ตอนนี้คุณอยู่ที่ >> หน้าแรก >> หน้ารวม mobile review >> รีวิว (Review) OPPO R9s


รีวิว (Review) OPPO R9s :: รีวิว ทดสอบ มือถือ :: Thaimobilecenter.com


 
TMC Point

  8.25

การออกแบบดีไซน์

  8.5

ใช้งานง่ายและสะดวก

  8.5

คุณสมบัติเครื่อง

  8.5

ฟังก์ชันการใช้งาน

8.5

เสถียรภาพและประสิทธิภาพ

  8.5

ความคุ้มค่าต่อราคา

  7.0

 
   

รีวิว (Review) OPPO R9s

สมาร์ทโฟนเรือธงออปโป้ตัวท็อปใหม่ล่าสุด จัดเต็มเรื่องการถ่ายภาพด้วยกล้อง 16 ล้านพิกเซล ทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง พร้อมจอ AMOLED Full HD ใหญ่เต็มตา 5.5 นิ้ว, ชิปเซ็ต Snapdragon 625, ROM 64GB, RAM 4GB, เซ็นเซอร์สแกนนิ้ว, เทคโนโลยี VOOC Flash Charge และเสารับสัญญาณแบบ Ultra-Fine Six-String บนบอดี้โลหะดีไซน์หรูที่บางเฉียบเพียง 6.58 มิลลิเมตร

 

Review Date (1-มีนาคม-2560)

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ ใครที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ก็คงจะมีความรู้สึกเหมือนกับว่ามีหน้าของซูเปอร์สตาร์โอปป้าเกาหลีอย่าง ลีมินโฮ (Lee Min Ho) ลอยมาอยู่ตรงหน้าตลอดเวลา ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด เพราะ ลีมินโฮ เขาตกลงปลงใจมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสมาร์ทโฟนเรือธงตัวท็อปรุ่นใหม่ล่าสุดของออปโป้อย่าง OPPO R9s นั่นเอง เรียกได้ว่าหลังจากที่ออปโป้ซุ่มเก็บเป็นความลับมานาน ในที่สุดพรีเซ็นเตอร์ปริศนาก็ถูกเผยโฉมหน้าออกมาแล้ว แต่ในวันนี้เราไม่ได้มาแนะนำให้ท่านรู้จักโอปป้าคนนี้แต่อย่างใด เพราะพระเอกตัวจริงที่น่าสนใจกว่าก็คือ OPPO R9s ที่เรานำมารีวิวให้ทุกท่านได้ชมกันในวันนี้นั่นเองครับ

สำหรับ OPPO R9s นั้นเปิดตัวอย่างเป็นทางการแบบ Global Launch ไปตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคมของปี 2016 ที่ผ่านมา ซึ่งบรรดาแฟนๆ ออปโป้ในบ้านเราต่างก็ตั้งตารอคอยว่าวันใด ออปโป้ (ประเทศไทย) จะนำเข้ามาจำหน่ายเหมือนกับประเทศอื่นๆ บ้าง และแล้วการรอคอยก็สิ้นสุดลง เพราะวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2017 ที่เพิ่งผ่านมาสดๆ ร้อนๆ OPPO R9s ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย กับราคาค่าตัวที่ 14,990 บาท พร้อมสโลแกนประจำรุ่นว่า "Now, It's Clear" ด้วยจุดขายสำคัญในเรื่องของกล้องถ่ายภาพ และบางท่านอาจยังไม่ทราบว่า แท้จริงแล้ว OPPO R9s นั้นก็ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากสมาร์ทโฟน Selfie Expert รุ่นยอดนิยมอย่าง OPPO F1s นั่นเอง

 

ความโดดเด่นของกล้องถ่ายภาพบน OPPO R9s ก็คือ มีกล้องความละเอียดสูงถึง 16 ล้านพิกเซล เท่ากัน ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง เรียกได้ว่าตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ชอบถ่ายภาพได้อย่างเต็มที่ ทั้งการถ่ายภาพเซลฟี่ที่เป็นจุดขายของออปโป้มาแต่ไหนแต่ไร รวมไปถึงการถ่ายภาพลักษณะอื่นๆ ทุกรูปแบบ โดยกล้องด้านหลังนั้นเลือกใช้เซ็นเซอร์รับภาพชั้นดีอย่าง Sony IMX398 ขนาด 1/2.8 นิ้ว อีกทั้งยังมาพร้อมกับรูรับแสงที่กว้างถึง f/1.7, ระบบโฟกัสภาพแบบ Dual PDAF ที่โฟกัสได้รวดเร็วแม่นยำแม้ในที่แสงน้อย และรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงในระดับ 4K UHD ส่วนกล้องด้านหน้านั้นก็ไม่ธรรมดา เพราะมาพร้อมกับรูรับแสงขนาด f/2.0 และโหมดถ่ายภาพแบบ Beautify 4.0 ที่ไม่ว่าใครก็สวยหล่อได้อย่างที่ใจต้องการ

นอกจากความโดดเด่นในเรื่องของกล้องถ่ายภาพแล้ว คุณสมบัติอื่นๆ ของ OPPO R9s ก็นับว่าครบเครื่องรอบด้านเลยทีเดียว ตั้งแต่จอ AMOLED Full HD ขนาด 5.5 นิ้ว ที่ครอบทับด้วยกระจกหน้าจอ 2.5D Gorilla Glass 5, ชิปเซ็ต Snapdragon 625, ระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.0 ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บน Android 6.0 Marshmallow, หน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB, หน่วยความจำ ROM ขนาด 64GB, รองรับการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ได้สูงสุดขนาด 256GB, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮม, แบตเตอรี่ความจ 3,010 mAh พร้อมเทคโนโลยี VOOC Flash Charge, รองรับ USB On-the-Go, รองรับการใช้งานสองซิมการ์ด, ระบบเสียงแบบ Dirac และเสารับสัญญาณ 6 เส้น (Ultra-Fine Six-String) เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของการรับสัญญาณ

 

่ในด้านของดีไซน์ตัวเครื่องภายนอกของ OPPO R9s นั้นก็ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ของ OPPO เอง คือดูเรียบหรูบางเฉียบสะอาดตา โดยเทคโนโลยีการผลิตของ OPPO R9s นั้นเป็นแบบ All-Metal Unibody ซึ่งมีโลหะเป็นส่วนประกอบถึง 98.9 เปอร์เซ็นต์ บนความบางเฉียบเพียง 6.58 มิลลิเมตร พร้อมปุ่มโฮมแบบสัมผัส (Solid-State) ที่ใช้งานได้ง่ายกว่าปุ่มโฮม Hard-Key แบบเดิมๆ และด้วยตัวของปุ่มโฮมที่ไม่มีการยุบตัว จึงไม่ต้องกลัวว่าปุ่มโฮมจะเสียอีกต่อไป ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร รูปลักษณ์ภายนอกจะสวยหรูขนาดไหน จะคุ้มค่าคุ้มราคาหรือไม่ และเหมาะกับใคร ไปติดตามกันต่อในบททดสอบนี้ได้เลยครับ

 

แกะกล่อง ส่องอุปกรณ์ด้านในของ OPPO R9s

กล่องของ OPPO R9s มีดีไซน์ที่ดูสะอาดตา คล้ายกับกล่องของ OPPO F1s สมาร์ทโฟนรุ่นยอดนิยมที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้

 

เมื่อเปิดกล่องออกมาก็จะพบกับตัวเครื่อง OPPO R9s สวยๆ นอนสงบนิ่งอยู่ด้านใน

 

อุปกรณ์มาตรฐานที่แถมมาให้ในกล่องก็นับว่าครบครัน ตั้งแต่เคสซิลิโคนใส, เข็ม SIM Door Key, อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่แบบ VOOC Flash Charge, สายดาต้าแบบ microUSB ซึ่งรองรับเทคโนโลยี VOOC Flash Charge, หูฟังแบบสเตอริโอ และคู่มือการใช้งาน

 

ตัวเครื่องมีการติดฟิล์มกันรอยอย่างดีมาให้แล้วเรียบร้อย ดังนั้นผู้ใช้งานจึงไม่ต้องลำบากไปหาฟิล์มกันรอยมาติดเองในภายหลังแต่อย่างใด

 

ด้านหลังของตัวเครื่องมีแผ่นพลาสติกใสปิดไว้อีกชั้นหนึ่ง พร้อมข้อมูลแนะนำเกี่ยวกับการใช้งานถาดซิมการ์ดแบบ Hybrid Slot

 

ดูกันชัดๆ กับอะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ VOOC Flash Charge ที่มีมาให้พร้อมใช้ในกล่อง

 

เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด สายดาต้าที่ให้มาก็เป็นแบบ VOOC Flash Charge ด้วยเช่นกัน

 

หูฟังแบบสเตอริโอสีขาวสบายตาน่าใช้งาน

 

เข็ม SIM Door Key หนึ่งในอุปกรณ์คู่กายชาวสมาร์ทโฟนยุคนี้ที่ขาดไปเสียไม่ได้

 

ผู้ใช้ไม่ต้องเสียเวลาไปหาซื้อเคสมาใส่กับ OPPO R9s ให้ยุ่งยาก เพราะมีแถมมาให้ฟรีๆ ในกล่องแล้ว ซึ่งเคสซิลิโคนใสแบบนี้ก็มีข้อดีคือเมื่อใส่แล้วเครื่องก็ยังคงมีความบางเฉียบ, ถอดใส่ได้ง่าย และยังคงเผยให้เห็นดีไซน์ตัวเครื่องสวยๆ ด้านในอยู่

 

นอกจากช่วยปกป้องตัวเครื่องแล้ว เคสใสนี้ยังช่วยให้การจับถือมีความกระชับแน่นหนามากขึ้น รู้สึกมั่นใจได้มากกว่าตอนที่ไม่ได้ใส่

 

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์ของ OPPO R9s

ตัวเครื่องของ OPPO R9s มีขนาดอยู่ที่ 153x74.3x6.58 มิลลิเมตร พร้อมน้ำหนักตัวที่ 147 กรัม ซึ่งด้วยขอบของหน้าจอที่ค่อนข้างบาง และตัวเครื่องที่บางเฉียบ จึงทำให้ตัวเครื่องดูผอมเพรียว ไม่ใหญ่อย่างที่คิด สามารถจับถือ และพกพาได้อย่างคล่องตัว 

 

ส่วนวัสดุที่ใช้ผลิตเป็นตัวเครื่องนั้นเป็นโลหะกว่า 98.9 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเมื่อได้จับถือแล้วก็จะสัมผัสได้ถึงความพรีเมียม แต่การจับถืออาจต้องระมัดระวังกันสักเล็กน้อย เนื่องจากพื้นผิวของตัวเครื่องโดยรวมค่อนข้างลื่นพอสมควร

 

ที่ส่วนบนของหน้าจอประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.0, ลำโพงหูฟังสำหรับการสนทนา, เซ็นเซอร์ Proximity และเซ็นเซอร์ Ambient Light

 

หน้าจอแสดงผลเป็นแบบ AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 พิกเซล) ซึ่งแสดงผลได้คมชัด, สว่าง และมีสีสันที่สดใส

 

ที่ด้านล่างของหน้าจอประกอบไปด้วยปุ่ม Recent Apps แบบสัมผัส พร้อมไฟ Backlight, ปุ่มย้อนกลับแบบสัมผัสพร้อมไฟ Backlight และปุ่มโฮมแบบสัมผัส (Solid-State) พร้อมขอบสีทองสวยงาม ที่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในตัว ซึ่งสามารถอ่านลายนิ้วมือได้รวดเร็วเป็นพิเศษ (ตามสเปกคืออ่านได้ภายในเวลา 0.2 วินาที)

 

ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีเพียงปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง

 

ที่ด้านขวาของตัวเครื่องประกอบไปด้วยปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบ Hybrid Slot

 

ถาดซิมการ์ดที่อยู่ใน OPPO R9s นั้นเป็นแบบ Hybrid Slot ซึ่งรองรับการใช้งาน 2 รูปแบบคือ สองซิม (nanoSIM+nanoSIM) และหนึ่งซิม กับการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD (nanoSIM+microSD Card) ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้งานสองซิมไปพร้อมๆ กับการใส่การ์ดหน่วยความจำได้ ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง

 

ตัวอย่างการใช้งานแบบ nanoSIM+nanoSIM

 

ตัวอย่างการใช้งานแบบ nanoSIM+microSD Card

 

ที่ด้านบนของตัวเครื่องมีเพียงรูไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน

 

ที่ด้านล่างของตัวเครื่องประกอบไปด้วยลำโพงเสียง ซึ่งให้เสียงที่ชัดใสไพเราะเสนาะหู, ช่องเชื่อมต่อแบบ microUSB, ไมโครโฟนสำหรับการสนทนา หรือบันทึกเสียง และช่องต่อหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

 

ที่ด้านหลังของตัวเครื่องประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งใช้เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX398 พร้อมรูรับแสงขนาด f/1.7 และไฟแฟลช LED, โลโก้ OPPO และแถบเสารับสัญญาณแบบ 6 เส้น (Ultra-Fine Six-String) โดยแบ่งออกเป็นด้านบน 3 แถบ และด้านล่าง 3 แถบ

 

ประโยชน์ของแถบเสารับสัญญาณแบบ 6 เส้น หรือ Ultra-Fine Six-Sring นี้ คือจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการรับสัญญาณ WiFi ให้ดีขึ้นนั่นเอง

 

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ

ก่อนจะเริ่มใช้งานเครื่อง ก็แนะนำให้ลงทะเบียนลายนิ้วมือให้เรียบร้อยเสียก่อน เพื่อจะได้แน่ใจว่าจะไม่มีผู้อื่นมาแอบใช้งานเครื่องของเราโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

การลงทะเบียนลายนิ้วมือมี 2 รอบคือ ขั้นแรกเป็นการลงทะเบียนส่วนกลางของนิ้วมือ ส่วนขั้นที่สองเป็นการลงทะเบียนส่วนขอบของนิ้วมือ ทั้งนี้ก็เพื่อให้การอ่านลายนิ้วมือมีความแม่นยำมากที่สุด

 

รองรับการลงทะเบียนได้หลายลายนิ้วมือภายในเครื่องเดียวกัน และเลือกใช้กับการปลดล็อกเครื่อง, การเข้ารหัสแอปพลิเคชัน และการปกป้องไฟล์

 

มีการกำหนด Pattern ร่วมกับการสแกนลายนิ้วมือ เผื่อไว้ในกรณีที่เราไม่สามารถใช้นิ้วสแกนได้

 

ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.0.0i ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow โดยตอนเริ่มต้นใช้งานครั้งแรกจะมีพื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลเหลือให้ใช้งานทั้งหมดประมาณ 52.71 GB

 

 

ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 625 ในการประมวลผล ซึ่งถือเป็นชิปเซ็ตระดับกลาง พร้อมจีพียู Adreno 506, หน่วยความจำ ROM ขนาด 64 GB และหน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB

 

ติดตั้งตัวเซ็นเตอร์ตรวจจับแบบต่างๆ มาให้มากมายตามมาตรฐานของสมาร์ทโฟนราคาระดับนี้

 

User Interface ทั่วๆ ไปของ ColorOS 3.0 คือจะไม่มีหน้ารวมแอปพลิเคชันแยกออกไปอีกชั้นหนึ่ง แต่จะรวมทุกอย่างเอาไว้ในหน้า Home Screen ซึ่งสามารถใช้งานได้ง่าย และรวดเร็วลื่นไหลเป็นอย่างดี

 

สามารถปรับแต่งหน้า Homescreen ได้อย่างอิสระ เช่นการย้ายตำแหน่งของวิดเจ็ตต่างๆ รวมไปถึงสามารถถอนการติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่ต้องการได้ง่ายๆ ภายในที่เดียว

 

มีแอปพลิเคชัน และบริการของ Google ติดตั้งมาให้ใช้งานอย่างครบถ้วน

 

เมื่อลากที่ขอบด้านบนของหน้าจอลงมาก็จะพบกับส่วนของทางลัดสำหรับเปิด-ปิดการทำงานต่างๆ, เข้าใช้งานฟังก์ชันพื้นฐาน, การปรับระดับความสว่างของหน้าจอ และหน้ารวมการแจ้งเตือน

 

สามารถเลือกเปิด-ปิดการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันต่างๆ ได้ตามที่ต้องการ

 

สามารถเปิดให้แสดงเปอร์เซ็นต์ของแบตเตอรี่ และแสดงความเร็วของเครือข่ายได้

 

สามารถเปิดให้แสดงสัญลักษณ์ของเครือข่าย หรือชื่อของเครือข่ายได้

 

ในช่วงเวลาใดที่เราไม่ต้องการให้ใครมารบกวน เช่นเวลานอนหลับพักผ่อน ก็ให้เรามากำหนดไว้ในส่วนของ Quiet Time

 

มีฟังก์ชันถนอมสายตา ด้วยการกรองแสงสีฟ้า (Blue Light Filter) ซึ่งปรับได้ 3 ระดับคือ Low, Medium และ High

 

รองรับการเปิดให้แสดงภาพพื้นหลัง และแมกกาซีน ขณะอยู่บนหน้า Lockscreen

 

สามารถเข้าไปดาวน์โหลดธีมสวยๆ มาติดตั้งเพิ่มเติมได้มากมายโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

 

นอกจากธีมสวยๆ แล้ว ก็ยังมีภาพพื้นหลังสวยๆ ให้เราดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรีๆ ด้วยเช่นกัน

 

สามารถเลือกเปิดโหมดการใช้งานแบบง่ายได้ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ต้องการใช้งานแค่ฟังก์ชันพื้นฐานเท่านั้น

 

ในส่วนของ Security Centre จะมีฟังก์ชันสำหรับความปลอดภัย และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงาน เช่นการเคลียร์ข้อมูลขยะที่ไม่ได้ใช้ เพื่อให้มีพื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลเพิ่มมากขึ้น, การสแกนไวรัส หรือการกำหนดสิทธิ์เข้าใช้งาน

 

มีแอปพลิเคชันสำหรับจัดการกับไฟล์ภายในเครื่อง

 

มาพร้อมกับระบบเสียงแบบ Dirac ซึ่งต้องใช้งานร่วมกับหูฟัง โดยสามารถปรับแต่งรูปแบบของอีควอไลเซอร์ได้อย่างอิสระ

 

รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง หรือการเคลื่อนไหวมากมายหลากหลายรูปแบบ

 

ด้วยฟังก์ชัน Screen-Off Gestures ก็จะช่วยให้เราสามารถสั่งงานได้แม้ในขณะที่ปิดหน้าจออยู่ เช่นการแตะสองครั้งเพื่อปลุกการทำงาน, การวาดตัว O เพื่อเปิดกล้อง หรือการวาดตัว V เพื่อเปิดไฟฉาย อีกทั้งเรายังสามารถกำหนดรูปแบบการลากนิ้วแบบอื่นๆ เข้ากับการสั่งงานต่างๆ เพิ่มเติมได้เองอีกมากมาย

 

สามารถจับภาพหน้าจอได้รวดเร็วด้วยการลาก 3 นิ้วลงมาพร้อมกัน รวมทั้งสามารถเปิดโหมดใช้งานมือเดียวได้ง่ายๆ เพียงแค่ลากนิ้วจากมุมซ้ายล่าง หรือมุมขวาล่างของหน้าจอ

 

รองรับการใช้ท่าทางเพื่อสั่งงานฟังก์ชันที่เกี่ยวกับการโทรศัพท์

 

สามารถเปิดใช้โหมดประหยัดพลังงานได้

 

รองรับการการนำอุปกรณ์ USB ต่างๆ มาเชื่อมต่อใช้งานได้ทันที ด้วยระบบ USB On-the-Go

 

มีแอปพลิเคชันเครื่องบันทึกเสียง, เข็มทิศดิจิทัล, WPS Office และแอปพลิเคชันสำรองข้อมูลมาให้ใช้งาน

 

แอปพลิเคชัน WPS Office นั้นรองรับการใช้งานร่วมกับไฟล์ตระกูล Office ได้ ทั้ง Word (DOC), PowerPoint (PPT) และ Excel (XLS) รวมทั้งสามารถเปิดดูไฟล์ PDF ได้

 

สามารถสร้างไฟล์เอกสารใหม่ได้ทันที พร้อมกับมีเครื่องมือ หรือฟังก์ชันให้เลือกใช้งานได้มากมายไม่แพ้โปรแกรม Office ในคอมพิวตอร์เลยทีเดียว

 

มีฟังก์ชันสำหรับสำรองข้อมูล และรีสโตร์ข้อมูล

 

มีแอปพลิเคชัน O-Cloud สำหรับการเช้าถึงบริการ Cloud Storage ของ OPPO เอง

 

มีฟังก์ชันบล็อคเบอร์โทร และข้อความที่ไม่ต้องการ

 

มีฟังก์ชันนำเข้า และนำออกข้อมูลผู้ติดต่อในสมุดโทรศัพท์ ทั้งจากหน่วยความจำภายใน และซิมการ์ด

 

หน้าตาของฟังก์ชันโทรศัพท์ที่ดูสวยงามเรียบง่าย

 

ด้วยจอใหญ่ๆ แบบนี้จึงสามารถเปิดดูเว็บไซต์ต่างๆ ได้อย่างสบายตา

 

มีฟังก์ชันนาฬิกามาให้ครบครัน ทั้งนาฬิกาปลุก, นาฬิกาเทียบเวลาโลก, นาฬิกาจับเวลา และนาฬิกานับเวลาถอยหลัง

 

สามารถสร้างนัดหมายต่างๆ ลงในปฏิทินได้

 

สามารถตรวจสอบสภาพอากาศของเมืองต่างๆ ได้ทั่วโลกแบบ Real-Time

 

ผู้ใช้สามารถปรับตั้งค่าการใช้งานซิมการ์ด หรือการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้

 

รองรับการใช้งาน Wi-Fi Direct

 

รองรับการใช้งาน Wireless Display สำหรับส่งการแสดงผลออกไปที่จอภาพภายนอก

 

แน่นอนว่าสามารถรองรับการแชร์อินเทอร์เน็ตให้กับอุปกรณ์อื่นๆ ได้

 

หากไม่เข้าใจการใช้งานในส่วนใด ก็สามารถเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมได้ในส่วนของเทคนิคการใช้งานต่างๆ ที่ทาง OPPO ได้รวบรวมเอาไว้ให้

 

ทดสอบประสิทธิภาพของการทำงานในด้านต่างๆ

เมื่อทดสอบประสิทธิภาพของการทำงานโดยรวมด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ผลคะแนนที่ได้จะอยู่ที่ 66,133 คะแนน

 

เมื่อทดสอบประสิทธิภาพของการประมวลผลด้วยแอปพลิเคชัน Geekbench 4 ผลคะแนนที่ได้จะอยู่ที่ 847 คะแนน ในแบบ Single-Core และ 3,089 คะแนน ในแบบ Multi-Core

 

เมื่อทดสอบประสิทธิภาพของการทำงานในด้านต่างๆ ด้วยแอปพลิเคชัน PCMark ผลคะแนนที่ได้จะอยู่ที่ 4,767 คะแนน

 

เมื่อทดสอบประสิทธิภาพของการประมวลผลกราฟิกด้วยแอปพลิเคชัน 3DMark ผลคะแนนที่ได้จะอยู่ที่ 461 คะแนน

 

เมื่อทดสอบประสิทธิภาพของการประมวลผลกราฟิกด้วยแอปพลิเคชัน Epic Citadel ผลคะแนนที่ได้จะอยู่ที่ 59.6 เฟรมต่อวินาที ที่ความละเอียดระดับ 1920x1080 พิกเซล ซึ่งมีประสิทธิภาพอยู่ในระดับ High Quality

 

เมื่อทดสอบการเล่นเกมที่มีกราฟิกระดับสูงหลายๆ เกม ก็พบว่าสามารถประมวลผลได้อย่างลื่นไหลไร้อาการกระตุก และสามารถตอบสนองต่อการสั่งงานได้อย่างรวดเร็ว

 

หน้าจอแสดงผลรองรับการสัมผัสพร้อมกัน (Multi-Touch) ได้สูงสุด 10 จุด

 

เมื่อทดสอบประสิทธิภาพของการรับสัญญาณดาวเทียมภายในอาคาร ก็พบว่ายังสามารถจับสัญญาณดาวเทียมได้ดี ซึ่งหากเป็นการใช้งานในที่โล่งแจ้ง ก็จะมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับระบบดาวเทียม Glonass และ Beidou ได้อีกด้วย

 

เจาะฟีเจอร์ของกล้องดิจิทัลด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (f/1.7)

หน้าหลักของการใช้งานกล้องดิจิทัลด้านหลังนั้นดูเรียบง่ายดังที่เห็นนี้ โดยผู้ใช้งานสามารถสไลด์หน้าจอด้านซ้าย หรือด้านขวาเพื่อเลือกโหมดถ่ายภาพแบบต่างๆ ได้ทันที

 

สามารถเปิดไฟแฟลช, เปิดไฟแฟลชอัตโนมัติ และเปิดไฟส่องสว่างแบบต่อเนื่องได้

 

รองรับโหมดถ่ายภาพแบบ HDR

 

กำหนดรูปแบบคำสั่งของการถ่ายภาพได้ทั้งแบบปกติ, การแตะหน้าจอเพื่อถ่าย และการสั่งด้วยเสียง รวมทั้งสามารถตั้งเวลาถ่ายภาพล่วงหน้า และกำหนดอัตราส่วนภาพได้ 3 รูปแบบ

 

อัตราส่วนของภาพสามารถกำหนดได้ 3 รูปแบบคือ แบบมาตรฐาน, สี่เหลี่ยมจัตุรัส และเต็มจอ

 

โหมดถ่ายภาพพิเศษมีให้เลือกทั้งหมด 5 โหมดด้วยกัน ได้แก่ Ultra HD, Various Filters, GIF Animation, Double Exposure และ Expert Mode

 

โหมด Ultra HD คือโหมดที่มีไว้สำหรับการถ่ายภาพที่ความละเอียดสูงเป็นพิเศษ โดยสามารถเลือกได้ 2 ระดับ คือ 3200w และ 6400w

 

โหมด Various Filters ช่วยให้เราสาสามารถเลือกใช้สติ๊กเกอร์ หรือฟิลเตอร์สีแบบต่างๆ ได้

 

โหมด GIF Animation ช่วยให้เราสามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวแบ GIF ได้ง่ายๆ ทั้งแบบเล่นด้านหน้า และเล่นย้อนกลับ

 

โหมด Double Exposure ช่วยให้เราสามารถสร้างภาพซ้อนได้

 

ใน Expert Mode เราสามารถปรับแต่งค่าต่างๆ ได้เองแบบ Manual คล้ายกับกล้องโปร ทั้งค่าสมดุลสีขาว, ค่าชดเชยแสง, ค่าความไวแสง, ความเร็วชัตเตอร์ และระยะโฟกัส

 

มีโหมดถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบ Time Lapse มาให้ใช้งาน

 

รองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดถึงระดับ 4K UHD

 

มีโหมด Beauty ให้ใช้งานคล้ายกับกล้องด้านหน้า ซึ่งสามารถปรับได้ทั้งโทนสี และระดับความเนียน

 

รองรับการถ่ายภาพแนวกว้าง หรือภาพพาโนราม่า

 

สามารถกำหนดให้ใช้ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงแทนปุ่มชัตเตอร์ หรือใช้เพื่อการซูมได้

 

เจาะฟีเจอร์ของกล้องดิจิทัลด้านหน้า ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (f/2.0)

หน้าหลักเมื่อเข้าใช้งานกล้องด้านหน้า ก็ดูเรียบง่ายแทบไม่แตกต่างไปจากหน้าหลักของกล้องด้านหลัง และมาพร้อมกับระบบตรวจจับใบหน้าอัตโนมัติ

 

นอกจากจะมีการเลือกจุดเพื่อวัดแสงอัตโนมัติแล้ว เราก็ยังสามารถสไลด์นิ้วขึ้นลงเพื่อปรับชดแสงได้เองตามต้องการ

 

รองรับการเปิดใช้ความสว่างของไฟหน้าจอแทนไฟแฟลช

 

สามารถกำหนดรูปแบบของการสั่งถ่ายภาพได้ทั้งแบบปกติ, แตะที่หน้าจอ, สั่งด้วยเสียง และยกมือให้สัญญาณ รวมถึงรองรับการตั้งเวลาถ่ายภาพล่วงหน้า, การกำหนดอัตราส่วนภาพ และการสลับด้านของภาพ

 

กล้องด้านหน้ามีโหมดถ่ายภาพแบบพิเศษมาให้ 3 โหมดด้วยกัน ได้แก่ Various Filters, GIF Animation และ Double Exposure

 

สามารถใส่สติ๊กเกอร์ และปรับฟิลเตอร์แบบต่างๆ ให้กับการถ่ายภาพเซลฟี่ได้หลากหลายรูปแบบ

 

สามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวแบบ GIF ได้

 

รองรับการซ้อนภาพด้วยโหมด Double Exposure ซึ่งเป็นการถ่ายภาพสองครั้ง แล้วนำภาพทั้งสองที่ได้มาซ้อนกัน

 

รองรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบ Time Lapse

 

กล้องด้านหน้ารองการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p

 

มีโหมด Beautify 4.0 มาให้ใช้ถ่ายเซลฟี่แบบเนียนๆ พร้อมการปรับโทนสี และปรับความเนียนของผิวได้ทั้งหมด 7 ระดับ

 

เปรียบเทียบระหว่างโทนสีแบบ Fair และแบบ Rosy

 

รองรับการถ่ายภาพเซลฟี่แบบมุมกว้าง หรือแบบพาโนราม่า

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ของ OPPO R9s

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดถ่ายภาพแบบปกติ และไม่ผ่านการปรับแต่งใดๆ

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดถ่ายภาพแบบปกติ และไม่ผ่านการปรับแต่งใดๆ

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดถ่ายภาพแบบปกติ และไม่ผ่านการปรับแต่งใดๆ

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดถ่ายภาพแบบปกติ และไม่ผ่านการปรับแต่งใดๆ

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดถ่ายภาพแบบปกติ และไม่ผ่านการปรับแต่งใดๆ

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดถ่ายภาพแบบปกติ และไม่ผ่านการปรับแต่งใดๆ

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดถ่ายภาพแบบปกติ และไม่ผ่านการปรับแต่งใดๆ

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ผ่านโหมด Beautify 4.0 ของ OPPO R9s

ตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี่ด้วยโหมดถ่ายภาพแบบปกติ (ยังไม่เปิดโหมด Beauty)

 

ตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี่ด้วยโหมดถ่ายภาพ Beauty ซึ่งปรับตั้งค่าความเนียนไว้ที่ระดับ 1

 

ตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี่ด้วยโหมดถ่ายภาพ Beauty ซึ่งปรับตั้งค่าความเนียนไว้ที่ระดับ 4

 

ตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี่ด้วยโหมดถ่ายภาพ Beauty ซึ่งปรับตั้งค่าความเนียนไว้ที่ระดับ 7

 

ตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี่พร้อมเปิดฟังก์ชันหน้าชัดหลังเบลอ หรือโบเก้ ซึ่งการเบลอ หรือการตัดขอบอาจจะยังไม่เนียนเท่ากับภาพจากบรรดาสมาร์ทโฟนกล้องคู่อีกหลายๆ รุ่น แต่ก็ถือว่ามีความสวยงามพอใช้ได้

 

สรุปผลการทดสอบของ OPPO R9s

โดยรวมหลังจากที่ได้ทดสอบลองใช้งาน OPPO R9s มาระยะเวลาหนึ่ง ก็พอที่จะสรุปได้ว่า OPPO R9s นั้นเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงอีกรุ่นที่มีความลงตัวในทุกด้าน ตั้งแต่ในเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกแบบ All-Metal Unibody ที่สวยหรูบางเฉียบ วัสดุระดับพรีเมียม ด้วยองค์ประกอบที่เป็นโลหะกว่า 98.9 เปอร์เซ็นต์, การทำงานที่รวดเร็วลื่นไหล ด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 625 กับหน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB, กล้องถ่ายภาพคุณภาพสูงที่มีความละเอียดมากถึง 16 ล้านพิกเซล ทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง ผสานระบบโฟกัสภาพแบบ Dual PDAF ที่ฉับไว ซึ่งพร้อมให้ผู้ใช้งานยกขึ้นมาถ่ายภาพได้ในทุกสถานการณ์ทุกรูปแบบ, จอแสดงผลที่คมชัดสีสันสดใสใหญ่เต็มตา แบบ AMOLED Full HD ขนาด 5.5 นิ้ว, การรับสัญญาณที่ยอดเยี่ยมด้วยเสารับสัญญาณแบบ Ultra-Fine Six-String, ปุ่มโฮมระบบสัมผัส (Solid-State) กับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่อ่านลายนิ้วมือได้ในพริบตา, ฟีเจอร์ที่หลากหลายครบเครื่อง, เทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ครบครัน, พื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลที่เยอะจุใจ ด้วยหน่วยความจำ ROM ขนาด 64GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ได้สูงสุดขนาด 256GB, แบตเตอรี่ที่ชาร์จได้รวดเร็วทันใจด้วยเทคโนโลยี VOOC Flash Charge และอีกมากมาย ในราคาที่เอื้อมถึงได้ไม่ยาก

 

หากต้องรวบรัดตัดความแบบสั้นๆ ก็พอจะบอกได้ว่า OPPO R9s รุ่นนี้น่าจะเหมาะกับใครก็ตามที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนกล้องดีๆ สักรุ่น โดยเฉพาะใครที่ชอบถ่ายภาพเซลฟี่ กล้องของ OPPO R9s ก็จะช่วยเสกสรรปั้นแต่งให้หน้าตาดูสวยหล่อขึ้นได้อย่างง่ายดาย รวมถึงมีบอดี้โลหะที่ดูพรีเมียมบางเฉียบ, จอแสดงผลขนาดใหญ่ที่แสดงผลได้สวยงามคมชัด, การใช้งานที่รวดเร็วลื่นไหล และฟีเจอร์ที่ครบเครื่องในทุกองค์ประกอบ ในงบประมาณไม่เกิน 15,000 บาท

และพิเศษสำหรับท่านที่สั่งจอง OPPO R9s ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ - 10 มีนาคม 2560 จะได้รับของสมนาคุณสุดพิเศษดังต่อไปนี้

- ฟรี OPPO VIP Card (ประกันจอแตก 1 ปีไม่จำกัดจำนวนครั้ง และประกันเครื่อง 1 ปี แถมเพิ่มอีก 6 เดือน รวมเป็น 1 ปี 6 เดือน)
- ฟรีชุดของขวัญ ซึ่งประกอบไปด้วยหูฟังบลูทูธ, สายรัดข้อมืออัจฉริยะ และไม้เซลฟี่
- และของสมนาคุณอื่นๆ ที่อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับตัวแทนจำหน่ายแต่ละราย

สุดท้ายนี้หากท่านใดสนใจ OPPO R9s รุ่นนี้ ก็ลองแวะไปลองสัมผัสกับตัวจริงเสียงจริงของ OPPO R9s กันได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และหากถูกใจก็สามารถสั่งจองกันได้ทันที ส่วนวันนี้ทีมงานต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ

 

 

จุดเด่นของ OPPO R9s

- ตัวเครื่องมีดีไซน์ที่สวยหรูดูมีราคา บนเทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ All-Metal Unibody (ตัวเครื่องโลหะถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน) ด้วยองค์ประกอบที่เป็นโลหะ 98.8% พร้อมความบางเฉียบเพียง 6.58 มิลลิเมตร
- ปุ่มโฮมแบบสัมผัส (Solid-State) ที่ไม่มีการยุบตัว พร้อมการตอบสนองด้วยระบบสั่น
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮม ซึ่งอ่านลายนิ้วมือได้รวดเร็วเป็นพิเศษ (อ่านลายนิ้วมือได้ภายในเวลา 0.2 วินาที)
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียดระดับ 16 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX398 ขนาด 1/2.8 นิ้ว, รูรับแสงขนาด f/1.7 และระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ Dual PDAF
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียดระดับ 16 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/3 นิ้ว, รูรับแสงขนาด f/2.0 และโหมด Beautify 4.0
- ถ่ายภาพวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K UHD
- จอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 พิกเซล : 401 ppi) พร้อมกระจกหน้าจอขอบนูน 2.5D Corning Gorilla Glass 5
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm MSM8953 Snapdragon 625 (Cortex-A53) ความเร็วในการประมวลผล 2.0 GHz
- หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 506
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.0 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow)
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมแบบ microSD ได้สูงสุดขนาด 256GB
- ตัวเครื่องผลิตจากโลหะทั้งหมด 98.9 เปอร์เซ็นต์ พร้อมความบางเฉียบเพียง 6.58 มิลลิเมตร
- สายรับสัญญาณ 6 เส้น (Ultra-Fine Six-String) เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของการรับสัญญาณต่างๆ
- แบตเตอรี่ Li-Ion Polymer ขนาด 3,010 mAh พร้อมเทคโนโลยี VOOC Flash Charge
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว (Dual nanoSIM : Dual Standby)
- ระบบเสียง Dirac
- รองรับ USB OTG (USB On-the-Go)
- รองรับเครือข่าย 4G LTE Band 1/3/5/7/8/20/28/38/39/40/41
- รองรับเครือข่าย 3G WCDMA 850/900/1900/2100 MHz
- รองรับเครือข่าย 2G GSM 850/900/1800/1900 MHz
- รองรับเครือข่าย Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (Dual Band 2.4/5 GHz)
- ระบบ GPS และ A-GPS ในตัว
- Bluetooth เวอร์ชัน 4.1
- เซ็นเซอร์ตรวจจับแบบ Distance Sensor, Light Sensor, G-Sensor, E-Compass และ Gyro-Sensor
- มี 2 สีมาตรฐานให้เลือกคือ ทอง (Gold) และทองกุหลาบ (Rose Gold)|
- ราคา 14,990 บาท (เปิดจองตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ - 10 มีนาคม 2560)

 

 

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ OPPO R9s

- กล้องถ่ายภาพไม่มีระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS และไม่รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความเร็ว 60 fps
- ชิปเซ็ต Snapdragon 625 ที่นำมาใช้งาน เป็นเพียงชิปเซ็ตในระดับกลาง
- ระบบปฏิบัติการพื้นฐานยังคงเป็น Android 6.0 Marshmallow ซึ่งยังไม่ใช่เวอร์ชันใหม่ล่าสุด
- เนื่องจากเป็นดีไซน์แบบ Metal-Unibody ที่ไม่มีฝาหลัง จึงไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่เองได้
- ช่องใส่ซิมการ์ดที่สอง ต้องสลับใช้งานกับการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ไม่สามารถใช้งานพร้อมกันได้
- ช่องเชื่อมต่อยังคงเป็นแบบ microUSB ยังไม่ใช่ช่องเชื่อมต่อยุคใหม่อย่าง USB Type-C

 

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ OPPO R9s
สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ OPPO R9s

  title="Sony Xperia ZL Specification">

 

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::

 

 

 


 












 รีวิว realme narzo 20 Pro
เกมมิ่งโฟนพลังชาร์จ 65W กับจอลื่น 90Hz และ 4 กล้อง 48MP ในราคาแค่หลักพัน

[รายละเอียด]
 Vivo V20 SE
สมาร์ทโฟนกล้องหน้าชั้นดี มีจอสวย เมมใหญ่ ชาร์จไว ใส่บอดี้บางเฉียบ ในราคาแค่หลักพัน

[รายละเอียด]
 รีวิว OPPO A93
เด่นที่ดีไซน์ ได้กล้อง 6 ตัว พร้อมจอสวย ชิป AI ตัวแรง แบตชาร์จไว เมมจุใจ ในราคาแค่หลักพัน

[รายละเอียด]
 รีวิว Galaxy Note 20 Ultra 5G
เพาเวอร์โฟนที่ทรงพลังที่สุด อัปเกรดครั้งใหญ่ พร้อม S Pen โฉมใหม่ บนบอดี้สวยหรูพรีเมียมที่ไม่กลัวน้ำ

[รายละเอียด]
 รีวิว OnePlus 8T 5G
เรือธงใหม่ใส่จอ 120Hz พร้อมชิป Snapdragon 865 บวกพลังชาร์จ 65W กับ 5 กล้อง และลำโพงคู่

[รายละเอียด]
 รีวิว Vivo V20
สมาร์ทโฟนกล้องหน้า 44MP มีชาร์จไว 33W จัดหนักจอ AMOLED บวก Android 11 รุ่นแรกในไทย ในราคาหมื่นต้นๆ

[รายละเอียด]
รายการรีวิวมือถือทั้งหมด








หลุดคลิปพรีวิว iPhone 12 mini ก่อนวางจำหน่ายจริงในเดือน พ.ย. นี้ พร้อมเปรียบเทียบขนาดกับ iPhone 12 แตกต่างกันแค่ไหน
หลุดคลิปพรีวิว iPhone 12 mini ก่อนวางจำหน่ายจริงในเดือน พ.ย. นี้  
ถึงแม้ว่า iPhone 12 mini จะยังไม่เปิดพรีออเดอร์และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่ล่าสุด ได้มีการเผยคลิปวิดี
ผลทดสอบ Geekbench 5 ยืนยัน iPhone 12 และ iPhone 12 Pro แรงกว่ามือถือ Android เรือธง
ผลทดสอบ Geekbench 5 ยืนยัน iPhone 12 และ iPhone 12 Pro แรงกว่ามือ 
สำหรับ iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ที่ Apple ได้เปิดพรีออเดอร์ในกลุ่มประเทศแรกตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 202
iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ผ่านการอนุมัติจาก กสทช. แล้ว คาดวางจำหน่ายในไทย ปลายเดือนพ.ย.นี้
iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ผ่านการอนุมัติจาก กสทช. แล้ว คาดวางจำ 
สำหรับใครที่รอการวางจำหน่ายของ iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ในไทย ล่าสุด มีข่าวดีมาบอกกัน เมื่อทาง กสทช. ไ
คลิปวิดีโอตัวแรก แกะกล่อง iPhone 12 และ iPhone 12 Pro มาแล้ว! เผยดีไซน์ใหม่ขอบเหลี่ยม และบอดี้สีน้ำเงินสด
คลิปวิดีโอตัวแรก แกะกล่อง iPhone 12 และ iPhone 12 Pro มาแล้ว! เผย 
หลังจากที่ Apple ได้เปิดพรีออเดอร์ iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ในกลุ่มประเทศแรกเมื่อวันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม
iPhone 12 เผยคะแนนทดสอบ AnTuTu ยังเป็นรอง Xiaomi Mi 10 Ultra
iPhone 12 เผยคะแนนทดสอบ AnTuTu ยังเป็นรอง Xiaomi Mi 10 Ultra 
เตรียมเปิดพรีออเดอร์ในวันนี้ (16 ตุลาคม 2020) ในกลุ่มประเทศแรก สำหรับ iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ไอโฟนรุ
10 ฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจบน iPhone 12 มีของใหม่อะไรบ้าง ?
10 ฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจบน iPhone 12 มีของใหม่อะไรบ้าง ? 
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ iPhone 12 ไอโฟนรุ่นใหม่ประจำปี 2020 ที่ในปีนี้เปิดตัวกันถึง 4 รุ่นด้วยก
OPPO เปิดตัวสมาร์ทโฟน Reno4 Z 5G ทุบตลาดด้วยราคา 12,990 บาท พร้อมส่ง Reno4 Pro 5G และ Find X2 Pro 5G รุกตลาดพรีเมียม
OPPO เปิดตัวสมาร์ทโฟน Reno4 Z 5G ทุบตลาดด้วยราคา 12,990 บาท พร้อม 
OPPO เปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G Series รุกตลาด 5G ทุกระดับ ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่พร้อมกันถึง 3 รุ่น ได้
สื่อเกาหลีเผย Samsung Galaxy A72 จะเป็นมือถือกล้องหลัง 5 ตัว (Penta Camera) รุ่นแรกของ Samsung
สื่อเกาหลีเผย Samsung Galaxy A72 จะเป็นมือถือกล้องหลัง 5 ตัว (Pen 
เมื่อ 2 ปีก่อน Samsung ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้แก่วงการสมาร์ทโฟนด้วยการเปิดตัว Samsung Galaxy A9 สมาร์ทโฟ
รวมแอปฯ แต่ง Widget หน้า Home Screen สำหรับ iPhone ที่อัปเดต iOS 14 มีแบบไหนน่าใช้บ้าง
รวมแอปฯ แต่ง Widget หน้า Home Screen สำหรับ iPhone ที่อัปเดต iOS  
หลังจากที่ Apple ได้ปล่อยอัปเดต iOS 14 เวอร์ชันเต็มสำหรับผู้ใช้ทั่วไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟังก์ชันที่ได้
เปิดจอง Samsung Galaxy S20 FE เรือธงรุ่นเล็ก สเปกจัดหนัก จอสวย กล้องแจ่ม ชาร์จไว เคาะราคาเริ่มต้น 20,900 บาท
เปิดจอง Samsung Galaxy S20 FE เรือธงรุ่นเล็ก สเปกจัดหนัก จอสวย กล 
เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (24 ก.ย. 2563) Samsung ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy S20 FE ในประเทศไทยอย่างเป็น
รายการอัพเดททั้งหมด



ราคามือถือ อัพเดทล่าสุด !!


Samsung Galaxy A42 5G 11,990 บาท
iPhone 12 Pro Max 39,900 บาท
iPhone 12 Pro 36,900 บาท
iPhone 12 mini 25,900 บาท
iPhone 12 29,900 บาท
OPPO A12 3,839 บาท
Samsung Galaxy A11 3,879 บาท ราคาลดลง 120 บาท จากราคาเดิม 3,999  บาท
HUAWEI Y6p 3,999 บาท
realme C12 3,999 บาท
Vivo X50 Pro 5G 24,999 บาท
Vivo Y20 5,299 บาท
OnePlus Nord 12GB+256GB 17,990 บาท
OnePlus Nord 8GB+128GB 14,990 บาท
OPPO Reno4 11,990 บาท
Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G 42,900 บาท
Samsung Galaxy Note20 5G 33,900 บาท
Samsung Galaxy Note20 Ultra LTE 38,900 บาท
Samsung Galaxy Note20 LTE 29,900 บาท
OPPO A92 8,999 บาท
รายการ ราคามือถือ ทั้งหมด



อัพเดท ข่าวสารล่าสุด (New update)

เร็วถึงขีดสุดกับสมาร์ทโฟนสายพันธุ์สปีด “Samsung Galaxy A42 5G” ในราคาเพียง 11,990 บาท
เร็วถึงขีดสุดกับสมาร์ทโฟนสายพันธุ์สปีด “Samsung Galaxy A42 5 
เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Galaxy A42 5G (กาแลคซี่ เอ 42 5G) สายพันธุ์สปีด แรงทุกสเปค ที่สุดแห่งความเร็วแรง
5 สุดยอดนวัตกรรมที่ Vivo มอบแก่ผู้บริโภคชาวไทยปีนี้
5 สุดยอดนวัตกรรมที่ Vivo มอบแก่ผู้บริโภคชาวไทยปีนี้ 
ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา Vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลกได้มอบประสบการณ์ล้ำสมัยให้แก่ผู้ใช้งานชาวไทย ด้วยสม
โปรดีที่ห้ามพลาด! OPPO Reno4 สมาร์ทโฟนถ่ายรูปสวยชัดในสไตล์ที่เป็นคุณพิเศษ ราคาใหม่ 10,990 บาท
โปรดีที่ห้ามพลาด! OPPO Reno4 สมาร์ทโฟนถ่ายรูปสวยชัดในสไตล์ที 
OPPO Reno4 ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนแห่งปีสำหรับคนที่ชื่นชอบเทรนด์ใหม่ๆ ด้วยการผสมผสานระหว่างแฟชั่นและเทคโนโลยี
Vivo จัดหนักรับ 11.11 ลดสูงสุดในรอบปี! พบโปรสุดพิเศษที่ Vivo Official Store บน Lazada Shopee และ JD Central
Vivo จัดหนักรับ 11.11 ลดสูงสุดในรอบปี! พบโปรสุดพิเศษที่ Vivo 
สาวก Vivo เตรียมตัวให้พร้อมกับมหกรรมลดราคาออนไลน์แห่งปีที่ทุกคนรอคอยกับแคมเปญ 11.11 ลดสูงสุดในรอบปีกับสมา
เปลี่ยนลุคได้ตามอารมณ์ HUAWEI Watch Fit วางจำหน่ายสายนาฬิกาแล้วทั้ง 4 สี เพียง 349 บาทเท่านั้น!
เปลี่ยนลุคได้ตามอารมณ์ HUAWEI Watch Fit วางจำหน่ายสายนาฬิกาแ 
หลังจากกลายเป็นสมาร์ทวอทช์ยอดฮิตติดข้อมือทั้งสายสุขภาพ แฟชั่นนิสต้า และเหล่าเทรนด์เซ็ตเตอร์ทั้งหลาย HUAWE
รายการอัพเดททั้งหมด


    Catalog มือถือ     market     Review มือถือ      ราคามือถือ     forum
Catalog มือถือ
Catalog มือถือ Nokia
Catalog มือถือ Samsung
Catalog มือถือ SonyEricsson
Catalog มือถือ i-mobile
Catalog มือถือ LG
Catalog มือถือ BlackBerry
ลงประกาศสินค้ามือถือ
สมัครสมาชิก
หน้าแรกตลาดซื้อขายมือถือ
 
หน้าแรกรีวิว
รีวิว มือถือ Nokia
รีวิว มือถือ Samsung
รีวิว มือถือ Motorola
รีวิว มือถือ LG
 

ราคามือถือ Samsung
ราคามือถือ iPhone
ราคามือถือ Huawei
ราคามือถือ OPPO
ราคามือถือ Vivo
   
   
หน้าแรก cafe
Nokia club
ตั้งหัวข้อใหม่
 

© Copyright all rights reserved : ThaiMobileCenter.com