หน้าแรกมือถือ > รวมข่าวมือถือ > หน้าบทความ ข่าวมือถือ
   
Date : 18/11/2562

OPPO Reno2 + Ultra Steady ดวลสมาร์ทโฟนไร้กันสั่น และกล้อง GoPro ใครจะถ่ายวิดีโอนิ่งกว่ากัน?

 

บางท่านอาจจะยังไม่ทราบ ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดของ OPPO อย่าง Reno2 นั้นถูกโปรโมตว่าเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่สามารถถ่ายวิดีโอได้ดีที่สุด ด้วยระบบกันสั่นที่เรียกว่า Ultra Steady ซึ่งเกิดจากการทำงานร่วมกันของระบบ EIS+OIS และทาง OPPO เองก็อยากจะให้ทีมงาน thaimobilecenter ของเราลองใช้งานกันดูจริงๆ ว่าระบบกันสั่น Ultra Steady นี้ จะเหนือกว่าสมาร์ทโฟนที่ไม่มีระบบกันสั่นขนาดไหน เลยจัดการนัดหมายกันที่ Peppermint Bike Park ซึ่งเป็นสนามจักรยานเสือภูเขา กับเส้นทางแนววิบาก ด้วยอุปสรรคหลากหลายรูปแบบอันน่าตื่นเต้นเร้าใจ ตั้งแต่โค้งหักศอก, ทางไม้ลาดชัน, เนินสูงชัน, เนินลูกคลื่น, บ่อทราย, ทางหิน, สะพานขาด และอีกมากมาย เรียกว่าสั่นสะเทือนกันตลอดเส้นทางแบบไม่ต้องพักหายใจหายคอ เหมาะกับการทดสอบในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง

 

สำหรับสมาร์ทโฟนที่จะนำมาดวลกันสั่นกับ OPPO Reno2 ในครั้งนี้เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นหนึ่งที่ไม่มีระบบป้องกันการสั่นมาให้ในตัว

และพอดีว่าทีมงานของเรามีกล้อง Action Camera แท้ๆ ติดมาด้วย นั่นคือ GoPro HERO5 Session ซึ่งแม้จะไม่ใช่รุ่นใหม่ล่าสุดในปีนี้อย่าง HERO8 แต่ก็มีระบบป้องกันการสั่นที่ยอดเยี่ยม พอที่จะนำเอามาเปรียบเทียบให้เห็นภาพได้

 

จับดวลกันเลย OPPO Reno2 ปะทะสมาร์ทโฟนที่ไม่มีระบบกันสั่น และ GoPro HERO5 Session

 

บรรดาสื่อมวลชนพร้อมลุย ไม่เน้นปั่นเอาถ้วย แต่เราเน้นทดสอบกล้อง

 

ซึ่งผลที่ได้จะเป็นอย่างไร ลองพิสูจน์ด้วยสายตาของท่านเองจากคลิปตัวอย่างที่เราไปทดสอบมาได้เลยครับ

 

คลิปทดสอบเปรียบเทียบ OPPO Reno2 กับสมาร์ทโฟนที่ไม่มีกันสั่น และกล้อง GoPro

 

 

นอกจากจุดขายสำคัญอย่างระบบกันสั่นแบบ Ultra Steady แล้ว OPPO Reno2 ก็ยังสามารถถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอ ด้วยฟีเจอร์ Bokeh Effect Video ได้ทั้งกล้องหลัง และกล้องหน้า

 

รวมทั้งรองรับการถ่ายวิดีโอแบบมุมกว้างพิเศษ (Ultra Wide Video) เพื่อให้เราเก็บบรรยากาศแห่งความประทับใจในสถานที่ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่มากขึ้น

 

และผู้ใช้ OPPO Reno2 ไม่ต้องเสียเวลาไปหาแอปพลิเคชันตัดต่อวิดีโอที่ไหนมาใช้ เพราะในเครื่องมีแอปพลิเคชัน SOLOOP เอาไว้ตัดต่อวิดีโอ และยังคงคุณภาพของวิดีโอไว้ได้ด้วย

 

 

สรุปคุณสมบัติเด่นของกล้องถ่ายภาพบน OPPO Reno2


 

กล้องหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ประกอบไปด้วย

- กล้อง Main ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Sony IMX586 ขนาด 1/2.0 นิ้ว, รูรับแสงขนาด f1.7 และระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS+EIS
- กล้อง Wide Angel ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล กว้าง 116 องศา พร้อมเซนเซอร์รับภาพขนาด 1/3.2 นิ้ว และรูรับแสงขนาด f2.2
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพขนาด 1/3.4 นิ้ว และรูรับแสงขนาด f2.4
- กล้อง Mono (Bokeh) ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพขนาด 1/5 นิ้ว และรูรับแสงขนาด f2.4
- รองรับการถ่ายภาพที่ครอบคลุมทางยาวโฟกัสตั้งแต่ 16-83 มิลลิเมตร
- ซูมภาพแบบไม่สูญเสียรายละเอียดได้สูงสุด 5 เท่า (5x Hybrid Zoom) และซูมภาพแบบดิจิทัลได้สูงสุด 20 เท่า (20x Digital Zoom)
- มี Ultra Dark Mode, AI Noise Reduction, NPU Acceleration, Portrait Mode 2.0
- ถ่ายภาพแบบมาโคร (Macro) ได้ใกล้สูงสุดที่ 2.5 เซนติเมตร
- ไฟแฟลชแบบคู่ (Dual LED Flash)
- รองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K ที่ความเร็วสูงสุด 30 เฟรมต่อวินาที
- ระบบป้องกันการสั่นสำหรับการถ่ายวิดีโอแบบ Ultra Steady
- รองรับการถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอ (Bokeh Effect Video)
- รองรับการถ่ายวิดีโอแบบมุมกว้างพิเศษ (Ultra Wide Video)
- ระบบลดเสียงรบกวนจากลมขณะถ่ายวิดีโอ
- ฟังก์ชัน Sound Focus สำหรับเร่งระดับเสียงของจุดสนใจระหว่างการถ่ายวิดีโอ
- มีแอปพลิเคชัน SOLOOP สำหรับตัดต่อวิดีโอ ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน ซึ่งมีฟังก์ชันระดับสูงสำหรับการตัดต่อวิดีโอมากมาย และยังคงคุณภาพของวิดีโอไว้ได้

กล้องหน้าแบบ Pop-up (Pivot Rising Camera) รุ่นแรกของโลกที่มาพร้อม Bokeh Effect Video

- ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, พร้อมรูรับแสงขนาด f2.0, เปิดใช้งานได้ภายในเวลา 0.8 วินาที, กล้อง Pop-up ทำมุมเอียง 11 องศา และกลไกป้องกันความเสียหายจากการตกหล่น
- รองรับการถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอ (Bokeh Effect Video)


สรุปส่งท้าย

แม้จะเป็นเพียงการทดสอบในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็น่าจะทำให้เห็นกันแล้วว่า OPPO Reno2 นั้นเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้งานความสามารถด้านการถ่ายวิดีโอมากเป็นพิเศษ จึงน่าจะถูกใจบรรดา VDO Creator พอสมควร โดยเฉพาะระบบป้องกันการสั่นที่ยอดเยี่ยมก็จะช่วยให้สามารถนำสมาร์ทโฟนสวยๆ เครื่องนี้ไปถ่ายฟุตเทจตามที่ต่างๆ ได้คล่องตัวไร้การสั่นไหว แบบไม่ต้องลำบากพก Gimbal ติดไปด้วย อีกทั้งยังถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอได้, ถ่ายวิดีโอมุมกว้างได้ แถมยังมีแอปพลิเคชันตัดต่อวิดีโอติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานในเครื่องอีกต่างหาก เรียกว่าจบทุกอย่างเรื่องการสร้างคอนเทนต์วิดีโอได้ในสมาร์ทโฟนเครื่องเล็กๆ เครื่องเดียว

ท่านใดที่สนใจ OPPO Reno2 ก็สามารถแวะไปจับจองเป็นเจ้าของได้แล้วที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ในราคา 17,990 บาท และราคา 11,990 บาท สำหรับรุ่น Reno2 F สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

- รีวิว (Review) OPPO Reno2
- รีวิว (Review) OPPO Reno2 F
- รีวิว (Review) OPPO Reno
- รีวิว (Review) OPPO Reno 10x Zoom

 

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

 


วันที่ : 18/11/2562

Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy