เปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราเรียบร้อยแล้วนะคะ สำหรับ HUAWEI P40 และ P40 Pro สองเรือธง 5G รุ่นใหม่จากทาง Huawei กับราคาเริ่มที่ 22,990 บาท และแน่นอนว่ายังจัดเต็มด้านการถ่ายภาพเช่นเดิม รวมถึงปรับโฉมดีไซน์ใหม่หมดจดที่มีความสวยงาม และพรีเมียมมากขึ้น ในวันนี้ทางทีมงานจะมาสรุป 5 จุดเด่นที่ทำให้ HUAWEI P40 Series เป็นเรือธงที่น่าจับตามองในปีนี้ ซึ่งจะโดดเด่นด้านใดบ้าง ไปชมกันเลยค่ะ

 

1. กล้อง Leica เทียบชั้นกล้องโปร

HUAWEI P40 Series มาพร้อมกล้องที่พัฒนาร่วมกับ Leica ภายใต้คอนเซ็ปต์ Visionary โดยในรุ่น P40 Pro อยู่อันดับที่ 1 สมาร์ทโฟนกล้องดีที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของ DxOMark ซึ่งสามารถทำคะแนนสูงทั้งในด้านการถ่ายภาพนิ่ง และวิดีโอ ไปจนถึงการถ่ายภาพ และวิดีโอเซลฟี่ด้วยกล้องหน้า อีกทั้งยังโดดเด่นด้านการเก็บภาพระยะไกล ด้วยฟีเจอร์การซูมที่ยังคงรายละเอียดต่างๆ ในภาพได้อย่างครบถ้วน และมีระบบโฟกัสแม่นยำ ด้วยกล้อง Leica ทั้งหมด 4 ตัว (Ultra Vision Leica Quad Camera) ดังนี้

• กล้องตัวแรก Ultra-Wide Cine ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล ทางยาวโฟกัส 18 มม. มีรูรับแสงขนาด F/1.8
• กล้องตัวที่สอง Ultra Vision Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เทคโนโลยี RYYB ทางยาวโฟกัส 23 มม. มีรูรับแสงขนาด F/1.9 รองรับ OIS
• กล้องตัวที่สาม Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เทคโนโลยี RYYB ทางยาวโฟกัส 125 มม. มีรูรับแสงขนาด F/3.4 รองรับ OIS และการซูมแบบ Optical ที่ 5 เท่า (5x Optical Zoom)
• กล้องตัวที่สี่ ToF Camera Depth Sensing

 

ทางด้านรุ่น HUAWEI P40 มีกล้อง Leica ทั้งหมด 3 ตัว (Ultra Vision Leica Triple Camera) แบ่งออกเป็น

• กล้องตัวแรก Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ทางยาวโฟกัส 80 มม. มีรูรับแสงขนาด F/2.4 รองรับ OIS และการซูมแบบ Optical ที่ 3 เท่า (3x Optical Zoom)
• กล้องตัวที่สอง Ultra Vision Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เทคโนโลยี RYYB ทางยาวโฟกัส 23 มม. มีรูรับแสงขนาด F/1.9
• กล้องตัวที่สาม Ultra-Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มีขนาดรูรับแสง F/2.2

 

นอกจากนี้ HUAWEI P40 Series ยังมาพร้อมเทคโนโลยี AI ผู้ช่วยอัจฉริยะที่ชาญฉลาดขึ้น ด้วยฟังก์ชันน้องใหม่อย่าง HUAWEI Golden Snap เข้ามาช่วยด้านการถ่ายภาพ ที่ประกอบไปด้วย AI Best Moment, AI Remove Passersby และ AI Remove Reflection ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในยุคนี้อย่างแท้จริง

โดย AI Best Moment เป็นการนำ AI มาวิเคราะห์ พร้อมเลือกภาพช็อตที่ดีที่สุดจากภาพเคลื่อนไหวที่กล้องเก็บไว้

 

ส่วน AI Remove Passerby สำหรับลบบุคคลอื่น หรือวัตถุที่อยู่ในเฟรมออก

 

และ AI Remove Reflection ในการลบแสงสะท้อนออกจากภาพได้

 

2. รองรับ 5G แบบเต็มรูปแบบ

HUAWEI P40 และ P40 Pro มาพร้อมคุณสมบัติในการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G ในทุกคลื่นความถี่ และสามารถใช้งานได้ทันทีหลังแกะกล่อง โดยไม่ต้องรอการอัปเดตซอฟต์แวร์ในภายหลัง ด้วยชิปเซ็ตตัวท็อปรุ่นล่าสุดของทาง Huawei อย่าง Kirin 990 5G ที่เป็นนำเอา Processor และโมเด็มรองรับ 5G เข้าไว้ด้วยกัน

และแน่นอนว่า HUAWEI P40 Series ที่รองรับ 5G จะตอบโจทย์คอบันเทิงด้วยความเร็วระดับกิกะบิต (Gbps) จึงสามารถรับชมการสตรีมได้แบบไม่มีสะดุด อีกทั้งยังสามารถดาวน์โหลดไฟล์วิดีโอคมชัดระดับ 4K ได้ในเวลาไม่ถึงนาที และรับ-ส่งไฟล์ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว ไปจนถึงการประชุมงานผ่าน Smart Device ด้วยวิดีโอคมชัดระดับ Ultra HD ผสานเข้ากับหน้าจอแสดงผล HUAWEI Quad-curve Overflow Display ที่มีค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz จึงสามารถใช้งาน, เล่นเกม และรับชมคอนเทนท์ต่างๆ ได้แบบลื่นไหลกว่าเดิม

 

3. ฟีเจอร์น้องใหม่ MeeTime วิดีโอคอลระดับ Full HD พร้อมเสียงคมชัด

HUAWEI P40 Series ยังมากับฟีเจอร์น้องใหม่ที่น่าสนใจอย่าง MeeTime สำหรับวิดีโอคอลคมชัดระดับ Full HD จากการเชื่อต่อเครือข่าย 5G พร้อมกับเสียงที่คมชัดในทุกสถานการณ์ แม้ในที่แสงน้อย หรือจุดอับสัญญาณ และยังสามารถแชร์หน้าจอ หรือโน๊ตต่างๆ ให้กับอีกฝ่ายได้ด้วย

 

รวมถึงฟังก์ชัน HUAWEI Share สำหรับช่วยอำนวยความสะดวกในการแชร์ไฟล์ต่างๆ จากหน้าจอสมาร์ทโฟนไปที่คอมพิวเตอร์ Laptop ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้สาย

 

4. ดีไซน์ระดับพรีเมียม

HUAWEI P40 Series มาพร้อมกับการปรับดีไซน์ใหม่หมดจด ที่เน้นทั้งความสวยงาม และตอบโจทย์ด้านการใช้งาน กับหน้าจอ HUAWEI Quad-curve Overflow Display ที่ได้แรงบันดาลได้จากการเคลื่อนไหวของธรรมชาติ โดยขอบจอมีความโค้งมนทั้ง 4 ด้าน ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนไร้ขอบอย่างแท้จริง พร้อมกับการใช้วัสดุ Refractive Matte ที่ให้ Effect แบบเงาสะท้อน แต่มีผิวสัมผัสด้าน ที่ป้องกันการเกิดรอยนิ้วมือนั่นเอง และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืฝังใต้หน้าจอ (In-Screen Fingerprint) เวอร์ชันใหม่ที่สแกนได้รวดเร็วขึ้นราว 30% รวมถึงฝังกล้องหน้าคู่ไว้บนจอแบบ Dual In-Display Camera ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล พร้อม IR Depth/Gesture Camera สำหรับใช้งานร่วมกับการสแกนใบหน้าในที่แสงน้อย และฟังก์ชัน Smart Gesture Control

ทางด้านฝาหลังของ HUAWEI P40 และ P40 Pro มีตัวเลือกทั้งที่เป็นกระจกเงา และแบบด้าน โดยผิวกระจกชนิดเงาได้แก่ สี Deep Sea Blue ส่วนผิวกระจกชนิดด้านมีด้วยกัน 2 สี ได้แก่ Blush Gold และ Silver Frost นอกจากนี้ยังรองรับคุณสมบัติการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นที่มาตรฐาน IP68 ในรุ่น P40 Pro อีกด้วย ส่วนรุ่น P40 มาพร้อมมาตรฐานระดับ IP53

 

5. เครื่องบาง แต่มีแบตเตอรี่จุใจ

HUAWEI P40 มาแบตเตอรี่ความจุ 3800 mAh บนตัวเครื่อง 175 กรัม ส่วนทางรุ่น HUAWEI P40 Pro มีแบตเตอรี่ความจุ 4200 mAh กับตัวเครื่อง 209 กรัม นอกจากนี้ HUAWEI P40 ยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 22.5W SuperCharge พร้อมเทคโนโลยีชาร์จไร้สายความเร็วเท่ากันที่ 22.5W SuperCharge ขณะที่รุ่น P40 Pro รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 40W SuperCharge พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จไร้สาย 27W Wireless SuperCharge และฟังก์ชัน Reverse Charging สำหรับแปลงเป็นแท่นชาร์จไร้สายให้กับอุปกรณ์อื่นอีกด้วย

 

สรุปราคา และวันวางจำหน่าย

HUAWEI P40 (8GB+128GB) เปิดราคาทางการที่ 22,990 บาท และ HUAWEI P40 Pro (8GB+256GB) ราคาทางการ 31,990 บาท กับตัวเลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Deep Sea Blue, Silver Frost และ Brush Gold

 

HUAWEI P40 Series เปิดให้จองล่วงหน้า (Pre-Order) แล้ววันนี้ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 นี้ โดยผู้ที่สั่งจองจะได้รับ HUAWEI Freebud 3 ฟรี ส่วน HUAWEI P40 Pro จะได้รับ HUAWEI Freebud 3 และ HUAWEI Wireless Car Charger ส่วนผู้ที่พรีออเดอร์จากผู้ให้บริการเครือข่าย จะได้รับสิทธิในการซื้อเครื่อง P40 ในราคาพิเศษ 5,490 บาท ทางด้าน P40 Pro ราคาพิเศษเริ่ม 7,990 บาท ซึ่งจะเริ่มวางจำหน่ายทางการในวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป

และผู้ที่สั่งซื้อ HUAWEI P40 Seires ทุกคน จะได้รับประกันเพิ่มเติมเป็น 2 ปี, ประกันจอแตก 90 วัน, HUAWEI Cloud Storage จำนวน 50GB เป็นเวลา 12 เดือน และแถม 5GB ให้ใช้งานตลอดไป, พร้อมบริการทำความสะอาดหน้าจอ ติดฟิล์มด้านหลัง 1 ครั้ง รวมไปถึงบริการซ่อมโทรศัพท์ถึงหน้าบ้าน 

 

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

[บทความนี้เป็น Advertorial]

วันที่ : 17/4/2563