[รีวิว] JBL Endurance PEAK หูฟังตัวท็อปสำหรับคอกีฬา Extreme คล่องตัวขั้นสุดด้วยดีไซน์ไร้สาย 100% พร้อมเคสชาร์จหูฟัง ในราคา 4,990 บาท
เชื่อว่าหลายคนที่รักการออกกำลังกายคงจะรู้จักหรือเคยผ่านๆ ตาหูฟัง JBL Endurance กันมาแล้ว เพราะเปิดตัวออกมาหลายรุ่น และแต่ละรุ่นก็มีคุณสมบัติเด่นที่เหมาะกับการออกกำลังกายในแบบที่แตกต่างกันไป ครอบคลุมตั้งแต่การวิ่งจ็อกกิ้งไปจนถึงการว่ายน้ำเลยทีเดียว ซึ่งที่ผ่านมาทาง Thaimobilecenter ก็ได้รีวิวให้ชมกันไปแล้ว 2 รุ่น ได้แก่ JBL Endurance JUMP และ Endurance SPRINT ส่วนในวันนี้เราก็มีหูฟัง JBL Endurance อีกรุ่นหนึ่งมารีวิวให้ชมกันอีกเช่นเคย นั่นคือ JBL Endurance PEAK ครับ
JBL Endurance PEAK เป็นหูฟังไร้สายสำหรับเล่นกีฬารุ่นท็อปของซีรีส์ Endurance ออกแบบมาเพื่อใช้กับกีฬาปีนเขา หรือกิจกรรมที่ต้องการความคล่องตัวเป็นพิเศษ โดยเป็นหูฟัง Truly Wireless ที่ล็อคกระชับเข้ากับใบหูด้วยเทคโนโลยีขาเกี่ยว PowerHoook และ TwistLock ไม่ต้องมีสายคล้องคอ นอกจากนี้จุกหูฟังยังเป็นซิลิโคนนุ่มแบบ FlexSoft ทำให้สวมใส่ได้นานโดยไม่ปวดหู และยังกันน้ำและเหงื่อได้ตามมาตรฐาน IPX7 อีกด้วย
ความโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของหูฟังรุ่นนี้คือมาพร้อมกับเคสเก็บหูฟังที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ ช่วยขยายเวลาการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้นสูงสุดถึง 1 วันเต็มๆ ตัวเคสมีขนาดกะทัดรัดและมีน้ำหนักเบา จึงสามารถพกติดตัวไปได้ทุกที่โดยไม่สูญเสียความคล่องตัวในการทำกิจกรรม
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปดูกันดีกว่าว่าหูฟังไร้สายตัวท็อปรุ่นนี้จะตอบโจทย์การใช้งานได้มากน้อแค่ไหน ในรีวิวหูฟัง JBL Endurance PEAK โดยทีมงาน Thaimobilecenter ครับ
ฟีเจอร์เด่นของหูฟัง JBL Endurance PEAK
- ดีไซน์แบบ PowerHook เปิด-ปิดหูฟังอัตโนมัติเมื่อสวมใส่และถอดออก
- เทคโนโลยี TwistLock สวมใส่ง่ายและกระชับแน่นเข้ากับใบหูแม้ไม่มีสายคล้อง
- ใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง 4 ชั่วโมง
- มีไมโครโฟนในตัว
- ควบคุมผ่านระบบสัมผัสบนตัวหูฟังได้โดยตรง
- กันน้ำและเหงื่อตามมาตรฐาน IPX7
- มาพร้อมเคสเก็บหูฟังที่สามารถชาร์จหูฟังได้ในตัว
สเปกเบื้องต้นของหูฟัง JBL Endurance PEAK
- ขนาดไดร์ฟเวอร์ : 10mm
- Frequency Response : 16 - 22 kHz
- รองรับ Bluetooth 4.2 (A2DP V1.3, AVRCP V1.5, HFP V1.6)
- Bluetooth Transmitter Power < 7.0dBm
- Bluetooth Transmitter Frequency Range : 2.402 – 2.480GHz
- Bluetooth Transmitter Modulation : GFSK, π/4 DQPSK, 8DPSK
- แบตเตอรี่ของตัวหูฟังขนาด 75 mAh ใช้งานได้นานสุด 4 ชั่วโมง ใช้เวลาชาร์จจนเต็มประมาณ 2 ชั่วโมง
- แบตเตอรี่ของเคสชาร์จหูฟังขนาด 1,500 mAh สามารถชาร์จหูฟังซ้ำได้ประมาณ 6 ครั้ง
- รองรับระบบชาร์จเร็ว ชาร์จเพียง 10 นาที สามารถใช้งานได้นาน 1 ชั่วโมง
- กันน้ำตามมาตรฐาน IPX7
ดีไซน์ภายนอก
JBL Endurance PEAK บรรจุมาในกล่องแพ็คเกจแบบแข็ง หน้ากล่องแสดงชื่อรุ่นและหน้าตาของหูฟังเอาไว้ชัดเจน โดยสีของหูฟังในกล่องจะตรงกับหน้ากล่อง สำหรับตัวที่เรานำมารีวิวในคราวนี้เป็นสีดำครับ
เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบกับหูฟัง และเคสสำหรับชาร์จหูฟังจัดวางอยู่ภายในอย่างมิดชิด โดยมีพลาสติกใสปิดเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง
อุปกรณ์ที่มีมาให้ในกล่อง ประกอบด้วยหูฟัง JBL Endurance Peak 1 คู่, เคสชาร์จหูฟัง 1 อัน, สาย Micro USB 1 เส้น, จุกหูฟังไซส์ S และ L อย่างละ 1 คู่ (จุกหูฟังไซส์ M ติดมากับตัวหูฟังแล้ว) และคู่มือการใช้งาน
ตัวหูฟัง JBL Endurance PEAK เป็นหูฟังแบบ In-Ear ที่มีดีไซน์โดยรวมเหมือนกับรุ่นอื่นๆ ในซีรีส์ Endurance แต่จะเป็นแบบ Truly Wireless หรือ "ไร้สาย 100%" ไม่มีสายคล้องใดๆ ตัวหูฟังจะมีขาเกี่ยวแบบ PowerHook ที่มีแม่เหล็กติดตั้งไว้ ซึ่งจะดูดหูฟังเข้ากับขาคล้องเมื่อไม่ได้ใช้งาน เมื่อหูฟังกับขาคล้องสัมผัสกันหูฟังจะปิดการทำงานโดยอัตโนมัติ และเมื่อหยิบขึ้นมาใส่ หูฟังก็จะทำงานและเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ที่เคยจับคู่กันผ่านบลูทูธไปแล้วทันที
สำหรับเคสใส่หูฟังที่มาด้วยกันมีดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่แข็งแรง และมีขนาดเล็กกะทัดรัด ด้านหน้ามีไฟ LED 4 ดวงสำหรับบอกปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ (หากไฟติดทั้ง 4 ดวง แปลว่าแบตเตอรี่เต็มแล้ว)
ด้านขวาของเคสมีพอร์ต Micro USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ แต่ทั้งนี้จะไม่มีตัวอแดปเตอร์มาให้ ซึ่งสามารถใช้อแดปเตอร์ของสมาร์ทโฟนแทนได้ และสามารถชาร์จตัวเคสพร้อมกับหูฟังได้ด้วยเช่นกัน
ด้านซ้ายของเคสมีช่องสำหรับสายคล้องข้อมือ
JBL Endurance PEAK มีแบตเตอรีขนาด 75 mAh ในตัว ฟังเพลงได้ต่อเนื่องนานสุด 4 ชั่วโมง เมื่อเก็บหูฟังเข้าไปในเคสจะเป็นการชาร์จหูฟังโดยอัตโนมัติ จะมีไฟสีแดงปรากฏขึ้นเพื่อแสดงสถานะกำลังชาร์จ ใช้เวลาชาร์จจนเต็มประมาณ 2 ชั่วโมง โดยตัวเคสมีแบตเตอรี่ขนาด 1,500 mAh ใช้ชาร์จหูฟังได้ประมาณ 6 ครั้ง
ทดสอบการใช้งานและคุณภาพเสียง
สำหรับการจับคู่ JBL Endurance PEAK กับสมาร์ทโฟนครั้งแรก ให้เราแตะที่โลโก้ JBL บนหูฟังด้านขวาค้างไว้ 3 วินาทีเพื่อเปิดการทำงาน รอสักครู่จนกระทั่งมีไฟสีน้ำเงินกระพริบขึ้นมา จากนั้นให้เราเปิดบลูทูธบนสมาร์ทโฟน และเลือกเชื่อมต่อกับ JBL Endurance PEAK เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จไฟสีนำเงินจะเปลี่ยนเป็นไฟนิ่ง หลังจากนี้ JBL Endurance PEAK จะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของเราโดยอัตโนมัติเมื่ออยู่ในระยะสัญญาณบลูทูธในการเปิดใช้งานครั้งต่อๆ ไป
JBL Endurance PEAK ควบคุมการทำงานทั้งหมดด้วยระบบสัมผัสบนตัวหูฟังด้านขวาตรงโลโก้ JBL สั่งเริ่มการทำงานด้วยการแตะค้างไว้ที่โลโก้สักครู่จนกระทั่งไฟบอกสถานะสีแดงปรากฏขึ้น หากต้องการปิดการใช้งาน ให้แตะที่โลโก้ค้างไว้สักครู่เช่นเดิมจนกว่าไฟสถานะจะดับลง ส่วนการควบคุมอื่นๆ ทำได้ดังนี้
- ฟังเพลง
- แตะ 1 ครั้ง : หยุด-เล่นเพลง
- แตะ 2 ครั้ง : เล่นเพลงถัดไป
- แตะ 3 ครั้ง : เล่นเพลงก่อนหน้า
- เลื่อนขึ้น-ลง : ปรับระดับเสียง (เพิ่ม-ลด)
- โทรศัพท์
- แตะ 1 ครั้ง : รับสาย-วางสาย
- แตะ 2 ครั้ง : ปฏิเสธรับสาย
JBL Endurance PEAK มีจุดเด่นตรงเสียงร้องที่เก็บรายละเอียดได้ดี และมีมิติความลึก ไม่กลืนไปกับเสียงดนตรีพื้นหลัง เสียงสูงมีความคมและทอดยาวไปได้ไกล ไม่บาดหู เสียงเบสค่อนข้างกระชับ มีอิมแพคกำลังดีไม่ล้นจนเกินไป ส่วนเวทีเสียงมีความกว้างพอประมาณ แยกเสียงดนตรีแต่ละชิ้นได้อย่างชัดเจน ในส่วนของการโทรจัดว่ามีคุณภาพเสียงอยู่ในระดับพอใช้ โดยรวมแล้ว JBL Endurance PEAK เป็นหูฟังไร้สายที่มีความคล่องตัวสูง และเหมาะกับการฟังเพลงหลากหลายแนวทั้ง Pop, Pop-Rock, Jazz, Classic และอื่นๆ ครับ
สรุปการรีวิว
JBL Endurance PEAK เป็นหูฟังที่มีคุณสมบัติโดดเด่นทั้งคุณภาพเสียงและการใช้งาน โดยเป็นหูฟังแบบ Truly Wireless ซึ่งไม่มีสายคล้องเหมือนรุ่นอื่นๆ ในซีรีส์เดียวกัน ทำให้มีความคล่องตัวเป็นพิเศษ เหมาะกับการใช้งานในกีฬาปีนเขา ไปจนถึงกีฬาแนว Extreme อื่นๆ ตัวหูฟังเป็นวัสดุประเภทยางและโพลิเมอร์ซึ่งทนทานและมีน้ำหนักเบา สามารถกันน้ำและกันเหงื่อได้ตามมาตรฐาน IPX7 จึงพร้อมลุยไปกับเราในทุกกิจกรรมโดยไม่ต้องกังวลมากนัก นอกจากนี้ยังมากับเคสที่เป็นที่ชาร์จหูฟังไปด้วยในตัว ทำให้ชาร์จหูฟังซ้ำได้หลายครั้ง ช่วยลดความยุ่งยากในการหาที่ชาร์จ ส่วนคุณภาพเสียงนั้นจัดว่าน่าประทับใจ โดยมีเสียงร้องที่โดดเด่น ชัดเจน เก็บรายละเอียดเสียงเครื่องดนตรีต่างๆ ได้ดี แต่เสียงเบาจะมีอิมแพ็คไม่มากนัก เสียงสูงมีความคมและทอดยาวไปได้ไกล ไม่บาดหู เสียงเบสค่อนข้างกระชับ มีอิมแพคกำลังดีไม่ล้นจนเกินไป ส่วนเวทีเสียงมีความกว้างพอประมาณ แยกเสียงดนตรีแต่ละชิ้นได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังใช้รับสายและสนทนาโทรศัพท์ได้ด้วย ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดนี้นับว่า JBL Endurance PEAK เป็นหูฟังเพื่อการออกกำลังกายที่มีความคล่องตัวสูง ตอบโจทย์การออกกำลังกายได้หลายรูปแบบโดยเฉพาะกีฬา Extreme
หูฟังไร้สาย JBL Endurance PEAK มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ, สีน้ำเงิน และสีแดง วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 4,990 บาท สามารถหาซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mahajaklife.com ครับ
บทความรีวิวโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 4/05/2562