รวมมือถือระดับกลางรองรับ 5G พร้อมขายในไทยแล้ววันนี้ มีรุ่นเด่นจากแบรนด์ใดบ้าง มาดูกัน
สำหรับท่านที่หมั่นติดตามข่าวสารในวงการสมาร์ทโฟนอยู่เป็นประจำก็จะทราบดีว่า การรองรับเครือข่าย 5G ถือเป็นฟีเจอร์ใหม่บนเรือธงในปี 2020 และตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าเริ่มเห็นการเปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับกลางที่รองรับ 5G มากยิ่งขึ้น ในวันนี้ทางทีมงานจึงได้รวบรวมสมาร์ทโฟนระดับกลางที่รองรับเครือข่าย 5G พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว มาให้ได้ชมกัน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับท่านที่สนใจ ซึ่งจะมีรุ่นเด่นจากแบรนด์ใดบ้าง มาชมกันเลยค่ะ
Samsung Galaxy A71 5G : 19,990
สมาร์ทโฟนรุ่นอัปเกรดที่มาพร้อมความสามารถในการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G ด้วยชิปเซ็ตระดับรองท็อปรุ่นใหม่อย่าง Exynos 980 พร้อมฝาหลังลายใหม่ในชื่อ Prism Cube ที่มีการแบ่งลวดลายออกเป็น 2 ฝั่งอย่างชัดเจน และมีหน้าจอไร้ขอบเจาะรูกล้องหน้าแบบ Super AMOLED Plus Infinity-O Display ขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (On-Screen Fingerprint) และมีแบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 25W Super Fast Charging และมาพร้อมกับกล้องหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ประกอบกับเลนส์ Ultra-Wide, Macro และ Depth สำหรับการถ่ายภาพในทุกระยะ
จุดเด่นที่น่าสนใจของ Samsung Galaxy A71 5G
- หน้าจอ Super AMOLED Plus Infinity-O Display ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+
- กล้องหลัง 4 ตัว คมชัด 64 ล้านพิกเซล (เลนส์ Wide + Ultra Wide + Depth + Macro)
- แบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 25W Fast Charging
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (On-Screen Fingerprint)
HUAWEI nova 7 : 16,990 บาท
สมาร์ทโฟนรัะดับท็อปที่มาพร้อมชิปเซ็ตระดับท็อปรุ่นใหม่อย่าง Kirin 985 รองรับ 5G จับคู่กับ RAM 8GB + ROM 128GB และมีกล้องหลัง 4 ตัว (Quad Camera) โดยมีกล้องหลักคมชัด 64 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ Ultra-Wide, เลนส์ Telephoto รองรับการซูมแบบ Optical ที่ 3 เท่า (3x Optical Zoom), ซูมแบบ Hybrid ที่ 5 เท่า (5x Hybrid Zoom) และซูมสูงสุด 20 เท่า (20x Digital Zoom) ส่วนกล้องหน้าฝังบนจอมีความคมชัด 32 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดถ่ายเซลฟี่กลางคืนอย่าง Super Night Selfie 3.0 อีกทั้งยังมีแบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 40W HUAWEI SuperCharge ที่สามารถชาร์จจากระดับ 0-70% ได้ในเวลา 30 นาที
จุดเด่นที่น่าสนใจของ HUAWEI nova 7
- หน้าจอ OLED ขนาด 6.53 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+
- ชิปเซ็ต Kirin 985
- กล้องหลัง 4 ตัว คมชัด 64 ล้านพิกเซล (เลนส์ Wide + Ultra Wide + Telephoto + Macro)
- แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 40W HUAWEI SuperCharge
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (In-Screen Fingerprint)
HUAWEI nova 7 SE : 11,990 บาท
สมาร์ทโฟนรุ่นน้องที่มากับชิปเซ็ตระดับกลางรุ่นใหม่อย่าง Kirin 820 พร้อมรองรับ 5G จับคู่กับ RAM 8GB + ROM 128GB มีแบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 40W HUAWEI SuperCharge ที่สามารถชาร์จจากระดับ 0-70% ได้ในเวลา 30 นาที และกล้องหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ที่กล้องตัวหลักคมชัดถึง 64 ล้านพิกเซล
จุดเด่นที่น่าสนใจของ HUAWEI nova 7 SE
- หน้าจอ Punch Display ขนาด 6.53 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+
- กล้องหลัง 4 ตัว คมชัด 64 ล้านพิกเซล (เลนส์ Wide + Ultra Wide + Bokeh + Macro)
- แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 40W HUAWEI SuperCharge
realme X50 5G : 12,990 บาท
สเปก realme X50 5G | รีวิว realme X50 5G
สมาร์ทโฟนรุ่นรองเรือธงชูโรงที่การรองรับ 5G ด้วยชิปเซ็ตตัวแรงอย่าง Qualcomm Snapdragon 765G จับคู่กับ RAM ขนาด 8GB และ ROM ขนาด 128GB พร้อมการดีไซน์จอไร้ขอบฝังกล้องหน้าคู่บนจอแบบ Dual Punch-Hole Display ความละเอียด 16 + 2 ล้านพิกเซล พร้อมกับจุดเด่นอย่างค่า Refresh Rate ระดับสูงสุด 120Hz มีกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว (AI Quad Camera) ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ความจุ 4200 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W Dart Charge โดยสามารถชาร์จจากระดับ 0-70% ได้ในเวลา 30 นาที
จุดเด่นที่น่าสนใจของ realme X50 5G
- หน้าจอ Ultra Smooth 120Hz ขนาด 6.57 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 765G
- กล้องหลัง 4 ตัว คมชัด 64 ล้านพิกเซล (เลนส์ Wide + Ultra Wide + B&W Portrait + Macro)
- แบตเตอรี่ความจุ 4200 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W Dart Charge
OnePlus Nord : 14,990 บาท
สเปก OnePlus Nord | รีวิว OnePlus Nord
สมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นแรกของทาง OnePlus ที่มาในดีไซน์จอไร้ขอบเจาะรูกล้องหน้าคู่แบบ Dual Punch-Hole Display ใช้เทคโนโลยี Fluid AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว พร้อม Refresh Rate ระดับสูงสุด 90Hz ที่ใช้งานได้ลื่นไหลกว่าเดิม รวมถึงเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังใต้หน้าจอ (In-Display Fingerprint) บนตัวเครื่องเงางามแบบ Metalic พร้อมพื้นผิวแบบกระจกด้าน รันด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 765G จับคู่กับ RAM ขนาด 12GB มีแบตเตอรี่ความจุ 4115 mAh ที่รองรับเทคโนโลยี Warp Charge 30T และมีกล้องหลัง 4 ตัว (Quad Camera) คมชัด 48 ล้านพิกเซล ประกบกับเลนส์ Ultra-Wide, Depth และ Macro รองรับการถ่ายภาพในทุกระยะ
จุดเด่นที่น่าสนใจของ OnePlus Nord
- หน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 765G
- กล้องหลัง 4 ตัว คมชัด 48 ล้านพิกเซล (เลนส์ Wide + Ultra Wide + Depth + Macro)
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (In-Display Fingerprint)
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับมือถือระดับกลางที่รองรับ 5G ในไทยข้างต้น พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ซึ่งนอกจากกาคเชื่อมต่อ 5G แล้ว สเปกโดยรวม และสไตล์การใช้งานเฉพาะตัวของผู้ใช้ก็เป็นสิ่งสำคัญในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนเช่นกัน หากลองใช้แล้วรู้สึกพึงพอใจ ก็ถือได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นคุ้มค่าแก่การจับจองเป็นเจ้าของแล้วค่ะ
สำหรับการทดลองใช้งานเครือข่าย 5G ในขณะนี้ยังมีเพียงบางพื้นที่เท่านั้น โดยสามารถตรวจสอบว่าซิมของคุณรองรับเครือข่าย 5G ได้แบบไม่มีค่าใช้จ่าย ดังนี้
AIS : กด *987# โทรออก
TrueMove H : กด *555*1# โทรออก
สำหรับ dtac ถือครอง 5G คลื่นความถี่ 26GHz โดยมือถือที่รองรับคลื่นความถี่สูงแบบ mmWave ตั้งแต่ 24GHz ขึ้นไปจะสามารถใช้งานได้ แต่สมาร์ทโฟนรุ่นที่วางจำหน่าย ณ ตอนนี้ ยังไม่มีรุ่นใดรองรับช่วงคลื่นความถี่ดังกล่าว ซึ่งก็ต้องคอยติดตามกันต่อไปว่าจะมีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นที่รองรับคลื่นนี้มาเมื่อใด
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 3/9/2563