Huawei Mate 20 Series สมาร์ทโฟนที่โดดเด่นด้วย AI Chipset และน่าสนใจมากที่สุดรุ่นหนึ่งในปี 2018
หากพูดถึงหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่มีความน่าสนใจรุ่นหนึ่งแห่งปี 2018 จะต้องมีรายชื่อของ Huawei Mate 20 Series ติดอยู่ในโผอย่างแน่นอน เนื่องจากสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากรุ่น Mate 10 Series ที่เคยเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้วหลายด้าน ทั้งหน้าจอแสดงผลไร้ขอบดีไซน์ใหม่แบบจอหยดน้ำค้าง (Dewdrop Display), กล้องหลัง 3 ตัว (Triple Camera) ที่พัฒนาร่วมกับแบรนด์กล้องชั้นนำอย่าง Leica พร้อมเลนส์ Ultra Wide Angle ที่ช่วยให้เราเก็บภาพได้กว้างขึ้นกว่าที่เคย, ระบบสแกนใบหน้าแบบ 3 มิติ ผสานระบบสแกนลายนิ้วมือฝังใต้หน้าจอ รวมถึงระบบ Huawei SuperCharge 40W ที่ช่วยย่นระยะเวลาในการแบตเตอรี่ให้เหลือน้อยลง และระบบ Wireless Reverse Charging สำหรับแบ่งพลังงานแบตเตอรี่ให้แก่สมาร์ทโฟนเครื่องอื่นๆ ได้แบบไร้สาย
แต่สิ่งที่ทำให้ Huawei Mate 20 Series มีความโดดเด่นแตกต่างจากสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในปี 2018 นั่นก็คือ การมาพร้อมกับ AI Chipset Kirin 980 ขุมพลังระดับ 7 นาโนเมตรรุ่นแรกของโลกจาก Huawei ที่มาพร้อมกับความอัจฉริยด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมทั้ง Kirin 980 ยังมาพร้อมกับความเป็นที่หนึ่ง (World’s 1st) ของวงการในอีกหลายด้าน แต่ฟีเจอร์ใดที่ทำให้ Huawei Mate 20 Series และ Kirin 980 ต่างจากคู่แข่งบ้างนั้น เราไปดูกันเลยครับ
รุ่นแรกของโลกที่มีหน่วยประมวลผล AI แบบคู่ Dual-NPU
หลังจากที่ Huawei ได้ริเริ่มในการติดตั้งหน่วยประมวลผลแยกในชื่อ NPU (Neural Processing Unit) ไว้บนสมาร์ทโฟนของตัวเองกับรุ่น Huawei Mate 10 Series เพื่อช่วยประมวลผลงานด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) เช่น การประมวลผลด้านภาพ, วัตถุ หรือการแปลภาษา เป็นต้น ในรุ่น Huawei Mate 20 Series ก็มีการพัฒนาก้าวไปอีกขั้นด้วยการมาพร้อมกับ Dual-NPU (Dual Neural Processing Unit) หรือหน่วยประมวลผลคู่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยงานด้าน AI โดยเฉพาะเป็นครั้งแรกของโลก
สำหรับ Dual-NPU บน Kirin 980 มาพร้อมกับการยกเครื่องด้านประสิทธิภาพใหม่ทั้งหมด โดยสามารถประมวลผลได้เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 226% ในขณะที่ประหยัดพลังงานมากขึ้นราว 182% ด้วยกัน โดยเทคโนโลยี AI นั้น ถือเป็นหนึ่งในฟีเจอร์สำคัญของ Huawei Mate 20 Series ที่มีการนำ AI ไปใช้ในหลายๆ ด้าน โดยเราจะเห็นได้ชัดเจนที่สุดในเรื่องของการถ่ายภาพที่ช่วยปรับแต่งสีสัน หรือการตั้งค่ากล้องให้อัตโนมัติ ซึ่งการที่มี Dual-NPU ภายในตัว จะช่วยให้การตรวจจับวัตถุภายในซีนต่างๆ รวมถึงการปรับแต่งสีสันทำได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ
Master AI 2.0 ฟังก์ชันถ่ายภาพอัจฉริยะ ภาพสวยใจชัตเตอร์เดียว
อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่า Huawei มีการนำ AI เข้าไปช่วยในเรื่องของการถ่ายภาพด้วย ซึ่งฟังก์ชันที่ว่านี้ก็คือ Master AI ที่สามารถตรวจจับวัตถุ และซีนต่างๆ ภายในภาพถ่ายได้มากกว่า 2,500 ซีน จากทั้งหมด 25 หมวดหมู่ ซึ่งเมื่อระบบตรวจจับซีนภายในเฟรมได้แล้ว ก็จะมีการนำไปปรับแต่งการตั้งค่ากล้องให้เหมาะสม รวมถึงปรับสีสัน, คอนทราสต์ และความสว่างให้แบบอัตโนมัติ ทำให้ภาพที่ออกมามีความสวยงามโดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องนำไปปรับแต่งเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Huawei Mate 20 Series
AI ที่วิเคราะห์ได้แบบเชิงลึก ต่อยอดสู่ AI Cinema และ AR Live Model
AI ของ Kirin 980 มาพร้อมกับความสามารถด้านการวิเคราะห์วัตถุได้แบบเชิงลึก เช่น การแยกแยะแขน ขา หัว และจุดขยับของร่างกายได้อย่างแม่นยำ รวมถึงความสามารถในการติดตามวัตถุ และการประมวลผลแบบ Real-Time ซึ่งด้วยความสามารถเหล่านี้เองทำให้ Huawei ได้พัฒนาโหมดถ่ายภาพวิดีโอแบบใหม่ขึ้นมาในชื่อ AI Cinema ที่สามารถถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ รวมทั้งยังมีฟังก์ชัน AI Colour ที่สามารถถ่ายวิดีโอแบบพื้นหลังขาวดำในขณะที่คงสีสันของตัวแบบเอาไว้ได้
นอกจากนี้ Huawei ยังนำความสามารถด้านการวิเคราะห์วัตถุได้อย่างแม่นยำของ Kirin 980 ไปต่อยอดพัฒนาเป็นฟีเจอร์ใหม่ในชื่อ AI Live Model ซึ่งจะเป็นการใช้ระบบกล้องหน้าแบบ 3D Depth Sensing ของ Huawei Mate 20 Pro และ Porsche Design Huawei Mate 20 RS สำหรับสแกนวัตถุแบบ 3 มิติ เพื่อสร้างตัวการ์ตูนให้ออกมาโลดแล่นมีชีวิตบนโลก Augmented Reality หรือ AR ได้ด้วย
ครั้งแรกของโลกกับ LTE Cat.21 พร้อมความเร็วดาวน์โหลดระดับ 1.4Gbps
ความสามารถของ Kirin 980 บน Huawei Mate 20 Series ไม่ได้มีความโดดเด่นด้านการถ่ายภาพ หรือวิดีโอเพียงอย่างเดียว เพราะยังมาพร้อมกับชิปโมเด็มที่รองรับคลื่นความถี่แบบ LTE Cat.21 ช่วยให้สมาร์ทโฟนสามารถทำความเร็วดาวน์โหลดบนเครือข่าย 4.5G LTE ได้สูงสุดที่ระดับ 1.4Gbps และสามารถทำความเร็วในการอัปโหลดได้สูงสุดที่ระดับ 200Mbps และนอกจากนี้ Kirin 980 ยังวางตัวเป็นชิปเซ็ตแห่งอนาคตตามคอนเซ็ปท์ 5G Ready ซึ่งหากมีการติดตั้งโมเด็มแบบ 5G ลงไปในตัวเครื่อง ก็พร้อมที่จะรองรับเครือข่าย 5G โดยทันที
ค้นหาสิ่งของ และแปลภาษาด้วย Hi Vision
อีกหนึ่งไฮไลท์เด่นของ Huawei Mate 20 Series นั่นก็คือระบบ Hi Vision ซึ่งเป็นการค้นหาข้อมูลของสิ่งของ, ภาพถ่าย หรือสถานที่ที่เราไม่รู้จักได้อย่างง่ายๆ เพียงแค่ยกกล้องมือถือขึ้นมาส่องเท่านั้น ระบบก็จะทำการค้นหาข้อมูลบนโลกอินเทอร์เน็ตให้แบบทันที นอกจากนี้ Hi Vision ยังมีฟังก์ชันเด่นอีกหนึ่งอย่างนั่นก็คือ Hi Vision Shopping ซึ่งนอกจากจะช่วยค้นหาข้อมูลของสินค้าต่างๆ ได้แล้ว ยังสามารถพาผู้ใช้เข้าไปสั่งซื้อของจริงบนร้านค้าออนไลน์รายใหญ่อย่าง Amazon ได้ ซึ่งในอนาคตทาง Huawei ระบุว่า Hi Vision Shopping จะสามารถลิงก์กับร้านค้าออนไลน์ชั้นนำของประเทศไทยอย่าง Shopee และ Lazada ได้อีกด้วย
คำนวนแคลลอรี่แบบง่ายๆ แค่ยกกล้องส่อง
Hi Vision และระบบวิเคราะห์วัตถุแบบเชิงลึกของ Huawei Mate 20 Series ยังถูกนำไปพัฒนาเป็นฟังก์ชันสำหรับคำนวนปริมาณแคลอรีของอาหารที่อยู่ตรงหน้าด้วยกล้องถ่ายภาพ โดยตัวกล้องจะทำการสแกนอาหาร และปั้นเป็นโมเดลแบบ 3 มิติขึ้น เพื่อวิเคราะห์ขนาด และน้ำหนักของอาหาร ทำให้สามารถนำไปคำนวนแคลอรี่ได้อย่างแม่นยำ
เปิดแอปได้รวดเร็วด้วย AI Loading Prediction
ปิดท้ายด้วยความสามารถด้านการใช้งานอย่าง AI Loading Prediction ซึ่งเป็นการนำเอาปัญญาประดิษฐ์มาช่วยคาดเดาแอปพลิเคชันที่จะถูกใช้งานเป็นลำดับถัดไป และจะจัดสรรการใช้พลังงานของ CPU ให้เหมาะสม ซึ่งช่วยให้เราสามารถเปิดแอปพลิเคชันต่างๆ รวมถึงการสลับแอปทำได้อย่างลื่นไหลขึ้น
จากข้อมูลทั้งหมดจะเห็นได้ว่า Huawei Mate 20 Series มีความโดดเด่นในเรื่องของความอัจฉริยะ และเทคโนโลยี AI อย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็น ระบบ AI ที่ช่วยวิเคราะห์ฉาก หรือตัวแบบได้อย่างแม่นยำลงลึกถึงระดับข้อต่อ ทำให้สามารถต่อยอดไปประยุกต์ใช้กับแอปพลิเคชันอื่นๆ หรือระบบค้นหาสิ่งของที่ทำได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ยกกล้องส่องเท่านั้น และด้วยความที่ Huawei Mate 20 Series มี AI Chipset Kirin 980 ที่ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน รวมถึงการที่ Kirin 980 เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมใหม่ๆ ของวงการเป็นเจ้าแรกของโลกในหลายด้าน ทำให้ Huawei Mate 20 Series ถือเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่มีความน่าสนใจที่สุดรุ่นนึงในปี 2018 เลยทีเดียว
สำหรับใครที่สนใจก็สามารถแวะเวียนไปทดลองใช้งาน และหาซื้อ Huawei Mate 20 Series ได้ที่ Huawei Brand Shop และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศได้นะครับ โดยราคาวางจำหน่ายของ Huawei Mate 20 Series ในประเทศไทยแต่ละรุ่นมีดังนี้
- Huawei Mate 20 ราคา 24,990 บาท
- Huawei Mate 20 X ราคา 28,990 บาท
- Huawei Mate 20 Pro ราคา 31,990 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม
- สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Huawei Mate 20
- สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Huawei Mate 20 X
- สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Huawei Mate 20 Pro
- รีวิว Huawei Mate 20
- รีวิว Huawei Mate 20 Pro
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
[บทความนี้เป็น Advertorial]
วันที่ : 14/12/2561