เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S20 เวอร์ชัน Exynos และ Snapdragon รุ่นไหนประหยัดแบตเตอรี่ และมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า?

สำหรับสมาร์ทโฟนตระกูลเรือธงของ Samsung อย่าง Galaxy S-Serie และ Note-Series โดยปกติแล้ว จะทำการวางจำหน่ายทั้งหมด 2 เวอร์ชันด้วยกัน ได้แก่ เวอร์ชันที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon จากฝั่ง Qualcomm ซึ่งจะวางขายเฉพาะบางกลุ่มประเทศ เช่น สหรัฐฯ เป็นต้น และเวอร์ชันที่ใช้ชิปเซ็ตที่ Samsung พัฒนาขึ้นมาเองอย่าง Exynos ซึ่งจะใช้วางจำหน่ายทั่วโลก (Global) รวมถึงประเทศไทย โดยในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Galaxy S20 ก็มี 2 เวอร์ชันเช่นเดียวกัน นั่นก็คือ เวอร์ชันที่ใช้ชิป Snapdragon 865 และเวอร์ชันที่ใช้ชิป Exynos 990 

เชื่อว่าหลายฝ่ายอาจจะกำลังสงสัยว่า Galaxy S20 ที่ใช้ชิปเซ็ตประมวลผลต่างกัน จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน รวมถึงใช้พลังงานที่แตกต่างกันด้วยหรือไม่? เราลองไปติดตามผลทดสอบ Galaxy S20 Ultra Snapdragon 865 เปรียบเทียบกับ Snapdragon S20 Ultra Exynos 990 จากสื่อต่างประเทศอย่าง PhoneArena กันดีกว่าครับ

ก่อนที่เราจะเข้าสู่บทความเปรียบเทียบ เราลองมาดูกันที่คุณสมบัติภายในของชิปเซ็ตทั้งสองรุ่นกันก่อน โดยทั้ง Snapdragon 865 และ Exynos 990 ใช้สถาปัตยกรรมการผลิตที่ระดับ 7nm EUV เหมือนกันทั้งคู่ แต่จะมีความแตกกต่างในเรื่องของโครงสร้าง CPU รวมถึงชิปกราฟิก และฮาร์ดแวร์ต่างๆ โดย Snapdragon 865 เลือกใช้โครงสร้าง CPU แบบ 1+3+4 คือ มี 1 แกนสำหรับประมวลผลงานหนักๆ ความเร็ว 2.84GHz พร้อมแกนประสิทธิภาพสำหรับประมวลผลงานทั่วไปจำนวน 3 แกน ความเร็ว 2.42GHz และมีแกนประหยัดพลังงานจำนวน 4 แกน ความเร็ว 1.8GHz สำหรับช่วยประมวลผลงานที่ไม่หนักมากนัก พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 650 และหน่วยประมวลผล AI Hexaon 698

ขณะที่ Exynos 990 เลือกใช้โครงสร้างแบบ 2+2+4 ซึ่งก็คือ มีแกนประมวลผลสำหรับงานหนักๆ จำนวน 2 แกน ความเร็ว 2.73GHz, แกนประสิทธิภาพสำหรับประมวลผลงานทั่วไปจำนวน 2 แกน ความเร็ว 2.5GHz และแกนประหยัดพลังงาน 4 แกน ความเร็ว 2.0GHz พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G77 MP1 และหน่วยประมวลผล AI Dual-Core NPU

และเมื่อนำไปทดสอบการประมวลผลทางด้านการประมวลผลของ CPU ด้วยแอปพลิเคชัน Geekbench 5 พบว่า เป็นทางฝั่งของ Galaxy S20 Ultra เวอร์ชัน Snapdragon 865 ที่ทำคะแนนในส่วนของการประมวลผลแบบหลายแกน (Multi-Core) ได้มากกว่า ขณะที่ Galaxy S20 Ultra เวอร์ชัน Exynos 990 จะทำคะแนนการประมวลผลแบบแกนเดี่ยว (Single-Core) ได้มากกว่า แต่เมื่อทดสอบการประมวลผลโดยรวมของตัวเครื่องด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu พบว่า Galaxy S20 Ultra เวอร์ชัน Snapdragon 865 ทำคะแนนโดยรวมได้มากกว่าชัดเจนที่ราว 568000 คะแนน เมื่อเทียบกับ Galaxy S20 Ultra เวอร์ชัน Exynos 990 ทำคะแนนทดสอบโดยรวมได้ราว 515098 คะแนน ซึ่งทาง PhoneArena ระบุว่า เป็นผลมาจากชิปกราฟิกของ Snapdragon 865 และ Core Cluster ที่ทำงานได้ดีกว่านั่นเอง ซึ่งในส่วนของชิปกราฟิกนั้นเห็นผลได้อย่างชัดเจนด้วยผลทดสอบ GFXBench ที่ Galaxy S20 Ultra เวอร์ชัน Snapdragon 865 ทำเฟรมเรทได้ 88fps ขณะที่ Galaxy S20 Ultra เวอร์ชัน Exynos 990 ทำเฟรมเรทได้ 76fps

มาต่อกันในเรื่องของการจัดการพลังงานแบตเตอรี่ โดยทาง PhoneArena เปิดเผยว่า การเปิดใช้งานฟีเจอร์หน้าจอ 60Hz และ 120Hz จะส่งผลต่อความแตกต่างเรื่องการจัดการแบตเตอรี่สูงถึง 20-30% เลยทีเดียว (PhoneArena เคยทำทดสอบก่อนหน้านี้ พบว่า หากเปิดใช้งานจอ 60Hz จะใช้งานท่องเว็ปได้ราว 12 ชั่วโมง แต่หากเปิดใช้งานหน้าจอ 120Hz จะใช้งานได้ราว 9-10 ชั่วโมง) ซึ่งเมื่อลองไปทดสอบกับแอปพลิเคชัน PCMark ก็พบว่า ผลลัพธ์ที่ได้มีความสอดคล้องกัน โดย Galaxy S20 Ultra เวอร์ชัน Snapdragon 865 หากเปิดฟีเจอร์จอ 60Hz จะใช้งานได้นาน 13 ชั่วโมง และหากเปิดหน้าจอ 120Hz จะใช้งานได้ 11 ชั่วโมง แต่จุดที่น่าสนใจก็คือ ใน Galaxy S20 Ultra เวอร์ชัน Exynos 990 เมื่อเปิดฟีเจอร์จอ 60Hz จะใช้งานได้ราว 12 ชั่วโมง และหากเปิดจอ 120Hz จะใช้งานได้ราว 10 ชั่วโมงเท่านั้น

จากผลทดสอบทั้งหมดทำให้ PhoneArena สรุปว่า Galaxy S20 Series ที่ใช้ชิป Snapdragon 865 จะมีประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม และจัดการพลังงานแบตเตอรี่ได้ค่อนข้างดีกว่ารุ่นที่ใช้ชิป Exynos 990 แต่อย่างไรก็ดี ชิปเซ็ตแต่ละรุ่นต่างก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งหากทดลองใช้แล้วถูกใจก็ถือว่ามือถือรุ่นนั้นๆ เหมาะกับผู้ใช้แล้วครับ

ที่มา : PhoneArena

วันที่ : 25/3/2563