รีวิว (Review) Samsung Galaxy A70

จากข้อมูลในข้างต้นก็กล่าวได้ว่า Samsung Galaxy A70 มีจุดเด่นที่น่าสนใจในหลายด้านเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ระดับพรีเมียมเทียบชั้นเรือธง พร้อมฟีเจอร์ที่จัดมาให้แบบครบครัน และระบบการถ่ายภาพที่ดีกว่าเดิมด้วยกล้องหลัง 3 ตัว กับราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยที่ 15,990 บาท ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน และฟีเจอร์ที่มีอยู่จะตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีเพียงใด ขอเชิญทุกท่านรับชมการรีวิว Samsung Galaxy A70 ไปพร้อมกันได้เลยค่ะ

Samsung Galaxy A70 มาในแพ็กเกจสีขาวสะอาดตา พร้อมระบุชื่อรุ่น A70 ไว้อย่างชัดเจน

ภายในกล่องมีอุปกรณ์พื้นฐานมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น อะแดปเตอร์ 25W Fast Charging, สายเชื่อมต่อแบบ USB Type-C, หูฟัง, เคสใส, เข็มสำหรับถอดถาดซิมการ์ด และคู่มือการใช้งาน

ภาพตัวอย่างการสวมใส่เคสใสที่แถมมาให้ภายใน แพ็กเกจ

Samsung Galaxy A70 มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Super AMOLED Infinity-U Display ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2400 พิกเซล : 392 ppi) และครอบทับด้วยกระจกขอบโค้งแบบ 2.5D บนตัวเครื่องมีขนาด 164.3x76.7x7.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 183 กรัม

Samsung Galaxy A70 ปรับมาใช้การดีไซน์ใหม่แบบ Infinity-U Display ด้วยหน้าจอไร้ขอบที่มีรอยบากแบบหยดน้ำ สำหรับกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล เหนือขึ้นไปบริเวณขอบหน้าจอด้านบนจะมีการติดตั้งลำโพงสำหรับสนทนา และ Proximity Sensor สำหรับปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน กับ Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอ และแผงปุ่มกดให้เหมาะสม

โดยผู้ใช้สามารถเลือกปิด Notch ที่ด้านบนด้วยแถบสีดำแทน

รวมถึงรองรับระบบการสแกนใบหน้า (Face Recognition) สำหรับปลดล็อกหน้าจอ

ด้านหน้าส่วนล่างประกอบด้วย ปุ่มกดแบบ On-Screen ได้แก่ ปุ่ม Recent App, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ

โดยผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนมาใช้ Full Screen Gestures ในการใช้นิ้วลาก และปัดบริเวณขอบหน้าจอเพื่อสั่งการแบบต่างๆ ได้ด้วย

หนึ่งในจุดเด่นที่น่าสนใจของ Samsung Galaxy A70 ก็คือการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Optical ไว้บนหน้าจอ (On-Screen Fingerprint)

และรองรับฟังก์ชัน Always-On Display ในการแสดงเวลา วันที่ รวมถึงการแจ้งเตือนขณะปิดหน้าจอ

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีถาดใส่ซิมการ์ด nanoSIM แบบ Triple-Slot ซึ่งรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ที่ความจุสูงสุด 512GB ได้ในเวลาเดียวกัน

ด้านขวาของตัวเครื่อง มีปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง

ที่ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัวที่สอง

ที่ด้านล่างประกอบด้วย ลำโพงเสียงภายนอก, ไมโครโฟนตัวหลัก, พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C และช่องสำหรับเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านหลังของ Samsung Galaxy A70 มีดีไซน์เงางามคล้ายกระจกแบบ 3D Glasstic พร้อมความโค้งรับกับฝ่ามือขณะถือใช้งาน และสามารถสะท้อนเล่นกับแสงในมุมตกกระทบต่างๆ ได้ โดยตัวเครื่องที่ทางทีมงานนำมารีวิวให้ได้ชมกันเป็นสีดำ (Black)

กล้องตัวหลักที่ด้านหลังของ Samsung Galaxy A70 มีทั้งหมด 3 ตัว (AI Triple Camera) ความละเอียด 32 + 8 + 5 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์มุมกว้าง Ultra-Wide และ Depth Camera โดยมี F/1.7 + F/2.2 + F/2.2 ซึ่งรองรับฟีเจอร์ Live Focus ในการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ และเทคโนโลยี Scene Optimizer ในการตรวจจับซีนต่างๆ จากทั้งหมด 20 หมวดหมู่ รวมถึงฟังก์ชัน AR Emoji

Samsung Galaxy A70 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย User Interface โฉมใหม่จาก Samsung อย่าง One UI โดยรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด พร้อมรองรับการสแตนด์บายแบบ Dual 4G LTE และการสนทนาผ่านระบบ VoLTE

มีหน่วยความแรม (RAM) ขนาด 8GB พร้อมหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB ที่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card ได้สูงสุดที่ขนาด 512GB

เมื่อลากจากขอบด้านบนของหน้าจอลงมาจะพบกับ Notification Center ซึ่งเป็นหน้ารวมสำหรับการแสดงแจ้งเตือนต่างๆ และเมื่อปัดลงอีกหนึ่งครั้งจะเป็นการขยายหน้าจอปุ่มลัดสำหรับการเปิด-ปิดฟังก์ชัน ต่างๆ มากมาย เช่น การใช้งานอินเทอร์เน็ต, Bluetooth หรือการหมุนหน้าจออัตโนมัติ

โดยผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งตำแหน่งของคีย์ลัด เองได้ตามความถนัด

เมื่อกดปุ่ม Recent Apps จะพบกับหน้าแอปพลิเคชันทั้งหมดที่เปิดใช้งานเอาไว้ ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกปิดแอปพลิเคชันที่เปิดค้างเอาไว้ได้ เพียงแค่เลื่อนหน้าต่างแอปนั้นๆ ไปยังด้านบน หรือปิดแอปพลิเคชันทั้งหมดภายในครั้งเดียวได้อย่างง่ายดาย ด้วยการกดปุ่ม Close All ที่ด้านล่าง หรือกดค้างที่ไอคอนแอปพลิเคชันเพื่อเข้าสู่เมนูลัด

เมื่อปัดหน้าจอไปทางขวาจะพบกับผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby เพียงแต่จะไม่มีปุ่มกดเรียกเหมือนรุ่นเรือธง โดยในหน้า Bixby Home เป็นหน้า Dashboard ที่รวมเอากิจกรรมทุกอย่างที่เราทำเป็นประจำ รวมถึงกิจกรรมที่หน้าสนใจมารวมไว้ในหน้าเดียวกัน

เมื่อกดค้างที่หน้าจอจะเป็นการเข้าสู่เมนูการ ปรับแต่งหน้าจอ โดยผู้ใช้สามารถปรับตำแหน่งของไอคอน พร้อมเลือกใช้งาน Widget ที่ต้องการได้

สามารถเปลี่ยนธีม, ภาพพื้นหลัง รวมถึงไอคอน และรูปแบบฟังก์ชัน Always-On Display ได้

Samsung Galaxy A70 สามารถเลือกตั้งค่าการแสดงผลแบบปกติ หรือแบบ Night Mode ที่จะปรับพื้นหลังให้เป็นสีดำ

พร้อมฟังก์ชันการตัดแสงสีฟ้า Blue Light Filter

มีโหมดการแสดงผลมาตรฐานมาให้เลือกทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ Vivid และ Natural โดยในโหมด Vivid จะสามารถปรับตั้งค่า White Balance ได้เองอีกด้วย

สามารถเลือกรูปแบบการแสดงผลของหน้าจอได้ 2 แบบ ได้แก่ Standard Mode และ Easy Mode

สามารถสลับตำแหน่งของปุ่ม Navigation Buttons ให้เหมาะกับการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนได้ หรือเลือกใช้งานการควบคุมแบบ Full Screen Gestures ในการปัดหน้าจอขึ้นลักษณะต่างๆ เพื่อสั่งการ โดยสามารถเลือกให้แสดง หรือปิด Gesture hints ได้

สำหรับฟังก์ชัน Always-On Display สามารถเลือกการแสดงผล และดีไซน์ได้ตามที่ต้องการ รวมถึงเลือกให้แสดง Notification ต่างๆ ในหน้า Always-On ขณะปิดหน้าจอ และเลือกเปลี่ยนสี / ดีไซน์ของนาฬิกาได้ด้วย

สำหรับรูปแบบของ Screen Lock มีด้วยกัน 5 รูปแบบ

Samsung Galaxy A70 รองรับการปลดล็อกหน้าจอด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Optical ที่ฝังอยู่บนหน้าจอ (On-Screen Fingerprint) ที่สามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้มากกว่า 1 ลายนิ้วมือ ซึ่งจากการทดสอบตัวเซ็นเซอร์ก็สามารถปลดล็อกหน้าจอได้รวดเร็วทันใจ

และการสแกนใบหน้า (Face Recognition) ที่สามารถระบุได้ว่าเราสวมใส่แว่นตาเป็นประจำหรือไม่ เพื่อความสะดวกสำหรับผู้ที่สวมแว่นตาโดยเฉพาะ

Samsung Galaxy A70 รองรับฟังก์ชัน Smart Pop-up View สำหรับการย่อแอปพลิเคชันให้เป็นหน้าต่างขนาดเล็กที่สามารถเลื่อนตำแหน่งได้อย่าง อิสระ, ปรับขนาดได้ และทำงานอย่างอื่นไปพร้อมๆ กันได้

ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน Smart Pop-Up View

รองรับฟังก์ชันอัจฉริยะต่างๆ ได้แก่ Smart Capture กับ Direct Share

และ Motions and Gestures ในการตรวจจับท่าทางเพื่อสั่งการ ได้แก่ Smart Stay ที่ช่วยเปิดหน้าจอค้างไว้ จากการตรวจจับระดับสายตาของผู้ใช้จากกล้องหน้า

Smart Alert สำหรับสั่นเตือนเมื่อมีสายเรียกเข้าที่ไม่ได้รับ, Easy Mute คว่ำหน้าจอลงเพื่อปิดเสียงสายเรียกเข้า

และการสกรีนช็อตด้วยการลากมือผ่านหน้าจอ กับการเลื่อนแถบรายชื่อผู้ติดต่อเพื่อโทร หรือส่งข้อความในทันที

รวมถึงรองรับฟังก์ชัน One-Handed Mode สำหรับย่อหน้าต่างให้มีขนาดเล็กลงมาเพื่อช่วยให้ใช้งานมือถือด้วยมือเดียวอย่างสะดวก ขึ้น

สามารถใช้งานแอปพลิเคชันโซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือแอปพลิเคชันแชทได้พร้อมกัน 2 แอคเคานท์ผ่านฟังก์ชัน Dual Messenger

เมื่อกดค้างที่ไอคอนแอปพลิเคชันจะพบกับเมนูลัด ต่างๆ

Samsung Galaxy A70 มีโหมดให้เลือกใช้งานเพื่อประหยัดพลังงานอยู่ 3 รูปแบบ

โดยโหมดที่ช่วยประหยัดพลังงานสูงสุดก็คือ Maximum Power Saving

สำหรับแบตเตอรี่มีความจุ 4500 mAh และรองรับระบบการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ 25W Fast Charging

รองรับฟังก์ชัน Split-Screen View ที่สามารถแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งานสองแอปพลิเคชันได้พร้อมๆ กัน โดยรองรับการใช้งานทั้งในแนวตั้ง และแนวนอน

มีแอปพลิเคชันจากทาง Samsung อย่าง Samsung Max ที่ช่วยในการประหยัดปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ต รวมถึงการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวขณะใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ Wi-Fi

อีกหนึ่งแอปพลิเคชันที่ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน Samsung ประทับใจมานานแล้วก็คือ Galaxy Gift นั่นเอง เพราะเหมือนกับเป็นศูนย์รวมโปรโมชั่น, ส่วนลด หรือของฟรี ต่างๆ มากมาย เพื่อผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน Samsung โดยเฉพาะ ทั้งอาหาร, ขนม, เครื่องดื่ม, ที่พัก, บัตรชมภาพยนตร์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, สมาร์ทโฟน, อุปกรณ์เสริม และอีกมากมาย

Samsung Members ที่เปรียบเหมือนแอปพลิเคชันบริการหลังการขายเคลื่อนที่ ด้วยช่องทางการแจ้งปัญหาการใช้งานแบบออนไลน์, การสนทนาทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่, สิทธิพิเศษ และเครื่องมือสำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพ พร้อมการทดสอบการทำงานของฮาร์ดแวร์ว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นหรือไม่

และมี Samsung Health แอปพลิเคชันสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ และการออกกำลังกาย ให้สามารถวางแผนการกิน, การพักผ่อน และการออกกำลังกายของตนเองในแต่ละวันได้ง่ายขึ้น

ทางด้านอัลบั้มภาพถ่ายนั้นสามารถแสดงภาพถ่ายได้ หลักๆ 2 แบบ คือ แสดงแบบแยกอัลบั้ม และแบบรวมภาพถ่ายทั้งหมด

ในส่วนของเว็บเบราว์เซอร์ก็ตอบสนองต่อการใช้งาน ได้ดี ไหลลื่น และสามารถแสดงเนื้อหาทั้งหมดได้อย่างถูกต้องครบถ้วน โดยสามารถเลือกให้แสดงผลแบบปกติ และแบบ Reading Mode

และใน Reading Mode สามารถเปลี่ยนสีของพื้นหลังได้ เพื่อความสบายตา

นอกจากนี้ Samsung Galaxy A70 ยังมีฟีเจอร์ Game Launcher ที่รวมเกมทั้งหมดภายในเครื่องมารวมไว้ในที่เดียวกัน พร้อมฟังก์ชันเพิ่มเติม เช่นฟังก์ชันประหยัดพลังงานขณะเล่นเกม หรือปิดการแจ้งเตือนขณะเล่นเกม

สำหรับเซ็นเซอร์ในเครื่อง Samsung Galaxy A70 นั้นประกอบด้วย Accelerometer Sensor, Light Sensor, Orientation Sensor, Proximity Sensor, Gyroscope Sensor, Sound Sensor และ Magnetic Sensor

สามารถจับสัญญาณดาวเทียม GPS ในที่กลางแจ้งได้ดี ส่วนภายในตัวอาคารก็ยังสามารถรับสัญญาณในระดับที่พอใช้งานได้ โดยจากภาพตัวอย่างการทดสอบข้างต้น เป็นการทดสอบภายในตัวอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ที่มีกำแพงสูง และมีกระจกหนา ก็จะเห็นว่ายังคงสามารถจับสัญญาณดาวเทียมได้ทั้งหมด 36 ดวง และมีความแม่นยำในระดับบวกลบ 13 เมตร สรุปก็คือคุณภาพของสัญญาณดาวเทียม GPS ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ ที่กำลังใช้งานอยู่ หรือสภาพอากาศด้วยนั่นเอง

Samsung Galaxy A70 มาพร้อมชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 675 AIE แบบ 8-แกน (Octa-Core) ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.0 GHz โดยมีหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 612, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB ที่สามารถเพิ่ม microSD Card ได้สูงสุดที่ขนาด 512GB และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย One UI

Samsung Galaxy A70 มีผลทดสอบจากแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ที่ 167,872 คะแนน และผลทดสอบจาก Geekbench 4 ในด้านการประมวลผลแบบแกนเดี่ยว (Single-Core) ที่ 2,390 คะแนน และในด้านการประมวลผลหลายแกน (Multi-Core) ที่ 6,641 คะแนน

สำหรับการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน 3D Mark แบบ OpenGL ES 3.1 ได้คะแนนการทดสอบที่ 974 คะแนน ส่วนการทดสอบแบบ Vulkan ได้คะแนนการทดสอบที่ 1,064 คะแนน

Samsung Galaxy A70 รองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด

จากการทดสอบด้วยการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสาม มิติอย่าง PUBG Mobile, ROV, Asphalt Xtreme และ Marvel Future Fight ก็พบว่า Samsung Galaxy A70 นั้นสามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างไหลลื่น ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุก แต่ก็มีการสะสมความร้อนให้เห็นบ้าง

Samsung Galaxy A70 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ Infinity-U Display ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ และมีอัตราส่วนแบบ 20:9 จึงสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD 1080p ได้อย่างคมชัดเต็มอรรถรส และให้มุมมองที่กว้างเต็มตาเป็นพิเศษ

Samsung Galaxy A70 มาพร้อมกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว (AI Triple Camera) ความละเอียด 32 + 8 + 5 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์มุมกว้าง Ultra-Wide และ Depth Camera มี F/1.7 + F/2.2 + F/2.2 โดย Interface ของแอปพลิเคชันกล้องมีการดีไซน์สะอาดตา และมีเมนูให้ได้เลือกใช้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น การเปิด-ปิด ไฟแฟลช, การตั้งเวลาถ่ายภาพ, สัดส่วนภาพถ่าย และฟีลเตอร์แบบต่างๆ

รวมถึง Beauty ปรับค่าผิวเนียนได้ 3 ระดับ

ฟังก์ชัน Live Ficus สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ สามารถปรับระดับความเบลอได้ 7 ระดับ และสามารถปรับระดับความเบลอภายหลังได้ด้วย

ตัวอย่างมุมกล้องแบบปกติ และแบบมุมกว้างด้วยเลนส์ Ultra-Wide

ในโหมดการถ่ายภาพปกติมีเทคโนโลยี Scene Optimizer ที่เป็นการนำเอาระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยวิเคราะห์สภาพแวดล้อม และวัตถุที่อยู่ตรงหน้า เพื่อปรับแต่งการตั้งค่าของกล้องให้เหมาะสมแบบอัตโนมัติ ทั้งหมด 20 หมวดหมู่

สำหรับการถ่ายโหมด Pro บน Samsung Galaxy A70 มาพร้อมกับรายละเอียดการตั้งค่าต่างๆ ที่ครบครัน และครอบคลุมสำหรับช่างภาพแทบทั้งหมด

รวมถึงการถ่ายภาพในมุมกว้างแบบ Panorama

สามารถถ่ายภาพในโหมด AR Emoji สำหรับสร้างอวาตารของผู้ใช้ในรูปแบบการ์ตูน 3 มิติ ที่สามารถปรับแต่งโครงสร้างใบหน้า ร่างกาย รวมถึงการแต่งตัวได้ตามใจชอบ โดยสามารถเลือกดาวน์โหลดเครื่องแต่งกายได้เพิ่มเติมที่แอปพลิเคชัน Galaxy Store ซึ่งมีทั้งแบบฟรี และเสียเงิน

พร้อมถ่ายภาพด้วยการตรวจจับความเคลื่อนไหวบนใบ หน้าของผู้ใช้ ที่สามารถเปลี่ยนสีพื้นหลัง รวมถึงเลือกถ่ายแบบเฉพาะส่วนหัวได้

และมีสติกเกอร์แบบต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้แก่การถ่ายภาพ

ด้านการถ่ายวิดีโอ Samsung Galaxy A70 สามารถถ่ายในมุมมองปกติ และมุมกว้างด้วยเลนส์ Ultra-Wide ได้ โดยรองรับความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K UHD และสามารถใส่ฟีลเตอร์แบบต่างๆ ได้

นอกจากนี้ยังรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Slow motion และ Hyperlapse ได้ด้วยเช่นกัน

รวมถึงถ่ายวิดีโอในโหมด AR Emoji

สำหรับกล้องหน้าของ Samsung Galaxy A70 มีความคมชัดระดับ 32 ล้านพิกเซล พร้อมกับ F/2.0 โดย Interface ของแอปพลิเคชันกล้องมีการดีไซน์สะอาดตา และมีเมนูให้ได้เลือกใช้อย่างชัดเจน เหมือนกับกล้องหลัง ได้แก่ การเปิด-ปิด ไฟแฟลช, การตั้งเวลาถ่ายภาพ, สัดส่วนภาพถ่าย และฟีลเตอร์แบบต่างๆ

รวมถึง Beauty ปรับค่าผิวเนียนได้ 3 ระดับ

รองรับการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอด้วยฟังก์ชัน Live Focus โดยสามารถปรับระดับความเบลอได้ 7 ระดับ และสามารถปรับระดับความเบลอภายหลังได้เช่นกัน

กล้องหน้าของ Samsung Galaxy A70 ก็มาพร้อมกับ AR Emoji ในการสร้างอวาตารของผู้ใช้ในรูปแบบการ์ตูน 3 มิติ ที่สามารถปรับแต่งโครงสร้างใบหน้า ร่างกาย รวมถึงการแต่งตัวได้ตามใจชอบ โดยสามารถเลือกดาวน์โหลดเครื่องแต่งกายได้เพิ่มเติมที่แอปพลิเคชัน Galaxy Store ซึ่งมีทั้งแบบฟรี และเสียเงิน

 พร้อมตรวจจับความเคลื่อนไหวบนใบหน้าของ ผู้ใช้ ที่สามารถเปลี่ยนสีพื้นหลัง รวมถึงเลือกถ่ายแบบเฉพาะส่วนหัวได้

และสติกเกอร์น่ารักๆ ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับการถ่ายเซลฟี่

ด้านการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้ารองรับความ ละเอียดสูงสุดที่ระดับ Full HD+ และสามารถเพิ่มฟีเตอร์แบบต่างๆ ได้

และรองรับโหมด Beauty ที่สามารถปรับค่าผิวเนียนได้ 3 ระดับ

รวมถึงการบันทึกวิดีโอในโหมด AR Emoji

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ พร้อมเปิดฟังก์ชัน Scene Optimizer

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ

ภาพถ่ายมุมกว้างแบบ Ultra-Wide

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ

ภาพถ่ายมุมกว้างแบบ Ultra-Wide

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ พร้อมเปิดโหมด Beauty ที่ระดับ 3

ภาพถ่ายจากโหมด Live Focus

ภาพถ่ายพร้อมสติกเกอร์จากฟังก์ชัน AR Emoji

 

ภาพถ่ายจากฟังก์ชัน AR Emoji

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ พร้อมเปิดฟังก์ชัน Scene Optimizer ในเวลากลางคืน

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ ในเวลากลางคืน

ภาพถ่ายมุมกว้างแบบ Ultra-Wide ในเวลากลางคืน

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ ในเวลากลางคืน

ภาพถ่ายมุมกว้างแบบ Ultra-Wide ในเวลากลางคืน

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ ในเวลากลางคืน

ภาพถ่ายมุมกว้างแบบ Ultra-Wide ในเวลากลางคืน

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ พร้อมเปิดฟังก์ชัน Beauty ที่ระดับ 3

ภาพถ่ายจากโหมด Selfie Focus กับค่าความเบลอระดับที่ 2

ภาพถ่ายจากโหมด Selfie Focus กับค่าความเบลอระดับที่ 7

ภาพถ่ายพร้อมสติกเกอร์จากฟังก์ชัน AR Emoji

ภาพถ่ายจากฟังก์ชัน AR Emoji

Samsung Galaxy A70 ทำงานอยู่บนระบบ ปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ที่ถูกครอบทับด้วย One UI กับการปรับ โฉมดีไซน์ไอคอน และหน้าตาเมนูต่างๆ ใหม่หมดจด และรองรับระบบผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Bixby ซึ่งขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 675 AIE แบบ 8-แกน (Octa-Core) ที่มีความเร็ว 2.0 GHz กับหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 612 พร้อมด้วยฟีเจอร์ Game Launcher ที่รวมเกมทั้ง หมดภายในเครื่องมารวมไว้ในที่เดียวกัน และฟังก์ชันประหยัดพลังงานขณะเล่นเกม รวมถึงปิดการแจ้งเตือนขณะเล่นเกม จึงสามารถเล่นเกมตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงเกมที่เน้นกราฟิกได้แบบไม่ถูกขัดจังหวะ นอกจากนี้ยังมาพร้อมหน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB และมี ROM ขนาด 128GB ที่สามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุดถึง 512GB จึงสามารถเก็บภาพ, ไฟล์ข้อมูล, แอปพลิเคชัน และเกม ได้อย่างจุใจ รวมถึงหมดปัญหาการเลือกใช้งานในช่องซิมการ์ดที่สอง เนื่องจาก Samsung Galaxy A70 มาพร้อมกับถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple-Slot ที่สามารถใช้ งาน 2 ซิมการ์ด + 1 microSD Card ได้ในเวลาเดียวกัน

จากการทดสอบทั้งหมดพอจะสรุปได้ว่า Samsung Galaxy A70 เหมาะสำหรับท่านที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ เน้นใช้งานเพื่อความบันเทิงเป็นหลัก, ชอบเล่นเกม, ชอบสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่เต็มตา รวมถึงชื่นชอบการถ่ายภาพ ด้วยกล้องทั้ง 3 ตัว กับฟีเจอร์สำหรับถ่ายภาพที่ครบครัน ในราคาที่เอื้อมถึงได้ไม่ยาก พร้อมกับมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จุใจที่สามารถใช้งานได้ยาวนาน รวมถึงรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่ช่วยให้ประหยัดเวลาอันมีค่าในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น