เทียบ 5 มือถือ 5G สเปกแรงที่น่าสนใจ รุ่นไหนน่าซื้อสุด และเหมาะกับใครบ้าง มาดูกัน
สำหรับท่านที่หมั่นติดตามข่าวสารในวงการสมาร์ทโฟนก็จะเห็นการเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่องจากแบรนด์ชั้นนำ ทั้งในรุ่นเรือธงท็อปสุดของค่าย ไปจนถึงระดับเริ่มต้นในราคาย่อมเยา ซึ่งช่วงราคาที่คนส่วนใหญ่สนใจจะอยู่ช่วงหมื่นกลางที่เป็นระดับรองเรือธง ในวันนี้ทางทีมงานจึงคัดเลือก 5 มือถือ 5G สเปกแรงมาเทียบสเปกให้ได้เห็นกันชัดๆ ได้แก่ Samsung Galaxy A52s 5G, vivo V23 5G, realme GT Neo2 5G, OPPO Reno6 5G และ OnePlus Nord CE ว่ารุ่นใดน่าสนใจ และเหมาะกับใครบ้าง หากพร้อมแล้วไปชมกันเลยค่ะ
ตารางเทียบจุดเด่น
ดีไซน์
Samsung Galaxy A52s 5G
Samsung Galaxy A52s 5G มาในดีไซน์สวยพรีเมียมตามมาตรฐานของ Samsung ด้วยหน้าจอไร้ขอบเจาะรูกล้องหน้าที่ตรงกลางแบบ Infinity-O Display เทคโนโลยี Super AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว โดยคมชัดระดับ Full HD+ รองรับค่า Refresh Rate ระดับสูงสุด 120Hz เท่ากับที่ใช้บนรุ่นเรือธง ส่วนตัวเครื่องมีผิวสัมผัสแบบด้าน (Matte Finish) และยังรองรับคุณสมบัติป้องกันน้ำ-ฝุ่นมาตรฐาน IP67 ที่สามารถกันได้ระดับความลึกไม่เกิน 1 เมตร เป็นระยะเวลานานสูงสุด 30 นาทีอีกด้วย ซึ่งถือเป็นมือถือระดับกลางเพียงแบรนด์เดียวที่มาพร้อมฟีเจอร์นี้
vivo V23 5G
vivo v23 5G มือถือ 5G รุ่นใหม่ป้ายแดงของทาง vivo มาพร้อมตัวเครื่องดีไซน์สุดล้ำกับที่สามารถเปลี่ยนสีได้ (เฉพาะตัวเลือกสี Sunshine Gold) เมื่อโดนแสงแดด โดยผลิตจากกระจก Satin AG Glass (Fluorite AG Glass) แบบ Color Changing Glass และมีความเปล่งกระกายด้วยเทคนิคการเคลือบแบบ Photochromic 2.0 ผสานกับความเหลี่ยมของตัวเครื่องที่เสริมความพรีเมียมให้มากขึ้นเป็นเท่าตัว สำหรับหน้าจอมีรอยบากที่ด้านบนแบบ AMOLED Halo FullView Display ขนาด 6.44 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ โดยมีค่า Refresh Rate ระดับสูงสุด 90Hz
realme GT Neo2 5G
realme GT Neo2 มาพร้อมกับดีไซน์แบบใหม่ที่เรียกว่า Digital Urban Design ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างดิจิทัลกับธรรมชาติเข้าด้วยกัน โดยยึดสีต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัว อย่างสีเขียวที่อยู่ในธรรมชาติ มาทำการปรับแต่งให้มีความสว่างเป็นเอกลักษณ์ ผสานกับเส้นสีดำด้านที่ถูกเคลือบให้มีความเงางาม จึงกลายเป็นสีไฮไลท์ประจำรุ่นอย่าง NEO Green ผสานเข้ากับหน้าจอไร้ขอบเจาะรูกล้องหน้าแบบ E4 AMOLED Punch-Hole Display ขนาด 6.62 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ รองรับค่า Refresh Rate ระดับสูงสุด 120Hz
OPPO Reno6 5G
มือถือจากตระกูลยอดนิยมของทาง OPPO ที่มีการดีไซน์สวยโดดเด่น ด้วยการดีไซน์ตัวเครื่องบางเฉียบแบบ Ultra-slim Retro Design ที่มาพร้อมกับกรอบตัวเครื่องแบบเรียบหรู จับถือได้อย่างถนัดมือ พร้อมตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 7.59 มิลลิเมตร พร้อมกับบอดี้แบบ Reno Glow อันเป็นเอกลักษณ์ของ OPPO Reno Series โดยเป็นบอดี้ที่มีเอฟเฟกต์แสงระยิบระยับ พร้อมป้องกันรอยนิ้วมือ สำหรับหน้าจอเป็นแบบไร้ขอบ AMOLED Punch-Hole Display ขนาด 6.4 นิ้ว ที่มความคมชัดระดับ Full HD+ ที่มีค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz
OnePlus Nord CE 5G
OnePlus Nord CE 5G มาพร้อมหน้าจอแสดงผลไร้ขอบแบบ 90Hz Fluid AMOLED Punch-Hole Display ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ รองรับค่า Refresh Rate ระดับสูงสุด 90Hz และมีฝาหลังดีไซน์เงางาม ด้วยวัสดุแบบ AG Matte พร้อมคุณสมบัติลดการเกิดรอยนิ้วมือ และมีตัวเครื่องหนาเพียง 7.9 มิลลิเมตร
กล้องถ่ายภาพ
มือถือทั้ง 5 รุ่นนี้ ต่างก็มีกล้องหลักที่ความละเอียด 64MP พร้อมด้วยกล้องมุมกว้างพิเศษแบบ Ultra-Wide และกล้อง Macro สำหรับการถ่ายวัตถุระยะใกล้มากๆ โดย Galaxy A52s 5G ค่อนข้างได้เปรียบที่กล้องตัวหลักรองรับระบบกันสั่นแบบ OIS ที่ช่วยให้การถ่ายภาพ และวิดีโอไม่ต้องกลัวเบลอ แบบเดียวกับที่ใช้บนรุ่นเรือธง ในขณะที่รุ่นอื่นไม่รองรับ รวมถึงมีกล้องตัวที่สี่แบบ Depth ที่ช่วยในการละลายฉากหลัง สำหรับ OnePlus Nord CE 5G จะเป็นรุ่นเดียวที่มีกล้องแบบ Mono สำหรับถ่ายภาพขาวดำโดยเฉพาะ
สำหรับกล้องหน้านั้น vivo V23 5G โดดเด่นด้วยกล้องหน้าแบบคู่ 50MP AF Dual Front Camera พร้อม Eye Autofocus เป็นรุ่นแรกในไทย ผสานกล้องรองแบบ Super Wide 8MP ที่รองรับการถ่ายเซลฟี่มุมกว้างถึง 105 องศา ซึ่งมีจุดขายที่การถ่ายเซลฟี่โดยเฉพาะ
ประสิทธิภาพ
ด้านการประมวลผลนั้นมี 3 รุ่นที่มากับชิปเซ็ตของค่าย Qualcomm โดย realme GT Neo 5G มากับชิปเซ็ต Snapdragon 870 ที่มาจากซีรีส์เรือธง ส่วน Galaxy A52s 5G มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 778G ทางรุ่น OnePlus Nord CE 5G ที่มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 750G ซึ่งทั้งคู่เป็นชิปเซ็ตระดับกลางรุ่นใหม่ที่อัปเกรดประสิทธิภาพจากรุ่นก่อน พร้อมรองรับเครือข่าย 5G และประหยัดพลังงานมากขึ้น
อีกสองรุ่นที่เหลือมากับชิปเซ็ตของค่าย MediaTek โดย OPPO Reno6 5G มากับชิปเซ็ต Dimensity 900 ส่วน vivo V23 5G มากับรุ่นล่าสุดอย่าง Dimensity 920 บนเทคโนโลยีการผลิตระดับ 6nm ที่เน้นความเร็ว แรง และกินพลังงานน้อยลงกว่าเดิม
โดยทั้ง 5 รุ่นมาพร้อมกับ RAM ขนาดมาตรฐานที่ 8GB ซึ่งรุ่น V23 5G กับ Reno6 5G จะรองรับเทคโนโลยีเพิ่มหน่วยความจำ RAM เสมือน จากหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง เพื่อเพิ่มความลื่นไหลให้มากขึ้น ซึ่งฟีเจอร์นี้ทาง Samsung ก็เริ่มปล่อยให้อัปเดตกันแล้วเช่นกันในชื่อ RAM Plus
แบตเตอรี่
มือถือ 5G ทั้ง 5 รุ่นนี้มีแบตเตอรี่ความจุมากกว่า 4000 mAh ทั้งสิ้น ซึ่งสามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่ช่วยย่นระยะเวลาการชาร์จให้เร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะรุ่น realme GT Neo2 5G กับ OPPO Reno6 5G ที่ให้มาถึง 65W
รุ่นไหนเหมาะกับใคร?
Samsung Galaxy A52s 5G : เหมาะกับผู้ที่เน้นการใช้งานรอบด้าน ในราคาจับต้องได้ มีหน้าจอแสดงผลสวยรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ได้คมชัดเต็มตา พร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 778 5G รุ่นใหม่ แบตเตอรี่ความจุเพียงพอต่อการใช้งาน รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว และกล้องถ่ายภาพที่มีกันสั่น OIS ถ่ายภาพ และวิดีโอได้แบบไม่ต้องกลัวเบลอ เหมือนรุ่นเรือธง บนการดีไซน์สวยพรีเมียมที่รองรับคุณสมบัติการป้องกันน้ำ-ฝุ่นมาตรฐาน IP67 ที่หาได้ยากจากมือถือในช่วงราคาเดียวกัน เรียกได้ว่าเป็นมือถือเครื่องกันน้ำ กล้องกันสั่นตัวจริงในราคาจับต้องได้
vivo V23 5G : เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเซลฟี่ หรือการถ่ายภาพบุคคลด้วยกล้องหน้าคู่ 50MP รองรับการโฟกัสดวงตารุ่นแรกในไทย รวมถึงการเชื่อมต่อที่รวดเร็วด้วย 5G ในราคาเอื้อมถึง และมีฟีเจอร์ระดับใกล้เคียงรุ่นใหญ่แบบครบครัน ทั้งชิปเซ็ตที่เร็วแรงอย่าง Dimensity 920 อีกทั้งยังมีหน้าจอแสดงผลคุณภาพสูงขนาดใหญ่ ที่มีความลื่นไหล สามารถรับชมคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้สวยงามเต็มตา อีกทั้งยังมีการดีไซน์ตัวเครื่องที่น่าสนใจอย่างการเปลี่ยนสีได้ด้วยตัวเครื่องแบบ Color Changing Glass
realme GT neo2 5G : เหมาะกับผู้ที่ต้องการมือถือสเปกแรง พร้อมการดีไซน์ไม่เหมือนใครในตัวเลือกสี NEO Green จัดเต็มในทุกด้านทั้งหน้าจอแสดงผลสีสวย ชิปเซ็ตตัวแรงจากซีรีส์เรือธงอย่าง Snapdragon 870 5G มีชาร์จเร็วที่เร็วกว่ารุ่นอื่นๆ ในท้องตลาดที่ 65 วัตต์ (65W) อีกทั้งยังมีฟังก์ชันการถ่ายภาพครบครัน ในราคาจับต้องได้
OPPO Reno6 5G : เหมาะกับผู้ที่มองหามือถือดีไซน์สวยพรีเมียมเทียบชั้นรุ่นเรือธงแบบ Reno Glow พร้อมสเปกที่ทัดเทียม ทั้งชิปเซ็ตประมวลผล Dimensity 900 หน้าจอแสดงผลคมชัด รับชมคอนเทนต์ได้สวยงามเต็มตา และมีเทคโนโลยีเพิ่ม RAM เสมือนได้อีก 5GB รวมถึงกล้องถ่ายภาพที่เน้นการถ่ายบุคคลทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง
OnePlus Nord CE 5G : เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาสมาร์ทโฟนสเปกแรงครบครันด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 750G ในราคาจับต้องได้ พร้อมมีตัวเลือก 2 ความจุให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของแต่ละคน บนตัวเครื่องดีไซน์สวยบางเฉียบเทียบชั้นเรือธง มีหน้าจอเทคโนโลยีไหลลื่นแบบ Fluid AMOLED พร้อมแสดงผลได้สวยงาม และมีกล้องถ่ายภาพครบครันทุกฟังก์ชันยอดนิยมในปัจจุบัน พร้อมกับการการันตีอัปเดตซอฟต์แวร์ที่แน่นอน
ทางทีมงานไม่สามารถกล่าวได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใดดีที่สุด หรือคุ้มค่ามากที่สุด ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับท่านผู้ใช้เอง ว่ามีความชื่นชอบสมาร์ทโฟนรูปแบบใด มีไลฟ์สไตล์การใช้งานแบบไหน และมีงบประมาณที่เท่าใด หากรุ่นนั้นๆ สามารถตอบโจทย์ทุกการทำงานของท่านได้ มีการดีไซน์ที่สวยงาม และมีราคาที่ถูกใจ ก็ถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปแล้วค่ะ
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 21/1/2565