พรีวิว (Preview) Vivo Y91i

 

Realme 2 Pro (4GB+64GB) ราคา 6,590 บาท

Realme 2 Pro มาพร้อมกับการดีไซน์จอไร้ขอบแบบหยดน้ำ (Dewdrop Full Screen) พร้อมฝาหลังเงางามด้วยเทคโนโลยีเคลือบ 15 ชั้นแบบ Laminated Tech และระบบกล้องคู่ (Dual Camera) ที่ด้านหลัง โดยมีคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ Realme 2 Pro มีดังนี้

- ตัวเครื่องมีขนาด 156.7x74x8.5 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 174 กรัม
- หน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 6.3 นิ้ว ในอัตราส่วน 19:9 ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2340 พิกเซล : 408 ppi)
- ชิปเซ็ตประมวล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 660 AIE ที่มีความเร็ว 1.95 GHz
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 512
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB 
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB พร้อมรองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุดที่ขนาด 256GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (AI Dual Camera) ความละเอียด 16+2 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX398 พร้อมไฟแฟลช LED โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.7, รองรับเทคโนโลยี Dual Pixel, ฟีเจอร์ AI Scene Recognition และระบบกันสั่นแบบ EIS สำหรับวิดีโอ
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี AI Beauty
- แบตเตอรี่ความจุ 3500 mAh 
- ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ซึ่งถูกครอบทับด้วย ColorOS 5.2
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- ระบบสแกนใบหน้า (AI Facial Unlock)
- รองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM)
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac และ Bluetooth 5.0
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ microUSB

สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Realme 2 Pro (4GB+64GB)
รีวิว (Review) Realme 2 Pro (8GB+128GB)

 

Asus ZenFone Max Pro (M2) (4GB+64GB) ราคา 6,990 บาท

Asus ZenFone Max Pro (M2) มาพร้อมกับการดีไซน์ใหม่หมดจดทั้งหน้าจอไร้ขอบที่มีรอยบาดขนาดเล็กกว่ารุ่น Max (M2) และตัวเครื่องเงางาม โดยครอบทับฝาหลังด้วยกระจกแบบ 3D Curved Glossy พร้อมกับลวดลายคล้ายคลื่น ที่สะท้อนเล่นกับแสงตามมุมที่ตกกระทบได้ รวมถึงพกพาแบตเตอรี่มาถึง 5000 mAh ซึ่งมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจดังนี้

- ตัวเครื่องมีขนาด 157.9x75.5x8.5 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 170 กรัม
- หน้าจอแสดงผล IPS LCD ขนาด 6.3 นิ้ว ในอัตราส่วน 19:9 ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2280 พิกเซล)
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 660 AIE
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 512
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB 
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB พร้อมรองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุดที่ขนาด 2TB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual Camera) ความละเอียด 12 + 5 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX486 ไฟแฟลช LED และรองรับฟังก์ชัน AI Scene Detection
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED Softlight
- แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh
- ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- รองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM)
- รองรับถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple-Slot
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 5.0 และ NFC
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ microUSB

พรีวิว (Preview) Asus ZenFone Max Pro (M2)

 

Xiaomi Redmi Note 6 Pro ราคา 6,990 บาท

Xiaomi Redmi Note 6 Pro มาพร้อมกับจอไร้ขอบ Full Screen Display แบบใหม่ที่มีรอยบาก (Notch) ตามสมัยนิยมในอัตราส่วน 19:9 และระบบกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่แบบคู่ (AI Dual Selfie Camera) ประกบกล้องหลักที่ด้านหลังแบบคู่ (AI Dual Camera) รวมเป็นกล้อง AI 4 ตัวในเครื่องเดียว โดยมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจดังนี้

- ตัวเครื่องมีขนาด 157.9x76.38x8.2 มิลลิเมตร 
- หน้าจอแสดงผล IPS LCD Full Screen Display ขนาด 6.26 นิ้ว ในอัตราส่วน 19:9 ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2280 พิกเซล)
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 636
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (AI Dual Camera) ความละเอียด 12+5 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี Dual Pixel Autofocus โดยมีพิกเซลขนาด 1.4 ไมครอน พร้อมรูรับแสงขนาด F/1.9, รองรับการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ (AI Portrait 2.0) และเทคโนโลยี AI Scene Recognition กว่า 206 ซีน และ 27 ประเภท รวมถึงระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ EIS
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าแบบคู่ (AI Dual Selfie Camera) ความละเอียด 20+2 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี Super Pixel โดยมีพิกเซลขนาด 1.8 ไมครอน พร้อมรูรับแสงขนาด F/2.0, รองรับการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ (AI Portrait 2.0), เทคโนโลยี AI Beautify 4.0 และเทคโนโลยี AI Scene Recognition 12 ประเภท 
- แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh
- ระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo ซึ่งถูกครอบทับด้วย MIUI 9 
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- รองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM)
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ microUSB

สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Xiaomi Redmi Note 6 Pro

 

Wiko View2 Plus ราคา 4,990 บาท

Wiko View2 Olus มาพร้อมกับการดีไซน์จอไร้ขอบ Full Screen พร้อมรอยบาก (Notch) ที่ด้านบน ในอัตราส่วน 19:9 และตัวเครื่องไล่เฉดสีที่กำลังมาแรงในตอนนี้  เสริมด้วยระบบกล้องคู่ (Dual Camera) ที่ด้านหลัง โดยมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจดังนี้

- ตัวเครื่องมีขนาด 153.4x73.2x8.6 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 166 กรัม
- หน้าจอแสดงผล IPS ขนาด 5.93 นิ้ว ในอัตราส่วน 19:9 ความละเอียดระดับ HD+ (720x1512 พิกเซล : 252 ppi) พร้อมครอบทับด้วยกระจก 2.5D 
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 450
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 506
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 32GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุดที่ขนาด 256GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual Camera) ความละเอียด 12+5 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX486 พร้อมไฟแฟลช LED มีพิกเซลขนาด 1.25 ไมครอน โดยรองรับเทคโนโลยี AI, ฟีเจอร์ Auto-Scene Detection, Live artistic blur, ระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF และระบบป้องกันภาพสั่นไหวขณะบันทึกวิดีโอ FHD Video stabilisation
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0 พร้อมฟีเจอร์ Live portrait blur, Face Beauty,  Live filters และระบบป้องกันภาพสั่นไหวขณะบันทึกวิดีโอ FHD Video stabilisation
- แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh
- ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- ระบบสแกนใบหน้า (Face Unlock)
- รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE
- รองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM)
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 b/g/n และ Bluetooth 4.2
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB 2.0

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับสมาร์ทโฟนที่ทางทีมงานได้รวบรวมมาให้ได้ชมกัน จะเห็นได้ว่าแต่ละรุ่นล้วนมาพร้อมหน้าจอแสดงผลที่คมชัดในขนาดใหญ่ ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานเพื่อความบันเทิงทุกรูปแบบได้เป็นอย่างดี รวมถึงมีกล้องถ่านภาพแบบคู่ (Dual Camera) รวมถึงพกพาฟีเจอร์เด่นที่พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้อย่างครบครัน 

อย่างไรก็ดี ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ ที่ผู้ใช้ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น ความคมชัดของหน้าจอ, ชิปเซ็ตประมวลผล, หน่วยความจำแรม (RAM), หน่วยความจำภายใน (ROM), ความจุแบตเตอรี่ และเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ รวมถึงฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในด้านอื่นๆ อีกมากมาย

นอกเหนือไปจากคุณสมบัติเด่นแล้ว ความชอบ และรสนิยมส่วนบุคคลก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้สมาร์ทโฟน ทั้งนี้จึงขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เอง ว่ามีความชื่นชอบสมาร์ทโฟนรุ่นใดมากที่สุด ทั้งในด้านการดีไซน์ว่าสวยถูกใจขนาดไหน และฟีเจอร์ด้านในสามารถพร้อมตอบโจทย์การใช้งานของตนเองได้ครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งหากว่าได้ทดลองใช้งานในเบื้องต้น แล้วเกิดความพึงพอใจ ก็ถือได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นคุ้มค่าแก่การจับจองเป็นเจ้าของแล้วค่ะ สำหรับวันนี้ทางทีมงานต้องขอลาไปก่อน พบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ

 

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

วันที่ : 19/12/2561