เปรียบเทียบ realme XT และ Redmi Note 8 Pro สองสมาร์ทโฟนกล้อง 64MP รุ่นใหม่ในไทย แตกต่างกันอย่างไรบ้าง ไปดูกัน!

วงการสมาร์ทโฟนได้เดินทางมาถึงจุดที่กล้องหลังมีความละเอียดสูงสุดถึง 64 ล้านพิกเซลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการที่กล้องมีความละเอียดสูงขึ้นก็ช่วยให้ถ่ายภาพได้ไฟล์ใหญ่มากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการเก็บรายละเอียดต่างๆ ของวัตถุ หรือวิวทิวทัศน์ที่อยู่ด้านหน้าได้แบบครบถ้วน

ในปัจจุบัน ก็มีการวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนที่มีกล้องหลังความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ในประเทศไทยจำนวน 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ realme XT และ Redmi Note 8 Pro โดยทั้งสองรุ่นก็เปิดราคาวางจำหน่ายออกมาค่อนข้างใกล้เคียงกันที่ 10,990 บาท สำหรับรุ่น realme XT ขณะที่ Redmi Note 8 Pro จะอยู่ที่ 8,999 บาท (รุ่นท็อปสุด) แต่เชื่อว่าหลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า มือถือกล้อง 64 ล้านพิกเซลสองรุ่นใหม่ที่กำลังวางขายในบ้านเรานี้มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ในวันนี้ทางทีมงาน Thaimobilecenter จึงได้สรุปเป็นบทความเปรียบเทียบเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้แก่ทุกท่าน หากพร้อมแล้ว เราไปติดตามกันเลยครับ

ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติระหว่าง realme XT และ Redmi Note 8 Pro

เปรียบเทียบดีไซน์ และหน้าจอแสดงผล

สำหรับทั้งสองรุ่นถือว่ามีดีไซน์ด้านหน้าที่ใกล้เคียงกันด้วยหน้าจอแสดงผลขอบบางเฉียบทั้ง 4 ด้านที่มีการเว้นพื้นที่ด้านบนหน้าจอบางส่วนเป็นทรงหยดน้ำสำหรับติดตั้งกล้องหน้าเซลฟี่ แต่ทั้งสองรุ่นจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยในเรื่องของขนาด และเทคโนโลยีหน้าจอ โดย realme XT มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ ขณะที่ Redmi Note 8 Pro มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล IPS LCD ขนาดใหญ่ 6.53 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ ซึ่งจากจุดนี้จะเห็นได้ว่า Redmi Note 8 Pro ดูจะได้เปรียบกว่าในเรื่องของพื้นที่การแสดงผลที่มากกว่า ส่วน realme XT ก็ดูจะได้เปรียบในเรื่องของคุณภาพการแสดงผล เนื่องจากโดยปกติแล้วหน้าจอ Super AMOLED มักจะแสดงสีสันได้อย่างสดใส รวมทั้งธรรมชาติของหน้าจอ OLED จะไม่มีการเปล่งแสงเมื่อแสดงผลสีดำ ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันในปัจจุบันที่มักจะมาพร้อมกับ Dark Mode (โหมดสำหรับปรับการแสดงผลโดยรวมให้เป็นสีดำ) ยกตัวอย่างเช่น Facebook, Youtube และ Instagram ซึ่งถือว่าเป็นโหมดที่ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งระบบ ColorOS ของ realme XT ก็กำลังจะปล่อยอัปเดต Dark Mode ให้ใช้งานในอนาคตด้วย

เปรียบเทียบ RAM, ROM, CPU และแบตเตอรี่

มาดูในส่วนของสเปกตัวเครื่องทั้งสองรุ่นกันบ้าง โดยหากดูที่ตัว CPU ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการรันระบบต่างๆ ของสมาร์ทโฟน ทั้งสองรุ่นก็ถือว่าจัดอยู่ในระดับกึ่งท็อปที่ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไป รวมไปถึงการเล่นเกมได้อย่างดี  โดย realme XT เลือกใช้งานชิปเซ็ต Snapdragon 712 AIE ซึ่งเป็นชิปเซ็ตตัวใหม่ในซีรีส์กึ่งท็อปของค่าย Qualcomm ส่วนทางด้าน Redmi Note 8 เลือกใช้งานชิปเกมมิ่งตัวล่าสุดจากค่าย MediaTek ภายใต้ชื่อรุ่น Helio G90T แต่ชิปเซ็ต Snapdragon 712 ของ realme XT อาจดูได้เปรียบกว่าเล็กน้อยเนื่องจากใช้สถาปัตยกรรมการผลิตที่ระดับ 10 นาโนเมตร ซึ่งตามหลักแล้วก็น่าจะกินไฟน้อยกว่าชิป Helio G90T ที่ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมระดับ 12 นาโนเมตร

ส่วนหน่วยความจำ RAM ทางด้าน realme XT ให้ RAM มาที่ขนาด 8GB ขณะที่ Redmi Note 8 Pro ให้ RAM มาขนาด 6GB ส่งผลให้ realme XT จะค่อนข้างตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบการเปิดแอปพลิเคชันหลายๆ แอปทิ้งไว้ สามารถสลับใช้งานไปมาโดยไม่ต้องรอโหลดใหม่ รวมไปถึงผู้ที่ชื่นชอบการใช้งานแบบ 2 หน้าจอ (Split-Screen) ส่วน Redmi Note 8 Pro แม้ว่าจะให้ RAM มาน้อยกว่า แต่ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน

ด้านหน่วยความจำภายใน ทั้ง realme XT และ Redmi Note 8 Pro เลือกใช้ความจำแบบ UFS 2.1 ที่มีความจุสูงสุดที่ 128GB เหมือนกัน พร้อมรองรับการเพิ่มหน่วยความจำเสริมภายนอกผ่านช่องทาง microSD Card ได้เหมือนกันทั้งคู่ ส่งผลให้ประสบการณ์ใช้งานเกี่ยวกับการเก็บไฟล์ หรือเก็บรูปภาพต่างๆ ของทั้งสองรุ่นอาจไม่แตกต่างกันมากนัก

มาดูที่แบตเตอรี่กันบ้าง สำหรับ realme XT มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 4000mAh ขณะที่ Redmi Note 8 Pro มาพร้อมกับแบตเตอรี่มากกว่าที่ 4500mAh โดยทั้งสองรุ่นรองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็วเหมือนกันทั้งคู่ แต่จะต่างกันในเรื่องของปริมาณการจ่ายไฟสูงสุด โดย realme XT รองรับการชาร์จเร็วแบบ VOOC Flash Charge 3.0 ที่สามารถจ่ายไฟได้สูงสุดที่ระดับ 5V/4A (20W) ซึ่งทาง relame ระบุว่า สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-100% ได้ในเวลาเพียง 80 นาที ขณะที่ Redmi Note 8 Pro รองรับการชาร์จเร็วที่ระดับ 18W โดยทาง Xiaomi ระบุว่า สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-100% ได้ในเวลาราว 2 ชั่วโมง

เปรียบเทียบกล้องถ่ายภาพ

realme XT และ Redmi Note 8 Pro เลือกใช้เซ็ตอัพกล้องหลังจำนวน 4 ตัว (Quad Camera) ที่คล้ายกัน แบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์รับภาพ Samsung GW1, กล้องเลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลสำหรับถ่ายภาพมุมกว้าง, กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้องตรวจจับระยะชัดตื้น ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล แต่กล้องของทั้งสองรุ่นจะมีคความแตกต่างเชิงเทคนิคเล็กน้อย เนื่องจากกล้อง Ultra Wide ของ realme XT จะมีองศาในการรับภาพที่ 119 องศา ขณะที่ Redmi Note 8 Pro มาพร้อมกับองศาในการรับภาพที่ 120 องศา ส่วนกล้อง Macro ของ realme XT จะโฟกัสวัตถุได้ใกล้สุดที่ระยะ 4 เซนติเมตร ขณะที่ Redmi Note 8 Pro โฟกัสวัตถุได้ใกล้สุดที่ระยะ 2 เซนติเมตร ส่วนโหมดการถ่ายภาพอื่นๆ ของทั้งสองรุ่นถือว่าให้มาแบบครบครันทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็น โหมดถ่ายภาพกลางคืน, โหมดถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ หรือการถ่ายวิดีโอ 4K และการถ่ายวิดีโอแบบ Slow-Motion ที่ระดับ 960fps

ด้านกล้องหน้าเซลฟี่ก็มีความแตกต่างกันเล็กน้อย โดย realme XT มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX471 ส่วนทางด้าน Redmi Note 8 Pro มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั้งคู่

เปรียบเทียบฟีเจอร์เด่นด้านอื่นๆ

สำหรับฟีเจอร์เด่นด้านอื่นๆ ที่ทั้งสองรุ่นมีความแตกต่างกันคือเรื่องของวิธีการสแกนลายนิ้วมือ เนื่องจาก realme XT มาพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือรูปแบบใหม่อย่างการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (In-Display Fingerprint Scanner) ขณะที่ Redmi Note 8 Pro เลือกติดตั้งปุ่มสแกนลายนิ้วมือเอาไว้ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ใช้ปลดล็อกได้ค่อนข้างยากเมื่อวางสมาร์ทโฟนไว้บนพื้นผิว ต่างจากการวางปุ่มสแกนลายนิ้วมือไว้ด้านหน้าตัวเครื่อง 

จากข้อมูลด้านต้นก็จะเห็นได้ว่าสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นต่างก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป โดย realme XT ดูจะเป็นสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการรับชมคอนเทนต์คุณภาพสูงผ่านหน้าจอมือถือ รวมไปถึงผู้ที่ชื่นชอบระบบการชาร์จที่เติมพลังงานแบตเตอรี่กลับเข้าสู่ตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็ว และผู้ที่ชอบใช้งานเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างเช่นระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ขณะที่ Redmi Note 8 Pro ก็ดูจะตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนจอใหญ่แบตอึด และผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Xiaomi อยู่แล้ว 

อย่างไรก็ดี การเปรียบเทียบด้านต้นก็เป็นเพียงการเปรียบเทียบทางด้านสเปกเบื้องต้นเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้แก่ทุกท่านเท่านั้น สมาร์ทโฟนรุ่นใดจะดีกว่ากันทางทีมงานคงไม่สามารถตัดสินได้ เพราะส่วนหนึ่งคงต้องขึ้นอยู่กับความชื่นชอบส่วนบุคคลด้วย หากทดลองเล่นแล้วถูกใจ ก็ถือว่าน่าจับจองเป็นเจ้าของแล้วครับ

วันที่ : 22/10/2562