เรียกได้ว่าในปี 2020 นี้มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเด่นจากแบรนด์ดังในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในแบรนด์ที่ผู้ใช้ให้ความสนใจในลำดับต้นๆ ได้แก่ OPPO ที่มีตัวเลือกครบครันทุกระดับ พร้อมความคุ้มค่าในราคา ซึ่งคำถามที่ตามมาคือ แล้วเราควรซื้อรุ่นใดถึงจะคุ้มค่าที่สุด

ในวันนี้ทางทีมงาน Thaimobilecenter จึงขอมาแนะนำมือถือ OPPO รุ่นที่น่าซื้อที่สุดในปี 2020 ให้ได้ชมกัน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับท่านที่สนใจ โดยจะมีรุ่นใดบ้างนั้น ไปชมพร้อมกันเลยค่ะ

 

OPPO A92 : 8,999 บาท

สเปก OPPO A92 | รีวิว OPPO A92

สมาร์ทโฟน A Serirs รุ่นใหม่ มาในดีไซน์ใหม่ในชื่อ 1080P Neo-Display กับจอขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ พร้อมฝังกล้องหน้าบนจอ ผสานกล้องหลัง 4 ตัว (AI Quad Camera) ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล บนตัวเครื่องเงางามลงขอบโค้ง และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง รวมถึงลำโพง Stereo แบบคู่ พร้อมระบบเสียง Hi-Res Audio และ Dirac 2.0 พร้อมตอบโจทย์สายบันเทิงตัวจริง ไม่ว่าจะเล่นเกม หรือดูภาพยนตร์/ซีรีส์เรื่องโปรด ซึ่งรันด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 665 จับคู่กับ RAM ขนาด 8GB ที่ใช้งานได้ลื่นไหล พร้อมเล่นเกมเน้นกราฟิก 3 มิติได้แบบสบายๆ และมีแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W Fast Charging โดยทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย ColorOS 7.1 เวอร์ชันใหม่

 

จุดเด่นที่น่าสนใจของ OPPO A92

• หน้าจอ 1080P Neo-Display ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+
• แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W Fast Charge
• RAM ขนาด 8GB พร้อม ROM ขนาด 128GB
• กล้องหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล

 

จุดที่ควรพิจารณาเพิ่มเติมของ OPPO A92

• เทคโนโลยีการแสดงผลของหน้าจอยังคงเป็นแบบ TFT LCD
• ตัวเครื่องไม่มีคุณสมบัติของการป้องกันน้ำ หรือป้องกันฝุ่น

 

OPPO A92 เหมาะกับใคร?

• ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนแบตเตอรี่เยอะ สามารถใช้งานได้นาน พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วเพื่อย่นระยะเวลาการชาร์จ
• ผู้ที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนหน้าจอขนาดใหญ่ แสดงผลได้เต็มตา ในดีไซน์ใหม่ประจำปี 2020
• ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสำหรับเน้นการถ่ายภาพด้วยกล้องหลัง 

 

สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ OPPO A92

- หน้าจอแสดงผล Neo-Display ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2400 พิกเซล) ในอัตราส่วน 20:9 โดยมีพื้นที่การแสดงผลคิดเป็น 90.5% 
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 665
- เทคโนโลยี Hyper Boost
- หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4X ขนาด 8GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) มาตรฐาน UFS 2.1 ขนาด 128GB 
- กล้องดิจิทัลด้านหลัง 4 ตัว (AI Quad Camera) ประกอบด้วย

• กล้องตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล มีรูรับแสงขนาด F/1.7
• กล้องตัวที่สองแบบ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เก็บภาพมุมกว้างสุดที่ 119 องศา
• กล้องตัวที่สามแบบ Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
• กล้องตัวที่สี่แบบ Monochrome ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล

รองรับโหมดถ่ายภาพความละเอียดสูง Ultra HD 48MP, โหมดถ่ายภาพกลางคืนแบบ Ultra Night Mode 2.0, โหมดหน้าชัดหลังเบลอ (Portrait), โหมดหน้าสวย (Beauty), ฟังก์ชัน AI Scene Recognition ในการตรวจจับซีนในแต่ละภาพ เพื่อนำไปปรับแต่งให้เหมาะสม และรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K UHD พร้อมโหมดป้องกันการสั่นไหวแบบ Ultra Steady Video รวมถึงการถ่ายวิดีโอในมุมกว้างพิเศษ (Video Ultra Wide Angle) 

- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W Fast Charging
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย ColorOS 7.1
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง (Side-Mounted Figerprint)
- ระบบสแกนใบหน้า (Facial Unlock)
- ลำโพง Stereo แบบคู่ พร้อมระบบเสียง Hi-Res Audio และ Dirac 2.0
- พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C

 

OPPO Reno3 Pro : 13,990 บาท

สเปก OPPO Reno3 Pro | รีวิว OPPO Reno3 Pro

สมาร์ทโฟนตระกูล Reno ที่มาพร้อมจอไร้ขอบขนาด 6.4 นิ้ว พร้อมกล้องหน้าคู่ฝังบนจอแบบ Dual Punch-Hole Display กับความละเอียด 44 ล้านพิกเซล และรองรับ Ultra Night Selfie Mode สำหรับการถ่ายเซลฟี่ในเวลากลางคืนเป็นรุ่นแรกของโลก รวมถึงมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (Hidden Fingerprint Unlock 3.0) บนตัวเครื่องเงางามที่มีการติดตั้งระบบกล้องหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ที่รองรับโหมดการถ่ายภาพความละเอียดสูงแบบ Ultra Clear 108MP และ Ultra Night Mode สำหรับการถ่ายภาพในเวลากลางคืน ซึ่งรันด้วยชิปเซ็ตรุ่นใหม่อย่าง MediaTek Helio P95 จัมีแบตเตอรี่ความจุ 4025 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W VOOC Flash Charge 4.0 ซึ่งทั้งหมดนี้ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย ColorOS 7

 

จุดเด่นของ OPPO Reno3 Pro

• หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+
• แบตเตอรี่ความจุ 4025 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W VOOC Flash Charge 4.0
• RAM ขนาด 8GB พร้อม ROM ขนาด 128GB
• กล้องหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ Telephoto ซูมไกลสุด 20 เท่า
  

 

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ OPPO Reno3 Pro

• กล้องหลังยังไม่รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K ที่ระดับ 60fps
• ตัวเครื่องไม่มีคุณสมบัติของการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่น

 

OPPO Reno3 Pro เหมาะกับใคร?

• ผู้ที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนหน้าจอขนาดใหญ่ แสดงผลได้เต็มตา ในดีไซน์ใหม่ประจำปี 2020 
• ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนแบตเตอรี่เยอะ สามารถใช้งานได้นาน พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วเพื่อย่นระยะเวลาการชาร์จ
• ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสำหรับเน้นการถ่ายภาพด้วยกล้องหลัง 
• ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสเปกครบครัน พร้อมตอบโจทย์ทุกด้านในราคาสมเหตุสมผล

 

สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ OPPO Reno3 Pro

- ตัวเครื่องมีขนาด 158.8x73.4x8.1 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 175 กรัม
- หน้าจอแสดงผล Super AMOLED Dual Punch-Hole Display ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2400 พิกเซล) ในอัตราส่วน 20:9 มีพื้นที่การแสดงผลคิดเป็น 91.5% รองรับเทคโนโลยี OSIE Ultra Clear Visual Effect
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core MediaTek Helio P95
- เทคโนโลยี HyperBoost
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) IMG PowerVR GM 9446
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 256GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ประกอบด้วย

กล้องตัวหลัก Ultra Clear ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.72 นิ้ว เทคโนโลยี Super PD และมีรูรับแสงขนาด F/1.8
กล้องตัวที่สองแบบ Telephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มีรูรับแสงขนาด F/2.4 รองรับการซูมภาพแบบ 5x Hybrid Zoom และ 20x Digital Zoom
กล้องตัวที่สามแบบ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพมุมกว้างสุด 120 องศา
กล้องตัวที่สี่แบบ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพระยะใกล้สุดที่ 3 เซนติเมตร
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าคู่ฝังบนจอ (Dual Camera) ประกอบด้วย

กล้องตัวหลักความละเอียด 44 ล้านพิกเซล มีรูรับแสงขนาด F/2.4
กล้องตัวรองแบบ Depth of Field ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มีรูรับแสงขนาด F/2.4
- แบตเอตรี่ความจุ 4025 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W VOOC Flash Charge 4.0
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย ColorOS 7
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (Hidden Fingerprint Unlock 3.0)
- ระบบสแกนใบหน้า (Face Unlock)
- ระบบเสียง Dolby Atmos
- พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C

 

OPPO Reno4 : 11,990 บาท

สเปก OPPO Reno4 | รีวิว OPPO Reno4

หน้าจอแสดงผล AMOLED Dual Punch-Hole Display ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ ที่มีการที่มีการฝังกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล กับ AI-Enhanced Smart Sensor เอาไว้ด้านบน รวมถึงเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอที่ด้านล่าง (Hidden Fingerprint Unlock 3.0) ส่วนฝาหลังติดตั้งกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว (Quad Camera) คมชัด 48 ล้านพิกเซล ซึ่งรันด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 720G จับคู่กับ RAM 8GB และมีแบตเตอรี่ความจุ 4015 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W VOOC Flash Charge 4.0

 

จุดเด่นของ OPPO Reno4

• หน้าจอ AMOLED Dual Punch-Hole Display ขนาด 6.4 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+
• เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (Hidden Fingerprint Unlock 3.0)
• แบตเตอรี่ความจุ 4015 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W VOOC Flash Charge 4.0
• กล้องหลัง 4 ตัว (AI Quad Camera) ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล

 

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ OPPO Reno4

• ฝาหลังมีความมันเงาสูง จึงทำให้เกิดคราบเปื้อนได้ง่าย
• ไม่สามารถปรับกราฟิกในระดับสูงสุดได้ในบางเกม แต่สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล

 

OPPO Reno4 เหมาะกับใคร?

• ผู้ที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนหน้าจอขนาดใหญ่ แสดงผลได้เต็มตา ในดีไซน์ใหม่ประจำปี 2020 
• ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนแบตเตอรี่เยอะ สามารถใช้งานได้นาน พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วเพื่อย่นระยะเวลาการชาร์จ
• ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสำหรับเน้นการถ่ายภาพด้วยกล้องหน้า และกล้องหลัง 
• ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสเปกครบครัน พร้อมตอบโจทย์ทุกด้านในราคาสมเหตุสมผล

 

สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้น

- ตัวเครื่องมีขนาด 160.3x73.9x7.7 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 165 กรัม
- หน้าจอแสดงผล AMOLED Dual Punch-Hole Display ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2400 พิกเซล : 409 ppi) อัตราส่วน 20:9 มีพื้นที่การแสดงผลคิดเป็น 90.7% ซึ่งครอบทับหน้าจอด้วยกระจก Gorilla Glass 
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 720G
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 618
- หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4X ขนาด 8GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) มาตรฐาน UFS 2.1 ขนาด 128GB พร้อมรองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุดที่ขนาด 256GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลัง 4 ตัว (AI Quad Camera) ประกอบด้วย

• กล้องตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586 เทคโนโลยี 4-in1 Pixel มีรูรับแสงขนาด F/1.7
• กล้องตัวที่สองแบบ Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีรูรับแสงขนาด F/2.2
• กล้องตัวที่สามแบบ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มีรูรับแสงขนาด F/2.4
• กล้องตัวที่สี่แบบ Mono ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มีรูรับแสงขนาด F/2.4

- กล้องดิจิทัลด้านหน้าฝังบนจอแบบ In-Display Selfie ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล มีรูรับแสงขนาด F/2.4 และเซ็นเซอร์อัจฉริยะ AI-Enhanced Smart Sensor สำหรับใช้กับระบบควบคุมการทำงานอัจฉริยะ
- แบตเตอรี่ความจุ 4015 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W VOOC Flash Charge 4.0 สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 50% ได้ในเวลา 20 นาที หรือเต็ม 100% ได้ในเวลา 57 นาที
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย ColorOS 7.2
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (Hidden Fingerprint Unlock 3.0)
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac และ Bluetooth 5.1
- พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C

 

OPPO A53 : 5,499 บาท

น้องใหม่จากตระกูล A-Series ชูโรงที่หน้าจอ 90Hz Neo ขนาด 6.5 นิ้ว มีค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz ที่ช่วยให้การใช้งาน และการเล่นเกมลื่นไหลกว่าเดิม บนการดีไซน์ระดับพรีเมียมด้วยฝาหลังเงางามลงโค้งแบบ 3D ที่มีการติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว (Triple Camera) พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W Fast Charging ซึ่งใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 460 รุ่นใหม่ จับคู่กับ RAM 4GB + ROM 64GB และมีลำโพง Stereo แบบคู่ พร้อมระบบเสียงแบบ Dirac 2.0 ที่ช่วยเพิ่มอรรถรสความสมจริงของเสียงมากยิ่งขึ้น

 

จุดเด่นของ OPPO A53

• หน้าจอ 90Hz Neo ขนาด 6.5 นิ้ว มีค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz
• กล้องหลัง 3 ตัว (AI Triple Camera)
• แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W Fast Charging
• ลำโพง Stereo แบบคู่ พร้อมระบบเสียง Dirac 2.0

 

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ OPPO A53

• เทคโนโลยีการแสดงผลของหน้าจอยังคงเป็นแบบ LCD
• ตัวเครื่องไม่มีคุณสมบัติของการป้องกันน้ำ หรือป้องกันฝุ่น

 

OPPO A53 เหมาะกับใคร?

• ผู้ที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนหน้าจอขนาดใหญ่ แสดงผลได้เต็มตา ในดีไซน์ใหม่ประจำปี 2020 พร้อมมีค่า Refresh Rate มากกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นทั่วไปในท้องตลาด
• ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสำหรับเน้นการถ่ายภาพด้วยกล้องหลัง 
• ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนแบตเตอรี่เยอะ สามารถใช้งานได้นาน พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วเพื่อย่นระยะเวลาการชาร์จ
• ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสเปกครบครัน พร้อมตอบโจทย์ทุกด้านในราคาสมเหตุสมผล

 

สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ OPPO A53

 - ตัวเครื่องมีขนาด 163.9x75.1x8.4 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 186 กรัม
- หน้าจอแสดงผล 90Hz Neo Display ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ (720x1600 พิกเซล : 269 ppi) ในอัตราส่วน 20:9 โดยมีพื้นที่การแสดงผลคิดเป็น 89.2% และมีค่า Refresh Rate ระดับสูงสุด 90Hz
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 460
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 610
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุดที่ 256GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลัง 3 ตัว (AI Triple Camera) ประกอบด้วย

• กล้องตัวที่หนึ่งแบบ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ GC02K0 มีรูรับแสงขนาด F/2.4 รองรับการถ่ายภาพระยะใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร
• กล้องตัวที่สอง (Main) แบบ Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ OV13B มีรูรับแสงขนาด F/2.2 
• กล้องตัวที่สามแบบ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ GC02M1B มีรูรับแสงขนาด F/2.4

- กล้องดิจิทัลด้านหน้า AI ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มีรูรับแสงขนาด F/2.0 พร้อม AI Beautification
- แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W Fast Charging
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย ColorOS 7.2
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง (Fingerprint Scanner)
- ระบบสแกนใบหน้า (Facial Unlock)
- ลำโพง Stereo แบบคู่ พร้อมระบบเสียง Dirac 2.0
- พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C

 

OPPO A31 (6GB+128GB) : 6,999 บาท

โดดเด่นที่ดีไซน์จอไร้ขอบทรงหยดน้ำขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว บนตัวเครื่องไล่เฉดสีใหม่ที่มีความสวยงามพรีเมียมเทียบชั้นรุ่นใหญ่ พร้อมกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว (Triple Camera) และมีแบตเตอรี่ความจุ 4230 mAh รวมถึงชิปเซ็ต MediaTek Helio P35 จับคู่กับ RAM ขนาด 4GB + ROM ขนาด 128GB อีกทั้งยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ พร้อมระบบสแกนหน้าให้ได้ใช้งานกันแบบครบครัน ตอบโจทย์การใช้งานในระดับกลางได้เป็นอย่างดี

 

จุดเด่นของ OPPO A31

• หน้าจอแสดงผล Waterdrop Screen ขนาด 6.5 นิ้ว
• แบตเตอรี่ความจุ 4230 mAh
• RAM 6GB + ROM 128GB พร้อมรองรับ microSD Card สูงสุดที่ 256GB
• กล้องดิจิทัลด้านหลัง 3 ตัว (Triple Camera)

 

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ OPPO A31

• พอร์ตการเชื่อมต่อยังไม่เป็น USB Type-C มาตรฐานใหม่
• ไม่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว

 

OPPO A31 เหมาะกับใคร?

• ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนแบตเตอรี่เยอะ สามารถใช้งานได้นาน
• ผู้ที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนหน้าจอขนาดใหญ่ แสดงผลได้เต็มตา
• ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนตอบโจทย์การใช้งานในระดับกลางๆ และมีราคาสบายกระเป๋า

 

สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ OPPO A31

- ตัวเครื่องมีขนาด 163.9x75.5x8.3 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 180 กรัม
- หน้าจอแสดงผล IPS LCD Waterdrop Screen ขนาด 6.5 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 ความละเอียดระดับ HD+ (720x1600 พิกเซล) คิดเป็นสัดส่วนพื้นที่การแสดงผลที่ 89% ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 3
- ชิปเซ็ตประมวลผลแบบ Octa-Core MediaTek (MT6765V) Helio P35
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) PowerVR GE8320
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB พร้อมรองรับ microSD Card สูงสุดที่ 256GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลัง 3 ตัว (Triple Camera) แบ่งออกเป็น

• กล้องตัวหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/1.8 รองรับ PDAF
• กล้องตัวที่สามเลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล  รูรับแสงขนาด F/2.4
• กล้องตัวที่สี่เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล  รูรับแสงขนาด F/2.4

- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.0 รองรับ AI Beautification
- แบตเตอรี่ความจุ 4230 mAh 
- ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6.1
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วที่ด้านหลังตัวเครื่อง (Fingerprint Scanner)
- ระบบสแกนใบหน้า (Face Unlock)
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac และ Bluetooth 5.0
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ microUSB 
- รุ่น 4GB+128GB ราคา 5,499 บาท
- รุ่น 6GB+128GB ราคา 6,999 บาท

 

OPPO A12 : 3,999 บาท

สมาร์ทโฟนรุ่นเล็กที่มีแบตเตอรี่ความจุ 4230 mAh สามารถเล่นวิดีโอได้นาน 17 ชั่วโมง พร้อมชิปเซ็ต MediaTek Helio P35 ที่มีความเร็ว 2.3GHz จับคู่ RAM 3GB + 32GB ที่สามารถเพิ่ม microSD ได้ 256GB รวมถึงมีกล้องแบบคู่ (Dual Camera) ความละเอียด 13 + 2 ล้านพิกเซล สำหรับตอบโจทย์การใช้งานระดับเริ่มต้น พร้อมการดีไซน์หน้าจอหยดน้ำ และตัวเครื่องดีไซน์แบบเพชรในชื่อ Diamond Blaze 3D ที่มีความพรีเมียมเทียบชั้นรุ่นใหญ่ 

 

จุดเด่นของ OPPO A12

• หน้าจอแสดงผล Waterdrop Screen ขนาด 6.22 นิ้ว
• แบตเตอรี่ความจุ 4230 mAh 
• กล้องหลังคู่ (Dual Camera) ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
• เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วที่ด้านหลังตัวเครื่อง (Fingerprint Scanner)

 

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ OPPO A12

• พอร์ตการเชื่อมต่อยังไม่เป็น USB Type-C มาตรฐานใหม่
• RAM ขนาด 3GB ที่อาจจะน้อยไปสำหรับสมาร์ทโฟนปี 2020

 

OPPO A12 เหมาะกับใคร?

• ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนแบตเตอรี่เยอะ สามารถใช้งานได้นาน
• ผู้ที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนหน้าจอขนาดใหญ่ แสดงผลได้เต็มตา
• ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนตอบโจทย์การใช้งานในระดับกลางๆ และมีราคาสบายกระเป๋า

 

สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ OPPO A12

- ตัวเครื่องมีขนาด 155.9x75.5x8.3 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 165 กรัม
- หน้าจอแสดงผล IPS LCD Waterdrop Screen ขนาด 6.22 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 ความละเอียดระดับ HD+ (720x1520 พิกเซล) 
- ชิปเซ็ตประมวลผลแบบ Octa-Core MediaTek (MT6765V) Helio P35
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) PowerVR GE8320
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 32GB พร้อมรองรับ microSD Card สูงสุดที่ 256GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual Camera) ความละเอียด 13 + 2 ล้านพิกเซล 
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ความจุ 4230 mAh 
- ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6.1.2
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วที่ด้านหลังตัวเครื่อง (Fingerprint Scanner)
- ระบบสแกนใบหน้า (Face Unlock)
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac และ Bluetooth 5.0
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ microUSB 

 

OPPO Find X2 5G : 33,990 บาท

สเปก | รีวิว

เรือธงรุ่นล่าสุดของทาง OPPO ที่มากับคุณสมบัติการรองรับเครือข่าย 5G และ Wi-Fi 6 ด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 865 จับคู่กับ RAM จุใจ 12GB ใช้งานได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด พร้อม ROM ขนาด 256GB มีแบตเตอรี่ความจุ 4200 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W Super VOOC Flash Charge 2.0 และชูโรงที่หน้าจอแสดงผล Ultra Vision Screen ขนาด 6.7 นิ้ว คมชัดระดับ 3K QHD+ (1440x3168 พิกเซล) มี Refresh Rate ระดับ 120Hz ซึ่งช่วยให้การแสดงผลลื่นไหลมากขึ้นกว่าเดิม เหมาะสำหรับเกมเมอร์ตัวจริง รวมถึงรองรับมาตรฐานการแสดงผลสีแบบ True Billion Colour Display (10-bit) และยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี 01 Ultra Vision Engine เป็นรุ่นแรกในวงการ บนการดีไซน์ไร้ขอบพร้อมความโค้งทั้งสองด้าน ที่มีการเจาะรูกล้องหน้าแบบ Punch-Hole Display พร้อมฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้หน้าจอ (Hidden Fingerprint) 

ส่วนที่ด้านหลังมีกล้อง 3 ตัว (Triple Camera) ที่มาพร้อมลูกเล่น และฟังก์ชันครบ ประกอบไปด้วย กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และเลนส์ Telephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่รองรับระบบกันสั่นแบบ OIS, ซูมสูงสุด 20 เท่า, เทคโนโลยี Ultra Night Mode 3.0, เทคโนโลยี Multi-Frame Noise Reduction, Portriat Mode, ระบบ Ultra Steady Video Pro และการบันทึกเสียงแบบ 360 องศาด้วย 3-Mic Recording เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนระดับท็อปที่มีฟีเจอร์ไฮเอนด์แบบจัดเต็ม ตอบโจทย์การทำงานได้ทุกด้าน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าตัวที่สมน้ำสมเนื้อด้วยเช่นกัน

 

จุดเด่นของ OPPO Find X2 5G

• หน้าจอแสดงผล OLED Ultra Vision Screen ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ 3K QHD+  มีค่า Refresh Rate สูงสุดระดับ 120Hz รองรับเทคโนโลยี 01 Ultra Vision Engine เป็นรุ่นแรกในวงการ พร้อมมาตรฐานการแสดงผลสี True Billion Colour Display (10-bit) 
• ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 865 จับคู่ RAM ขนาด 12GB + ROM ขนาด 256GB
• รองรับเครือข่าย 5G และ Wi-Fi 6 
• แบตเตอรี่ความจุ 4200 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W Super VOOC Flash Charge 2.0
• กล้องหลัง 3 ตัว (Triple Camera) พร้อมกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล

 

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ OPPO Find X2 5G

• ไม่รองรับการใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD หรือแบบอื่นๆ เพิ่มเติม 
• ไม่รองรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย

 

OPPO Find X2 5G เหมาะกับใคร?

• ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ ทั้งการดีไซน์ และสเปก
• ผู้ที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนหน้าจอขนาดใหญ่ แสดงผลได้เต็มตา ในดีไซน์ใหม่ประจำปี 2020 พร้อมมีค่า Refresh Rate มากกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นทั่วไปในท้องตลาด
• ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสำหรับเน้นการถ่ายภาพด้วยกล้องหลัง 
• ผู้ที่มีงบประมาณในการเลือกซื้อไม่จำกัด

 

สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ OPPO Find X2 5G

- ตัวเครื่องมีขนาด 164.9x74.5x8.0 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 196 กรัม
- หน้าจอแสดงผล OLED Ultra Vision Screen ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ 3K QHD+ (1440x3168 พิกเซล : 513 ppi) มีค่า Refresh Rate สูงสุดระดับ 120Hz พร้อมค่า Touch Sampling Rate ระดับ 240Hz รองรับเทคโนโลยี 01 Ultra Vision Engine เป็นรุ่นแรกในวงการ พร้อมมาตรฐานการแสดงผลสี True Billion Colour Display (10-bit) มีค่า Contrast ที่ 5000000: 1 และครอบทับด้วยกระจกขอบโค้ง Gorilla Glass 6
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 865
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 650
- หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4X ขนาด 12GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) มาตรฐาน UFS 3.0 ขนาด 256GB (ไม่รองรับการฺดความจำภายนอก)
- กล้องดิจิทัลด้านหลัง 3 ตัว (Triple Camera) ประกอบด้วย

• กล้องตัวแรกแบบ Telephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.4 รองรับการซูมแบบ 5x Hybrid Zoom และ 20x Digital Zoom
• กล้องตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX586 ขนาด 1/2.0 นิ้ว รูรับแสงขนาด F/2.0 รองรับ OIS
• กล้องตัวที่สามแบบ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX708 รูรับแสงขนาด F/2.2 ถ่ายภาพมุมกว้างสุด 120 องศา และถ่ายภาพแบบ Macro ระยะใกล้สุดที่ 3 เซนติเมตร

- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.4 
- แบตเตอรี่แบบ Dual-Cell ความจุ 4200 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W Super VOOC Flash Charge 2.0
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย ColorOS 7.1
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (Hidden Fingerprint)
- รองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual nanoSIM)
- รองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G Dual Mode
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 (2.4G + 5.1G + 5.8G), Bluetooth 5.1 และ NFC
- รองรับพอร์ต USB Type-C
- มีตัวเลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ (Black) และสีน้ำเงิน (Ocean)

 

อย่างไรก็ดี ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงแนวทางในการประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อมือถือ OPPO ในปี 2020 แบบเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งทางทีมงานไม่สามารถฟันธงได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใดดี และคุ้มค่ามากที่สุด เนื่องจากผู้ใช้แต่ละท่านมีไลฟ์สไตล์ ความชอบ และความต้องการใช้งานในด้านที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้ทางทีมงานจึงขอแนะนำให้ทุกท่านไปทำการทดลองใช้งานตัวเครื่องในเบื้องต้น หรือหาข้อมูลในด้านอื่นๆ เพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อจริง หากทดลองเล่นรุ่นใดแล้วถูกใจ ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป และมีราคาวางจำหน่ายที่เข้ากับงบประมาณที่ตั้งไว้ ก็ถือว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นน่าซื้อเป็นเจ้าของแล้วค่ะ สำหรับวันนี้ทางทีมงานต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ

 

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

วันที่ : 5/10/2563