รีวิว JBL Endurance JUMP หูฟังบลูทูธสำหรับสายฟิตเนสโดยเฉพาะ เอาอยู่ทุกกิจกรรมด้วยขาคล้องแบบ TwistLock เสียงชัดใส กันน้ำได้ ในราคา 2,990 บาท
สวัสดีชาว Thaimobilecenter ทุกท่านครับ หลังจากที่เราได้รีวิวลำโพงอัจฉริยะ JBL Link 10 ไปเมื่อเดือนก่อน ในวันนี้เราก็มีของใหม่จาก JBL มารีวิวให้ชมกันอีกแล้ว ซึ่งคราวนี้ก็ขอเอาใจสายฟิตเนสกันบ้างด้วยหูฟังบลูทูธสำหรับการออกกำลังกายโดยเฉพาะ JBL Endurance Jump ครับ
JBL Endurance Jump เป็นหนึ่งในหูฟังไร้สายซีรีย์ Endurance ซึ่งมีทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Sprint, Jump และ Dive แต่ละรุ่นจะมีดีไซน์ที่คล้ายกัน แต่จะมีคุณสมบัติเฉพาะตัวแตกต่างกันออกไป สำหรับรุ่น Jump จะเป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกายที่ต้องกระโดดและมีการเคลื่อนไหวรวดเร็ว เหมาะกับการออกกำลังกายด้วยการเต้น และท่ากายบริหารแบบคาร์ดิโอ โดยมีสายคล้องบริเวณท้ายทอยซึ่งหนาและแข็งกว่ารุ่นอื่นๆ ช่วยยึดหูฟังอีกชั้นหนึ่ง พร้อมขาหูฟังแบบ PowerHook™ ที่มีฟังก์ชันเปิด-ปิดอัตโนมัติเมื่อสวมใส่หรือถอดออก พร้อมด้วยคุณสมบัติกันน้ำตามมาตรฐาน IPX7 ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 8 ชั่วโมง อีกทั้งยังรองรับระบบชาร์จด่วนที่ทำให้ใช้งานได้นานถึง 1 ชั่วโมงด้วยการชาร์จเพียง 10 นาที 10 นาทีใช้งานได้ 1 ชั่วโมง คุณสมบัติต่างๆ นับว่าตอบโจทย์สายคาร์ดิโอมากๆ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปชมรีวิวหูฟัง JBL Endurance Jump โดยทีมงาน Thaimobilecenter กันเลยครับ
ฟีเจอร์เด่นของหูฟัง JBL Endurance Jump
- ดีไซน์แบบ PowerHook™ เปิด-ปิดหูฟังอัตโนมัติเมื่อสวมใส่และถอดออก
- ใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง
- มีระบบชาร์จด่วน ชาร์จ 10 นาทีใช้งานได้ถึง 1 ชั่วโมง
- มีไมโครโฟนในตัว
- สั่งการผ่านระบบสัมผัสบนตัวหูฟังได้โดยตรง
- กันน้ำตามมาตรฐาน IPX7
- มาพร้อมเคสเก็บหูฟังแบบซิลิโคน
สเปกเบื้องต้นของหูฟัง JBL Endurance Jump
- Driver size : 10 mm.
- Driver sensitivity (@1 kHz) : -20dB
- Frequency response : 20Hz–20kHz
- Impedance : 16Ω
- แบตเตอรี่ : Lithium-ion Polymer (3.7V, 120mAh)
- ระยะเวลาการชาร์จ : 2 ชั่วโมง (5V 1A)
- เล่นเพลงต่อเนื่อง : สูงสุด 8 ชั่วโมง (ANC off)
- สนทนาทางโทรศัพท์ต่อเนื่อง : 7 ชั่วโมง
- รองรับ Bluetooth 4.2
- กันน้ำตามมาตรฐาน IPX7
ดีไซน์ภายนอก
JBL Endurance JUMP บรรจุมาในกล้องแพ็คเกจแบบแข็ง หน้ากล่องแสดงชื่อรุ่นและหน้าตาของหูฟังเอาไว้ชัดเจน โดยสีของหูฟังในกล่องจะตรงกับหน้ากล่อง สำหรับตัวที่เรานำมารีวิวในคราวนี้เป็นสีฟ้าอมเขียว (Teal) ครับ
เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบกับหูฟัง และเคสซิลิโคนจัดวางอยู่ภายในอย่างมิดชิด โดยมีพลาสติกใสปิดเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง
ตัวหูฟังและขาคล้องหูทำจากวัสดุที่มีความยืดหยุ่น มีแม่เหล็กติดตั้งไว้ซึ่งจะดูดหูฟังเข้ากับขาคล้องเมื่อไม่ได้ใช้งาน เมื่อหูฟังกับขาคล้องสัมผัสกัน JBL Endurance JUMP จะปิดการทำงานโดยอัตโนมัติ และเมื่อสวมใส่ก็จะเริ่มการทำงาน และเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ที่เคยจับคู่กันผ่านบลูทูธไปแล้วทันที
อุปกรณ์ที่มีมาให้ในกล่อง
หน้าตาของเคสซิลิโคนที่มากับ JBL Endurance JUMP
ทดสอบการใช้งานและคุณภาพเสียง
JBL Endurance JUMP ควบคุมการทำงานทั้งหมดด้วยระบบสัมผัสบนตัวหูฟังด้านขวาตรงโลโก้ JBL สั่งเริ่มการทำงานด้วยการแตะค้างไว้ที่โลโก้สักครู่จนกระทั่งไฟบอกสถานะสีแดงปรากฏขึ้น หากต้องการปิดการใช้งาน ให้แตะที่โลโก้ค้างไว้สักครู่เช่นเดิมจนกว่าไฟสถานะจะดับลง ส่วนการควบคุมอื่นๆ ทำได้ดังนี้:
- ฟังเพลง
- แตะ 1 ครั้ง : หยุด-เล่นเพลง
- แตะ 2 ครั้ง : เล่นเพลงถัดไป
- แตะ 3 ครั้ง : เล่นเพลงก่อนหน้า
- เลื่อนขึ้น-ลง : ปรับระดับเสียง
- โทรศัพท์
- แตะ 1 ครั้ง : รับสาย-วางสาย
- แตะ 2 ครั้ง : ปฏิเสธรับสาย
สำหรับการจับคู่ JBL Endurance JUMP กับสมาร์ทโฟนครั้งแรก ให้เราแตะที่โลโก้ JBL บนหูฟังด้านขวาค้างไว้ 3 วินาทีเพื่อเปิดการทำงาน รอสักครู่จนกระทั่งมีไฟสีน้ำเงินกระพริบขึ้นมา จากนั้นให้เราเปิดบลูทูธบนสมาร์ทโฟน และเลือกเชื่อมต่อกับ JBL Endurance JUMP เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จไฟสีนำเงินจะเปลี่ยนเป็นไฟนิ่ง หลังจากนี้ JBL Endurance JUMP จะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของเราโดยอัตโนมัติเมื่ออยู่ในระยะสัญญาณบลูทูธในการเปิดใช้งานครั้งต่อๆ ไป
JBL Endurance JUMP มีแบตเตอรีขนาด 120 mAh ในตัว ฟังเพลงได้ต่อเนื่องนานสุด 8 ชั่วโมง และยังมีความพิเศษตรงที่รองรับระบบชาร์จด่วน โดยการชาร์จเพียง 10 นาทีสามารถใช้งานได้นาน 1 ชั่วโมง การชาร์จแบตเตอรี่จะชาร์จผ่านสาย microUSB โดยพอร์ตจะอยู่ที่หูฟังด้านขวา
ในเรื่องคุณภาพเสียง JBL Endurance JUMP จะมีความโดดเด่นในส่วนของเสียงร้องที่ชัดและใส ซึ่งแยกออกจากเสียงเครื่องดนตรีชัดเจน เสียงแหลมมีความคมแต่ไม่ถึงกับบาดหู ทอดตัวได้ไกลพอประมาณ เสียงเบสมีความกระชับ แต่มีอิมแพ็คไม่มากเท่าไหร่ ให้ความรู้สึกกลางๆ ไม่ถึงกับสุด สำหรับเวทีเสียงถือว่ามีความกว้างพอประมาณ ให้ความรู้สึกว่าเครื่องดนตรีวางอยู่ใกล้ๆ กัน แต่สามารถแยกเสียงเครื่องดนตรีแต่ละชนิดออกมาได้ดี ไม่ถึงกับซ้อนทับกัน และในส่วนของการโทร คุณภาพเสียงอยู่ในระดับพอใช้ โดยรวมแล้ว JBL Endurance JUMP เป็นหูฟังที่เหมาะกับการฟังเพลงหลายแนวโดยเฉพาะแนวที่เน้นเสียงร้องเป็นหลักครับ
สรุปการรีวิว
JBL Endurance JUMP เป็นหูฟังที่ออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกายที่มีการเคลื่อนไหวเยอะๆ โดยเฉพาะ เช่นการเต้น กระโดดเชือก โยคะ หรือครอสฟิต เป็นต้น มีการออกแบบให้หูฟังคล้องกับหูได้กระชับพอดีและมีสายคล้องบริเวณท้ายทอยที่แข็งอยู่ตัว ไม่เกะกะรุ่มร่าม สามารถกันน้ำและกันเหงื่อได้ตามมาตรฐาน IPX7 ควบคุมการทำงานได้สะดวกด้วยการสัมผัสที่ตัวหูฟัง และยังใช้คุยโทรศัพท์ได้ในตัว คุณภาพเสียงค่อนข้างดี ขับเสียงร้องและเสียงดตนรีได้อย่างโดดเด่น เสียงเบสลงได้ต่ำพอประมาณแต่มี impact ไม่มากนัก นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานได้นานถึง 8 ชั่วโมง และมีซองเก็บหูฟังแบบซิลิโคนมาให้ด้วย ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดนี้นับว่า JBL Endurance JUMP เป็นหูฟังเพื่อการออกกำลังกายที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนรักสุขภาพได้เป็นอย่างดีครับ
JBL Endurance SPRINT มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีดำ, สีน้ำเงิน, สีเหลือง, สีแดง, และสีเขียว วางจำหน่ายในราคา 2,990 บาท ท่านใดที่สนใจสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mahajaklife.com
บทความรีวิวโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 1/03/2562
