รีวิว (Review) Vivo V9

สมาร์ทโฟนจอ FullView 19:9 ขอบบางสวยเฉียบ ไซส์ยักษ์ 6.3 นิ้ว พร้อมกล้องหน้า AI Selfie 24 ล้านพิกเซล ผสานกล้องคู่ AI Bokeh Dual Camera รุ่นแรกของค่าย, ชิปเซ็ต Snapdragon 626, RAM 4GB, ROM 64GB, Android 8.1 Oreo, ระบบจดจำใบหน้า AI Face Access ผสานเซ็นเซอร์สแกนนิ้ว, ฟังก์ชัน Smart Spit และแบตเตอรี่ 3260 mAh บนบอดี้สวยหรูพรีเมียม ในราคาเพียง 10,999 บาท

Review Date (5-เมษายน-2561)

เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาทาง Vivo ประเทศไทย ได้ทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนเพื่อการเซลฟี่รุ่นต่อยอดใหม่ล่าสุดอย่าง Vivo V9 โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็ได้พัฒนาต่อยอดมาจาก Vivo V7 และ Vivo V7+ ในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลที่มีความละเอียด ขนาดหน้าจอ และอัตราส่วนที่เพิ่มมากขึ้น, มาพร้อมกล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่รุ่นแรกของค่ายที่มีความละเอียด 16+5 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับ AI Bokeh, กล้องดิจิทัลด้านหน้าความ 24 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับเทคโนโลยี AI Face Beauty อีกทั้งยังอัปเกรดสเปกเครื่องให้ดีขึ้น ในราคาที่จับต้องได้ง่าย เรียกได้ว่า เป็นสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องอีกรุ่นนึงเลยทีเดียว

สำหรับ Vivo V9 นั้นมีจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่หลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Unibody ซึ่งด้านข้าง และฝาหลังผสานเข้ากันแบบไร้รอยต่อ จึงช่วยให้ตัวเครื่องมีความสวยงามพรีเมียมดูน่าใช้งาน, หน้าจอแสดงผลแบบไร้ขอบ FullView Display ความละเอียด 2280x1080 พิกเซล ขนาด 6.3 นิ้ว ในอัตราส่วน 19:9 พร้อมครอบทับด้วยกระจอหน้าจอแดง 2.5D Glass, กล้องดิจิทัลความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0 และไฟแฟลชแบบ Smart Screen Flash พร้อมรองรับเทคโนโลยี AI Face Beauty, กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบ Dual-Camera ความละเอียด 16+5 ล้านพิกเซล ซึ่งมีรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus), ไฟแฟลช LED พร้อมรองรับเทคโนโลยี AI Bokeh, มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, รองรับเทคโนโลยี AI Face Access สำหรับปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้า, รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง, รองรับการใช้งานสองแอปพลิเคชันพร้อมกันผ่านฟังก์ชัน Smart Split, รองรับการโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน, มีโหมดเกมสำหรับรับสายเรียกเข้าโดยไม่สลับหน้าจอ, รองรับฟังก์ชันโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน, ถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ Triple-Slot Tray ซึ่งเป็น 3 ช่องอิสระ ที่สามารถใส่ซิมการ์ดที่ 1, ซิมการ์ดที่ 2 และการ์ดหน่วยความจำภายนอกได้พร้อมๆ กัน, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G และแบตเตอรี่ขนาด 3260 mAh

ในส่วนของคุณสมบัติด้านการประมวลผลนั้นจัดอยู่ในระดับกลาง ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm Snapdragon 626 ความเร็วในการประมวลผล 2.2 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 506, หน่วยความจำภายในขนาด 64 GB, หน่วยความจำแรมขนาด 4 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 4.0 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด (ซึ่งทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 8.1.0 Oreo)

และจากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า Vivo V9 นั้นมีจุดที่น่าสนใจอยู่หลายส่วนด้วยกัน ทั้งในเรื่องของหน้าจอแสดงผลไร้ขอบแบบ FullView Display ขนาดใหญ่เต็มตา 6.3 นิ้ว ในอัตราส่วน 19:9 พร้อมดีไซน์โค้งมนจับถนัดมือ, ฟีเจอร์การใช้งานที่ครบเครื่องมากขึ้น และกล้องถ่ายความละเอียดสูงทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง ซึ่งหากเทียบกับราคาค่าตัวเพียง 10,999 บาท แล้ว ก็ถือว่าเป็นราคาที่น่าสนใจมากๆ เลยทีเดียว ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน และฟีเจอร์ที่มีอยู่จะตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีเพียงใด ขอเชิญทุกท่านรับชมรีวิว Vivo V9 พร้อมกันต่อได้เลยครับ

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Vivo V9 มาในแพ็กเกจสีขาว พร้อมโลโก้แสดงการสนับสนุนฟุตบอลโลก FIFA WORLD CUP 2018 ที่จะจัดขึ้นในประเทศรัสเซียอีกด้วย

นอกจากนี้ด้านหลังแพ็กเกจยังได้ระบุคุณสมบัติเด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เอาไว้บางส่วน ได้แก่ มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ FullView Display, กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล, กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบ Dual-Camera, หน่วยความจำแรมขนาด 4 GB และหน่วยความจำภายในขนาด 64 GB

ซึ่งภายในแพ็กเกจก็มีอุปกรณ์มาให้ใช้งานอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น คู่มือการใช้งาน, ใบรับประกัน, เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด, อะแดปเตอร์, สาย microUSB และหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

สำหรับ Vivo V9 จะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบไร้ขอบ FullView Display ความละเอียด 2280x1080 พิกเซล ขนาด 6.3 นิ้ว ในอัตราส่วน 19:9 พร้อมครอบทับด้วยกระจอหน้าจอแดง 2.5D Glass โดยมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 154.81x75.03x7.89 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 150 กรัม

ด้วยการที่ Vivo V9 นั้นใช้หน้าจอแบบไร้ขอบ IPS LCD FullView Display จึงทำให้มีสัดส่วนของหน้าจอมากถึง 90% และมีความบางของขอบหน้าจออยู่ที่ 1.75 มิลลิเมตร

ด้านหน้าส่วนบนประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0 และไฟแฟลชแบบ Smart Screen Flash พร้อมรองรับเทคโนโลยี AI Face Beauty, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, ระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน และระบบ Ambient Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม

ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานแบบ On Screen ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีถาดสำหรับใส่ซิมการ์ด ซึ่งเป็นถาดแบบ Triple-Slot Tray ซึ่งเป็น 3 ช่องอิสระ ที่สามารถใส่ซิมการ์ดที่ 1, ซิมการ์ดที่ 2 และการ์ดหน่วยความจำภายนอกได้พร้อมๆ กัน

ด้านบนของตัวเครื่องไม่มีปุ่มฟังก์ชันใดๆ ให้ใช้งาน

ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟน, ช่องเชื่อมต่อกับสาย microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล และลำโพงเสียงภายนอก

ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องดิจิทัลแบบ Dual-Camera ความละเอียด 16+5 ล้านพิกเซล ซึ่งมีรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus), ไฟแฟลช LED พร้อมรองรับเทคโนโลยี AI Face Beauty และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

สำหรับตัวเครื่องของ Vivo V9 นั้นใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Unibody ซึ่งด้านข้าง และฝาหลังผสานเข้ากันแบบไร้รอยต่อ บวกกับตัวเครื่องสีดำแบบมันวาว จึงช่วยให้ตัวเครื่องมีความสวยงามพรีเมียมดูน่าใช้งาน และแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ฝาหลังยังมีความโค้งมนที่เข้ารูปกับอุ้งมือของผู้ใช้ ซึ่งช่วยให้สามารถจับ หรือถือใช้งานได้อย่างคล่องตัวอีกด้วย และภายในก็ได้บรรจุแบตเตอรี่ขนาด 3260 mAh เอาไว้

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ

Vivo V9 ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 4.0 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด (ซึ่งทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 8.1.0 Oreo) ซึ่งทาง Vivo ได้ทำการปรับปรุง และพัฒนา ให้เวอร์ชันนี้สามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้รวดเร็ว และใช้งานได้ง่ายมากยิ่งขึ้น พร้อมรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด และรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้

อีกทั้งยังสามารถรองรับเทคโนโลยีการสื่อสารทางเสียงผ่านโครงข่าย 4G (Voice over LTE) และยังสามารถเปิดใช้งานโหมดถนอมสายตาด้วยการลดแสงสีฟ้าได้อีกด้วย

มาพร้อมหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4 GB และหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64 GB

นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันสำหรับการแจ้งเตือน เช่น มีความข้อใหม่ หรือสายที่ไม่ได้รับ และยังสามารถเปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้ เช่น การใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือ WiFi

สามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้ ไม่ว่าจะเป็น การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน หรือการเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

และสามารถเปลี่ยนธีมได้หลากหลายอีกด้วย

สำหรับฟังก์ชันโทรศัพท์ก็มีหน้าตาใช้งานได้ง่าย พร้อมด้วยปุ่มตัวเลขขนาดพอดีกับนิ้วมือ ซึ่งช่วยให้กดหมายเลขโทรศัพท์ที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ และสามารถเข้าดูรายชื่อโทรศัพท์ทั้งหมดได้อีกด้วย

ทางด้านบริการต่างๆ จากทาง Google ก็มีให้ใช้งานอย่างครบครัน เช่น Youtube หรือ Google Maps

นอกจากนี้ Vivo V9 ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชัน i Manager สำหรับจัดการส่วนต่างๆ ภายในเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น การล้างข้อมูล (การเคลียร์แรม), การตั้งค่าเพื่อควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ต, การจัดการแอปพลิเคชัน และการจำกัดความเป็นส่วนตัว

สามารถเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงได้

เว็บเบราว์เซอร์ก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี และด้วยหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ จึงช่วยให้สามารถแสดงผลคอนเทนท์ต่างๆ ได้เยอะมากขึ้น

อีกหนึ่งความสามารถของ Vivo V9 คือมีฟังก์ชันสำหรับโคลนนิ่งแอปพลิเคชันได้ เช่น โคลนนิ่งแอปพลิเคชัน Line ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินใช้งานได้พร้อมกัน 2 แอคเคานท์ (กดปุ่มบวกเพื่อโคลนนิ่งแอปลพิเคชัน) แต่อย่างไรก็ดีสามารถโคลนนิ่งได้เฉพาะบางแอปพลิเคชันเท่านั้น

ผู้ใช้สามารถตั้งค่าการใช้งานเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือได้ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มจำนวนลายนิ้วมือ หรือการใช้งานเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเพื่อสั่งงานถ่ายภาพ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

ซึ่งนอกจากระบบสแกนลายนิ้วมือแล้วนั้นบน Vivo V9 ยังมีระบบจดจำใบหน้าที่มีชื่อว่า AI Face Access ซึ่งได้รับการพัฒนาให้ฉลาด และมีความปลอดภัยเพิ่มขึ้น โดยตัวฟังก์ชันจะทำการสแกนใบหน้าหลายจุด เพื่อเก็บรายละเอียดใบหน้าของผู้ใช้ ซึ่งมีประโยชน์ในการป้องกันผู้อื่นแอบอ้างเองภาพถ่ายของผู้ใช้มาทำการปลดล็อกเครื่อง เรียกได้ว่า ช่วยเพิ่มความปลอดภัยอีกหนึ่งขั้นเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมีความสามารถปลดล็อกแอปพลิเคชันด้วยการสแกนใบหน้าได้ อีกทั้งยังมีความชาญฉลาดในการในการลดเสียงเรียกเข้าอัตโนมัติ โดยการใช้เซ็นเซอร์เพื่อตรวจจับว่าผู้ใช้กำลังใช้งานโทรศัพท์อยู่หรือไม่ ถ้าไม่ได้ใช้งานในขณะที่มีสายเรียกเข้า Vivo V9 จะทำการลดเสียงเรียกเข้า เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้นั่นเอง

อีกหนึ่งความน่าสนใจบน Vivo V9 คือ โหมดเกม ซึ่งก็ได้รับการปรับปรุง และพัฒนาให้ดีขึ้นหลายส่วนเช่นกัน โดยในขณะที่เล่นเกมอยู่นั้นแล้วมีสายเรียกเข้า ตัวโหมดเกมจะทำการโชว์เบอร์สายเรียกเข้าเป็นแบบป็อบอัปเท่านั้น ซึ่งจะไม่สลับไปที่หน้าสายเรียกเข้า อีกทั้งผู้ใช้สามารถเลือกรับสาย หรือปฏิเสธรับสาย และหากเลือกรับสาย ผู้ใช้ก็สามารถสนทนากับอีกฝ่าย และเล่นเกมต่อได้ทันที โดยตัว Vivo จะไม่สลับหน้าจอเล่นเกมไปเป็นหน้าจอโทรศัพท์

นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ใหม่ คือ Picture-in-picture โดยการใช้สามนิ้วเลื่อนลงเพื่อเรียกใช้งาน Multitasking ซึ่งตัวฟังก์ชันจะแสดงหน้าต่างของแอปพลิเคชัน Line หรือ Wechat แบบขนาดเล็ก โดยจะไม่ปิดบังหน้าจอเกม จึงทำให้ผู้ใช้สามารถตอบกลับข้อความได้ทันทีแม้จะเล่นอยู่ได้

ทางด้านฟังก์ชัน “ภาพหน้าจอพิเศษ” สำหรับถ่ายภาพหน้าเว็บเบราว์เซอร์ หรือเอกสารที่มีหลายหน้า หรือแม้แต่การถ่ายภาพที่เลือกเฉพาะส่วนแบบแนวนอน ก็มีให้ใช้งานบน Vivo V9 ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังสามารถบันทึกภาพหน้าจอในรูปแบบวิดีโอได้อีกด้วย

ในส่วนของฟังก์ชัน Smart Split ก็มีให้ใช้งาน ซึ่งสามารถเรียกใช้งานพร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน ได้เพียงแค่ผู้ใช้สามนิ้วเลื่อนลงบนหน้าจอ Vivo V9 ก็จะทำการแบ่งหน้าจอให้ทันที บอกได้เลยว่า สะดวกสบายเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ Vivo V7 ยังมีโหมดการใช้งานอัจฉริยะให้ใช้งานด้วยเช่นกัน ซึ่งจะประกอบไปด้วยโหมด Smart Wake, การใช้งานโดยไม่สัมผัส, หน้าจอสว่างอัจฉริยะ, การโทรอัจฉริยะ, เขย่าเพื่อเปิดไฟฉาย, ซูมโดยการเอียงโทรศัพท์ และการเตือนอัจฉริยะ สำหรับฟีเจอร์ Smart Wake จะได้รับการปรับปรุง และพัฒนา เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งสามารถสั่ง เปิด-ปิด การใช้งานต่างๆ ได้มากมาย เช่น การเลื่อนขึ้นเพื่อปลดล็อกหน้าจอ, การเลื่อนลงเพื่อถ่ายรูปภาพ รวมถึงการวาดตัวอักษรเพื่อสั่งเปิดใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น การวาดตัวอักษร C เพื่อเข้าสู่ฟังก์ชันโทรศัพท์ หรือการวาดตัวอักษร M เพื่อเข้าสู่แอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลง เป็นต้น

โดยผู้ใช้สามารถสั่งงานด้วยท่าทางได้หลากหลาย เช่น การหยิบโทรศัพท์มาแนบใบหูเพื่อโทรออกถึงรายชื่อโทรศัพท์ที่ต้องการติดต่อ หรือการเอาฝ่ามือมาบังที่หน้าจอเพื่อปิดเสียง

นอกจากนี้ Vivo V9 ยังมีฟังก์ชันการใช้งานมือเดียว ซึ่งสามารถปรับหน้าจอให้มีขนาดเล็กลง เพื่อให้สามารถใช้งานมือเดียวได้สะดวกมากขึ้น

Vivo V9 ยังสามารถเปิดอ่านไฟล์เอกสารอย่าง Word, Excel และ PowerPoint ได้ผ่านแอปพลิเคชัน WPS Office

อัลบั้มภาพถ่ายนั้นสามารถแสดงภาพถ่ายได้หลักๆ 2 แบบ คือ การแสดงรวมภาพถ่ายทั้งหมด และแสดงภาพถ่ายแบบแยกอัลบั้ม นอกจากนี้ ในขณะที่ชมวิดีโอ ผู้ใช้ยังสามารถเรียกใช้แอปพลิเคชันอื่น ๆ ได้ ด้วยการใช้สามนิ้วเลื่อนหน้าจอลงมาได้ในทันที โดยที่วิดีโอนั้นไม่หยุดเล่นอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการจำแนกภาพถ่ายให้อยู่ในหมวดหมู่เดียวกันได้ผ่าน AI อีกด้วย ซึ่งช่วยให้สามารถค้นหาภาพถ่ายที่ต้องการได้ง่ายมากขึ้น

Vivo V9 ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลง อีกทั้งยังสามารถปรับค่าเอฟเฟกต์เสียงต่างๆ ได้

และยังมีแอปพลิเคชันสำหรับฟังวิทยุ FM ให้ใช้งาน และสามารถบันทึกเสียงวิทยุเอาไว้ฟังในภายหลังได้

Vivo V9 สามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น และสามารถแสดงผลภาพได้อย่างคมชัด สมจริง

และมีฟังก์ชัน Popup Play ให้ใช้งาน

โดย Vivo V9 จะมาพร้อมกับชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm Snapdragon 626 ความเร็วในการประมวลผล 2.2 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 506, หน่วยความจำภายในขนาด 64 GB, หน่วยความจำแรมขนาด 4 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 4.0 (ซึ่งทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 8.1.0 Oreo)

สำหรับคุณสมบัติด้านการประมวลผลของ Vivo V9 นั้นจัดอยู่ในระดับกลาง แต่ก็สามารถเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติได้อย่างไหลลื่นทั้งเกม PUBG หรือเกม ROV โดยไม่มีอาการหน่วง หรือการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องให้พบเจอ

เมื่อนำ Vivo V9 มาทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 90024 คะแนน ส่วนการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน Geekbench4 พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 939 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Single-Core และ 4656 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Multi-Core

ต่อด้วยการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu 3DRating Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 11916 คะแนน

สำหรับ Vivo V9 สามารถรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด

และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน V-Appstore หรือ Google Play Store

กล้องดิจิทัล ถ่ายภาพนิ่ง และถ่ายภาพวิดีโอ

โดยกล้องดิจิทัลทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง ของ Vivo V9 นั้นได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น โดยการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่เข้ามาช่วยในเรื่องของการประมวลผลภาพให้ผู้ใช้ได้ภาพถ่ายที่ดี คมชัด และมีสีสันสมจริงมากที่สุด ซึ่งประกอบไปด้วย AI Face Beauty และ AI Bokeh อีกทั้งยังอัปเกรดกล้องดิจิทัลด้านหลังให้เป็นแบบคู่ Dual-Camera เรียกได้ว่า เป็นสมาร์ทโฟนกล้องหลังแบบคู่รุ่นแรกของค่ายอีกด้วย

สำหรับ Interface กล้องถ่ายภาพของ Vivo V9 นั้นมีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย อีกทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที เช่น ฟังก์ชัน HDR, ฟังก์ชัน AI Bokeh, Live Photo และยังมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพหน้าสวย, โหมถ่ายภาพโปร, โหมดถ่ายภาพ Ultra HD หรือโหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง

โดยโหมดถ่ายภาพโปรนั้นสามารถปรับค่าได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การชดเชยแสง, ค่า ISO หรือความเร็วชัตเตอร์ ส่วนโหมดถ่ายภาพหน้าสวยนั้นสามารถปรับค่าผิวเนียนได้มากถึง 6 ระดับ ซึ่งในโหมดถ่ายภาพหน้าสวยนี้จะทำหน้าที่ร่วมกับเทคโนโลยี AI Face Beauty โดย AI Face Beauty จะเข้ามาช่วยปรับแต่งใบหน้าของตัวแบบให้มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมีการปรับแต่งตามเพศของตัวแบบ เพื่อให้ดูสมจริงมากที่สุด

ในส่วนของฟังก์ชัน AI Bokeh นั้นผู้ใช้สามารถปรับค่ารูรับแสงได้ตั้งแต่ f/0.95 ไปจนถึง f/16 อีกทั้งเมื่อถ่ายภาพเสร็จเรียบร้อยแล้วยังสามารถเลือกจุดโฟกัสที่ต้องการในภายหลังได้อีกด้วย

และยังมีเอฟเฟกต์ให้ใช้งานหลายรูปแบบ

อีกหนึ่งความน่าสนใจบนกล้องดิจิทัลด้านหลังของ Vivo V9 คือมีฟังก์ชันใหม่ชื่อว่า AR Sticker ซึ่งมีรูปแบบให้เลือกถ่ายภาพหลากหลายเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมได้อีกหลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ ซึ่งสามารถตั้งเวลาได้นานสูงสุด 10 วินาที, สามารถเลือกสัดส่วนของภาพถ่าย, การเปิดใช้งานการสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ, เลือกที่เก็บบันทึกภาพถ่าย, เปิด-ปิด เสียงชัตเตอร์, การใส่ลายน้ำ, การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย และเปิดใช้งานตารางเก้าช่อง นอกจากนี้ กล้องดิจิทัลด้านหลังของ Vivo V9 นั้นสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K Ultra HD

ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็มาหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใช้งานไฟแฟลชแบบ Smart Screen Flash, ฟังก์ชัน HDR, ฟังก์ชัน Bokeh หรือฟังก์ชัน Live Photo และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพปกติ, โหมดถ่ายภาพหน้าสวย และโหมดถ่ายภาพเซลฟี่แบบกลุ่ม

สำหรับโหมดถ่ายภาพหน้าสวยบนกล้องดิจิทัลด้านหน้าของ Vivo V9 นั้นรองรับเทคโนโลยี AI Face Beauty ซึ่งสามารถปรับค่าได้ตั้งแต่อัตโนมัติ ไปจนถึงระดับ 6 พร้อมทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับฟังก์ชัน Bokeh เพื่อละลายฉากหลังได้

กล้องดิจิทัลด้านหน้าก็รองรับฟังก์ชันใหม่ที่มีชื่อว่าชื่อว่า AR Sticker ด้วยเช่นกัน ซึ่งมีรูปแบบให้เลือกถ่ายภาพหลากหลายเป็นอย่างมาก

และยังมีเอฟเฟกต์ให้ใช้งานหลายรูปแบบ

นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมได้อีกหลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ ซึ่งสามารถตั้งเวลาได้นานสูงสุด 10 วินาที, สามารถเลือกสัดส่วนของภาพถ่าย, การเปิดใช้งานการสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ, เลือกที่เก็บบันทึกภาพถ่าย, เปิด-ปิด เสียงชัตเตอร์, การใส่ลายน้ำ, การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย และเปิดใช้งานตารางเก้าช่อง นอกจากนี้ กล้องดิจิทัลด้านหน้าของ Vivo V9 นั้นสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K Ultra HD

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังแบบ Dual-Camera ความละเอียดระดับ 16+5 ล้านพิกเซล ของ Vivo V9

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าผิวเนียนระดับ 3

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าผิวเนียนระดับ 6

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ พร้อมเปิดใช้งานฟังก์ชัน AI Bokeh (f/1.4)

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าผิวเนียนระดับ 3 และเปิดใช้งานฟังก์ชัน AI Bokeh (f/1.4)

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าผิวเนียนระดับ 6 และเปิดใช้งานฟังก์ชัน AI Bokeh (f/1.4)

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (AI Face Beauty) ของ Vivo V9

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (AI Face Beauty) พร้อมปรับค่าแบบอัตโนมัติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (AI Face Beauty) พร้อมปรับค่าผิวเนียนระดับ 3

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (AI Face Beauty) พร้อมปรับค่าระดับ 6

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (AI Face Beauty) พร้อมปรับค่าแบบอัตโนมัติ และเปิดใช้งานฟังก์ชันหน้าชัดหลังเบลอ (AI Bokeh)

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (AI Face Beauty) พร้อมปรับค่าระดับ 3 และเปิดใช้งานฟังก์ชันหน้าชัดหลังเบลอ (AI Bokeh)

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (AI Face Beauty) พร้อมปรับค่าระดับ 6 และเปิดใช้งานฟังก์ชันหน้าชัดหลังเบลอ (AI Bokeh)

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพ AR Sticker

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพ AR Sticker

สรุปผลการทดสอบของ Vivo V9

จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับการรีวิว Vivo V9 ยอดสมาร์ทโฟนเพื่อการเซลฟี่ ที่มาพร้อมกล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) รุ่นแรกของค่าย กับสเปกครบเครื่องทุกการใช้งาน ในราคาที่จับต้องได้ไม่ยาก ก่อนอื่นต้องขอบอกเลยว่าหลังจากทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมา ก็พอที่จะสรุปได้ว่า Vivo V9 นั้นถือเป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่มีความสามารถหลากหลายเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังสามารถตอบโจทย์การใช้งานต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งเรื่องของจอแสดงผลขนาดใหญ่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับชมคอนเทนท์ หรือเล่นเกมสนุกๆ อย่างเพลิดเพลิน เต็มตา, กล้องถ่ายภาพด้านหน้า กับเทคโนโลยี AI Face Beauty ก็ทำงานร่วมกันได้ดี ภาพถ่ายที่ได้ก็มีความเนียนตาดูเป็นธรรมชาติ, กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ ก็ไม่น้อยหน้าสามารถถ่ายภาพออกมาได้อย่างคมชัด อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี AI Bokeh ซึ่งช่วยให้ถ่ายภาพ Portrait และเบลอฉากหลังให้ตัวแบบเด่นชัดมากขึ้นได้อย่างน่าประทับใจ และมีคุณสมบัติตัวเครื่องที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ดีทุกๆ ด้าน แถมยังวางจำหน่ายในราคาคุ้มๆ เพียง 10,999 บาท เท่านั้น เรียกได้ว่า เป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่มีจุดเด่นที่ครบเครื่องไม่แพ้ใครในระดับราคาที่ใกล้เคียงกันเลยก็ว่าได้

อย่างทีได้กล่าวไว้ในข้างต้นว่ากล้องดิจิทัลของ Vivo V9 นั้นสามารถถ่ายภาพได้ดี โดยเฉพาะกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0 และไฟแฟลชแบบ Smart Screen Flash พร้อมรองรับเทคโนโลยี AI Face Beauty ซึ่งจากการทดสอบก็พบว่าภาพถ่ายที่ได้นั้นมีความสมจริง และดูเนียนตาเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยเทคโนโลยี AI Face Beauty นั้นมีความสามารถในการวิเคราะห์โครงหน้า และสามารถวิเคราะห์ใบหน้าได้ว่าใบหน้าตัวแบบเป็นเพศใด เพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่สมจริงมากที่สุดนั่นเอง บอกได้เลยว่า ต้องถูกอกถูกใจผู้ที่รักการถ่ายภาพเซลฟี่ตัวจริงอย่างแน่นอน

สำหรับกล้องดิจิทัลด้านหลังแบบ Dual-Camera ความละเอียด 16+5 ล้านพิกเซล ซึ่งมีรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus), ไฟแฟลช LED ก็ตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพได้ดีทั้งในสภาวะแสงปกติ หรือในสภาวะแสงน้อย อีกทั้งยังสามารถโฟกัสภาพได้รวดเร็วฉับไว อีกทั้งภาพถ่ายที่ได้ยังมีความคมชัด และสีสันสมจริง นอกจากนี้ กล้องดิจิทัลด้านหลังยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี AI Bokeh ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับค่ารูรับแสงได้กว้างสุดถึง f/0.95 ได้ จึงช่วยให้สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอเพื่อให้ตัวแบบดูเด่นขึ้นได้อย่างดูเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังสามารถตัดขอบการเบลอของตัวแบบได้อย่างเนียนตา

นอกจากในเรื่องของกล้องถ่ายภาพ ทางด้านหน้าจอแสดงผลไร้ขอบแบบ IPS LCD FullView Display ความละเอียด 2280x1080 พิกเซล พิกเซล ขนาด 6.3 นิ้ว อัตราส่วน 19:9 ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งประโยชน์ของหน้าจอแบบ FullView Display นั้นช่วยให้ Vivo V9 นั้นมีพื้นที่หน้าจอแสดงผลเพิ่มมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มขนาดของตัวเครื่อง จึงทำให้สามารถรับชมคอนเทนท์ต่างๆ ได้อย่างเต็มตา เช่น ภาพยนตร์ หรือเล่นเกม

ในส่วนของการออกแบบดีไซน์ก็ถือว่ามีความโดดเด่นไม่น้อย ซึ่งด้วยเทคโนโลยีการผลิตแบบ Unibody บวกกับฝาหลังผสานเข้ากันแบบไร้รอยต่อบวกกับตัวเครื่องมีความโค้งเข้ารูปกับอุ้งมือ จึงช่วยให้ตัวเครื่องมีความสวยงามพรีเมียมดูน่าใช้งาน และสามารถจับ หรือถือใช้งานได้อย่างคล่องตัว แต่อย่างไรก็ดี ตัวเครื่องของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เป็นสีแบบมันวาว จึงทำให้เกิดคราบเปื้อน หรือรอยนิ้วมือได้ง่าย

ทางด้านคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับราคาค่าตัว ไม่ว่าจะเป็น เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, รองรับเทคโนโลยี AI Face Access สำหรับปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้า, รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง, รองรับการใช้งานสองแอปพลิเคชันพร้อมกันผ่านฟังก์ชัน Smart Split, รองรับการโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน, มีโหมดเกมสำหรับรับสายเรียกเข้าโดยไม่สลับหน้าจอ, ถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ Triple-Slot Tray ซึ่งเป็น 3 ช่องอิสระ ที่สามารถใส่ซิมการ์ดที่ 1, ซิมการ์ดที่ 2 และการ์ดหน่วยความจำภายนอกได้พร้อมๆ กัน, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, รองรับฟังก์ชันโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน และแบตเตอรี่ขนาด 3260 mAh

ในส่วนของคุณสมบัติด้านการประมวลผล ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm Snapdragon 626 ความเร็วในการประมวลผล 2.2 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 506, หน่วยความจำภายในขนาด 64 GB, หน่วยความจำแรมขนาด 4 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 4.0 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด (ซึ่งทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 8.1.0 Oreo) ซึ่งจากทดสอบทั้งการเล่นเกมที่มีการฟิกแบบสามมิติ หรือชมภาพยนตร์ความละเอียดสูงระดับ Full HD (1080p) Vivo V9 ก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างไหลลื่นโดยไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้พบเจอ อีกทั้งยังไม่มีการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องอีกด้วย

และจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านก็พอที่จะสรุปได้ว่า Vivo V9 น่าจะเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเซลฟี่เป็นพิเศษที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกล้องดิจิทัลด้านหน้าที่ถ่ายภาพได้สวยคมชัด, ดีไซน์เรียบหรูบางเฉียบ จับถนัดมือ, สเปกเครื่องที่สามารถตอบสนองการใช้งานได้ดีทุกรูปแบบอย่างเต็มประสิทธิภาพ และมีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย ในราคาที่จับต้องได้ไม่ยาก ซึ่ง Vivo V9 ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม และหากท่านใดที่สนใจก็สามารถเป็นเจ้าของ Vivo V9 ได้แล้ววันนี้ที่ Vivo Shop หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ในราคาคุ้มค่าเพียง 10,999 บาท

สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Vivo ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Vivo V9 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ

จุดเด่นของ Vivo V9

- ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Unibody ซึ่งด้านข้าง และฝาหลังผสานเข้ากันแบบขอบโค้งแบบไร้รอยต่อ พร้อมความบางเฉียบเพียง 7.89 มิลลิเมตร
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน
- รองรับระบบจดจำใบหน้าสำหรับปลดล็อกตัวเครื่อง (AI Face Access)
- จอแสดงผลแบบไร้ขอบ FullView Display ความละเอียด 2280x1080 พิกเซล ขนาด 6.3 นิ้ว ในอัตราส่วน 19:9 พร้อมครอบทับด้วยกระจอหน้าจอแดง 2.5D Glass
- หน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 506 - รองรับการใช้งานสองแอปพลิเคชันพร้อมกันผ่านฟังก์ชัน Smart Split
- รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง
- ฟังก์ชันสำหรับลดแสงสีฟ้า เพื่อถนอมสายตา
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm Snapdragon 626 ความเร็วในการประมวลผล 2.2 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 4.0 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด (ซึ่งทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 8.1.0 Oreo)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 64 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 256 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล พร้อมขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0, ไฟแฟลชแบบ Smart Screen Flash, พร้อมรองรับเทคโนโลยี AI Face Beauty, ฟังก์ชัน Bokeh และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K Ultra HD
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบ Dual-Camera ความละเอียด 16+5 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus), รูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0, ไฟแฟลช LED, รองรับเทคโนโลยี AI Bokeh และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K Ultra HD
- รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual SIM)
- ถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot Tray สามารถใส่สองซิมการ์ด กับการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ได้พร้อมๆ กัน
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, WiFi, EDGE และ GPRS
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- แอปพลิเคชัน i Manager สำหรับจัดการส่วนต่างๆ ภายในเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น การล้างข้อมูล (การเคลียร์แรม), การตั้งค่าเพื่อควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ต, การจัดการแอปพลิเคชัน และการจำกัดความเป็นส่วนตัว
- ชนิดแบตเตอรี่แบบ Li-Ion ขนาด 3260 mAh
- มีวิทยุ FM ในตัว
- ราคา 10,999 บาท

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Vivo V9

- การแสดงผลแบบเต็มหน้าจอ FullView ในอัตราส่วนแบบ 19:9 ยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์ 100% เช่นการเปิดดู YouTube, การเปิดดูคลิปวิดีโอ, การเล่นเกม หรืออื่นๆ
- วัสดุที่ใช้ผลิตตัวเครื่องไม่ใช่โลหะ แต่ถูกทำพื้นผิวให้ดูคล้ายโลหะ
- ตัวเครื่อง หากเป็นสีดำเซรามิก จะมีพื้นผิวแบบมันวาว จึงทำให้เกิดคราบเปื้อน หรือรอยนิ้วมือได้ง่าย

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

สรุปคุณสมบัติเครื่อง

ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติโดยละเอียด (สเปก) ของ Vivo V9 ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้

สรุปคุณสมบัติโดยละเอียด (สเปก) ของ Vivo V9

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::