ตอนนี้คุณอยู่ที่ >> หน้าแรก >> หน้ารวม รีวิวมือถือ mobile review >> รีวิวมือถือ Mobile Review
   
Date : 20/11/2024


รีวิว OPPO Find X8 Series มือถือเรือธงกล้อง Hasselblad พลัง AI ซูมไกล 120 เท่า พร้อมแบตเตอรี่ชาร์จไวใหญ่พิเศษ ขอบจอบางสุด บน ColorOS 15 โฉมใหม่ 

หลายคนอาจเสียดายกับการที่ปีที่แล้ว OPPO ไม่ได้นำสมาร์ตโฟนเรือธง Find X7 Series เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทย ทำให้วงการมือถือเรือธงช่วงปลายปีดูเงียบเหงาไปพอสมควร อย่างไรก็ดี ปีนี้เรือธง OPPO Find Series ได้กลับมาให้หายคิดถึงกันแล้ว นั่นคือ OPPO Find X8 Series ซึ่งเปิดตัวมาพร้อมกัน 2 รุ่น คือ OPPO Find X8 รุ่นมาตรฐาน และ OPPO Find X8 Pro รุ่นโปร

OPPO Find X8 Series ยังคงมีจุดเด่นสำคัญด้านการถ่ายภาพในสไตล์ของ Hasselblad เหมือนเดิม แต่ปรับปรุงคุณสมบัติต่าง ๆ ให้ดีขึ้นทั้งในด้านฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ ไม่ว่าจะเป็นระบบ AI Telescope Zoom ที่ซูมได้ไกลสุดถึง 120 เท่า, โหมดถ่ายภาพบุคคล Hasselblad ฉบับอัปเกรด และระบบแต่งภาพ AI Photo Remaster ที่ช่วยเพิ่มความคมชัด และปรับแต่งภาพถ่ายให้ดูสมบูรณ์แบบได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะอยู่ในมือของผู้ใช้ทั่วไป หรือช่างภาพมือโปร

นอกจากกล้องที่เป็นไฮไลต์สำคัญแล้ว OPPO Find X8 Series ก็ยังมากับแบตเตอรี่เทคโนโลยีใหม่ ที่เก็บประจุได้มากขึ้นในขนาดที่กะทัดรัดกว่าเดิม โดยเฉพาะ Find X8 Pro ที่มีความจุแบตเตอรี่สูงถึง 5,910 mAh ซึ่งเมื่อรวมเข้ากับชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9400 รุ่นใหม่ที่ประหยัดพลังงานมากขึ้นแล้ว จึงช่วยให้สามารถใช้งานข้ามวันได้แบบสบาย ๆ

ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นเหล่านี้ OPPO Find X8 Series นั้นน่าจะเข้ามาสร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดมือถือไทยช่วงปลายปีได้ไม่ยาก ส่วนความสามารถเต็ม ๆ และการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไรนั้น เราไปดูรีวิว OPPO Find X8 Series ทั้งสองรุ่นกันได้เลยครับ

 

ดีไซน์ภายนอก และอุปกรณ์ภายในกล่อง



OPPO Find X8 กับ OPPO Find X8 Pro มาในดีไซน์พรีเมียมสมฐานะเรือธง โดยมีการออกแบบที่คล้ายกันทั้งด้านหน้า และด้านหลัง จุดแตกต่างที่ชัดเจนคือ Find X8 จะเป็นกรอบโลหะแบบแบน ส่วน Find X8 Pro จะมีขอบโค้งเล็กน้อยบนหน้าจอ และฝาหลัง ทำให้มีสัมผัสการใช้งานที่แตกต่างกัน


หน้าจอ Find X8 และ Find X8 Pro นั้นมีคุณสมบัติหลัก ๆ ที่เหมือนกัน โดยเป็นจอ AMOLED พร้อมอัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz และมีความสว่างสูงสุด 4500 nits สำหรับคอนเทนต์ HDR นั้นรองรับมาตรฐานการแสดงผลคอนเทนต์แบบ HDR10+ และ Dolby Vision พร้อมรับรองมาตรฐานการถนอมสายตาโดย TUV Rheinland แต่จอของ Find X8 นั้นจะมีขนาดเล็กกว่าที่ 6.59 นิ้ว และเป็นแบบขอบแบน ส่วน Find X8 Pro จะมีขนาดใหญ่กว่าที่ 6.78 นิ้ว และเป็นแบบขอบโค้ง


หากสังเกตดู OPPO Find X8 Series จะมีขอบจอที่บางมาก และบางที่สุดเท่าที่เคยมีมาบนสมาร์ทโฟนของ OPPO


โมดูลกล้องหลังมาในดีไซน์วงกลมขนาดใหญ่ที่จัดวางไว้อย่างโดดเด่นคล้ายกับรุ่นที่แล้ว โดย OPPO Find X8 รุ่นมาตรฐานจะมีชุดกล้องหลัง 3 ตัว (Triple Camera) ดังนี้

- กล้องหลัก Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Sony LYT700 ขนาด 1/1.56 นิ้ว, รูรับแสงขนาด f1.8, ทางยาวโฟกัส 24 มิลลิเมตร, ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS และโครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์
- กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Samsung 5KJN5 ขนาด 1/2.75 นิ้ว, รูรับแสงขนาด f2.0, ทางยาวโฟกัส 15 มิลลิเมตร (มุมรับภาพ 120°), ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF และโครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Sony LYT600 ขนาด 1/1.95 นิ้ว, รูรับแสงขนาด f2.6, ทางยาวโฟกัส 73 มิลลิเมตร (3x Optical Zoom), ระบบเลนส์ Triple Prism Periscope, ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS และโครงสร้างแบบ 3 ชิ้นเลนส์


ส่วนชุดกล้องหลังของ Find X8 Pro จะมีทั้งหมด 4 ตัว (Quad Camera) ดังนี้

- กล้อง Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Sony LYT808 ขนาด 1/1.14 นิ้ว, รูรับแสงขนาด f1.6, ทางยาวโฟกัส 23 มิลลิเมตร, ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS และโครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์
- กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Samsung 5KJN5 ขนาด 1/2.75 นิ้ว, รูรับแสงขนาด f2.0, ทางยาวโฟกัส 15 มิลลิเมตร (มุมรับภาพ 120°), ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF และโครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Sony LYT600 ขนาด 1/1.95 นิ้ว, รูรับแสงขนาด f2.6, ทางยาวโฟกัส 73 มิลลิเมตร (3x Optical Zoom), ระบบเลนส์ Triple Prism Periscope, ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS และโครงสร้างแบบ 3 ชิ้นเลนส์
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Sony IMX858 ขนาด 1/2.51 นิ้ว, รูรับแสงขนาด f4.3, ทางยาวโฟกัส 135 มิลลิเมตร (6x Optical Zoom), ระบบเลนส์ Periscope, ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS และโครงสร้างแบบ 3 ชิ้นเลนส์


ส่วนกล้องหน้าของทั้ง Find X8 และ Find X8 Pro เป็นแบบเจาะรู และมีคุณสมบัติเหมือนกัน โดยเป็นกล้องความละเอียด 32 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Sony IMX615 ขนาด 1/2.74 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 0.8 ไมครอน, รูรับแสงขนาด f2.4, ทางยาวโฟกัส 21 มิลลิเมตร, ระบบโฟกัสแบบ Fixed Focus และโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์


จุดเด่นของทั้งสองรุ่นนี้คือปุ่ม Alert Slider บนขอบเครื่อง ซึ่งมีไว้สำหรับสลับโหมดสั่น, โหมดเงียบ และโหมดเปิดเสียงได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องปลดล็อกหน้าจอ


ถาดใส่ซิมการ์ดของทั้ง Find X8 และ Find X8 Pro จะเป็นแบบ Dual-Slot สามารถใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM ได้พร้อมกัน 2 ใบ แต่ไม่รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริม


นอกจากตัวเครื่องแล้ว อุปกรณ์อื่น ๆ ก็มีใส่มาให้ในกล่องอย่างครบครันพร้อมใช้งาน ได้แก่

- สาย USB-C
- อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่แบบ 80W SUPERVOOC
- เคส TPU
- เข็มถอดถาดซิมการ์ด
- คู่มือการใช้งาน

 

ซอฟต์แวร์ และฟีเจอร์ที่น่าสนใจ

OPPO Find X8 และ Find X8 Pro มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ ColorOS 15 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุด ที่อยู่บนพื้นฐานของ Android 15 โดยมีการออกแบบไอคอน และส่วนอินเทอร์เฟซต่าง ๆ ที่สวยงาม และมีการทำงานที่ลื่นไหลติดมือ จากการทดสอบไม่พบอาการหน่วงหรือค้าง และไม่มีปัญหาแอปเด้ง โดยรวมถือว่ามีความเสถียรสูง

 

นอกจากนี้ ColorOS 15 ยังมีเทคโนโลยีเบื้องหลังที่น่าสนใจ คือระบบ AI Link Boost ที่ช่วยให้สัญญาณโทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ตชัดขึ้นแม้อยู่ในจุดอับสัญญาณ โดยทำงานร่วมกับเสาอากาศรอบทิศทางแบบ 360° และระบบ Wi-Fi TripleAntenna ซึ่งทำให้รับสัญญาณได้เต็มที่ไม่ว่าจะถือเครื่องท่าไหนก็ตาม

 

และยังมีเทคโนโลยี Trinity Engine ที่ช่วยจัดการระบบการประมวลผลภายในให้ราบรื่นอยู่เสมอ โดยทาง OPPO ได้ร่วมมือกับ MediaTek เพื่อปรับแต่ง Trinity Engine สำหรับชิปเซ็ต Dimensity
9400 ใน Find X8 Series โดยเฉพาะ ส่งผลให้การใช้พลังงานลดลง 8.2% เมื่อเล่นเกม และลดลงสูงสุด 4.5% เมื่อดูวิดีโอ

 

ฮาร์ดแวร์พื้นฐานของ OPPO Find X8


ฮาร์ดแวร์พื้นฐานของ OPPO Find X8 Pro

ในด้านฮาร์ดแวร์พื้นฐานทั้ง OPPO Find X8 และ Find X8 Pro ต่างก็มีคุณสมบัติหลัก ๆ ที่เหมือนกัน โดยใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9400, RAM แบบ LPDDR5X และหน่วยความจำภายใน (ROM) แบบ UFS 4.0 สำหรับ Find X8 รุ่นมาตรฐานจะมีให้เลือก 2 รุ่นความจุ คือ RAM 12GB+ROM 256GB กับ RAM 16GB+ROM 512GB ส่วน Find X8 Pro จะมีรุ่นความจุเดียวคือ RAM 16GB+ROM 512GB

 


คะแนนทดสอบของ OPPO Find X8



คะแนนทดสอบของ OPPO Find X8 Pro

 

จากการทดสอบประสิทธิภาพของการทำงานโดยรวมด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu และ Geekbench 6 ทั้งสองรุ่นมีผลคะแนนที่ใกล้เคียงกัน และอยู่ในระดับสูงมากทั้งคู่ ซึ่งก็เป็นไปตามมาตรฐานของสมาร์ตโฟนเรือธงปี 2024 เพราะฉะนั้นเรื่องความเร็วแรงเรียกได้ว่าหายห่วง

 

ทดสอบประสิทธิภาพด้านการเล่นเกม

ด้านการเล่นเกม OPPO Find X8 Series จะมีตัวช่วยสนับสนุนการเล่นเกมที่เรียกว่า HyperBoost ซึ่งจะช่วยเรื่องการจัดการทรัพยากรของตัวเครื่องขณะเล่นเกม รวมถึงตัวเลือกในการตั้งค่าอื่น ๆ เช่น ล็อกความสว่างหน้าจอ หรือปิดกั้นการแจ้งเตือน เป็นต้น

ขณะเล่นเกม เราสามารถเรียกเมนูของ HyperBoost ออกมาได้โดยการปัดที่มุมซ้ายบนของจอ ซึ่งจะมีทางลัดสำหรับเรียกใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการจับสกรีนช็อต, อัดวิดีโอการเล่น, ปรับความสว่างแบบด่วน และอื่น ๆ พร้อมทั้งแสดงค่า FPS ในเกมแบบ Real-time

 

เราสามารถสลับไปใช้โหมดโปรเกมเมอร์ เพื่อเร่งการทำงานของตัวเครื่องให้สูงขึ้นอีกได้ แต่จะใช้แบตเตอรี่มากขึ้น และเครื่องจะร้อนขึ้น สามารถใช้เพิ่มอัตราเฟรมเรตในเกมให้สูงขึ้นได้อีกเล็กน้อย

 

สำหรับการทดสอบเราได้ทดสอบด้วยเกม PUBG Mobile และ Genshin Impact ซึ่งทั้ง OPPO Find X8 และ Find X8 Pro ต่างมีประสิทธิภาพด้านการเล่นเกมที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน แม้จะตั้งค่ากราฟิกไว้ที่ระดับสูงทั้ง 2 เกม แต่ก็ยังเล่นได้อย่างลื่นไหลโดยที่เฟรมเรตมีการแกว่งน้อยมาก นอกจากนี้หน้าจอยังตอบสนองต่อการสัมผัสที่ฉับไว ไม่มีปัญหาเวลาเล่นเกมที่ต้องการความเร็ว และความแม่นยำสูงอย่างเช่นเกมแนวชูตติ้ง ส่วนเรื่องความร้อนก็ไม่เป็นปัญหา อาจจะมีความรู้สึกอุ่น ๆ บ้างเมื่อเล่นเกมหนัก ๆ แต่ไม่รบกวนการเล่น และไม่เกิด CPU Throttling แน่นอน โดยรวมแล้วทั้งสองรุ่นตอบโจทย์การเล่นเกมได้อย่างน่าประทับใจสมกับที่เป็นเรือธง


แบตเตอรี่แบบใหม่ กับระบบชาร์จไว 80W SUPERVOOC

OPPO Find X8 และ Find X8 Pro มากับแบตเตอรี่ชนิดใหม่ที่เรียกว่าแบตเตอรี่ซิลิกอน-คาร์บอน ทำให้เก็บประจุได้มากกว่าแบตเตอรี่แบบลิเธียม-พอลิเมอร์ หรือลิเธียม-ไอออนในสมาร์ตโฟนส่วนใหญ่ โดย Find X8 มีแบตเตอรี่ความจุ 5,630 mAh ส่วน Find X8 Pro มีแบตเตอรี่ความจุ 5,910 mAh ซึ่งนับว่าเป็นความจุที่สูงมาก เพราะสมาร์ตโฟนเรือธงส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะมีความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ราว 4,000-5,000 mAh เท่านั้น

สำหรับระบบชาร์จ ทั้งคู่รองรับระบบชาร์จไวแบบ 80W SUPERVOOC ผ่านสาย USB-C ซึ่งใช้เวลาชาร์จจนเต็ม 100% ประมาณ 40-50 นาที นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จไร้สายแบบ 50W AIRVOOC เมื่อใช้กับแท่นชาร์จที่รองรับ และยังมีเคสแม่เหล็ก Magsafe ให้เลือกซื้อด้วย

 

การใช้งานกล้องสำหรับถ่ายภาพ และวิดีโอ

ในส่วนของการถ่ายภาพ OPPO Find X8 กับ Find X8 Pro จะมีฟังก์ชันการใช้งานที่เหมือนกันแทบทั้งหมด โดยมีฟีเจอร์เด่น ๆ ดังนี้

 

HyperTone Image Engine

เอนจิ้นประมวลผลภาพเอกสิทธิ์เฉพาะของ OPPO ที่ประมวลผลภาพถ่ายผ่านการผสานเฟรม RAW สูงสุด 9 เฟรมเข้าเป็นภาพเดียวด้วยอัลกอริทึม AI ส่งผลให้ภาพถ่ายคมชัดขึ้น มีช่วงไดนามิกกว้างขึ้น และมี Noise ลดลงอย่างมาก


AI Telescope Zoom

ฟีเจอร์นี้เปิดใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อซูมที่ระยะ 10 เท่าขึ้นไป โดย AI จะวิเคราะห์ภาพในระดับพิกเซล โดยใช้ความละเอียด 50MP ซึ่งเป็นความละเอียดสูงสุดของตัวเซนเซอร์เพื่อชดเชยรายละเอียดในภาพ และเมื่อซูมถึงระยะ 60 เท่าขึ้นไป ระบบจะเรียกใช้โมเดล AI ในเครื่องมาช่วยเสริมรายละเอียดให้รูปอีกแรงหนึ่ง ช่วยให้ภาพดูคมขึ้น


Hasselblad Portrait

OPPO Find X8 และ Find X8 Pro มาพร้อมโหมด Hasselblad Portrait รุ่นล่าสุด ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ Hasselblad โดยโหมดนี้จะปรับโทนสี และแสงเงาของภาพให้ออกมาในสไตล์ของกล้องมืออาชีพ สามารถปรับระยะโฟกัสได้ OPPO Find X8 ปรับได้ 5 ระยะ และ Find X8 Pro ปรับได้ 6 ระยะ โดยที่แต่ละระยะจะจำลองเอฟเฟกต์โบเก้ที่เหมือนกับเลนส์กล้อง Hasselblad จริง ๆ และให้อารมณ์ที่แตกต่างกันออกไป

ส่วนการถ่ายวิดีโอ ทั้ง OPPO Find X8 และ Find X8 Pro สามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K 60fps ได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง ดังนั้นรับรองได้ว่าสายคอนเทนต์ต้องถูกใจอย่างแน่นอน


AI Photo Remaster

นอกจากการถ่ายรูป OPPO Find X8 Series ยังมีฟีเจอร์แต่งรูป AI Photo Remaster ซึ่งมี 4 ฟังก์ชั่นได้แก่ AI Eraser สำหรับลบวัตถุในภาพ, เพิ่มความคมชัด (upscaling), แก้ไขภาพเบลอ และลบแสงสะท้อน ซึ่งใช้งานง่ายมาก ๆ เพราะ AI จะจัดการให้เราหมด ไม่ต้องเอาไปรีทัชเองให้ยุ่งยากครับ

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ OPPO Find X8


ตัวอย่างการซูมด้วยระบบ AI Telescope Zoom


ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ OPPO Find X8 Pro

ตัวอย่างการซูมด้วยระบบ AI Telescope Zoom


ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ OPPO Find X8


ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ OPPO Find X8 Pro

 

ราคา และโปรโมชันของ OPPO Find X8 Series

OPPO Find X8 วางจำหน่าย 3 สี ได้แก่ สีเทา Star Grey, สีชมพู Shell Pink และสีดำ Space Black

  • OPPO Find X8 รุ่น RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 29,999 บาท
  • OPPO Find X8 รุ่น RAM 16GB + ROM 512GB ราคา 33,999 บาท
  • พร้อมโปรโมชันรับฟรีของสมนาคุณรวมมูลค่า 16,999 บาท

    OPPO Find X8 Pro วางจำหน่าย 2 สี ได้แก่ สีขาว Pearl White ลวดลายประกายมุก และ สีดำ Space Black

  • OPPO Find X8 Pro รุ่น RAM 16GB + ROM 512GB ราคา 39,999 บาท
  • พร้อมโปรโมชันรับฟรีของสมนาคุณรวมมูลค่า 20,999 บาท

     

    สรุปประสบการณ์หลังใช้งาน OPPO Find X8 Series

    หลังจากที่มีโอกาสได้ใช้งาน OPPO Find X8 และ Find X8 Pro มาได้ระยะหนึ่งก็พอจะสรุปได้ว่า คู่หูเรือธงใหม่ล่าสุดนี้ยังคงรักษาจุดเด่นของซีรีส์ Find X เอาไว้ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่พรีเมียม, ประสบสบการณ์การใช้งานที่ดี และการถ่ายภาพที่น่าประทับใจ

    OPPO Find X8 และ Find X8 Pro มากับระบบปฏิบัติการ ColorOS 15 รุ่นใหม่ ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของ Android 15 มีการทำงานที่รวดเร็ว และเสถียร มีการออกแบบอินเทอร์เฟซที่สวย เข้าใจง่าย และแอนิเมชันที่ลื่นไหล ซึ่งดูแล้วน่าจะได้รับการปรับแต่งมาให้ทำงานร่วมกับชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9400 เป็นอย่างดี ทำให้ประสบการณ์การใช้งานโดยรวมดีมาก

    สำหรับการถ่ายรูปก็ยังคงน่าประทับใจเช่นเคย โดยคราวนี้มีการนำ AI มาช่วยประมวลผลมากขึ้น ทำให้คุณภาพโดยรวมของรูปถ่ายดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโทนสี, แสงเงา, การตัดขอบเบลอ, HDR ไปจนถึงโทนภาพสไตล์ Hasselblad ที่เด่นชัดยิ่งขึ้น

    ฟีเจอร์เด่นของกล้อง OPPO Find X8 และ Find X8 Pro คือระบบ AI Telescope Zoom ที่ซูมได้ไกลสุดถึง 120 เท่าโดยใช้ AI ช่วยเสริมรายละเอียดของภาพ โดยจะทำงานที่ระยะเกิน 10 เท่าขึ้นไป จากการทดสอบพบว่าให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างดีในระยะไม่เกิน 30 เท่า หากซูมไกลกว่านี้รายละเอียดจะเริ่มมีลักษณะเป็นวุ้น อย่างไรก็ตาม ด้วยฮาร์ดแวร์ระดับนี้ก็ถือว่าทำได้ดีแล้ว และดีกว่าสมาร์ตโฟนเรือธงหลายรุ่น อีกทั้งระยะการซูมแบบ Optical Zoom ก็ไกลถึง 6 เท่า และแบบ Digital Zoom ก็ไกลถึง 120 เท่า ซึ่งก็ไกลพอสำหรับการถ่ายภาพทุกแบบแล้ว

     

    ฟีเจอร์แต่งภาพด้วย AI เป็นสิ่งที่สมาร์ตโฟนเรือธงยุคใหม่ขาดไม่ได้ ซึ่ง AI Photo Remaster ใน OPPO Find X8 Series ก็ตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้ดี โดยช่วยให้ผู้ใช้ลบวัตถุ, ลบแสงสะท้อน และลดความเบลอของรูปถ่ายได้ง่าย ๆ และ AI ก็รีทัชได้เนียนในระดับที่น่าพอใจ นับว่าเป็นจุดเด่นที่สอดรับกับความสามารถในการถ่ายรูปของ OPPO Find X8 Series ได้อย่างลงตัว

    อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือการถ่ายวิดีโอแบบ 4K ที่ 60fps ซึ่งทำได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง จึงเหมาะมากกับคนที่ชอบถ่าย Vlog หรือถ่ายคอนเทนต์ลง TikTok หรือแพล็ตฟอร์มอื่น ๆ

    นอกจากการถ่ายภาพ และวิดีโอแล้ว แบตเตอรี่ของ OPPO Find X8 Series ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่น่าประทับใจเช่นกัน เพราะเป็นแบตเตอรี่แบบซิลิกอน-คาร์บอน ซึ่งเก็บประจุได้มากขึ้น ทำให้ OPPO Find X8 และ Find X8 Pro เป็นสมาร์ตโฟนเรือธงที่มีความจุแบตเตอรี่สูงมาก และสูงกว่าเรือธงรุ่นอื่นในตลาดอย่างชัดเจน ส่วนเรื่องการชาร์จ ทั้งสองรุ่นรองรับการชาร์จไวด้วยกำลังไฟสูงสุด 80W ซึ่งแม้จะไม่ใช่สมาร์ตโฟนที่ชาร์จไวที่สุด แต่ก็ถือว่าเหลือเฟือแล้วสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เพราะใช้เวลาชาร์จจนเต็มแค่ประมาณ 40-50 นาที อีกทั้งแบตเตอรี่ยังอึดกว่าเรือธงรุ่นอื่น ๆ จึงไม่จำเป็นต้องชาร์จระหว่างวันเลยหากไม่ได้ใช้งานอย่างหนักหน่วงจริง ๆ

     

    จากทั้งหมดที่กล่าวมา OPPO Find X8 และ Find X8 Pro ถือเป็นสมาร์ตโฟนเรือธงที่ให้สัมผัสการใช้งานดี, รูปลักษณ์สวยพรีเมียมทันสมัย, ถ่ายรูปสวย, ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม และแบตเตอรี่อึดเป็นพิเศษ ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบถ้วน และเป็นอีกหนึ่งในสมาร์ตโฟนเรือธงที่น่าสนใจมากในปลายปี 2024 ครับ

     

    สรุปคุณสมบัติเด่นของ OPPO Find X8


    - ตัวเครื่องมีคุณสมบัติของการทนน้ำ-ทนฝุ่นในระดับ IP68/IP69
    - ปุ่ม Alert Slider
    - ขนาดตัวเครื่อง 157.4x74.3x7.9 มิลลิเมตร 
    - น้ำหนัก 193 กรัม
    - จอแสดงผล LTPO AMOLED ขนาด 6.59 นิ้ว ความละเอียด 2760 x 1256 พิกเซล อัตราส่วน 19.8:9, 460PPI
    - อัตราการรีเฟรช (Refresh Rate) สูงสุดที่ 120Hz
    - มาตรฐานการแสดงผล HDR10+, Dolby Vision, HLG
    - ความสว่างสูงสุด 1,600 nits / 4,500 nits สำหรับคอนเทนต์ HDR
    - มาตรฐานถนอมสายตา TUV Rheinland Eye Comfort 4.0
    - 3,840Hz PWM Dimming
    - รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ

    ------------------------------

    - ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Dimensity 9400
    - หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Immortalis-G925
    - หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR5X ขนาด 12GB / 16GB
    - หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูล (ROM) แบบ UFS 4.0 ขนาด 256GB / 512GB
    - ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 15 พร้อมครอบทับด้วย ColorOS 15
    - แบตเตอรี่ความจุ 5,630 mAh ซึ่งถือว่าเป็นความจุที่สูงกว่าสมาร์ตโฟนส่วนใหญ่ในปัจจุบัน
    - ระบบชาร์จแบตเตอรี่แบบ 80W SUPERVOOC พร้อมอแดปเตอร์และสายชาร์จในชุดขาย
    - ระบบชาร์จไร้สาย 50W AIRVOOC และ 10W Reverse Wireless Charging
    - ลำโพงคู่สเตอริโอ

    ------------------------------

    กล้องตัวหลักด้านหลัง 3 ตัว (Triple Camera) ประกอบด้วย

    - กล้องหลัก Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Sony LYT700 ขนาด 1/1.56 นิ้ว, รูรับแสงขนาด f1.8, ทางยาวโฟกัส 24 มิลลิเมตร, ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS และโครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์
    - กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Samsung 5KJN5 ขนาด 1/2.75 นิ้ว, รูรับแสงขนาด f2.0, ทางยาวโฟกัส 15 มิลลิเมตร (มุมรับภาพ 120°), ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF และโครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์
    - กล้อง Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Sony LYT600 ขนาด 1/1.95 นิ้ว, รูรับแสงขนาด f2.6, ทางยาวโฟกัส 73 มิลลิเมตร (3x Optical Zoom), ระบบเลนส์ Triple Prism Periscope, ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS และโครงสร้างแบบ 3 ชิ้นเลนส์

    พร้อมการถ่ายภาพสไตล์ Hasselblad อันเป็นเอกลักษณ์, ซูมได้ไกลสูงสุด 120 เท่า (120x Digital Zoom) และรองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K (60fps) ได้ทั้งกล้องหน้า-กล้องหลัง

    กล้องด้านหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล 

    พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Sony IMX615 ขนาด 1/2.74 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 0.8 ไมครอน, รูรับแสงขนาด f2.4, ทางยาวโฟกัส 21 มิลลิเมตร, ระบบโฟกัสแบบ Fixed Focus, โครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์ และรองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K 60fps

    ------------------------------

    - รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6/7, dual-band, Wi-Fi Direct
    - AI LinkBoost พร้อมTriple Wi-Fi Antenna
    - รองรับเครือข่าย 5G, 4G LTE
    - รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ด (Dual Nano-SIM)
    - รองรับ NFC
    - เชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านทาง Bluetooth 5.4 (A2DP, LE, aptX HD, LHDC 5)
    - ระบุตำแหน่ง และนำทางผ่านระบบดาวเทียม GPS(L1+L5), GLONASS(G1), BEIDOU(B1I+B1C+B2a+B2b), Galileo(E1+E5a+E5b), QZSS(L1+L5), NavIC:(L5)
    - เซนเซอร์อินฟาเรด IR Blaster สามารถประยุกต์ใช้กับแอปพลิเคชันเฉพาะเพื่อใช้งานเป็นรีโมตเครื่องใช้ไฟฟ้าได้
    - พอร์ต USB Type-C

     

    สรุปคุณสมบัติเด่นของ OPPO Find X8 Pro

    - ตัวเครื่องมีคุณสมบัติของการทนน้ำ-ทนฝุ่นในระดับ IP68/IP69
    - ปุ่ม Alert Slider
    - ขนาดตัวเครื่อง 162.27×76.67×8.24 มม. สำหรับสี Space Black หรือ 162.27×76.67×8.34 มม. สำหรับสี Pearl White
    - น้ำหนัก 215 กรัม
    - จอแสดงผล LTPO AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2780 x 1264 พิกเซล อัตราส่วน 19.8:9, 450PPI
    - อัตราการรีเฟรช (Refresh Rate) สูงสุดที่ 120Hz
    - มาตรฐานการแสดงผล HDR10+, Dolby Vision, HLG
    - ความสว่างสูงสุด 1,600 nits / 4,500 nits สำหรับคอนเทนต์ HDR
    - มาตรฐานถนอมสายตา TUV Rheinland Eye Comfort 4.0
    - 2,160Hz PWM Dimming
    - รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ

    ------------------------------

    - ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Dimensity 9400
    - หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Immortalis-G925
    - หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR5X ขนาด 16GB
    - หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูล (ROM) แบบ UFS 4.0 ขนาด 512GB
    - ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 15 พร้อมครอบทับด้วย ColorOS 15
    - แบตเตอรี่ความจุ 5,910 mAh ซึ่งถือว่าเป็นความจุที่สูงกว่าสมาร์ตโฟนส่วนใหญ่ในปัจจุบัน
    - ระบบชาร์จแบตเตอรี่แบบ 80W SUPERVOOC พร้อมอแดปเตอร์และสายชาร์จในชุดขาย
    - ระบบชาร์จไร้สาย 50W AIRVOOC และ 10W Reverse Wireless Charging
    - ลำโพงคู่สเตอริโอ

    -------------------------------

    กล้องตัวหลักด้านหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ประกอบด้วย

    - กล้อง Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Sony LYT808 ขนาด 1/1.14 นิ้ว, รูรับแสงขนาด f1.6, ทางยาวโฟกัส 23 มิลลิเมตร, ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS และโครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์
    - กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Samsung 5KJN5 ขนาด 1/2.75 นิ้ว, รูรับแสงขนาด f2.0, ทางยาวโฟกัส 15 มิลลิเมตร (มุมรับภาพ 120°), ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF และโครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์
    - กล้อง Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Sony LYT600 ขนาด 1/1.95 นิ้ว, รูรับแสงขนาด f2.6, ทางยาวโฟกัส 73 มิลลิเมตร (3x Optical Zoom), ระบบเลนส์ Triple Prism Periscope, ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS และโครงสร้างแบบ 3 ชิ้นเลนส์
    - กล้อง Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Sony IMX858 ขนาด 1/2.51 นิ้ว, รูรับแสงขนาด f4.3, ทางยาวโฟกัส 135 มิลลิเมตร (6x Optical Zoom), ระบบเลนส์ Periscope, ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS และโครงสร้างแบบ 3 ชิ้นเลนส์

    พร้อมการถ่ายภาพสไตล์ Hasselblad อันเป็นเอกลักษณ์, ซูมได้ไกลสูงสุด 120 เท่า (120x Digital Zoom) และรองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K (60fps) ได้ทั้งกล้องหน้า-กล้องหลัง

    กล้องด้านหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล 

    พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Sony IMX615 ขนาด 1/2.74 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 0.8 ไมครอน, รูรับแสงขนาด f2.4, ทางยาวโฟกัส 21 มิลลิเมตร, ระบบโฟกัสแบบ Fixed Focus, โครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์ และรองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K 60fps

    ------------------------------

    - รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6/7, dual-band, Wi-Fi Direct
    - AI LinkBoost พร้อม Triple Wi-Fi 7 Antenna
    - รองรับเครือข่าย 5G, 4G LTE
    - รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ด (Dual Nano-SIM)
    - รองรับ NFC
    - เชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านทาง Bluetooth 5.4 (A2DP, LE, aptX HD, LHDC 5)
    - ระบุตำแหน่ง และนำทางผ่านระบบดาวเทียม GPS(L1+L5), GLONASS(G1), BEIDOU(B1I+B1C+B2a+B2b), Galileo(E1+E5a+E5b), QZSS(L1+L5), NavIC:(L5)
    - เซนเซอร์อินฟาเรด IR Blaster สามารถประยุกต์ใช้กับแอปพลิเคชันเฉพาะเพื่อใช้งานเป็นรีโมตเครื่องใช้ไฟฟ้าได้
    - พอร์ต USB Type-C 3.2 Gen 1

    วันที่ : 20/11/2024

    Cookie Consent

    Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy