iPhone X ฝ่าด่านทดสอบความแกร่งสุดโหด ทั้งกรีดด้วยด้วยมีด ลนด้วยไฟ งอด้วยมือ จะอยู่รอดถึงด่านสุดท้ายหรือไม่ไปดูกัน!

ในชั่วโมงนี้คงไม่มีสมาร์ทโฟนรุ่นไหนจะกระแสแรงเท่า iPhone X อีกแล้ว เพราะตั้งแต่เปิดให้ pre-order ก็มียอดสั่งจองเข้ามาอย่างถล่มทลายจนหุ้น Apple ถึงกับกระเตื้องขึ้นเลยทีเดียว โดย iPhone X มีการปรับดีไซน์ใหม่ทั้งหมด เปลี่ยนไปใช้จอ OLED เพิ่มระบบสแกนหน้า 3 มิติ (Face ID) เข้ามาและการอัปเกรดในส่วนอื่นๆ อีกมากมายสมกับเป็นเรือธงฉลอง 10 ปี iPhone

สำหรับคุณสมบัติตัวเครื่องและฟีเจอร์ใหม่ๆ หลายคนคงจะเคยเห็นในบทความก่อนหน้านี้กันมาแล้ว ในวันนี้เราจึงขอพาทุกท่านไปชมการทดสอบความแข็งแกร่งแบบฮาร์ดคอร์ของ iPhone X ที่จะต้องเจอทั้งมีดคัตเตอร์ ไฟแช็ก และการจับงอเต็มแรง โดย YouTuber นามว่า JerryRigEverything งานนี้จะรอดออกมาในสภาพไหน ไปดูพร้อมๆ กันเลยครับ

iPhone X ผู้โชคร้ายที่ถูกนำมาทดสอบในครั้งนี้แน่นอนว่าต้องเป็นเครื่องใหม่แกะกล่องส่งตรงจาก Apple Store

เริ่มจากการทดสอบความแข็งแกร่งของหน้าจอก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งวิธีทดสอบจะใช้อุปกรณ์ที่มีความแข็งต่างกัน 8 ระดับ ยิ่งตัวเลขมากความแข็งของอุปกรณ์ที่ใช้ขูดลงบนจอก็จะมากตาม

iPhone X เป็น iPhone รุ่นแรกที่เปลี่ยนมาใช้จอ OLED ซึ่ง Apple เรียกว่าจอ Super Retina ครอบทับด้วยกระจกป้องกันรอยขีดข่วน จากการทดสอบพบว่าหน้าจอเริ่มเป็นรอยตั้งแต่ระดับ 6 เป็นต้นไป ถือว่ามีความทนทานอยู่ในระดับเดียวกับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นอื่นๆ ในตลาด สามารถรับมือกับเศษเหรียญ กุญแจ และมีดคัดเตอร์ได้สบายๆ แต่จะเป็นรอยเมื่อเจอกับกระเบื้อง หินแกรนิต และเม็ดทราย

ลำโพงสนทนาเป็นตะแกรงโลหะ เมื่อลองใช้มีดคัตเตอร์กรีด พบว่าไม่สามารถทำให้ฉีกขาดหรือหลุดรุ่ยได้เลย

เนื่องจากบอดี้ด้านหน้าของ iPhone X ครอบทับด้วยกระจกทั้งหมด กล้องหน้าและเซ็นเซอร์ต่างๆ จึงอยู่ใต้กระจกด้วย ซึ่งช่วยปกป้องรอยขีดข่วนได้ดีพอๆ กับส่วนอื่นๆ ของหน้าจอเลยทีเดียว

มาดูด้านหลังกันบ้าง บอดี้ด้านหลังของ iPhone X ครอบทับด้วยกระจกเช่นเดียวกับด้านหน้า และน่าจะเป็นกระจกชนิดเดียวกันซึ่งสามารถทนทานต่อการขีดข่วนจากของมีคมได้อย่างน่าประทับใจ โลโก้ iPhone และรูปแอปเปิลฝังอยู่ใต้กระจกจึงไม่ต้องกลัวว่าจะหลุดลอก

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นกระจกแบบเดียวกับตัวเครื่องด้านหน้า จึงสามารถขูดให้เป็นรอยได้จากวัสดุที่แข็งในระดับหนึ่งเช่นเม็ดทรายหรือกรวด แต่บอดี้ที่เป็นกระจกทั้งหมดนี้ก็เป็นจุดอ่อนของ iPhone X ด้วยเช่นกัน เพราะธรรมชาติของกระจกจะไม่ทนต่อแรงกระแทกเท่าโลหะจึงแตกร้าวได้ง่าย อีกทั้งการประกอบแบบ Unibody ทำให้การเปลี่ยนกระจกยากมากหรืออาจทำไม่ได้เลย

กล้องหลังของ iPhone X เป็นกล้องคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลกับเลนส์ telephoto เพื่อการซูมแบบ optical และ Apple บอกว่าส่วนนี้ได้รับการปกป้องด้วยซัฟไฟร์ซึ่งแข็งกว่ากระจกธรรมดา คมมีดคัตเตอร์จึงไม่สามารถฝากรอยเอาไว้ได้

อย่างไรก็ดี เมื่อทดลองขูดด้วยอุปกรณ์ความแข็งระดับ 6 ปรากฏว่าเป็นรอยจางๆ หากเป็นซัฟไฟร์ 100% จะเป็นรอยที่ความแข็งระดับ 9 ขึ้นไปเท่านั้น

ไฟแฟลช Quad LED เป็นพลาสติกและเป็นรอยได้ง่ายมากๆ

บอดี้เฟรมและปุ่มต่างๆ ของ iPhone X เป็นสแตนเลสสตีลทั้งหมด จึงมั่นใจเรื่องความแข็งแกร่งทนทาน ต่อให้ใช้มีดคัตเตอร์เฉือนก็ทำได้แค่ฝากรอยทิ้งไว้เท่านั้น

หลังจากทดสอบความทนทานของตัวเครื่องไปแล้วก็มาถึงการทดสอบด่านต่อไปนั่นคือการทนทานต่อความร้อนของหน้าจอ จากการใช้ไฟแช็คจ่อไปที่หน้าจอโดยตรง จอของ iPhone X ทนได้ประมาณ 25 วินาทีจึงเกิดฝ้าสีขาวขึ้นอย่างถาวร หากเทียบกับสมาร์ทโฟนเรือธงอื่นๆ ที่เคยทดสอบไป ส่วนใหญ่จะเริ่มเป็นฝ้าที่ 14 วินาที บางรุ่นรอยฝ้าจะหายไปเองและกลับมาใช้งานได้ตามปกติ

และแล้วก็มาถึงด่านทดสอบสุดท้ายนั่นคือการงอเต็มแรงด้วยมือ สมาร์ทโฟนเรือธงหลายต่อหลายรุ่นต่างพ่ายแพ้ในด่านนี้กันไปแล้ว บ้างก็งอจนผิดรูป บ้างก็ถึงกับหักครึ่งไปเลย แต่สำหรับ iPhone X นั้นผ่านการทดสอบด่านนี้ไปได้อย่างน่าประทับใจ เพราะไม่ว่าจะออกแรงบิดจากด้านหน้าหรือด้านหลังก็ทำอะไรเรือธงฉลอง 10 ปี รุ่นนี้ไม่ได้เลย

ชมคลิปวิดีโอการทดสอบเต็มๆ ด้านล่าง

โดยรวมแล้วนับว่า iPhone X เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่แข็งแกร่งทนทานไม่แพ้เรือธงแบรนด์อื่นๆ จุดอ่อนเพียงอย่างเดียวคือบอดี้กระจกที่แตกร้าวได้ง่ายเมื่อรับแรงกระแทกจึงควรใส่เคสกันไว้ก่อนครับ

ที่มา : JerryRigEverything

วันที่ : 6/11/2560