Huawei Mate 20 X กับคลิปโชว์ประสิทธิภาพ AI Video Effect และโหมดเบลอพื้นหลังวิดีโอ ที่เปลี่ยนวิดีโอของคุณให้น่าสนใจได้แบบ Real-time
เป็นสมาร์ทโฟนในระดับเรือธงอีกรุ่นที่ได้รับความสนใจในช่วงปลายปี 2018 นี้เลยก็ว่าได้ สำหรับ Huawei Mate 20 Series ทั้งสามรุ่น ได้แก่ Huawei Mate 20, Mate 20 X และ Mate 20 Pro ที่มาพร้อมกับความโดดเด่นในหลาย ๆ ด้าน นอกเหนือจากดีไซน์ใหม่ที่หน้าจอแบบไร้ขอบที่กว้างมากขึ้น, บอดี้แบบกระจกไล่เฉดสี และชิปเซ็ต Kirin 980 รุ่นใหม่ล่าสุด บนสถาปัตยกรรมขนาด 7 นาโนเมตรรุ่นแรกของโลกแล้ว Huawei Mate 20 Series ยังมาพร้อมกับกล้องด้านหลัง 3 ตัว (Triple-Camera) ที่ยังคงได้ Leica แบรนด์กล้องถ่ายภาพชั้นนำระดับโลกมาร่วมพัฒนาให้เหมือนเช่นเคย นอกจากนี้ Huawei Mate 20 Series ยังได้มีการติดตั้งเทคโนโลยี AI ด้วยเช่นกัน โดยมีชื่อเรียกว่า Master AI 2.0 ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น เนื่องจากชิปเซ็ต Kirin 980 นั้น มาพร้อมกับระบบ Dual NPU ที่ช่วยในการประมวลผล และแยกแยะวัตถุกับฉากหลังได้แม่นยำกว่าเดิม รวมถึงระบบ Hybrid Zoom ซึ่งเป็นทำงานร่วมกับ AI เพื่อลดการสูญเสียความละเอียด ในการถ่ายภาพแบบซูม 5 เท่า (เฉพาะ Huawei Mate 20 X และ Mate 20 Pro เท่านั้น)
ในส่วนสเปก และความแตกต่างของทั้งสามรุ่นอย่างละเอียด สามารถศึกษาได้ตามลิงก์ที่แนบมาครับ [เปรียบเทียบเจาะลึก Huawei Mate 20, Mate 20 Pro, Mate 20X และ Mate 20 RS แตกต่างกันอย่างไร รุ่นไหนมีจุดเด่นอะไรบ้าง มาดูกัน!]
หนึ่งในสามรุ่นที่มีความโดดเด่นทั้งรูปลักษณ์ภายนอก และสเปกภายใน คือ Huawei Mate 20 X ที่มีจุดเด่นได้แก่ หน้าจอ HDR OLED ขนาดใหญ่ถึง 7.2 นิ้ว, แรม 6GB, ความจุภายใน 128GB, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 มิลลิแอมป์ และฮาร์ดแวร์กล้องหลังระดับเดียวกับรุ่น Mate 20 Pro ซึ่งความแตกต่างของฮาร์ดแวร์กล้องบน Huawei Mate 20 Series ทั้งสามตัวนั้น มีดังต่อไปนี้
จะเห็นได้ว่า นอกเหนือจากจุดเด่นด้านสเปกแล้ว Huawei Mate 20 X ยังมาพร้อมกับจุดเด่นด้านกล้องไม่แพ้รุ่นท็อปอย่าง Mate 20 Pro นอกจากนี้ Huawei Mate 20 X ยังชูจุดเด่นด้านการถ่ายวิดีโอ ด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า AI Cinematography เข้ามา ซึ่งเป็น Video Effect สำหรับการถ่ายวิดีโอโดยเฉพาะ อีกทั้งยังมาพร้อมกับคุณสมบัติที่น่าสนใจหลายอย่างด้วยกัน โดยในวันนี้ ทีมงานเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์ จะมาทดสอบการถ่ายวิดีโอพร้อมทดสอบใช้งานฟีเจอร์ AI Cinematography กับความสามารถในการใส่ฟิลเตอร์เพื่อช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับการถ่ายวิดีโอถึง 5 แบบ โดยใช้ Huawei Mate 20 X ในการทดสอบ มาดูกันเลยดีกว่าว่า การถ่ายวิดีโอด้วย Huawei Mate 20 X จะโดดเด่นกว่าและเหนือกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นอย่างไรบ้าง
คลิปวิดีโอทดสอบ AI Video Effect บน Huawei Mate 20 X
สรุปฟีเจอร์ AI Video Effect สำหรับการถ่ายวิดีโอบน Huawei Mate 20 X
ปกติแล้ว การถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอด้วยสมาร์ทโฟน จะสามารถทำได้เฉพาะการถ่ายภาพนิ่งเท่านั้น แต่สำหรับ Huawei Mate 20 Series มาพร้อมกับฟิลเตอร์ Background Blur ที่ผู้ใช้สามารถถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งฟิลเตอร์แบบนี้จะเป็นการเน้นให้ตัวแบบดูโดดเด่นและมีมิติมากยิ่งขึ้น
AI Colour เป็นฟิลเตอร์ในการดึงสีบุคคลให้โดดเด่น และปรับฉากหลังให้กลายเป็นสีเทา ซึ่งเอฟเฟกต์นี้จะตรวจจับวัตถุที่เป็นคนเท่านั้น, สามารถตรวจจับได้หลายคนพร้อมกัน และสามารถตรวจจับได้แม้ว่าจะยื่นออกมาเฉพาะแขน หรือศีรษะ แต่ไม่สามารถตรวจจับวัตถุที่เป็นสิ่งของได้
Vintage เป็นฟิลเตอร์แนวย้อนยุค ทำงานควบคู่กับเอฟเฟ็กต์หน้าชัดหลังเบลอ
Suspense เป็นฟิลเตอร์โทนเย็น ออกสีหม่นอมฟ้า
Fresh เป็นฟิลเตอร์โทนสว่าง ทำงานควบคู่กับเอฟเฟ็กต์หน้าชัดหลังเบลอ
นอกเหนือจากฟีเจอร์ AI Cinematography ซึ่งเป็นลูกเล่นสำหรับการถ่ายวิดีโอบน Huawei Mate 20 Series แล้ว บน Huawei Mate 20 Pro และ Huawei Mate 20X ยังสามารถถ่ายวิดีโอพร้อมซูมเพื่อปรับระยะของภาพได้ถึง 4 ระยะ ซึ่งได้แก่ 0.6x, 1x, 3x และ 5x
สำหรับการทดสอบในข้างต้นนั้น เป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในด้านการถ่ายวิดีโอด้วย Huawei Mate 20 X ที่ถือว่า ได้รับการอัปเกรดความสามารถหลายอย่างให้เหนือกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น โดยเฉพาะการถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอ (Background Blur) และฟิลเตอร์ AI Colour ที่สามารถตรวจจับบุคคลและไฮไลท์สีให้โดดเด่น พร้อมกับปรับฉากหลังให้กลายเป็นสีเทา ซึ่งถือว่า เป็นฟีเจอร์ที่ยังไม่มีสมาร์ทโฟนรุ่นใดในตอนนี้ทำได้
โดย Huawei Mate 20 Series วางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่
- Huawei Mate 20 ราคา 24,990 บาท มี 2 สี ได้แก่ Twilight, Midnight Blue
- Huawei Mate 20 X ราคา 28,990 บาท มี 2 สี ได้แก่ Phantom Silver, Midnight Blue
- Huawei Mate 20 Pro ราคา 31,990 บาท มี 2 สี ได้แก่ Emerald Green, Black
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 6/12/2561