ในช่วงปีที่ผ่านมานี้สมาร์ทโฟนระดับกลางพัฒนาไปเร็วมากตามการแข่งขันระหว่างแบรนด์ที่ดุเดือด โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านการถ่ายรูปที่มาไกลจนสมาร์ทโฟนราคาหลักพัน ถึงหมื่นต้นๆ หลายรุ่น ถ่ายรูปได้สวยไม่แพ้สมาร์ทโฟนเรือธงราคาแพงกันเลยทีเดียว หลายคนจึงเริ่มมองหาสมาร์ทโฟนราคาย่อมเยาที่สามารถเป็นกล้องถ่ายรูปตัวเก่งให้เราได้ แต่ด้วยตัวเลือกที่เยอะอาจจะทำให้หลายคนเลือกรุ่นที่โดนใจลำบาก ในโอกาสนี้ทีมงาน Thaimobilecenter จึงได้คัดเลือกสมาร์ทโฟนที่ถ่ายรูปได้สวยโดดเด่น และมีฟีเจอร์ช่วยถ่ายรูปที่น่าสนใจในราคาไม่เกิน 15,000 บาทมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ จะมีรุ่นใดบ้างเราไปดูกันเลยครับ

สำหรับเกณฑ์ที่ใช้ในการคัดเลือก จะยึดจากคุณสมบัติหลักๆ ดังนี้ :

1. ราคาเครื่องเปล่าไม่เกิน 15,000 บาท
2. กล้องตัวหลักมีความละเอียด 48 ล้านพิกเซลขึ้นไป
3. มีเทคโนโลยี AI ช่วยในการถ่ายภาพ ทั้งในระหว่างถ่าย และในการประมวลผลภาพขั้นสุดท้าย
4. มีผลลัพธ์สุดท้ายของภาพที่สวยงาม โดดเด่นกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปในระดับราคาใกล้เคียงกัน

 

realme XT (10,990 บาท)

realme XT เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางอีกรุ่นหนึ่งที่กระแสดีมากๆ ด้วยคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ครบครัน ด้วยดีไซน์ที่ดูพรีเมียม และสเปกที่สมบุกสมบัน ที่สำคัญยังมาเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มากับกล้องความละเอียด 64 ล้านพิกเซล สูงที่สุดในวงการ ณ ขณะนี้  พร้อมด้วยกล้องเสริมอย่างกล้องเลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, กล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้อง Depth Camera ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล จึงถ่ายได้ทุกมุมมองไม่ว่าจะเป็นมุมกว้าง, มาโคร หรือหน้าชัดหลังเบลอ พร้อมด้วยฟีเจอร์ AI Beauty ที่ปรับแต่งความสวยของตัวแบบได้อย่างละเอียดยิบ, ระบบ AI วิเคราะห์ภาพถ่าย และโหมดกลางคืน Super Nightscape ที่น่าประทับใจ ในราคาเพียง 10,999 บาทเท่านั้นครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง realme XT

จุดเด่น

• ถ่ายได้ครบทั้งมุมกว้าง, มาโคร และหน้าชัดหลังเบลอ
• สามารถเพิ่มความสดใสให้กับสีสันในภาพได้ด้วยฟีเจอร์สีตื่นตา
• ถ่ายรูปเต็มความละเอียด 64 ล้านพิกเซลได้
• ฟีเจอร์ AI Beuaty ปรับแต่งได้ละเอียด ตั้งแต่โทนสีผิว ไปจนถึงรูปหน้า
• โหมดกลางคืน Super Nightscape ให้ผลลัพธ์ที่สวยงามน่าประทับใจ

จุดที่ต้องพิจารณา

• ภาพที่ถ่ายด้วยมุมมองกว้างยังมีความเบี้ยวให้เห็นอยู่บริเวณขอบ
• โหมดกลางคืน Super Nightscape มีค่า White Balance เพี้ยนบ้างในบางสถานการณ์

>> ดูสเปก realme XT

>> อ่านรีวิว realme XT

 

Redmi Note 8 Pro (เริ่มต้น 7,999 บาท)

Redmi Note 8 Pro เป็นสมาร์ทโฟนกล้อง 64 ล้านพิกเซลอีกรุ่นหนึ่งที่เปิดตัวออกมาในเวลาไล่เลี่ยกับ realme XT แถมยังมีสเปกของกล้องหลังที่คล้ายกันมาก ต่างกันที่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ บางอย่าง และซอฟต์แวร์เท่านั้น โดยเป็นกล้อง 4 ตัวความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล  พร้อมด้วยกล้องเลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, กล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้อง Depth Camera ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล แต่สไตล์ของภาพจะแตกต่างกับ realme XT สำหรับลูกเล่นต่างๆ ก็มีครบ ไม่ว่าจะเป็นโหมดกลางคืน (Night mode), โหมด Super Macro ที่ถ่ายได้ใกล้สุดเพียง 2 ซม., ฟิลเตอร์เปลี่ยนท้องฟ้าให้สดใส และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งนับโดดเด่น และคุ้มค่ากับค่าตัวหลักพันครับ

Redmi Note 8 Pro มีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่นความจุ ได้แก่ :

• รุ่น 6+64GB ราคา 7,999 บาท
• รุ่น 6+128GB ราคา 8,999 บาท

ตัวอย่างรูปถ่ายจากกล้อง Redmi Note 8 Pro

จุดเด่น

• ถ่ายได้ครบทั้งมุมกว้าง, มาโคร และหน้าชัดหลังเบลอ
• ถ่ายรูปเต็มความละเอียด 64 ล้านพิกเซลได้
• โหมด Super Macro ถ่ายได้ใกล้สุด 2 ซม. ใกล้กว่าสมาร์ทโฟนทุกรุ่นในบทความนี้
• มีลูกเล่นสำหรับเปลี่ยนท้องฟ้าได้หลายแบบ และทำได้ค่อนข้างสมจริง

จุดที่ต้องพิจารณา

• โหมดกลางคืนจำเป็นต้องถ่ายภายใต้สภาวะแสงที่เหมาะสม จึงจะแสดงผลลัพธ์ได้ดี
• เอฟเฟกต์แสงสตูดิโอยังมีการประมวลผลภาพไม่ดีเท่าที่ควร

>> อ่านรีวิว Redmi Note 8 Pro

>> เปรียบเทียบ realme XT vs Redmi Note 8 Pro

 

Vivo V17 Pro (12,999 บาท)

จุดเด่นที่สำคัญของ Vivo V17 Pro คือกล้องคู่แบบ Pop-Up ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 32 ล้านพิกเซล และกล้องรองเลนส์ Super-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ทำให้กล้องหน้าของ Vivo V17 Pro ถ่ายเซลฟี่มุมกว้างได้ แถมยังมีไฟแฟลช Moonlight Glow ติดมาให้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่มีกล้องหน้าครบเครื่องจัดเต็มที่สุดในบทความนี้เลย

นอกจากกล้องหน้าแล้ว กล้องหลังก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยมากับกล้อง 4 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยกล้องเลนส์ Super Wide-Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, กล้องเลนส์ Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้อง Depth Sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล จึงรองรับการถ่ายภาพได้ครบทุกมุมมอง และแน่นอนว่ามีครบทั้งโหมดกลางคืน และโหมดมาโคร ที่สำคัญ เอฟเฟกต์บิวตี้ ยังปรับแต่งได้อย่างละเอียดยิบ ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้า, โครงหน้า ไปจนถึงรูปร่างของตัวแบบ เป็นสมาร์ทโฟนราคาหมื่นต้นๆ ที่เก่งทั้งกล้องหน้า และกล้องหลังครับ

ตัวอย่างรูปถ่ายจากกล้อง Vivo V17 Pro

จุดเด่น

• ถ่ายเซลฟีมุมกว้างได้ด้วยกล้องหน้า 2 ตัว
• บิวตี้ปรับแต่งได้ละเอียด ตั้งแต่สีผิว โครงหน้า ไปจนถึงรูปร่าง
• ถ่ายภาพ Portrait แบบมุมกว้างได้
• มีระบบแนะนำการจัดวางองค์ประกอบภาพ และไกด์ในการโพสท่า
• โหมดกลางคืนใช้ได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง

จุดที่ต้องพิจารณา

• โหมดกลางคืนไม่ค่อยน่าประทับใจนักเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น
• การตัดเสียงรบกวนขณะถ่ายวิดีโอยังไม่ดีเท่าที่ควร

>> ดูสเปก Vivo V17 Pro

>> อ่านรีวิว Vivo V17 Pro

 

OPPO Reno 2F (11,990 บาท)

OPPO เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่ขึ้นชื่อด้านการถ่ายภาพมานาน และ OPPO Reno 2F ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยงบ 11,900 บาท ได้กล้องหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล ที่มีเลนส์การถ่ายภาพครอบคลุมทุกระยะ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพมุมกว้าง (Ultra Wide)  หรือการถ่ายภาพระยะใกล้ (Macro) ไปจนถึงการถ่ายภาพกลางคืนด้วย Ultra Night Mode 2.0 ส่วนกล้องหน้านั้นเป็นกล้อง Rising Camera ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่ถ่ายเซลฟี่ได้สวยงามโดดเด่น และที่ขาดไม่ได้คือฟีเจอร์ AI Beauty ที่ปรับแต่งได้เยอะ และสวยงามโดนใจสาวๆ ครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง OPPO Reno 2F

 

จุดเด่น

• ฟีเจอร์ AI Beauty ปรับแต่งได้ละเอียด และมีสกินโทนที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบ
• ถ่ายวิดีโอในมุมมอง Ultra Wide ได้
• ตัดขอบโหมด portrait ได้แนบเนียน
• ภาพถ่ายในมุมมอง Ultra Wide มีความบิดเบี้ยวบริเวณขอบภาพน้อยมาก

จุดที่ต้องพิจารณา

• กล้องหลังถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียด Full HD 1080p
• สไตล์ของ AI Beuaty อาจไม่โดนใจผู้ใช้บางกลุ่ม

>> อ่านรีวิว OPPO Reno 2F

Samsung Galaxy A50s (8,990 บาท)

Samsung Galaxy A50s มีกล้องที่โดดเด่นทั้งการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ โดยกล้องหลังเป็นชุดกล้อง 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ประกบด้วยกล้องเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และกล้อง Depth Camera ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มีจุดเด่นอยู่ที่เลนส์ Ultra Wide ที่มุมมองกว้างกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น (123 องศา) และมีการบิดเบี้ยวบริเวณขอบที่น้อยมาก อีกทั้งยังมีฟีเจอร์กันสั่น Super Steady สำหรับถ่ายวิดีโออีกด้วย ขณะเดียวกัน กล้องหน้าก็มีความละเอียดสูงถึง 32 ล้านพิกเซล และยังถ่ายวิดีโอ 4K ได้ จึงเหมาะมากสำหรับสาย Vlog ที่ชื่นชอบการไลฟ์เป็นชีวิตจิตใจครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Samsung Galaxy A50s

จุดเด่น

• กล้องหน้าความละเอียดสูงมาก และถ่ายวิดีโอ 4K ได้ เหมาะสำหรับคนชอบถ่ายวิดีโอ vlog
• กันสั่น Super Steady สำหรับวิดีโอ แบบเดียวกับ Note 10
• เลนส์ Ultra Wide มีมุมที่กว้างกว่ารุ่นอื่น และมีการบิดเบี้ยวบริเวณขอบภาพน้อยมาก
• ถ่ายวิดีโอในมุมมอง Ultra Wide ได้

จุดที่ต้องพิจารณา

• ระบบกันสั่นไม่สามารถใช้งานได้ขณะบันทึกวิดีโอ 4K
• เอฟเฟกต์บิวตี้ยังดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ

>> ดูสเปก Samsung Galaxy A50s

>> อ่านรีวิว Samsung Galaxy A50s

Motorola One Vision (7,990 บาท)

Motorola One Vision คือสมาร์ทโฟนที่ถ่ายรูปได้สวยเกินตัวอีกรุ่นหนึ่ง แต่มักจะถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดายเนื่องจากเป็นแบรนด์ที่ไม่ได้อยู่ในกระแสหลัก กล้องของ Motorola One Vision มีสเปกที่ไม่หวือหวาเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในบทความนี้ โดยมากับกล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียด 48+5 ล้านพิกเซล และมีระบบกันสั่น OIS ที่พบได้ไม่บ่อยนักในสมาร์ทโฟนราคาหลักพัน  ส่วนซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพถือว่าน่าประทับใจ โดยสามารถถ่ายทอดสีสันได้เที่ยงตรงและสมจริง, เบลอฉากหลังในโหมด Portrait ได้อย่างแม่นยำ พร้อมลูกเล่นอื่นๆ ครบครัน แต่ที่ทีมงานรู้สึกประทับใจเป็นพิเศษคือโหมดกลางคืนที่ใช้เวลาถ่ายเพียง 2 วินาที และดึงรายละเอียดของภาพออกมาได้ดีไม่แพ้สมาร์ทโฟนรุ่นใหญ่เลยทีเดียวครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Motorola One Vision

 

จุดเด่น

• โหมดกลางคืนใช้เวลาถ่ายสั้น และได้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ
• เบลอฉากหลังในโหมด Portrait ได้ดี และแยกตัวแบบกับฉากหลังได้แนบเนียน
• มีระบบกันสั่น OIS ซึ่งหาได้ยากในสมาร์ทโฟนราคาหลักพัน

จุดที่ต้องพิจารณา

• ไม่มีเลนส์ Ultra Wide สำหรับถ่ายรูปมุมกว้างพิเศษ
• เอฟเฟกต์บิวตี้ของกล้องหน้าดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ

>> ดูสเปก Motorola One Vision

>> อ่านรีวิว Motorola One Vision

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับสมาร์ทโฟนทั้ง 6 รุ่นที่ทางทีมงานคัดเลือกมาให้ในบทความนี้ หวังว่าจะช่วยให้เพื่อนๆ ตัดสินใจเลือกซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ได้ง่ายยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นจากทางทีมงาน Thaimobilecenter เท่านั้น และไม่ใช่บทความจัดอันดับแต่อย่างใด ด้วยความที่สมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นมีสไตล์การถ่ายภาพที่แตกต่างกัน จึงแนะนำว่าควรเลือกรุ่นที่ถูกใจเราที่สุดดีกว่าครับ

 

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

วันที่ : 13/11/2562