ตอนนี้คุณอยู่ที่ >> หน้าแรก >> หน้ารวม mobile review >> รีวิว (Review) iPhone 7 Plus


รีวิว (Review) iPhone 7 Plus :: รีวิว ทดสอบ มือถือ :: Thaimobilecenter.com


 
TMC Point

  8.25

การออกแบบดีไซน์

  9.0

ใช้งานง่ายและสะดวก

  8.0

คุณสมบัติเครื่อง

  9.0

ฟังก์ชันการใช้งาน

8.5

เสถียรภาพและประสิทธิภาพ

  9.0

ความคุ้มค่าต่อราคา

  6.0

 
   

 รีวิว (Review) iPhone 7 Plus

ไอโฟนเรือธงตัวท็อปรุ่นล่าสุด กับการอัปเกรดใหม่ให้สมบูรณ์แบบขึ้นอีกขั้น ด้วยชิปเซ็ต A10 Fusion ที่ทรงพลังที่สุด, กล้องคู่ Optical Zoom, กล้องหน้าที่ละเอียดขึ้น, ปุ่มโฮมใหม่แบบ Force Touch, จอ Retina HD ที่สว่างสดใสกว่าเดิม และลำโพงคู่เสียงกระหึ่ม บนบอดี้กันน้ำสีใหม่

 

 Review Date (19-พฤศจิกายน-2559)
 

 

วิดีโอรีวิว (Video Review) iPhone 7 Plus

iPhone 7 Plus ไอโฟนเรือธงตัวท็อปใหม่ล่าสุด พร้อมกล้องคู่ Optical Zoom และชิปเซ็ต A10 Fusion ที่ทรงพลังที่สุด บนบอดี้กันน้ำสีใหม่

 

 

 

สวัสดีครับ วันนี้ทีมงานเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์ก็ขอพาทุกท่านมาพบกับ iPhone 7 Plus สมาร์ทโฟนเรือธงตัวท็อปรุ่นใหม่ล่าสุดจากแอปเปิ้ลที่หลายๆ ท่านรอคอย ซึ่งแม้ว่าขนาดตัวเครื่อง หรือดีไซน์โดยรวมจะแทบไม่แตกต่างไปจาก iPhone 6s Plus รุ่นพี่ แต่จริงๆ แล้ว iPhone 7 Plus นั้นมีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหลายอย่างด้วยกัน และช่วยให้กลายเป็นไอโฟนที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ได้มากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ตตัวใหม่ล่าสุด, บอดี้กันน้ำ, สีตัวเครื่องสีใหม่, ปุ่มโฮมแบบใหม่, จอแสดงผลที่ดีขึ้น, กล้องคู่แบบใหม่พร้อมระบบ Optical Zoom, กล้องหน้าที่ละเอียดขึ้น, ลำโพงเสียงกระหึ่มกว่าเดิม และอีกมากมาย ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามกันต่อได้เลยครับ

 

แกะกล่องส่องอุปกรณ์ iPhone 7 Plus

อุปกรณ์มาตรฐานที่มีมาให้ในกล่องจะประกอบไปด้วยเข็ม SIM Door Key พร้อมคู่มือการใช้งานฉบับย่อ

 

อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 5W

 

สาย Lightning to USB

 

หูฟัง EarPods พร้อมหัวต่อแบบ Lightning

 

และสายแปลงพอร์ต Lightning ไปเป็นพอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

 

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์ของ iPhone 7 Plus

สำหรับขนาดตัวเครื่องของ iPhone 7 Plus นั้นก็จะเท่ากันกับ iPhone 6s Plus ทุกประการครับ ทั้งความกว้าง, ความสูง และความหนา แต่จะมีน้ำหนักที่เบาลงเล็กน้อย และมีรายละเอียดภายนอกบางอย่างที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะสีใหม่คือสีดำด้าน หรือสี Black อย่างเครื่องที่รีวิวอยู่นี้ และสีดำมัน หรือสี Jet Black รวมถึงส่วนของกล้องคู่ที่เพิ่งถูกใส่เข้ามาใน iPhone 7 Plus เป็นรุ่นแรก

 

ที่ด้านหน้าของตัวเครื่องประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 7 ล้านพิกเซล ซึ่งละเอียดกว่าเดิม, ลำโพงเสียงตัวที่สอง, Proximity Sensor และ Ambient Light Sensor

 

หน้าจอแสดงผลแบบ Retina HD ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD หรือ 1920x1080 พิกเซล ซึ่งถูกปรับปรุงใหม่ให้มีความสว่างมากขึ้นกว่าเดิมอีก 25% และเป็นจอแบบขอบเขตสีกว้าง ที่แสดงผลสีได้เทียบเท่ากับอุตสาหกรรมการผลิตภาพยนตร์เลยทีเดียวครับ

 

ซึ่งเท่าที่ได้ทดสอบเปรียบเทียบดูกับจอ Retina HD เวอร์ชันเดิมบน iPhone 6s Plus ก็ค่อนข้างจะเห็นได้ชัดว่าจอ Retina HD เวอร์ชันปรับปรุงใหม่นี้ มีความสว่างมากขึ้น และแสดงสีสันได้ดีขึ้นครับ

 

สำหรับปุ่มโฮมก็เป็นปุ่มโฮมแบบใหม่ครับ โดยใช้เทคโนโลยี Force Touch ที่ทำงานร่วมกับระบบ Taptic Engine ซึ่งให้ความรู้สึกเสมือนกดลงไปจริงๆ และสามารถกดได้บ่อยเท่าที่ต้องการโดยที่ไม่ต้องกลัวปุ่มโฮมเสียอีกต่อไป

 

ที่ด้านหลังของตัวเครื่องจะมีกล้องดิจิทัลแบบคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ซึ่งประกอบไปด้วยเลนส์ Wide-Angle และ Telephoto พร้อมระบบ Optical Zoom 2 เท่า ซึ่งนับเป็นไอโฟนรุ่นแรกที่มีกล้องแบบนี้ ส่วนใกล้ๆ กันนั้นเป็นไมโครโฟน, ไฟแฟลช True Tone แบบ 4 ดวง ซึ่งดีกว่าเดิมเช่นกัน และโลโก้แอปเปิ้ลสวยๆ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

 

ส่วนที่ด้านหน้าของกล้องก็ยังมาพร้อมกับผลึกแซฟไฟร์ที่ช่วยปกป้องหน้าเลนส์เช่นเคยครับ

 

สำหรับเครื่องที่วางจำหน่ายในไทยนี้เป็นโมเดล A1784 ซึ่งใช้ชิปโมเด็มของ Intel ในขณะที่บางประเทศใช้ชิปโมเด็มของ Qualcomm ดังนั้นคุณภาพของการรับสัญญาณ 4G LTE อาจจะดร็อปลงไปบ้างเล็กน้อยครับ

 

ที่ด้านบนของตัวเครื่องไม่มีอะไรนอกจากพื้นผิวเรียบๆ

 

ที่ด้านล่างของตัวเครื่องประกอบไปด้วยไมโครโฟนสำหรับการสนทนาหรือบันทึกเสียง, ลำโพงเสียงตัวที่หนึ่ง ซึ่งทำงานคู่กับลำโพงที่ด้านบน เพื่อให้เสียงแบบสเตอริโอ และพอร์ต Lightning

 

ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องประกอบไปด้วยปุ่มเปิด-ปิดเสียง และปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง

 

ที่ด้านขวาของตัวเครื่องประกอบไปด้วยช่องใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM และปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง หรือล็อกหน้าจอ

 

อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงใน iPhone 7 Plus ก็คือแถบเสารับสัญญาณจะถูกย้ายไปไว้ที่ขอบด้านบนสุด และด้านล่างสุด ซึ่งช่วยให้ด้านหลังของตัวเครื่องดูโล่งตา และดูสวยมากขึ้นครับ

 

เคสหนัง (Leather Case) สำหรับ iPhone 7 Plus

หนึ่งในอุปกรณ์เสริมที่น่าสนใจก็คือเคสหนังรุ่นนี้ครับ โดยมีราคาอยู่ที่ 2,200 บาท ซึ่งอาจเป็นราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ก็แลกมาด้วยคุณภาพของชิ้นงาน กับความที่เป็นผลิตภัณฑ์แอปเปิ้ลแท้ๆ และเมื่อใส่เข้ากับ iPhone 7 แล้วดูมีความสวยงามลงตัวมากกว่าเคสแบรนด์อื่น อีกทั้งยังช่วยปกป้องความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเครื่องได้ด้วยครับ

 

กระจกกันรอยสำหรับ iPhone 7 Plus

และอีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมที่ผู้ใช้ไอโฟนแทบทุกคนมักจะติดตั้งเพิ่มเติมก็คือฟิล์มกันรอย แต่หากต้องการ การปกป้องที่มากกว่าฟิล์มกันรอย ก็ต้องเป็นกระจกกันรอย ที่ทนทานต่อแรงกระแทก และรอยขีดข่วนได้ดีกว่ามาก ซึ่งในตอนนี้ก็เริ่มมีกระจกกันรอยสำหรับ iPhone 7 Plus โดยเฉพาะออกมาจำหน่ายหลายรุ่นหลายยี่ห้อแล้วครับ

 

หนึ่งในยี่ห้อที่รู้จักกันดีก็คือยี่ห้อ Focus นั่นเองครับ ซึ่งก็ได้ผลิตกระจกกันรอยรุ่นพรีเมียมสำหรับ iPhone 7 Plus ออกมาวางจำหน่ายด้วยเช่นกัน

 

คุณสมบัติเด่นของกระจกกันรอยรุ่นนี้ก็ได้แก่ 3D Full Frame หรือเต็มจอลงโค้ง, ความแข็งแกร่งระดับ 9H, ป้องกันการแตกจากแรงกระแทก, การสัมผัสที่เรียบลื่น และขอบโค้งที่สวยงาม

 

โดยในกล่องจะมีสองชิ้นหลักๆ มาให้ติดตั้งก็คือ กระจกกันรอยสำหรับหน้าจอ ซึ่งมีลักษณะหนา และแข็ง ส่วนอีกชิ้นคือฟิล์มกันรอยสำหรับด้านหลังของตัวเครื่อง ซึ่งมีฟิล์มส่วนเล็กๆ สำหรับติดหน้าเลนส์กล้องมาให้ด้วยครับ

 

ส่วนการติดตั้งกระจกกันรอยก็ถือว่าง่ายกว่าฟิล์มกันรอยทั่วไปมากครับ เพราะแค่ทาบให้ตรงตำแหน่ง โดยอาจเปิดหน้าจอเพื่อให้เห็นขอบ ซึ่งเมื่อทาบตรงแล้วก็ให้วางตัวกระจกกันรอยลงไป จากนั้นก็ให้ใช้นิ้วกดลงไปที่ส่วนกลางของตัวกระจกกันรอย เพื่อให้ตัวของกระจกกันรอยดูดติดกับหน้าจอโดยอัตโนมัติ โดยอาจใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ช่วยเก็บรายละเอียดเพียงเล็กน้อยเท่านั้นครับ

หลังจากการติดตั้งก็จะเห็นว่าตัวของกระจกกันรอยนั้นแนบกับหน้าจอของ iPhone 7 Plus ได้แบบเต็มๆ และมีส่วนของขอบโค้งที่ช่วยให้ดูมีความสวยงามกลมกลืนมากยิ่งขึ้น

 

และเมื่อติดฟิล์มกันรอยที่ด้านหลังด้วยแล้ว จากสีดำด้าน ก็จะดูเป็นสีดำมัน ซึ่งก็ดูสวยไปอีกแบบครับ

 

ส่วนความลื่นไหลในการใช้งาน หรือการตอบสนองต่อการสัมผัสก็แทบไม่ต่างจากหน้าจอปกติครับ ยังคงรวดเร็วลื่นไหลไม่มีสะดุดตามสไตล์ไอโฟน

 

และในเรื่องของสีสัน หรือความสว่างของการแสดงผลหลังจากการติดตั้งกระจกกันรอยก็แทบไม่ต่างจากหน้าจอปกติเช่นกันครับ

 

นอกจากนี้หลังจากที่ได้มีการติดตั้งกระจกกันรอยแล้ว ก็ยังสามารถใส่เคสทั่วไปได้ตามปกติ โดยไม่มีการล้ำ หรือกดทับกันแต่อย่างใดครับ

 

ทดสอบคุณสมบัติในการป้องกันน้ำของตัวเครื่อง iPhone 7 Plus

อีกหนึ่งสิ่งใหม่ใน iPhone 7 Plus ก็คือคุณสมบัติในการป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่นที่ระดับ IP67 ตามมาตรฐาน IEC 60529 ซึ่งโดยคร่าวๆ ก็คือสามารถป้องกันน้ำได้ลึกสูงสุด 1 เมตร นานต่อเนื่อง 30 นาที ดังนั้นแค่การนำตัวเครื่องมาล้างน้ำในลักษณะนี้ก็ถือว่าสบายมาก แต่ก็แนะนำให้เป็นน้ำสะอาดเท่านั้นนะครับ

 

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมทดสอบฟีเจอร์ และแอปพลิเคชันต่างๆ ใน iPhone 7 Plus

สำหรับ iPhone 7 Plus เครื่องนี้ได้รับการอัปเดตเป็น iOS เวอร์ชัน 10.1.1 เรียบร้อยแล้วครับ ส่วนสเปกคร่าวๆ ก็คือใช้ชิปเซ็ต Apple A10 Fusion, หน่วยความจำภายในขนาด 256GB, หน่วยความจำแรมขนาด 3GB, จอ Retina HD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล, กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 7 ล้านพิกเซล, รองรับการเชื่อมต่อไร้สายครบทุกรูปแบบ และมีเซ็นเซอร์ตรวจจับต่างๆ ที่ครบครันดังที่เห็นนี้ครับ

 

สำหรับ User Interface ก็เป็นสไตล์ iOS 10 เหมือนกับไอโฟนรุ่นอื่นๆ ครับ ซึ่งเมื่อสไลด์จากแถบด้านบนลงมาก็จะเป็นส่วนของการแจ้งเตือน และการค้นหาข้อมูล เมื่อสไลด์จากแถบด้านล่างขึ้นมาก็จะเป็นทางลัดสำหรับการตั้งค่าต่างๆ รวมถึงเครื่องเล่นคลิปวิดีโอ เมื่อสไลด์จากแถบด้านซ้ายเข้ามาก็จะเป็นหน้ารวมข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจ และเมื่อสไลด์กลางหน้าจอลงมาก็จะเป็นหน้ารวมสิ่งที่แนะนำจาก SIRI

 

หน้าจอของ iPhone 7 Plus ก็ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี 3D Touch เช่นเคยนะครับ โดยสามารถตรวจจับแรงกดหนักกดเบาของเราบนหน้าจอได้ และเลือกคำสั่งเพิ่มเติมได้โดยง่าย

 

มีฟังก์ชัน Display Zoom ที่ช่วยขยายรายละเอียดต่างๆ ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น

 

มีฟังก์ชัน Night Shift ที่ช่วยปรับโทนสีของหน้าจอให้เหมาะกับการใช้งานในตอนกลางคืน และยังอาจช่วยให้เรานอนหลับได้ดีขึ้นด้วยครับ

 

มีภาพพื้นหลังให้เลือก 3 รูปแบบคือ Dynamic, Stills และ Live ซึ่งหากเป็นแบบ Live เมื่อเรากดลงไปบนหน้าจอ ภาพพื้นหลังก็จะมีการเคลื่อนไหวที่สวยงามดังที่เห็นนี้ครับ

 

สำหรับปุ่มโฮมใหม่แบบ Force Touch นั้น เราสามารถกำหนดระดับของ Haptic Feedback ได้ทั้งหมด 3 ระดับด้วยกัน ซึ่งหากเราชอบระดับไหนก็เลือกใช้ได้ตามต้องการครับ

 

โดยปุ่มโฮมแบบ Force Touch นี้จะไม่สามารถกดลงไปได้จริงๆ นะครับ แต่จะมีการตอบสนองด้วยการสั่นให้รู้สึกเหมือนกับกดลงไปจริงๆ ซึ่งการกดค้างเอาไว้จะเป็นการเรียกใช้ระบบสั่งงานด้วยเสียง

 

ส่วนการกดติดๆ กันสองครั้ง จะเป็นการเรียกดูรายการของแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งานล่าสุด

 

และการกดหนึ่งครั้ง ก็จะเป็นการกลับเข้าสู่หน้าโฮมตามปกตินั่นเองครับ

 

สำหรับ Touch ID หรือเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือนั้นจะเป็นรุ่นที่ 2 เช่นเดียวกับ iPhone 6s นะครับ ซึ่งก่อนใช้งานก็ต้องทำการลงทะเบียนลายนิ้วมือให้เรียบร้อยเสียก่อน โดย Touch ID สามารถใช้งานร่วมกับการปลดล็อกเครื่อง และการสั่งซื้อใน iTunes หรือ App Store โดยสามารถลงทะเบียนได้ทั้งหมด 5 ลายนิ้วมือ และเมื่อได้ใช้งานร่วมกับฟังก์ชัน Raise to Wake ก็นับว่าช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นอีกเยอะเลยทีเดียวครับ

 

ส่วนระบบ Haptics เราสามารถเลือกเปิด หรือปิดได้ตามที่ต้องการ

 

อีกหนึ่งสิ่งใหม่ในกล้องของ iPhone 7 Plus ก็คือระบบ Optical Zoom หรือระบบซูมภาพด้วยเลนส์นั่นเองครับ ซึ่งสามารถซูมภาพแบบ Optical ได้สูงสุด 2 เท่า โดยไม่สูญเสียรายละเอียด และสามารถซูมภาพแบบ Digital ได้สูงสุด 10 เท่า

 

สำหรับภาพถ่ายที่ได้จากการซูมแบบ Optical นั้นยังคงมีรายละเอียดที่ครบถ้วน 100% เนื่องจากเป็นการซูมด้วยเลนส์จริงๆ แต่หากเป็นการซูมแบบ Digital แน่นอนว่ารายละเอียดต่างๆ ก็จะดร็อปลงไปบ้างพอสมควรครับ

 

ด้วยการที่มีกล้องเลนส์คู่ จึงทำให้ iPhone 7 Plus สามารถถ่ายภาพแบบ Depth Effect หรือภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ครับ โดยสามารถใช้งานได้ในโหมด Portrait ที่มาพร้อมกับ iOS เวอร์ชัน 10.1 ซึ่งอาศัยซอฟต์แวร์ช่วยในการประมวลผล

 

เมื่อดูที่ฉากหลังก็จะเห็นว่าฟังก์ชัน Depth Effect นี้สามารถละลายฉากหลังได้อย่างสวยงาม และแยกกับตัวแบบที่อยู่ด้านหน้าได้อย่างแนบเนียน น้องๆ เลนส์กล้องจริงๆ เลยทีเดียวครับ

 

และโหมด Portrait นี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะการถ่ายภาพคนเท่านั้น พวกวัตถุสิ่งของต่างๆ ก็สามารถใช้งานได้เช่นกันครับ แต่สำหรับวัตถุบางประเภท เช่นโหลแก้วใสใบนี้ ก็อาจทำให้ซอฟต์แวร์ประมวลผลผิดพลาดได้ ซึ่งซอฟต์แวร์เวอร์ชันต่อไปก็อาจจะมีการปรับปรุงจุดนี้ให้ดีขึ้นครับ

 

มีระบบกันสั่นแบบ OIS ซึ่งรองรับทั้งการใช้งานร่วมกับการถ่ายภาพนิ่ง และการถ่ายภาพวิดีโอ

 

มีเทคโนโลยี Focus Pixels ที่ช่วยให้การโฟกัสวัตถุต่างๆ นั้นมีความรวดเร็ว และแม่นยำมากเป็นพิเศษ รวมทั้งสามารถเลื่อนแถบด้านข้างของกรอบโฟกัสขึ้น-ลง เพื่อปรับค่าชดเชยแสงได้ทันทีครับ

 

รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Slow Motion ได้ที่ความเร็วสูงสุด 240 เฟรมต่อวินาที ที่ความละเอียดระดับ HD 720p หรือความเร็ว 120 เฟรมต่อวินาที ที่ความละเอียดระดับ Full HD 1080p

 

การถ่ายภาพ Live Photos ใน iPhone 7 Plus นั้นถูกอัปเกรดความสามารถ ให้บันทึกด้วยขอบเขตสีกว้างได้ด้วยนะครับ

 

ซึ่งการบันทึกภาพแบบ Live Photos ก็คือการบันทึกทั้งภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวไปพร้อมๆ กัน จึงทำให้ภาพถ่ายดูมีชีวิตขึ้นมาได้นั่นเองครับ

 

อีกหนึ่งสิ่งใหม่ใน iPhone 7 Plus ก็คือลำโพงแบบ Stereo ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของลำโพงสองตัวที่ด้านบน และด้านล่างของตัวเครื่อง ดังนั้นเสียงที่ได้จึงมีพลัง และมีมิติสมจริงมากขึ้นกว่าเดิมอีกพอสมควรเลยทีเดียวครับ

 

และแน่นอนว่าผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Siri ก็สามารถเปิดใช้งานได้ โดยปลุกให้ Siri ตื่นได้ง่ายๆ ด้วยการพูดว่า Hey Siri นั่นเอง ส่วนจะถาม Siri ว่าอย่างไรได้บ้างนั้น ก็คงต้องลองศึกษากันดูอีกทีนะครับ

 

สามารถแสดงตัวเลขเปอร์เซ็นต์ของแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ได้ และหากต้องการประหยัดพลังงานมากขึ้น ก็สามารถเปิดใช้โหมด Low Power ได้ครับ

 

สำหรับแผนที่ และระบบนำทางบนแอปพลิเคชัน Apple Maps ก็สามารถใช้งานได้ดี และมีความแม่นยำ แต่หากใครต้องการใช้ Google Maps แทน ก็สามารถดาวน์โหลดมาติดตั้งเพิ่มเติมได้ครับ

 

และด้วยระบบ Digital Compass และ GPS ในตัว จึงช่วยให้สามารถระบุตำแหน่ง และทิศทางของเราได้อย่างถูกต้องแม่นยำ

 

หากต้องการใช้งาน iPhone 7 Plus ร่วมกับนาฬิกา Apple Watch ก็ต้องทำการเปิดบลูทูธ และทำการจับคู่ผ่านทางแอปพลิเคชัน Watch ให้เรียบร้อยก่อนนะครับ

 

สำหรับชิปเซ็ตตัวใหม่อย่าง Apple A10 Fusion บน iPhone 7 Plus ทางแอปเปิ้ลได้ให้ข้อมูลไว้ว่าสามารถประมวลผลได้เร็วกว่า iPhone 6 สองเท่า และมีความเร็วของกราฟิกที่มากกว่า iPhone 6 ถึงสามเท่า ซึ่งเมื่อทดสอบประสิทธิภาพของการประมวลผลด้วยเกมที่มีกราฟิกระดับสูงก็พบว่าสามารถแสดงกราฟิกได้อย่างสวยงามลื่นไหลไร้การสะดุดแม้แต่น้อย และมีการตอบสนองต่อการควบคุมต่างๆ ที่รวดเร็วแม่นยำเป็นอย่างมากครับ


 

เมื่อทดสอบประสิทธิภาพของการประมวลผลโดยรวมด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ก็พบว่าได้คะแนนรวมอยู่ที่ 185,220 คะแนน ซึ่งนับว่าเป็นคะแนนที่สูงมาก และแน่นอนว่าเป็นคะแนนที่สูงที่สุดในบรรดาผลิตภัณฑ์ iDevice ด้วยกันอีกด้วยครับ

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ของ iPhone 7 Plus

 

ตัวอย่างภาพถ่ายแบบ Depth Effect ด้วยโหมด Portrait

 

ตัวอย่างการซูมภาพแบบ 2x Optical Zoom

 

สรุปผลการทดสอบ พร้อมราคา และข้อมูลการวางจำหน่ายของ iPhone 7 Plus

สรุปแล้วก็นับว่า iPhone 7 Plus สมาร์ทโฟนเรือธงตัวท็อปรุ่นใหม่ล่าสุดจากแอปเปิ้ลรุ่นนี้ก็ได้มีการอัปเกรดความสามารถให้ดีขึ้น และมีสิ่งใหม่หลายๆ อย่างที่ถูกเพิ่มเข้ามาให้มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นอีกไม่น้อยเลยนะครับ เริ่มตั้งแต่ชิปเซ็ต A10 Fusion ที่เร็วแรงกว่าเดิม, กล้องเลนส์คู่ พร้อมระบบ Optical Zoom, ไฟแฟลช True Tone แบบ 4 ดวง, กล้องหน้าที่ละเอียดมากขึ้น, ตัวเครื่องที่ป้องกันน้ำป้องกันฝุ่นได้ในระดับ IP67, หน้าจอแบบขอบเขตสีกว้าง และสว่างกว่าเดิม 25%, ปุ่มโฮมใหม่แบบ Force Touch, สีตัวเครื่องใหม่แบบดำด้าน (Black) กับดำมัน (Jet Black), เสารับสัญญาณดีไซน์ใหม่, แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้น และลำโพงแบบคู่ที่ให้เสียงทรงพลังมีมิติสมจริงมากกว่าเดิม แต่สิ่งหนึ่งที่อาจยังขัดใจผู้ใช้อยู่บ้างก็คือการตัดช่องต่อหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรออกไปนั่นเองครับ

และขณะนี้ iPhone 7 Plus และ iPhone 7 ก็ได้เริ่มวางจำหน่ายในบ้านเราอย่างเป็นทางการแล้วนะครับ ทั้งบน Apple Online Store, ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ และบรรดาตัวแทนจำหน่ายชื่อดังต่างๆ โดยแบ่งออกเป็น 6 รุ่นย่อย 6 ราคาดังนี้

- iPhone 7 Plus รุ่นความจุ 32GB ราคา 31,500 บาท
- iPhone 7 Plus รุ่นความจุ 128GB ราคา 35,500 บาท
- iPhone 7 Plus รุ่นความจุ 256GB ราคา 39,500 บาท

- iPhone 7 รุ่นความจุ 32GB ราคา 26,500 บาท
- iPhone 7 รุ่นความจุ 128GB ราคา 30,500 บาท
- iPhone 7 รุ่นความจุ 256GB ราคา 34,500 บาท

ซึ่งแน่นอนว่าราคาของไอโฟนก็ยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ ในท้องตลาด เมื่อเทียบกับรุ่นที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน ดังนั้นเพื่อให้ผู้ที่ต้องการจับจองสามารถจ่ายได้ง่ายขึ้น บน Apple Online Store เอง รวมทั้งบรรดาตัวแทนจำหน่ายต่างๆ จึงมีโปรโมชั่นผ่อนชำระ พร้อมแพ็กเกจดีๆ มาช่วยเพิ่มความคุ้มค่าให้อีกต่อหนึ่ง หากท่านใดสนใจก็แวะไปลองสอบถาม หรือลองสัมผัสกับตัวจริงเสียงจริงของ iPhone 7 Plus กันก่อนได้ สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม พบกันได้ใหม่ในโอกาสต่อไป สวัสดีครับ

 

จุดเด่นของ iPhone 7 Plus

- เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ All-Metal Unibody (กรอบตัวเครื่องอะลูมิเนียมถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน : 7000 Series Aluminum)
- ตัวเครื่องมีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่น ที่ระดับ IP67 (ภายใต้มาตรฐาน IEC 60529)
- มีตัวเครื่องสีใหม่ให้เลือก 2 สี ได้แก่สีดำด้าน (Black) และสีดำมัน (Jet Black)
- ปุ่มโฮมใหม่แบบ Forch Touch พร้อมระบบ Taptic Engine
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Touch ID : Fingerprint Sensor) ที่ปุ่มโฮม สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน
- จอแสดงผลแบบ Retina HD Display LED-Backlit (IPS) ความละเอียด 1920x1080 Pixels (กว้าง 5.5 นิ้ว : 401 ppi) พร้อมเทคโนโลยี 3D Touch, ค่าความเปรียบต่าง (Contrast Ratio) 1300:1, เทคโนโลยี Wide Color Display, ค่าความสว่างสูงสุด 625 cd/m2, เทคโนโลยี Dual-Domain Pixels, เทคโนโลยีการเคลือบกระจกแบบ Oleophobic Coating
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต 64-bit Apple A10 Fusion ซึ่งมาพร้อมหน่วยประมวลผล M10 motion coprocessor
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ iOS 10.1.1
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB, 128 GB และ 256 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
- กล้องดิจิทัลแบบ Dual Lens Camera ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 12 ล้าน Pixels ซึ่งประกอบไปด้วยเลนส์ Wide-Angle (f/1.8) และเลนส์ Telephoto (f/2.8) พร้อมโครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์, กระจกแซฟไฟร์สำหรับปกป้องหน้าเลนส์, ซูมภาพด้วยเลนส์ได้ 2 ระดับ (2x Optical Zoom), ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS, ไฟแฟลชในตัว (Quad-LED True Tone), เทคโนโลยี Focus Pixels, ระบบการบันทึกภาพแบบ Wide Color และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K UHD 2160p (3840x2160 Pixels : 30 fps)
- กล้องดิจิทัล FaceTime HD ที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 7 ล้าน Pixels พร้อมขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ f/2.2, ฟังก์ชัน Retina Flash และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 Pixels)
- ลำโพงเสียงแบบ Stereo Speaker ในตัว (ลำโพงที่ด้านบน และด้านล่างของตัวเครื่อง)
- รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Bluetooth, NFC
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ Wi-Fi, 4G LTE Cat9, 3G HSPA+, EDGE และ GPRS
- เทคโนโลยี MIMO (Multi-Input Multi-Output) ที่มาพร้อมตัวรับสัญญาณ WiFi 2 ชิ้นภายในเครื่องเดียว ซึ่งช่วยให้มีประสิทธิภาพในการรับสัญญาณ WiFi ที่ดีขึ้น และมีความเร็วมากกว่าเดิม
- ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) พร้อมฟังก์ชัน A-GPS และรองรับการใช้งานกับระบบดาวเทียมของรัสเซีย (GLONASS)
- แบตเตอรี่ Li-Ion Polymer 2900 mAh

 

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ iPhone 7 Plus

- ไม่มีช่องเชื่อมต่อหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร (แต่แถมฟรีอะแดปเตอร์ Lightning to 3.5 mm มาพร้อมชุดขายมาตรฐาน)
- ตัวเครื่องมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ดังนั้นการพกพา หรือการใช้งานด้วยมือข้างเดียวอาจไม่สะดวกคล่องตัวเท่ากับ iPhone 7
- มีดีไซน์โดยรวมที่ไม่แตกต่างไปจาก iPhone 6s Plus รุ่นเดิมมากนัก
- การถ่ายภาพแบบ Depth Effect (หน้าชัดหลังเบลอ) ด้วยโหมด Portrailt ยังไม่สมบูรณ์เต็ม 100% เช่นการจัดการกับวัตถุที่มีลักษณะโปร่งใส, มุมที่ได้ค่อนข้างแคบ และยังมี Noise ที่ค่อนข้างมากเมื่อถ่ายในที่มืด หรือในที่ ที่มีแสงน้อย (คาดว่าจะมีการปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วยซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่)
- รุ่นที่วางจำหน่ายในไทย (โมเดล A1784) ใช้ชิปโมเด็มของ Intel ซึ่งมีคุณภาพของการรับสัญญาณที่ยังเป็นรองชิปโมเด็มของ Qualcomm อยู่ระดับหนึ่ง (iPhone 7 Plus ที่วางจำหน่ายในบางประเทศใช้ชิปโมเด็มของ Qualcomm)
- ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนเรือธงที่มีคุณสมบัติในระดับที่ใกล้เคียงกัน

 

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

 

สรุปข้อมูล และคุณสมบัติของ iPhone 7 Plus

ท่านสามารถตรวจสอบข้อมูล, ข่าวคราวความเคลื่อนไหวอัปเดตล่าสุด พร้อมคุณสมบัติโดยละเอียดของ iPhone 7 Plus ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้

สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ iPhone 7 Plus
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ iPhone 7

 

 

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::

 

 

 














 รีวิว realme narzo 20 Pro
เกมมิ่งโฟนพลังชาร์จ 65W กับจอลื่น 90Hz และ 4 กล้อง 48MP ในราคาแค่หลักพัน

[รายละเอียด]
 Vivo V20 SE
สมาร์ทโฟนกล้องหน้าชั้นดี มีจอสวย เมมใหญ่ ชาร์จไว ใส่บอดี้บางเฉียบ ในราคาแค่หลักพัน

[รายละเอียด]
 รีวิว OPPO A93
เด่นที่ดีไซน์ ได้กล้อง 6 ตัว พร้อมจอสวย ชิป AI ตัวแรง แบตชาร์จไว เมมจุใจ ในราคาแค่หลักพัน

[รายละเอียด]
 รีวิว Galaxy Note 20 Ultra 5G
เพาเวอร์โฟนที่ทรงพลังที่สุด อัปเกรดครั้งใหญ่ พร้อม S Pen โฉมใหม่ บนบอดี้สวยหรูพรีเมียมที่ไม่กลัวน้ำ

[รายละเอียด]
 รีวิว OnePlus 8T 5G
เรือธงใหม่ใส่จอ 120Hz พร้อมชิป Snapdragon 865 บวกพลังชาร์จ 65W กับ 5 กล้อง และลำโพงคู่

[รายละเอียด]
 รีวิว Vivo V20
สมาร์ทโฟนกล้องหน้า 44MP มีชาร์จไว 33W จัดหนักจอ AMOLED บวก Android 11 รุ่นแรกในไทย ในราคาหมื่นต้นๆ

[รายละเอียด]
รายการรีวิวมือถือทั้งหมด








หลุดคลิปพรีวิว iPhone 12 mini ก่อนวางจำหน่ายจริงในเดือน พ.ย. นี้ พร้อมเปรียบเทียบขนาดกับ iPhone 12 แตกต่างกันแค่ไหน
หลุดคลิปพรีวิว iPhone 12 mini ก่อนวางจำหน่ายจริงในเดือน พ.ย. นี้  
ถึงแม้ว่า iPhone 12 mini จะยังไม่เปิดพรีออเดอร์และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่ล่าสุด ได้มีการเผยคลิปวิดี
ผลทดสอบ Geekbench 5 ยืนยัน iPhone 12 และ iPhone 12 Pro แรงกว่ามือถือ Android เรือธง
ผลทดสอบ Geekbench 5 ยืนยัน iPhone 12 และ iPhone 12 Pro แรงกว่ามือ 
สำหรับ iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ที่ Apple ได้เปิดพรีออเดอร์ในกลุ่มประเทศแรกตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 202
iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ผ่านการอนุมัติจาก กสทช. แล้ว คาดวางจำหน่ายในไทย ปลายเดือนพ.ย.นี้
iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ผ่านการอนุมัติจาก กสทช. แล้ว คาดวางจำ 
สำหรับใครที่รอการวางจำหน่ายของ iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ในไทย ล่าสุด มีข่าวดีมาบอกกัน เมื่อทาง กสทช. ไ
คลิปวิดีโอตัวแรก แกะกล่อง iPhone 12 และ iPhone 12 Pro มาแล้ว! เผยดีไซน์ใหม่ขอบเหลี่ยม และบอดี้สีน้ำเงินสด
คลิปวิดีโอตัวแรก แกะกล่อง iPhone 12 และ iPhone 12 Pro มาแล้ว! เผย 
หลังจากที่ Apple ได้เปิดพรีออเดอร์ iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ในกลุ่มประเทศแรกเมื่อวันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม
iPhone 12 เผยคะแนนทดสอบ AnTuTu ยังเป็นรอง Xiaomi Mi 10 Ultra
iPhone 12 เผยคะแนนทดสอบ AnTuTu ยังเป็นรอง Xiaomi Mi 10 Ultra 
เตรียมเปิดพรีออเดอร์ในวันนี้ (16 ตุลาคม 2020) ในกลุ่มประเทศแรก สำหรับ iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ไอโฟนรุ
10 ฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจบน iPhone 12 มีของใหม่อะไรบ้าง ?
10 ฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจบน iPhone 12 มีของใหม่อะไรบ้าง ? 
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ iPhone 12 ไอโฟนรุ่นใหม่ประจำปี 2020 ที่ในปีนี้เปิดตัวกันถึง 4 รุ่นด้วยก
OPPO เปิดตัวสมาร์ทโฟน Reno4 Z 5G ทุบตลาดด้วยราคา 12,990 บาท พร้อมส่ง Reno4 Pro 5G และ Find X2 Pro 5G รุกตลาดพรีเมียม
OPPO เปิดตัวสมาร์ทโฟน Reno4 Z 5G ทุบตลาดด้วยราคา 12,990 บาท พร้อม 
OPPO เปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G Series รุกตลาด 5G ทุกระดับ ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่พร้อมกันถึง 3 รุ่น ได้
สื่อเกาหลีเผย Samsung Galaxy A72 จะเป็นมือถือกล้องหลัง 5 ตัว (Penta Camera) รุ่นแรกของ Samsung
สื่อเกาหลีเผย Samsung Galaxy A72 จะเป็นมือถือกล้องหลัง 5 ตัว (Pen 
เมื่อ 2 ปีก่อน Samsung ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้แก่วงการสมาร์ทโฟนด้วยการเปิดตัว Samsung Galaxy A9 สมาร์ทโฟ
รวมแอปฯ แต่ง Widget หน้า Home Screen สำหรับ iPhone ที่อัปเดต iOS 14 มีแบบไหนน่าใช้บ้าง
รวมแอปฯ แต่ง Widget หน้า Home Screen สำหรับ iPhone ที่อัปเดต iOS  
หลังจากที่ Apple ได้ปล่อยอัปเดต iOS 14 เวอร์ชันเต็มสำหรับผู้ใช้ทั่วไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟังก์ชันที่ได้
เปิดจอง Samsung Galaxy S20 FE เรือธงรุ่นเล็ก สเปกจัดหนัก จอสวย กล้องแจ่ม ชาร์จไว เคาะราคาเริ่มต้น 20,900 บาท
เปิดจอง Samsung Galaxy S20 FE เรือธงรุ่นเล็ก สเปกจัดหนัก จอสวย กล 
เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (24 ก.ย. 2563) Samsung ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy S20 FE ในประเทศไทยอย่างเป็น
รายการอัพเดททั้งหมด



ราคามือถือ อัพเดทล่าสุด !!


Samsung Galaxy A42 5G 11,990 บาท
iPhone 12 Pro Max 39,900 บาท
iPhone 12 Pro 36,900 บาท
iPhone 12 mini 25,900 บาท
iPhone 12 29,900 บาท
OPPO A12 3,839 บาท
Samsung Galaxy A11 3,879 บาท ราคาลดลง 120 บาท จากราคาเดิม 3,999  บาท
HUAWEI Y6p 3,999 บาท
realme C12 3,999 บาท
Vivo X50 Pro 5G 24,999 บาท
Vivo Y20 5,299 บาท
OnePlus Nord 12GB+256GB 17,990 บาท
OnePlus Nord 8GB+128GB 14,990 บาท
OPPO Reno4 11,990 บาท
Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G 42,900 บาท
Samsung Galaxy Note20 5G 33,900 บาท
Samsung Galaxy Note20 Ultra LTE 38,900 บาท
Samsung Galaxy Note20 LTE 29,900 บาท
OPPO A92 8,999 บาท
รายการ ราคามือถือ ทั้งหมด



อัพเดท ข่าวสารล่าสุด (New update)

เร็วถึงขีดสุดกับสมาร์ทโฟนสายพันธุ์สปีด “Samsung Galaxy A42 5G” ในราคาเพียง 11,990 บาท
เร็วถึงขีดสุดกับสมาร์ทโฟนสายพันธุ์สปีด “Samsung Galaxy A42 5 
เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Galaxy A42 5G (กาแลคซี่ เอ 42 5G) สายพันธุ์สปีด แรงทุกสเปค ที่สุดแห่งความเร็วแรง
5 สุดยอดนวัตกรรมที่ Vivo มอบแก่ผู้บริโภคชาวไทยปีนี้
5 สุดยอดนวัตกรรมที่ Vivo มอบแก่ผู้บริโภคชาวไทยปีนี้ 
ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา Vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลกได้มอบประสบการณ์ล้ำสมัยให้แก่ผู้ใช้งานชาวไทย ด้วยสม
โปรดีที่ห้ามพลาด! OPPO Reno4 สมาร์ทโฟนถ่ายรูปสวยชัดในสไตล์ที่เป็นคุณพิเศษ ราคาใหม่ 10,990 บาท
โปรดีที่ห้ามพลาด! OPPO Reno4 สมาร์ทโฟนถ่ายรูปสวยชัดในสไตล์ที 
OPPO Reno4 ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนแห่งปีสำหรับคนที่ชื่นชอบเทรนด์ใหม่ๆ ด้วยการผสมผสานระหว่างแฟชั่นและเทคโนโลยี
Vivo จัดหนักรับ 11.11 ลดสูงสุดในรอบปี! พบโปรสุดพิเศษที่ Vivo Official Store บน Lazada Shopee และ JD Central
Vivo จัดหนักรับ 11.11 ลดสูงสุดในรอบปี! พบโปรสุดพิเศษที่ Vivo 
สาวก Vivo เตรียมตัวให้พร้อมกับมหกรรมลดราคาออนไลน์แห่งปีที่ทุกคนรอคอยกับแคมเปญ 11.11 ลดสูงสุดในรอบปีกับสมา
เปลี่ยนลุคได้ตามอารมณ์ HUAWEI Watch Fit วางจำหน่ายสายนาฬิกาแล้วทั้ง 4 สี เพียง 349 บาทเท่านั้น!
เปลี่ยนลุคได้ตามอารมณ์ HUAWEI Watch Fit วางจำหน่ายสายนาฬิกาแ 
หลังจากกลายเป็นสมาร์ทวอทช์ยอดฮิตติดข้อมือทั้งสายสุขภาพ แฟชั่นนิสต้า และเหล่าเทรนด์เซ็ตเตอร์ทั้งหลาย HUAWE
รายการอัพเดททั้งหมด


    Catalog มือถือ     market     Review มือถือ      ราคามือถือ     forum
Catalog มือถือ
Catalog มือถือ Nokia
Catalog มือถือ Samsung
Catalog มือถือ SonyEricsson
Catalog มือถือ i-mobile
Catalog มือถือ LG
Catalog มือถือ BlackBerry
ลงประกาศสินค้ามือถือ
สมัครสมาชิก
หน้าแรกตลาดซื้อขายมือถือ
 
หน้าแรกรีวิว
รีวิว มือถือ Nokia
รีวิว มือถือ Samsung
รีวิว มือถือ Motorola
รีวิว มือถือ LG
 

ราคามือถือ Samsung
ราคามือถือ iPhone
ราคามือถือ Huawei
ราคามือถือ OPPO
ราคามือถือ Vivo
   
   
หน้าแรก cafe
Nokia club
ตั้งหัวข้อใหม่
 

© Copyright all rights reserved : ThaiMobileCenter.com