หน้าแรกมือถือ > รวมข่าวมือถือ > หน้าบทความ ข่าวมือถือ
   
Date : 11/4/2562

Tips & Tricks : เทคนิคการถ่ายภาพด้วย Huawei P30 Series ให้สวยงามแบบมือโปร มีอะไรบ้าง ไปดูกัน!

 

Huawei P30 Series ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีความโดดเด่นด้านกล้องถ่ายภาพในช่วงเวลานี้เลยก็ว่าได้ เพราะสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปอย่าง Huawei P30 Pro ได้รับคะแนนทดสอบจากสถาบันทดสอบกล้องชั้นนำระดับโลกอย่าง DxOMark สูงที่สุดด้วยสกอร์ 112 คะแนน โดยทาง DxOMark ให้เหตุผลว่า Huawei P30 Pro มารพ้อมกับระบบโฟกัสที่ทำได้ไกล, การโฟกัสที่รวดเร็ว, การเก็บรายละเอียดในที่แสงน้อยได้ดี รวมทั้งยังมาพร้อมกับการเก็บข้อมูลชัดตื้นได้อย่างแม่นยำ ทำให้การถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอมีความสวยงาม

เชื่อว่าหลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า ภายใน Huawei P30 Series มีโหมดการถ่ายภาพแบบใดให้เลือกใช้งานบ้าง หรือการถ่ายภาพในโหมดต่างๆ ควรทำอย่างไร ดังนั้น ทางทีมงานจึงได้รวบรวมเทคนิค และ Tips & Tricks เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับการถ่ายภาพด้วย Huawei P30 Series มาให้ทุกท่านได้รับชมกัน หากพร้อมแล้วไปติดตามกันได้เลยครับ

 

ถ่ายภาพสวยในชัตเตอร์เดียวแบบไม่ต้องแต่งด้วย Master AI

หนึ่งในฟีเจอร์กล้องที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของสมาร์ทโฟน Huawei คือ Master AI ซึ่งเป็นฟังก์ชันอัจฉริยะที่นำระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ฉาก และซีนต่างๆ ที่อยู่ภายในเฟรม เช่น ดอกไม้, อาคาร หรือท้องฟ้า เพื่อนำไปปรับแต่งการตั้งค่าของกล้องถ่ายภาพ รวมถึงปรับสีสันของภาพถ่ายให้มีตวามสวยงามเหมาะสมแบบอัตโนมัติ ซึ่งนับว่าตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่อาจไม่คุ้นชินเกี่ยวกับการปรับการตั้งค่าของกล้องถ่ายภาพด้วยตนเอง หรือผู้ที่อาจปรับแต่งภาพถ่ายไม่เก่งมากนัก

 

สำหรับการเปิดใช้งานฟังก์ชัน Master AI ก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่แตะที่ไอคอน AI ที่อยู่บริเวณด้านบนของแอปพลิเคชันกล้องถ่ายภาพ ส่วนวิธีการใช้ก็ถือว่าสะดวกไม่แพ้กัน โดยให้ยกกล้องสมาร์ทโฟนไปส่องกับสิ่งที่ต้องการจะถ่าย ซึ่งเมื่อ AI สามารถตรวจจับซีนต่างๆ เหล่านั้นได้ จะปรากฏไอคอนที่บริเวณด้านล่าง และเมื่อผู้ใช้ถ่ายภาพ AI ก็จะทำการปรับแต่งภาพถ่ายให้สวยงามแบบอัตโนมัติทันที

 

Tips

  • Master AI สามารถตรวจจับซีนต่างๆ ได้มากกว่า 1,500 ซีน จากทั้งหมด 25 หมวดหมู่ เช่น เวที, ดอกไม้, ชายหาด, อาคาร, ท้องฟ้า ฯลฯ ซึ่งถือว่าครอบคลุมการถ่ายภาพในชีวิตประจำวันแทบทุกสถานการณ์
  • หลังจากตรวจจับซีนได้แล้ว AI จะปรับแสง, สีสัน และระดับความสว่างของภาพให้แบบอัตโนมัติ


 

ถ่ายภาพคนแบบหน้าชัดหลังละลาย พร้อมเก็บโบเก้ด้วยโหมด Portrait

ประโยชน์ของการถ่ายภาพแบบละลายฉากหลัง นอกจากจะช่วยเสริมให้ตัวแบบมีความโดดเด่นจากฉากหลังที่อาจวุ่นวาย หรืออาจดึงความสนใจไปของผู้ชมภาพไป ยังช่วยให้เราสามารถเก็บภาพเอฟเฟ็กต์โบเก้ดวงกลมแบบสวยๆ เหมือนกับภาพที่ถ่ายมาจากเลนส์กล้องระดับโปรได้อีกด้วย และที่สำคัญใน Huawei P30 Series ยังมาพร้อมกับเอฟเฟ็กต์โบเก้หลากหลายรูปแบบให้เราได้เลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น โบเก้ทรงกลม, โบเก้หมุน หรือโบเก้ทรงข้าวหลามตัด

 

วิธีการถ่ายภาพด้วยโหมด Portrait ให้ผู้ใช้เปิดแอปพลิเคชันกล้อง และปัดไปที่ด้านขวา (ใช้งานได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง) ซึ่งในเมนูจะเห็นได้ว่า เราสามารถปรับแต่งการตั้งค่าได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การปรับเอฟเฟ็กต์หน้าสวย (Beauty), ปรับเอฟเฟ็กต์โบเก้ และการปรับระดับการซูมได้ตั้งแต่ 1x ถึง 3x

 

Tips & Tricks

  • พยายามรอให้กล้องทำการโฟกัสใบหน้าตัวแบบก่อนที่จะทำการกดชัตเตอร์
  • หากต้องถ่ายภาพให้มีเอฟเฟ็กต์โบเก้ พยายามให้ตัวแบบยืนอยู่ด้านหน้าแหล่งกำเนิดแสงที่เป็นจุด เช่น หลอดไฟ, ไฟรถยนต์, ต้นไม้ที่มีแสงส่องผ่านใบไม้ เป็นต้น
  • สามารถปรับระดับการซูมภาพเพื่อเปลี่ยนอารมณ์ของภาพถ่ายได้ โดยระดับ 1x จะเหมาะกับการถ่ายภาพแบบเต็มตัว, 2x เหมาะสำหรับการถ่ายภาพแบบครึ่งตัว ส่วน 3x จะเหมาะกับการถ่ายภาพที่เน้นใบหน้าตัวแบบเป็นหลัก
  • หลีกเลี่ยงการใช้เอฟเฟ็กต์เบลอในโหมด Portrait เมื่อต้องการเก็บบรรยากาศของฉากด้านหลัง
  • หากต้องการปิดเอฟเฟ็กต์ Beauty ให้แตะที่ไอคอนรูปใบหน้าด้านขวาล่าง และเลื่อนการตั้งค่ามาที่ด้านซ้ายสุด

 

ถ่ายวัตถุใกล้ๆ ด้วยโหมด Super Macro

Huawei P30 Series มาพร้อมกับฟีเจอร์กล้องที่ถอดแบบมาจากรุ่นพี่อย่าง Mate 20 Series ด้วยนั่นก็คือ โหมด Super Macro ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโฟกัสวัตถุได้ใกล้สุดถึง 2.5 เซนติเมตร ตอบโจทย์การถ่ายวัตถุในระยะใกล้ หรือการเก็บรายละเอียดต่างๆ ที่อยู่รอบวัตถุ เป็นอย่างดี

 

สำหรับวิธีเปิดใช้งานโหมด Super Macro ทำได้สองวิธี วิธีแรกคือการนำสมาร์ทโฟนไปจ่อใกล้วัตถุที่ต้องการถ่าย และรอให้ Master AI ตรวจจับเป็นซีน Super Macro ส่วนวิธีที่สองให้ปัดที่เมนูกล้องไปด้านขวาสุด แตะที่ออพชัน More และเลือกฟังก์ชัน Super Macro ที่อยู่บริเวณด้านซ้ายล่าง

 

Tip & Tricks

  • การถ่ายภาพด้วยโหมด Super Macro ที่สภาพแสงที่เพียงพอ จะช่วยให้กล้องสามารถโฟกัสวัตถุได้แม่นยำขึ้น
  • สามารถปรับระดับการซูมไปที่ 1x เพื่อช่วยให้ซูมภาพใกล้ขึ้นได้

 

เปลี่ยน Perspective ด้วยฟังก์ชันซูมภาพ

ในรุ่น Huawei P30 Pro ผู้ใช้จะสามารถปรับระดับการซูมภาพผ่านการแตะที่ไอคอนด้านขวาของเมนูกล้องได้ทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่ 0.6x, 1x , 5x  และ 10x ซึ่งการซูมภาพในแต่ละระยะก็จะให้มุมมองของภาพที่แตกต่างกันออกไป

 

โดยในระยะ 0.6x จะเป็นการใช้เลนส์มุมกว้าง 120 องศาแบบ Ultra-Wide Angle เหมาะสำหรับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ หรือการถ่ายภาพแบบกลุ่ม ส่วนระยะ 1x จะเป็นระยะของกล้องหลัก ที่ 27mm. ซึ่งถือมีความกว้างพอตัว ตอบโจทย์การถ่ายภาพทั่วไปในทุกสถานการณ์ ด้านระยะ 5x จะเป็นระยะการซูมด้วยชิ้นเลนส์แบบ Optical Zoom เทียบเท่ากับระยะ 135mm. ตอบโจทย์การถ่ายภาพที่อยู่ไกลจากผู้ถ่าย และภาพที่ออกมาจะไม่สูญเสียรายละเอียด ส่วนระยะ 10x จะเป็นระยะของฟังก์ชันซูมภาพแบบ Hybrid Zoom ที่เป็นการใช้เลนส์ กับซอฟท์แวร์ทำงานร่วมกัน ทำให้ได้ระยะเทียบเท่า 270mm. ตอบโจทย์การถ่ายภาพที่อยู่ระยะไกลจากตัวผู้ถ่ายภาพ หรือถ่ายภาพในบางสถานการณ์ที่ไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้ เช่น การถ่ายภาพสัตว์ในสวนสัตว์, ภาพคอนเสิร์ต, ภาพอาคารสิ่งก่อสร้าง หรือภูเขา เป็นต้น

 

นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถซูมภาพด้วยซอฟท์แวร์แบบ Digital Zoom ได้ไกลถึง 50 เท่า ผ่านการแตะค้างที่ไอคอนปรับระดับการซูมที่ไอคอนด้านขวา หรือด้านล่าง จากนั้นให้ลากไอคอนซูมตามระยะที่ต้องการ 

 

Tips & Tricks

  • การซูมภาพด้วยระยะ 5x และ 10x จะทำให้องศาในการรับภาพแคบลงตามลักษณะของเลนส์ Telephoto จึงเหมาะสำหรับการถ่ายภาพที่เน้นเจาะตัวแบบ หรือวัตถุ เป็นหลัก
  • สามารถแตะค้าง และเลื่อนไอคอนปรับระดับการซูมที่ด้านขวา เพื่อลด-เพิ่ม ระยะการถ่ายภาพแบบละเอียดได้
  • สามารถใช้งานฟังก์ชัน Master AI ร่วมกับฟังก์ชันการซูมภาพในทุกระดับได้
  • สามารถใช้ฟังก์ชันซูมภาพร่วมกับโหมดถ่ายวิดีโอได้
  • การซูมภาพในระดับที่เกิน 10x ระบบป้องกันภาพสั่นไหวจะไม่ทำงาน ทำให้ภาพที่ออกมาอาจมีอาการเบลอหากผู้ใช้มือไม่นิ่ง จึงควรใช้งานร่วมกับขาตั้งกล้อง หรือวางสมาร์ทโฟนไว้บนแท่นยึดที่มีความแข็งแรง

 

ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอทุกสถานการณ์ด้วย Aperture

นอกจากโหมดถ่ายภาพคนบบหน้าชัดหลังเบลอแล้ว Huawei P30 Series ยังมีโหมดถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลออีกรูปแบบหนึ่งนั่นคือ Aperture Mode ซึ่งเป็นการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอผ่านการจำลองค่ารูรับแสง หรือค่า F คล้ายกับการถ่ายภาพด้วยเลนส์กล้องระดับโปร โดยผู้ใช้สามารถปรับการจำลองค่ารูรับแสงได้ตั้งแต่ F/0.95 - F16

 

วิธีการใช้ Aperture Mode ให้ผู้ใช้ปัดไปที่ด้านซ้ายสุดของเมนูกล้อง ซึ่งในหน้า Viewfinder สามารถปรับแต่งการตั้งต่าได้ทั้งหมด 3 อย่าง ได้แก่ การปรับสีสันของภาพ, ปรับระดับการซูมภาพ และปรับเอฟเฟ็กต์การจำลองค่ารูรับแสง

 

Tips & Tricks

  • สามารถปรับเอฟเฟ็กต์ค่ารูรับแสงได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการใช้นิ้วลากไปยังด้านซ้าย หรือด้านขวา
  • ยิ่งใช้ค่า F ตัวเลขน้อย จะช่วยให้ฉากหลังละลายมากยิ่งขึ้น ส่วนค่า F มากจะช่วยให้ภาพมีความคมชัดทั้งภาพ
  • เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แนะนำให้ยืนห่างจากวัตถุไม่เกิน 2 เมตร เพื่อป้องกันการโฟกัส และการละลายฉากหลังที่ผิดพลาด

 

ถ่ายกลางคืนด้วย Night Mode

อีกหนึ่งฟังก์ชันขึ้นชื่อของ Huawei P30 Series คือ Night Mode หรือโหมดถ่ายภาพกลางคืนโดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องใช้ขาตั้งกล้องแต่อย่างใด โดยวิธีการทำงานของ Night Mode นั้น จะเป็นการใช้เทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหวด้วย AI แบบ Huawei AI Image Stabilization (AIS) ผสานร่วมกับเทนิคการถ่ายภาพแบบเปิดหน้ากล้องค้างไว้เป็นเวลาหลายวินาที หรือที่ Huawei เรียกว่า ระบบ Huawei AIS Long Exposure ส่งผลให้ภาพที่ออกมามีความสว่างกว่าการถ่ายภาพด้วยโหมดปกติ รวมทั้งยังสามารถเก็บสีสันได้อย่างคมชัดครบถ้วน

 

วิธีการเปิดใช้งาน Night Mode ให้เลื่อนไปที่ด้านซ้ายของเมนูกล้อง จะพบกับโหมด Night ซึ่งภายในหน้าเมนูจะมีออพชันให้ผู้ใช้ปรับแต่งการตั้งต่าได้ทั้งหมด 3 ส่วน ได้แก่ ปรับระดับการซูมภาพได้ตั้งแต่ Wide, 1x, 5x และ 10x, ปรับค่าความไวแสงได้ตั้งแต่ ISO 100 - 1600 และปรับค่าความเร็วชัตเตอร์ได้ตั้งแต่ 1 / 4 - 32 วินาที

 

Tips & Tricks

  • เนื่องจาก Night Mode จะถ่ายภาพเป็นเวลาหลายวินาที จึงอาจทำให้เกิดอาการภาพซ้อนหากถ่ายวัตถุที่มีความเคลื่อนไหว จึงทำให้เหมาะแก่การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ หรืออาคารในยามค่ำคืน หากต้องการเก็บภาพไฟท้ายของรถยนต์ที่ลากเป็นเส้นยาว โหมด Light Painting จะตอบโจทย์มากกว่า
  • หากต้องการปรับค่า ISO และ Speed Shutter ด้วยตนเอง แนะนำให้ปรับค่า ISO ให้ต่ำที่สุดเพื่อป้องกันการเกิด Noise ส่วน Speed Shutter แนะนำให้ปรับไม่เกิน 5 วินาที เพื่อป้องกันอาการ Overexposed หรือหากต้องการเปิดหน้ากล้องเป็นเวลานาน แนะนำให้ใช้ ND Filter เพื่อช่วยลดปริมาณแสงที่เข้ามายังหน้าเลนส์
  • หากต้องการให้ภาพมีความสว่าง และคมชัดมากที่สุด แนะนำให้ใช้งานร่วมกับขาตั้งกล้อง เนื่องจากหากโทรศัพท์นิ่ง Night Mode จะทำการถ่ายภาพเป็นเวลานานกว่าการถือด้วยมือเปล่า

 

สื่ออารมณ์ด้วยภาพขาวดำ

แม้ว่าใน Huawei P30 Series จะไม่มีเซ็นเซอร์รับภาพขาวดำเหมือนกับรุ่น Huawei P20 Series แล้ว แต่เรายังสามารถถ่ายภาพในโทนขาวดำได้เช่นเดิมผ่านฟังก์ชันที่เรียกว่า Monochrome โดยทาง Huawei จะนำพลัง AI อัจฉริยะบนชิปเซ็ต Kirin 980 เข้ามาช่วยประมวลผลภาพขาวดำแทนเซ็นเซอร์ Monochrome นั่นเอง

 

วิธีเปิดใช้งานฟังก์ชันถ่ายภาพขาวดำ ให้ผู้ใช้ปัดไปทางขวาสุดจากเมนูกล้อง จากนั้นเลือก More และแตะที่ไอคอน Monochrome ซึ่งภายในหน้าเมนูถ่ายภาพจะพบว่า เราสามารถเลือกโหมดถ่ายภาพขาวดำได้ทั้งหมด 4 รูปแบบ ได้แก่ โหมดถ่ายภาพปกติ, โหมดถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ, โหมดถ่ายภาพบุคคลแบบหน้าชัดหลังเบลอ และโหมดถ่ายภาพแบบ Pro

 

ถ่ายไฟด้วย Light Painting

นอกจากการถ่ายภาพเป็นเวลานานหลายวินาทีใน Night Mode แล้ว Huawei P30 Series ยังมีโหมดถ่ายภาพที่ใช้เทคนิคแบบ Long Exposure อีกหนึ่งโหมดคือ Light Painting ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเก็บภาพสายน้ำของน้ำตก, เก็บภาพไฟท้ายรถวิ่งเป็นเส้นยาว, การเก็บภาพไฟกราฟิติ หรือการถ่ายภาพดวงดาว โดยที่ไม่จำเป็นต้องตั้งค่ากล้องให้ยุ่งยากแค่อย่างใด

วิธีการเปิดใช้งาน Light Painting ให้ผู้ใช้ปัดไปทางขวาสุดจากเมนูกล้อง จากนั้นเลือก More และแตะที่ไอคอน Light Painting ซึ่งภายในหน้าเมนูถ่ายภาพจะพบว่า เราสามารถเลือกโหมดถ่ายภาพได้ทั้งหมด 4 รูปแบบ รวมทั้งสามารถปรับระดับการซูมภาพได้ 4 ระดับ ได้แก่ Wide, 1x, 5x และ 10x โดยการถ่ายภาพในแต่ละโหมด จะเป็นการเปิดหน้าชัตเตอร์กล้องค้างไว้ตลอดต่างจาก Night Mode ที่มีระยะเวลานับถอยหลัง

 

Tips & Tricks

  • เนื่องจากฟังก์ชัน Huawei AIS จะไม่ทำงานในโหมด Light Painting ดังนั้น แนะนำให้ใช้งานร่วมกับขาตั้งกล้อง หรือหาที่ยึดโทรศัพท์เพื่อให้ภาพมีความคมชัด และป้องกันการเกิดภาพเบลอ (*Huawei จะมีการอัปเดตให้สามารถถ่ายสายน้ำตกโดยไม่จำเป็นต้องใช้ขาตั้งกล้องได้ในภายหลัง)
  • หากต้องการถ่ายภาพเส้นไฟกราฟิติ แนะนำให้ถ่ายในที่โล่งที่ไม่มีแสงรบกวน และใช้แหล่งกำเนิดแสงที่มีความเหมาะสม เช่น ไฟแฟลชจากมือถือ หรือแท่งไฟ เป็นต้น
  • หากต้องการถ่ายภาพเส้นไฟท้ายรถ ระวังอย่าให้ไฟรถสาดเข้าหากล้องโดยตรง เพื่อป้องกันอาการ Overexposed
  • หากต้องการถ่ายภาพดวงดาว แนะนำหาสถานที่ที่ท้องฟ้าเปิดโล่ง และไม่มีแสงไฟรบกวน

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่ทางทีมงานได้หยิบยกมาให้ทุกท่านได้รับชมกันในวันนี้ โดยนอกเหนือจากความสามารถด้านกล้องถ่ายภาพแล้ว Huawei P30 Series ยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลแบบ OLED ทรง Dewdrop Display ที่แสดงสีสันได้อย่างคมชัดสดใส, ขุมพลังอัจฉริยะตัวท็อป Kirin 980 ที่ตอบโจทย์การใช้งานรอบด้าน, ระบบชาร์จเร็วแบบ SuperCharge 40W ที่ชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-70% ได้ในเวลา 30 นาที รวมถึงงานออกแบบที่มีเอกลักษณ์ด้วยบอดี้ไล่เฉดสีเงางาม โดย Huawei P30 Series เริ่มขายแล้ววันนี้ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 21,990 บาทสำหรับรุ่น Huawei P30 ส่วนรุ่น Huawei P30 Pro เปิดราคาขายที่ 31,990 บาท สำหรับใครที่สนใจก็สามารถแวะเวียนไปทดลองใช้งาน และจับจองเป็นเจ้าของได้ที่ Huawei Brand Shop และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศครับ

 

นำเสนอบทความโดย: thaimobilecenter.com
[บทความนี้เป็น Advertorial]


วันที่ : 11/4/2562

ข่าวมือถือ บทความมือถือ ที่เกี่ยวข้อง
 

Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy