รีวิว (Review) OPPO N1
สมาร์ทโฟน สุดล้ำ พร้อมกล้อง 13 ล้านพิกเซล ที่หมุนได้ 206 องศา กับระบบควบคุมการทำงานแบบ O-Touch Panel และ O-Click Control
Review
Date (11-ธันวาคม-2556)
หากถามถึง สมาร์ทโฟน ระดับเรือธงที่น่าจับตามองที่สุด ณ ชั่วโมงนี้ รุ่นหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ OPPO N1 ซึ่งหลังจากที่ทีมงานของเราได้นำ พรีวิว (Preview) OPPO N1 มาให้ทุกท่านได้ชมอุ่นเครื่องกันไปแล้วรอบหนึ่งจากงานเปิดตัวสุดอลังการเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา แต่นั่นก็คงจะยังไม่เต็มอิ่มสักเท่าไหร่ ด้วยฟีเจอร์มากมายที่อัดแน่นอยู่ภายใน OPPO N1 ที่คงกล่าวถึงได้ไม่หมดด้วยเวลาอันจำกัด ดังนั้นในวันนี้ทีมงานของเราจึงนำ OPPO N1 กลับมาทำการทดสอบรีวิวแบบเต็มๆ กันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ท่านที่กำลังสนใจในตัวของ OPPO N1 ได้เจาะลึกการใช้งานในทุกแง่มุมไปพร้อมๆ กัน โดยเฉพาะฟีเจอร์เด่นต่างๆ ของ OPPO N1 ตั้งแต่กล้องดิจิตอลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่หมุนได้ 206 องศา, แผงควบคุมการทำงานแบบ O-Touch Panel, อุปกรณ์สั่งงานแบบไร้สายที่มีชื่อว่า O-Click Control, หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาด 5.9 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p, หน่วยประมวลผล Quad-Core (Snapdragon 600) ความเร็ว 1.7 GHz, ระบบปฏิบัติการ ColorOS, ระบบการสั่งงานด้วยท่าทางที่หลากหลาย, แบตเตอรี่ที่มีความจุมากถึง 3,610 mAh และอื่นๆ อีกมากมาย กับราคาเปิดตัวที่ 19,990 บาท จะคุ้มค่ากับความสามารถของ OPPO N1 รุ่นนี้หรือไม่ ในวันนี้เราจะมาพิสูจน์ไปพร้อมๆ กัน

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

ตัวเครื่อง OPPO N1 มาในโทนสีขาวสะอาดตา และมีขนาดอยู่ที่ 170.7x82.6x9 มิลลิเมตร กับ น้ำหนักของตัวเครื่อง 213 กรัม โดย OPPO N1 มาพร้อมกับจอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen ขนาด 5.9 นิ้ว ความละเอียด 1920x1080 Pixels พร้อมกระจกหน้าจอที่มีความทนทานเป็นพิเศษแบบ Corning Gorilla Glass 3 และใช้หน่วยประมวลผลระดับ Quad-Core (ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 600) ที่มีความเร็วในการประมวลผล 1.7GHz และใช้หน่วยประมวลผลกราฟฟิคโดยเฉพาะแบบ Adreno 320 อีกด้วย

ด้านหน้าส่วนบน : จะมาพร้อมกับกล้องดิจิตอลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยเซ็นเซอร์รับภาพแบบ CMOS และตัวกล้องสามารถหมุนได้ถึง 206 องศา เพื่อสลับใช้งานเป็นกล้องดิจิตอลด้านหลัง และกล้องดิจิตอลด้านหน้า และพร้อมกับไฟแฟลชแบบ Dual-Mode LED ซึ่งเป็นไฟแฟลชแบบ 2 สี ได้แก่ สีขาว และสีส้ม พร้อมด้วยเซ็นเซอร์ Accelerometer Sensor ที่ช่วยหมุน หรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน

กล้องดิจิตอลของ OPPO N1 สามารถหมุนได้ 206 องศา ซึ่งมีความทนทานต่อการหมุนได้สูงสุด 100,000 ครั้ง (หากหมุน 40 ครั้งต่อวัน จะมีความทนทานนาน 7 ปี)

ด้านหน้าส่วนล่าง : จะมาพร้อมกับปุ่มแบบสัมผัส (Touch Panel) ได้แก่ ปุ่มเมนู, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ

ด้านบนของตัวเครื่อง : ไม่มีพอร์ตการเชื่อมต่อ หรือฟังก์ชันการใช้งานใดๆ

ด้านล่างของตัวเครื่อง : จะมาพร้อมกับไมโครโฟน, ช่องสำหรับเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร และลำโพงเสียง

ด้านขวาของตัวเครื่อง : มาพร้อมกับปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อคหน้าจอ และปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับของเสียง

ด้านซ้ายของตัวเครื่อง : จะมาพร้อมกับช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด ซึ่งซิมการ์ดที่ใช้จะเป็นแบบ microSIM

ด้านหลังของตัวเครื่อง : จะมาในโทนสีขาวเช่นเดียวกับด้านหน้าของตัวเครื่อง มีการออกแบบให้มีพื้นผิวที่เรียบเนียน ช่วยให้จับได้ถนัดมือ

ด้านหลังของตัวเครื่องส่วนบน : จะมาพร้อมกับกล้องดิจิตอลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยเซ็นเซอร์รับภาพแบบ CMOS และตัวกล้องสามารถหมุนได้ถึง 206 องศา เพื่อสลับใช้งานเป็นกล้องดิจิตอลด้านหลัง และกล้องดิจิตอลด้านหน้า, ไฟแฟลชในตัว (Dual LED Flash) และไมโครโฟน

และยังมาพร้อมกับระบบสัมผัสที่ด้านหลังของตัวเครื่องเรียกว่า O-Touch ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับฟังก์ชันได้หลากหลายบน OPPO N1 โดยสามารถเลื่อน ขึ้น-ลง และ ซ้าย-ขวา ได้

สำหรับฝาหลังของ OPPO N1 ไม่สามารถเปิดออกได้ และยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 3,610 mAh
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอพพลิเคชั่นต่างๆ

OPPO N1 มาพร้อมกับ User Interface ที่เรียกว่า ColorOS ที่ออกแบบมาได้อย่างมีสีสันสมชื่อ

และยังมาพร้อมกับ Launcher สำหรับถ่ายภาพ ซึ่งสามารถถ่ายภาพได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องเข้าแอพพลิเคชั่นกล้องถ่ายภาพ พร้อมทั้งสามารถ เปิด-ปิด แฟลชได้อีกด้วย และภาพถ่ายจะปรากฏขึ้นที่หน้าจอทันที รวมถึงยังสามารถเข้าแอพพลิเคชั่นกล้อง, เข้าดูรูปถ่ายทั้งหมด และเข้าหน้ารวมแอพพลิเคชั่น ได้ทันทีจากรูปไอคอนด้านล่าง

โดยสามารถเลือกแชร์ภาพที่ถ่ายด้วย Launcher สำหรับถ่ายภาพที่ต้องการได้

และยังมี Launcher สำหรับฟังเพลงอีกด้วย ซึ่งวิธีการฟังเพลง คือ ใช้นิ้วเลื่อนเข็มไปไว้ที่แผ่นเสียงเพื่อเปิดเล่นเพลง

สามารถปิดเพลงได้ด้วยการเลื่อนเข็มออกจากแผ่นเสียง

โดยสามารถเปลี่ยนได้โดยการเลื่อนแผ่นเสียงลง

และเมื่อกดปุ่มเปิดเครื่องค้างเอาไว้ประมาณ 2 วินาที ก็จะพบกับฟังก์ชันเพิ่มเติม ได้แก่ ปิดเครื่อง, รีสตาร์ทเครื่อง, ปิดเสียง, เปิดระบบสั่น, เปิดเสียง และเลือกใช้งานโหมดเครื่องบิน

โดย OPPO N1 จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ ColorOS (ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชัน 4.2.2)

นอกจากนี้ ยังสามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้ ไม่ว่าจะเป็น วิดเจ็ต

วอลเปเปอร์

Live Weather

เอฟเฟค

และธีม

สำหรับ Live Weather ยังสามารถเลือกได้ตามสภาพอากาศที่เราต้องการ เช่น Rain, Snow, Fog, เมฆมาก และฝนฟ้าคะนอง

ตัวอย่างเช่น หากเราเลือกใช้ Live Weather แบบ Fog หน้าจอโฮมสกรีนก็จะมีหมอกที่หน้าจอ และยังสามารถเขียนสิ่งต่างๆ ลงไปที่หน้าจอโฮมสกรีนได้ และถ้าต้องการลบคำที่เขียนลงไปก็เพียงแค่เขย่าเครื่อง 2-3 ครั้ง หน้าจอก็จะกลับมาเป็นปกติ และสามารถเขียนสิ่งที่ต้องการลงไปใหม่ได้

โดยยังมีการแจ้งเตือนต่างๆ ผ่าน Notification อีกด้วย และยังสามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันต่างๆ ได้ เช่น Bluetooth, 3G, GPS และสัมผัสด้านหลัง เป็นต้น พร้อมทั้งยังสามารถปรับค่าความสว่างของหน้าจอได้อีกเช่นเดียวกัน

OPPO N1 ยังมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นสำหรับโทรศัพท์ โดยสามารถโทรออกผ่านรายชื่อในกลุ่มที่ต้องการได้

สามารถโทรออกผ่านสมุดรายชื่อได้

และสามารถโทรออกรายชื่อในรายการโปรดได้

หรือจะดูการใช้งานโทรศัพท์ทั้ง, สายที่ไม่ได้รับ, สายที่โทร, สายที่รับ และปฏิเสธได้

OPPO N1 ยังมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นอีเมลสำหรับการติดต่อสื่อสารผ่านทางอีเมล

ซึ่งรวมถึงแอพพลิเคชั่น Gmail ก็มีให้ใช้งานเช่นเดียวกัน

สำหรับแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมสามารถดาวน์โหลดได้ผ่าน Google Play Store

และยังสามารถจดบันทึกสิ่งต่างๆ ที่ต้องการผ่านแอพพลิเคชั่น โน้ต ได้ รวมถึงยังสามารถถ่ายภาพ, เลือกรูปภาพ, จดสิ่งต่างๆ และวาดภาพลงไปในแอพพลิเคชั่น โน้ต ได้อีกด้วย

พร้อมด้วยแอพพลิเคชั่น Lock Now สำหรับการล็อค หรือปิดหน้าจอโฮมสกรีน ซึ่งจะช่วยในเรื่องการถนอมปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือปุ่มล็อคหน้าจอนั่นเอง

โดย OPPO N1 ยังมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่น ธีม ซึ่งมีทั้งธีมที่สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้, ธีมในเครื่อง และลูกเล่น

และยังมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่น Kingsoft Office ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถเปิดอ่านไฟล์เอกสาร Word, Excel และ Powerpoint ได้ และยังสามารถแก้ไขไฟล์เอกสารผ่านแอพพลิเคชั่น Kingsoft Office ได้อีกด้วย

OPPO N1 สามารถตั้งค่าระบบเสียงให้เหมาะสมกับการใช้งานได้ ไม่ว่าจะเป็น โหมดเสียงสำหรับ ดูหนัง, ฟังเพลง และเล่นเกม เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังสามารถกำหนดการตั้งค่าระบบเสียงของตัวเองได้อีกด้วย

สำหรับท่านใดที่มีข้อมูล หรือแอพพลิเคชั่นที่ต้องการเก็บเป็นความลับไม่ต้องการให้ใครล่วงรู้ OPPO N1 สามารถช่วยท่านได้ผ่านแอพพลิเคชั่น โหมด Guest

เริ่มต้นด้วยการตั้งค่ารหัสผ่าน ซึ่งสามารถเลือกได้ทั้ง รูปแบบในการปลดล็อค หรือตั้งรหัสผ่าน

หลังจากนั้นก็สามารถเก็บรูปภาพส่วนตัวได้

สามารถเก็บวีดีโอส่วนตัวได้

รวมถึงซ่อนแอพพลิเคชั่นที่ต้องการได้อีกด้วย เพียงเท่านี้ ข้อมูลต่างๆ ที่ถูกซ่อนเอาไว้จะมีเพียงผู้ที่รู้รหัสผ่านเท่านั้นจึงจะสามารถเข้า โหมด Guest ได้

และยังมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นสแกนไวรัส ซึ่งจะช่วยให้สมาร์ทโฟนของคุณปราศจากไวรัส

และยังสามารถสแกนไวรัสที่ microSD ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นตัวจัดการแบตเตอรี่ ซึ่งจะสามารถเปิดโหมดประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ได้ และยังแจ้งสถานะว่าปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่สามารถใช้งานได้อีกกี่ชั่วโมง และยังสามารถ เปิด-ปิด การแจ้งเตือนให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้

รวมถึงสามารถดูรายละเอียดการใช้งานแบตเตอรี่ได้

OPPO N1 ยังมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นสำหรับฟังเพลง

และยังสามารถปรับค่าเอฟเฟคเสียงได้อีกเช่นกัน

รวมถึง ยังสามารถดู รายการเพลงทั้งหมด, รายการโปรด, ศิลปิน, อัลบั้ม, โฟลเดอร์ และเพิ่มรายการเพลงใหม่ได้

นอกจากนี้ ยังสามารถแสดงผลวีดีโอความละเอียดระดับ Full HD ได้อย่างไหลลื่น ด้วยประสิทธิภาพของการประมวลผลในระดับสูง และแสดงผลได้อย่างคมชัดเต็มความละเอียด เนื่องจาก OPPO N1 มีความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 1920x1080 พิกเซล นั่นเอง

รวมถึงฟังก์ชัน Popup Play ก็มีให้ใช้งานบน OPPO N1 อีกด้วย

และยังสามารถชมคลิปวีดีโอแบบออนไลน์ผ่านแอพพลิเคชั่น Youtube ได้


OPPO N1 มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลกราฟฟิค Adreno 320 ซึ่งช่วยให้เล่นเกมส์ที่มีรายละเอียดสูงๆ ได้อย่างไหลลื่น
 
และเมื่อนำ OPPO N1 มาทดสอบด้วยแอพพลิเคชั่น Antutu Benchmark ผลคะแนนของ OPPO N1 จะอยู่ที่ 26459 คะแนน และเมื่อนำมาจัดอันดับ OPPO N1 จะมีคะแนนอยู่ในอันดับที่ 6 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ดี

และเมื่อนำ OPPO N1 มาทดสอบด้วยแอพพลิเคชั่น Quadrant Standard ผลคะแนนของ OPPO N1 จะอยู่ที่ 9761 คะแนน และเมื่อนำมาจัดอันดับ OPPO N1 จะมีคะแนนอยู่ในอันดับที่ 1 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับดีมาก
กล้องดิจิตอลสำหรับการถ่ายภาพนิ่ง และภาพวีดีโอ

และนี่คือหน้าตาของ User Interface ของการใช้งานกล้องดิจิตอลบน OPPO N1

ซึ่งมาพร้อมกับโหมดการถ่ายภาพที่หลากหลาย ได้แก่ การถ่ายภาพแนวตั้ง, การถ่ายภาพกลางคืน, Smart Scene (โหมดการถ่ายภาพอัจฉริยะ), การถ่ายภาพเคลื่อนไหว, อัตโนมัติ และการถ่ายภาพแนวนอน

และยังสามารถปรับค่าการใช้งานแฟลชได้ คือ ปิด, เติมแสง, เปิด และอัตโนมัติ

โดยสามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายภาพด้วยการสัมผัส (Tap Shutter), การระบุตำแหน่งการถ่ายภาพ, เลือกความละเอียด และฟังก์ชันการถ่ายวีดีโอได้, เปิด-ปิด เสียงชัตเตอร์, เลือกความละเอียดของกล้องดิจิตอลตัวหลัก ที่ด้านหลังของตัวเครื่องได้, เปิด-ปิด การตั้งเวลาการถ่ายภาพได้ และ เปิด-ปิด การใช้งานฟังก์ชัน O-Touch

สามารถเลือกความละเอียด และรูปแบบของการถ่ายวีดีโอได้ คือ 480p, 720p, 1080p, Slow Motion และ HDR

สามารถเลือกความละเอียดกล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่องได้ ตั้งแต่ 2 ล้านพิกเซล, 3 ล้านพิกเซล, 10 ล้านพิกเซล และ 13 ล้านพิกเซล

นอกจากนี้ OPPO N1 ยังมีฟังก์ชันการถ่ายภาพเพิ่มเติมอีกมากมาย ได้แก่ Beauty Plus เวอร์ชัน 3.0, พาโนรามา, HDR, และปกติ

และ Slow Shutter (สามารถเลือกเวลาได้ตั้งแต่ Auto, 0.5, 1, 2, 4 และ 8 วินาที)
ทดสอบการถ่ายภาพด้วยฟังก์ชัน Beauty Plus เวอร์ชัน 3.0 และฟังก์ชัน Cosmetic

เริ่มต้นด้วยการถ่ายภาพด้วยฟังก์ชัน Beauty Plus เวอร์ชัน 3.0 โดยสามารถถ่ายได้จากทั้งกล้องดิจิตอลด้านหน้า และกล้องดิจิตอลด้านหลัง เมื่อถ่ายภาพเสร็จก็เข้าไปที่อัลบั้มรูปภาพ พร้อมกับเลือกภาพที่ต้องการ และเลือกที่ไอคอนรูปผู้หญิงที่อยู่มุมด้านซ้ายล่าง

และเมื่อกดที่ไอคอนรูปผู้หญิงแล้ว ก็จะพบกับฟังก์ชัน Cosmetic ขึ้นมาให้เลือกแต่งใบหน้าได้ตามใจชอบ และจะมีฟังก์ชันให้เลือกใช้งาน 2 อย่าง คือ เปรียบเทียบ และ Fine Tuning
 
สำหรับฟังก์ชันเปรียบเทียบคือ การแสดงผลแบบไม่มีการตกแต่งด้วยฟังก์ชัน Cosmetic (ภาพซ้ายคือภาพแบบไม่มีการตกแต่ง และภาพขวาคือภาพที่ตกแต่งด้วยฟังก์ชัน Beauty Plus เวอร์ชั่น 3.0 + ฟังก์ชัน Cosmetic)

ส่วนฟังก์ชัน Fine Tuning คือเส้นกำหนดเส้นขอบเขตการแต่งหน้าของฟังก์ชัน Cosmetic
 

ซึ่งสามารถกำหนดได้ทั้ง ตาซ้าย, ตาขวา และปาก ซึ่งเราสามารถกำหนดจุดดังกล่าวได้ตามที่ต้องการ
 
ภาพซ้าย : ตัวอย่างการตกแต่งภาพด้วยฟังก์ชัน Cosmetic แต่ไม่ได้กำหนดเส้นขอบเขตของ ตาซ้าย, ตาขวา และปาก
และภาพขวา : ตัวอย่างการตกแต่งภาพด้วยฟังก์ชั่น Cosmetic แต่กำหนดเส้นขอบเขตของ ตาซ้าย, ตาขวา และปาก
 
ภาพก่อน (ซ้าย) และหลัง (ขวา) จากการใช้งานฟังก์ชัน Beauty Plus เวอร์ชัน 3.0 แบบไม่ใช้ฟังก์ชัน Cosmetic
 
ภาพก่อน (ซ้าย) และหลัง (ขวา) จากการใช้งานฟังก์ชัน Beauty Plus เวอร์ชัน 3.0 แบบไม่ใช้ฟังก์ชัน Cosmetic
 
ภาพก่อน (ซ้าย) และหลัง (ขวา) จากการใช้งานฟังก์ชัน Beauty Plus เวอร์ชัน 3.0 แบบไม่ใช้ฟังก์ชัน Cosmetic

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยฟังก์ชัน Beuaty Plus เวอร์ชัน 3.0 พร้อมฟังก์ชัน Cosmetic : Fresh Beauty

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยฟังก์ชัน Beuaty Plus เวอร์ชัน 3.0 พร้อมฟังก์ชัน Cosmetic : Sweet

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยฟังก์ชัน Beuaty Plus เวอร์ชัน 3.0 พร้อมฟังก์ชัน Cosmetic : Early Spring

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยฟังก์ชัน Beuaty Plus เวอร์ชัน 3.0 พร้อมฟังก์ชัน Cosmetic : Pink Beauty

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยฟังก์ชัน Beuaty Plus เวอร์ชัน 3.0 พร้อมฟังก์ชัน Cosmetic : Elegant

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยฟังก์ชัน Beuaty Plus เวอร์ชัน 3.0 พร้อมฟังก์ชัน Cosmetic : Summer Candy

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยฟังก์ชัน Beuaty Plus เวอร์ชัน 3.0 พร้อมฟังก์ชัน Cosmetic : Sexy
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล ของ OPPO N1











ตัวอย่างภาพถ่ายในโหมดกลางคืน (Night Mode) ของ OPPO N1




ตัวอย่างภาพถ่ายในโหมด Slow Shutter ของ OPPO N1



แนะนำการใช้ท่าทางเพื่อการสั่งงานบน OPPO N1 (Gesture Control, Hand Gesture Board และ Multi Finger Gesture)


หมุนเลนส์กล้องมาที่ด้านหน้า เพื่อเปิดใช้งานโหมดกล้องหน้าอย่างรวดเร็ว


ใช้ 3 นิ้ว เลื่อนจากหน้าจอด้านบน ลงมาขอบหน้าจอด้านล่างเพื่อจับภาพหน้าจอ

เปิดระบบป้องกันการสัมผัสหน้าจอโดยไม่ตั้งใจ เช่น ในขณะที่เรากำลังเปิดอ่านหนังสือ หรือเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นอื่นๆ


ใช้นิ้ว 4 นิ้ว วางไว้ที่หน้าจอแล้วจีบนิ้วมือเข้าหากันเพื่อเปิดแอพพลิเคชั่นกล้อง


ใช้ 2 นิ้ว เพื่อ เพิ่ม-ลด ระดับของเสียงด้วยการเลื่อนขึ้นเพื่อเพิ่มเสียง หรือเลื่อนลงเพื่อลดเสียง


สามารถพลิกตัวเครื่องคว่ำลงเพื่อปิดเสียงเรียกเข้าได้

มาพร้อมกับเซ็นเซอร์สำหรับการโทรศัพท์ คือเมื่อยกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู OPPO N1 จะรับสายให้โดยอัตโนมัติ


สามารถเปิดหน้าจอด้วยการแตะที่หน้าจอติดๆ กันสองครั้ง ขณะที่หน้าจอปิดอยู่ หรืออยู่ในโหมด Sleep


สามารถเปิดเข้ากล้องถ่ายภาพได้ทันทีด้วยท่าทางที่กำหนดไว้ขณะที่หน้าจอปิด หรืออยู่ในโหมด Sleep เช่น วาดตัว O ลงที่หน้าจอเพื่อเปิดแอพพลิเคชั่นกล้องสำหรับถ่ายภาพ


สามารถเปิดไฟฉายได้ทันทีด้วยท่าทางที่กำหนดไว้ขณะที่หน้าจอปิด หรืออยู่ในโหมด Sleep คือ การวาดตัว V เพื่อเปิดแอพพลิเคชั่นไฟฉาย

สำหรับท่าทางนั้นมีบ่งบอกไว้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น การวาดรูปตัว V เพื่อเปิดกล้อง หรือการวาดรูปตัว V เพื่อเปิดไฟฉาย เป็นต้น

นอกจากนี้ เรายังสามารถกำหนดฟังก์ชันอื่นๆ ด้วยตนเองได้ เช่น การสั่งงานเปิดแอพพลิเคชั่น Google Chrome

และยังสามารถกำหนดการวาดตัวอักษรที่ต้องการ สำหรับการเปิดแอพพลิเคชั่น Google Chrome ได้อีกด้วย

ซึ่งรวมถึงการแก้ไขท่าทางการสั่งงานที่มาพร้อมเครื่องได้เช่นเดียวกัน
แนะนำการใช้งาน O-Touch เพื่อการสั่งงานบน OPPO N1

สำหรับฟังก์ชัน O-Touch สามารถสั่งงานบน OPPO N1 ได้หลายแบบด้วยกัน โดยสามารถกำหนดแอพพลิเคชั่นที่จะเปิดได้

ซึ่งแอพพลิเคชั่นที่จะสามารถกำหนดให้เปิดได้ ก็มีอยู่หลายแอพพลิเคชั่นด้วยกัน เช่น ปฏิทิน, นาฬิกา, โทรศัพท์, อีเมล และข้อความ เป็นต้น โดยหลักการการใช้งานคือ เพียงแค่แตะที่ O-Touch ติดๆ กันสองครั้ง ก็จะสามารถเข้าแอพพลิเคชั่นที่กำหนดไว้ได้ทันที

นอกจากนี้ ยังสามารถสไลด์ใช้งานการเคลื่อนย้ายหน้าจอได้ทั้งแบบ ขึ้น-ลง และ ซ้าย-ขวา รวมถึงสามารถบันทึกเสียงเป็นข้อความเพื่อส่งผ่านแอพพลิเคชั่น Line หรือ Facebook ได้อีกด้วย

สามารถเลื่อน ขึ้น-ลง และ ซ้าย-ขวา สำหรับการสั่งงานในการเปลี่ยนเพลง หรือ เปิด-ปิด เพลง ผ่าน Launcher สำหรับฟังเพลงได้

และยังสามารถถ่ายรูปด้วย O-Touch ได้ ด้วยการกดค้างไว้ประมาณ 0.5 วินาที เพื่อถ่ายภาพ
แนะนำการใช้งาน O-Click เพื่อการสั่งงาน OPPO N1

สำหรับ O-Click ก็คือรีโมทสำหรับควบคุมการสั่งงาน OPPO N1 นั่นเอง โดยมีการออกแบบให้มีขนาดเล็ก เพื่อการพกพาที่สะดวกสบาย

และยังมีช่องว่างทั้ง 2 ฝั่งสำหรับใส่สายคล้อง หรือคล้องกับพวกกุญแจ ช่วยให้สามารถพกพาได้สะดวกยิ่งขึ้น

อันดับแรก OPPO N1 จะต้องเชื่อมต่อกับ O-Click ผ่าน Bluetooth เสียก่อน จึงจะใช้งานได้ โดย OPPO N1 จะมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่น O-Click สำหรับการใช้งานควบคู่กัน โดยสามารถสั่งให้ OPPO N1 ถ่ายภาพได้ผ่าน O-Click (Camera Remote) ซึ่งสามารถสั่งงานการถ่ายภาพได้ไกลประมาณ 5-8 เมตร, สามารถเรียกหา OPPO N1 ได้ (Find My Phone) ด้วยการแตะที่ตัว O-Click ติดๆ กันสองครั้ง ซึ่ง OPPO N1 จะเด้งหน้าต่างพร้อมข้อความว่า O-Click กำลังเรียกหาคุณ โดยสามารถเรียกหาได้ไกลสูงสุด 10-15 เมตร และตัว OPPO N1 ก็สามารถเรียกหา O-Click ได้เช่นกันด้วยการกดที่คำว่า เรียกหา O-Click ที่แอพพลิเคชั่น O-Click บน OPPO N1

มีการแจ้งเตือนทั้ง OPPO N1 และ O-Click เมื่อหลุดจากการเชื่อมต่อ หรืออยู่ในระยะห่างเกินที่จะรับสัญญาณถึงกันได้

และยังมีเสียงแจ้งเตือนเมื่อ OPPO N1 หรือ O-Click อยู่นอกเหนือระยะควบคุมได้ ก็จะมีเสียงแจ้งเตือนที่ OPPO N1 และ O-Click เช่น เรานำ O-Click คล้องไว้ที่ปลอกคอสุนัข ถ้าสุนัขตัวนั้นหลุดออกจากบ้านไปนอกระยะการควบคุม OPPO N1 และ O-Click ก็จะมีเสียงการแจ้งเตือนให้เราได้รู้ว่าสุนัขตัวนั้นอยู่ห่างจากระยะการควบคุมไปแล้วนั่นเอง
ทดสอบการถ่ายภาพทีเผลอด้วยกล้องที่หมุนได้ 206 องศา ของ OPPO N1

ด้วยความสามารถของ OPPO N1 ที่ตัวกล้องสามารถหมุนได้ 206 องศา จะทำให้คุณสามารถถ่ายเพื่อน หรือคนที่แอบชอบแบบทีเผลอได้ โดยที่คนถูกถ่ายไม่ทันรู้ตัว

ตัวอย่างเช่น ถ่ายทีเผลอสาวสวยคนนี้ โดยการหมุนตัวกล้องดิจิตอลไปในทิศทางที่ต้องการ ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องหันหน้าไปทางสาวสวยคนนั้นเพื่อถ่ายภาพแต่อย่างใด

และผู้ที่ถูกถ่ายทีเผลอจะไม่รู้ตัว ซึ่ง OPPO N1 ก็น่าจะช่วยเพิ่มความสนุกสนานในการถ่ายภาพกับครอบครัว และเพื่อนๆ ได้มากขึ้น
สร้างสรรค์ภาพถ่ายในมุมมองที่แตกต่างด้วย O-Click

เนื่องด้วย OPPO N1 นั้นสามารถหมุนกล้องดิจิตอลได้ 206 องศา พร้อมด้วยความละเอียด 13 พิกเซล และยังสามารถใช้งานควบคู่กับ O-Click ได้ ทางทีมงานจึงเกิดไอเดียการถ่ายภาพแบบสร้างสรรค์ผ่าน OPPO N1 และ O-Click

เช่น นำ OPPO N1 ไปวางในจุดที่ต้องการ และใช้ O-Click ถ่ายภาพ

ภาพถ่ายที่ได้จากการวางเครื่อง OPPO N1 ไว้ที่อื่น เพื่อถ่ายตัวเอง

ภาพถ่ายต้นไม้มุมสูงด้วยการหมุนกล้อง OPPO N1 (ไม่จำเป็นต้องก้มๆ เงยๆ อีกต่อไป)

ภาพถ่ายที่ได้จากการถ่ายมุมสูงด้วยการหมุนกล้อง OPPO N1

นำ OPPO N1 วางกับกิ่งต้นไม้ เพื่อสร้างสรรค์ภาพถ่ายในมุมสูง

ภาพถ่ายมุมสูงที่ได้จากการวาง OPPO N1 กับกิ่งต้นไม้

ภาพถ่ายมุมสูงที่ได้จากการวาง OPPO N1 กับกิ่งต้นไม้

ภาพถ่ายมุมสูงที่ได้จากการวาง OPPO N1 กับกิ่งต้นไม้

ลองเปลี่ยนมุมบ้าง ด้วยการนำ OPPO N1 พิงไว้กับขอบฟุตบาท พร้อมกับหมุนกล้องไปในจุดที่ต้องการ และถ่ายภาพมุมสูง

ภาพถ่ายมุมสูงที่ได้จากการวาง OPPO N1 ไว้ที่ฟุตบาท

ภาพถ่ายมุมสูงที่ได้จากการวาง OPPO N1 ไว้ที่ฟุตบาท

นอกจาก OPPO N1 จะช่วยสร้างสรรค์การถ่ายภาพได้หลากหลายมากขึ้นแล้ว ยังสามารถถ่ายภาพระยะไกลได้อีกด้วย

ภาพถ่ายจาก OPPO N1 ผ่าน O-Click โดยระยะที่ถ่ายภาพประมาณ 5 เมตร ดังนั้นการถ่ายรูปหมู่แบบครบคน ทั้งคนถ่าย และคนถูกถ่าย ก็คงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
สรุปผลการทดสอบของ OPPO N1

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับการรีวิวสมาร์ทโฟนตัวเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง OPPO N1 กันแบบเต็มอิ่ม ซึ่ง OPPO N1 รุ่นนี้นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจเป็นพิเศษ ด้วยจุดขายเฉพาะตัว อย่างกล้องดิจิตอลที่สามารถหมุนได้ 206 องศา ที่จะช่วยให้เราสามารถสร้างสรรค์การถ่ายภาพในรูปแบบใหม่ๆ ผ่านกล้องดิจิตอลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ได้อย่างไม่จำกัด พร้อมทั้งยังสามารถถ่ายภาพในที่ๆ มีแสงน้อยได้ดี เพราะ OPPO N1 มีขนาดของรูรับแสงที่กว้างถึงระดับ F/2.0 และยังสามารถสั่งให้ถ่ายภาพแบบไร้สายผ่านอุปกรณ์ที่เรียกว่า O-Click Control ได้ รวมถึงการแจ้งเตือนเมื่อขาดการเชื่อมต่อ หรือ O-Click กับ OPPO N1 อยู่นอกระยะสัญญาณที่กำหนด และอีกหนึ่งฟีเจอร์พิเศษก็คือ O-Touch Panel ที่ด้านหลังตัวเครื่อง ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการควบคุมการสั่งงานต่างๆ ทั้งการสไลด์ขึ้น-ลง, ซ้าย-ขวา หรือการสัมผัสบริเวณกึ่งกลาง ซึ่งช่วยตัดปัญหาในการใช้งานมือเดียว เพราะ OPPO N1 มีหน้าจอที่ใหญ่ถึง 5.9 นิ้ว
นอกจากความโดดเด่นของกล้องดิจิตอลแล้ว OPPO N1 ก็ยังมีจุดเด่นด้านอื่นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นจอแสดงผลแบบ IPS LCD ที่ช่วยให้หน้าจอมีสีสันที่สดใสสมจริง พร้อมความละเอียดคมชัดระดับ Full HD 1080p ซึ่งช่วยให้การใช้งานด้านมัลติมีเดียบน OPPO N1 นั้นเต็มอรรถรส นอกจากนี้ OPPO N1 ยังมาพร้อมกับระบบเสียงแบบ Dolby ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพของเสียง หรือมิติของเสียงในการดูหนัง ฟังเพลง และด้วยหน่วยประมวลผล Quad-Core Krait 300 Processor (ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 600) ความเร็ว 1.7 GHz กับ RAM ขนาด 2 GB จึงช่วยให้การทำงานโดยรวม ไม่ว่าจะหนัก หรือเบา มีความไหลลื่น ไร้อาการสะดุด ส่วนหน่วยประมวลผลกราฟฟิคโดยเฉพาะแบบ Adreno 320 ก็สามารถช่วยให้เล่นเกมส์ที่มีรายละเอียดสูงๆ ได้อย่างไหลลื่นไม่มีอาการหน่วงให้เห็นเลยแม้แต่น้อย และทำสำคัญอีกอย่างก็คือ OPPO N1 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่มีความจุมากถึง 3,610 mAh ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน สรุปแล้ว OPPO N1 นั้นเหมาะกับผู้ที่ต้องสมาร์ทโฟนจอใหญ่ละเอียดคมชัด พร้อมประสิทธิภาพในการประมวลผลระดับสูง, มีฟีเจอร์ครบเครื่อง, มีรูปลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และชื่นชอบการถ่ายภาพเป็นพิเศษ ซึ่งราคาเปิดตัวของ OPPO N1 จะอยู่ที่ 19,990 บาท ซึ่งก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับฟีเจอร์ที่อัดแน่นอยู่ภายใน OPPO N1 สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง OPPO ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง OPPO N1 มาให้ทางเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์ได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้คงต้องขอลากันไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ OPPO N1
- การออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องมีความเรียบหรู มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงใช้วัสดุคุณภาพดี, การประกอบที่ดูแน่นหนาแข็งแรง และพื้นผิวที่ป้องกันรอยนิ้วมือได้
- จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.9 นิ้ว : 377 ppi) พร้อมกระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass 3
- หน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 320
- ประมวลผลการทำงานด้วย Quad-Core Krait 300 Processor (ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 600) ความเร็วในการประมวลผล 1.7 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ ColorOS (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.2 Jelly Bean)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB
- อุปกรณ์ควบคุมการทำงานแบบสัมผัสที่ด้านหลังของตัวเครื่อง (O-Touch Panel)
- รองรับการใช้งานร่วมกับ O-Click Control
- กล้องดิจิตอลในตัว ความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล และสามารถหมุนได้รอบทิศทาง รวม 206 องศา พร้อมเปิดการใช้งานกล้องได้ภายในเวลา 0.6 วินาที
- มีความทนทานต่อการหมุนได้สูงสุด 100,000 ครั้ง (หากหมุน 40 ครั้งต่อวัน จะมีความทนทานนาน 7 ปี)
- โมดูลกล้องประกอบไปด้วยชิ้นเลนส์ 6 ชิ้น
- ไฟแฟลชแบบคู่ (Dual-Mode LED)
- เซ็นเซอร์กล้องมีขนาด 1/3.06 นิ้ว
- หน่วยประมวลผลสำหรับการถ่ายภาพโดยเฉพาะแบบ PURE IMAGE Processor พร้อมระบบประมวลผลภาพแบบ PI Engine
- รองรับการปรับค่าความเร็วชัตเตอร์ (Shutter Speed) ได้ช้าสูงสุด 8 วินาที
- ขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ F/2.0
- รองรับการถ่ายภาพวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 Pixels : 30 fps) พร้อมโหมดการถ่ายวีดีโอแบบ Slow Motion และ HDR
- ระบบ Dark Screen Gesture, Multi Finger Gesture และ Hand Gesture Board
- โหมดการทำงานแบบ Guest Viewing Mode, Holiday Mode, Clean Platform และ Cloud Service
- รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ WiFi, 3G, EDGE และ GPRS
- รองรับการใช้งานกับระบบ 3G ทุกคลื่นความถี่ภายในเครื่องเดียวกัน
- ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) พร้อมฟังก์ชัน A-GPS
- แบตเตอรี่ Li-Ion ความจุ 3610 mAh
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ OPPO N1
- ตัวเครื่องมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และค่อนข้างหนัก
- ไม่สามารถใส่การ์ดหน่วยความจำเพิ่มเติมได้
- ไม่มีปุ่มกล้องดิจิตอลในตัว
- ไม่รองรับการใช้งานกับระบบเครือข่ายความเร็วสูงแบบ 4G LTE
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปคุณสมบัติเครื่อง
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ OPPO N1 ได้โดยการคลิ๊กที่ Link ด้านล่างนี้
OPPO N1 Specification title="Sony Xperia ZL Specification">

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|