พรีวิว (Preview) สัมผัสแรกกับ ZTE Blade L5 Plus
สมาร์ทโฟน 2 ซิม รุ่นประหยัดใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมจอ IPS HD ขนาดใหญ่ 5 นิ้ว กับชิปเซ็ต Quad-Core MediaTek MT6580, แรม 1 GB, หน่วยความจำภายใน 8 GB, กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล ในราคาเพียง 2,990 บาท
Preview
Date (24-เมษายน-2559)

ในปัจจุบันสมาร์ทโฟนระดับพื้นฐานนั้นมีวางจำหน่ายในท้องตลาดมากกว่าแต่ก่อน นั้นก็เพราะว่าเหล่าผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ต้องการที่จะเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนราคาประหยัด โดยจะเห็นได้ว่าสมาร์ทโฟนที่มีระดับราคาไม่เกิน 3,000 บาท นั้นมีวางจำหน่ายมากมายหลายรุ่นด้วยกัน อย่างไรก็ดี ด้วยต้นทุนการผลิตที่ไม่สูงมากนัก จึงทำให้คุณสมบัติต่างๆ ถูกลดทอนตามไปด้วยนั่นเอง อีกทั้งยังส่งผลให้การใช้งานบางอย่างไม่ลื่นไหลเท่าที่ควรอีกด้วย แต่ก็ไม่แน่เสมอไป เพราะในวันนี้ทางทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์มีสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่มาพร้อมสเปคครบเครื่องอยู่หนึ่งรุ่น จึงอยากจะมาแนะนำให้ท่านผู้อ่านได้รู้จักกัน นั่นคือ ZTE Blade L5 Plus ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติตัวเครื่องที่เรียกได้ว่า คุ้มค่า และสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายเลยก็ว่าได้
สำหรับคุณสมบัติโดยรวมของ ZTE Blade L5 Plus ก็นับว่าจัดมาให้ครบครันไม่แพ้สมาร์ทโฟนในระดับราคาเดียวกัน โดยมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ IPS ความละเอียดระดับ HD (720p) ที่มีขนาดใหญ่ถึง 5 นิ้ว พร้อมด้วยชิปเซ็ต Quad-Core MediaTek MT6580 ความเร็วในการประมวลผล 1.3 GHz, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 1 GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 8 GB, กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด, รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง (Motion Control) และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการที่ยังคงสดใหม่อย่าง Android 5.1 (Lollipop) ซึ่งหากมองจากสิ่งที่มีอยู่บน ZTE Blade L5 Plus ก็นับว่าคุ้มค่าไม่น้อยเมื่อเทียบกับราคาค่าตัวเพียง 2,990 บาท เท่านั้น และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไปชมสัมผัสแรกกันสักหน่อยดีกว่าครับ ว่า ZTE Blade L5 Plus รุ่นนี้ จะมีอะไรน่าสนใจกันบ้าง
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

ZTE Blade L5 Plus มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 พิกเซล (HD 720p) ขนาด 5 นิ้ว โดยมีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 143x72x8.3 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 132 กรัม

ด้านหน้าส่วนบนประกอบไปด้วยสัญญาณไฟ LED สำหรับการแจ้งเตือนต่างๆ, กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, ระบบ Accelerometer Sensor สำหรับช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน

ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานแบบสัมผัส (Touch Panel) ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps โดยมีความพิเศษเล็กน้อยคือผู้ใช้งานสามารถสลับตำแหน่งระหว่างปุ่มย้อนกลับ และปุ่ม Recent Apps ได้ แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน

ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องสำหรับเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านล่างของตัวเครื่องมีไมโครโฟนสำหรับการสนทนา และช่องเชื่อมต่อกับสาย microUSB สำหรับส่งผ่านข้อมูล หรือชาร์จแบตเตอรี่

ด้านขวาของตัวเครื่องประกอบไปด้วยปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับของเสียง

ด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีปุ่มการสั่งงานใดๆ ใช้งาน

ด้านหลังของตัวเครื่องประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED และลำโพงเสียงภายนอก

และเมื่อเปิดฝาหลังออกมาก็จะพบกับช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดที่ 1, ช่องใส่ซิมการ์ดที่ 2 และช่องสำหรับเพิ่มหน่วยความภายนอกแบบ microSD

ส่วนแบตเตอรี่จะมีความจุ 2150 mAh
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ
 
ZTE Blade L5 Plus มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.1 Lollipop

โดยมีหน่วยความจำภายในขนาด 8 GB
 
ZTE Blade L5 Plus มาพร้อมกับแอปพลิเคชัน "โหมดใช้งานได้ง่าย" ซึ่งเหมาะกับผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก โดยตัวแอปพลิเคชันได้รวบรวมฟังก์ชันต่างๆ ที่จำเป็นต่อการใช้งานไว้ในที่เดียว เช่น ฟังก์ชันโทรศัพท์, รายชื่อโทรศัพท์ หรืออัลบั้มภาพถ่าย อีกทั้งยังปรับขนาดตัวอักษรให้มีขนาดใหญ่ เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจน นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มฟังก์ชัน หรือแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมในส่วนนี้ได้อีกด้วย
 
นอกจากนี้ ZTE Blade L5 Plus ยังรองรับการสั่งงานด้วยท่าทางได้ เช่น การปลดล็อกหน้าจอด้วยการปาดฝ่ามือบนหน้าจอ, การยกโทรศัพท์แนบใบหูเพื่อรับสาย หรือเขย่าโทรศัพท์เพื่อรับสายเรียกเข้า
 
อีกทั้งยังสามารถปรับตำแหน่งของปุ่มการสั่งงานแบบสัมผัสได้ 2 แบบด้วยกัน
 
ส่วนบริการต่างๆ จากทาง Google ก็มีให้ใช้งานครบครัน เช่น Gmail หรือ Youtube

ZTE Blade L5 Plus สามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น บอกได้เลยว่า ไม่มีอาการสะดุดให้พบเจอ (แต่แสดงผลได้ที่ความละเอียดระดับ HD 720p เท่านั้น ตามคุณสมบัติของหน้าจอ)
 
และยังมีแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลงให้ใช้งาน อีกทั้งยังสามารถปรับค่าอีควอไลเซอร์ได้ตามต้องการ

นอกจากนี้ ZTE Blade L5 Plus สามารถเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติได้อย่างไหลลื่นอีกด้วย

เมื่อนำ ZTE Blade L5 Plus มาทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 23348 คะแนน

ทางด้านกล้องดิจิทัลบน ZTE Blade L5 Plus จะมี User Interface ที่ใช้งานได้ง่าย แถมยังมีการแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน สามารถเลือกใช้งานทันที

ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านมีการแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้เช่นเดียวกับกล้องดิจิทัลด้านหลัง และมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beauty) ให้ใช้งาน อีกทั้งยังสามารถสั่งงานถ่ายภาพด้วยท่าทางได้ด้วยการชู 2 นิ้ว เป็นรูปตัววี
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล ของ ZTE Blade L5 Plus

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beauty) ของ ZTE Blade L5 Plus
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย
สรุปผลการทดสอบของ ZTE Blade L5 Plus

สำหรับการพรีวิวสัมผัสแรกกับ ZTE Blade L5 Plus สมาร์ทโฟนรุ่นประหยัดใหม่ล่าสุดจากแดนมังกร ก็จบลงไปแล้วนะครับ และจากการทดสอบในเบื้องต้น ก็พอที่จะสรุปได้ว่า ZTE Blade L5 Plus นั้น คือสมาร์ทโฟนสุดคุ้มอีกรุ่นที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย ทั้งการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติ หรือชมภาพยนตร์ความละเอียดสูง อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ให้ใช้งานอย่างครบครันอีกด้วย และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ บน ZTE Blade L5 Plus ยังมาพร้อมกับ "โหมดการใช้งานง่าย" ซึ่งเหมาะกับผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก โดยตัวแอปพลิเคชันได้รวบรวมฟังก์ชันต่างๆ ที่จำเป็นต่อการใช้งานไว้ในที่เดียว แถมยังปรับขนาดตัวอักษรให้มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจน บอกได้เลยว่าต้องถูกอกถูกใจผู้สูงอายุอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ทางด้านคุณสมบัติตัวเครื่องบางส่วนก็ดูโดดเด่นกว่าสมาร์ทโฟนในระดับราคาเดียวกัน เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียดระดับ HD (720p) ขนาด 5 นิ้ว พร้อมด้วยชิปเซ็ต Quad-Core MediaTek MT6580 ความเร็วในการประมวลผล 1.3 GHz, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 1 GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 8 GB, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด, รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง (Motion Control) และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการที่ยังคงสดใหม่อย่าง Android 5.1 (Lollipop)
ในส่วนของกล้องดิจิทัลก็ตอบสนองต่อการถ่ายภาพได้ดี และจากการทดสอบถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิทัลด้านหลังที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ก็สามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้ครบถ้วย และภาพที่ได้ก็มีความสวยคมชัดในระดับหนึ่ง ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้กัน อีกทั้งยังมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beauty) ให้ใช้งานอีกด้วย
จากการพรีวิวสัมผัสแรกข้างต้น จะเห็นได้ว่า ZTE Blade L5 Plus มีฟีเจอร์ดีๆ ให้ใช้งานหลายอย่าง และเปิดราคามาเพียง 2,990 บาท เท่านั้น เรียกได้ว่า ประหยัดเงินในกระเป๋าสุดๆ แต่อย่างไรก็ดี ที่เห็นกันไปข้างต้นก็เป็นเพียงการแนะนำ ZTE Blade L5 Plus ในเบื้องต้น เท่านั้น โดย ZTE Blade L5 Plus รุ่นนี้ยังมีฟีเจอร์ และฟังก์ชันที่น่าสนใจอีกมากมาย ซึ่งทางทีมงานจะกล่าวถึงโดยละเอียดอีกครั้งในรีวิวฉบับเต็ม
และหากท่านใดสนใจก็สามารถสั่งซื้อ ZTE Blade L5 Plus ได้ง่ายๆ ผ่านทางเว็บไซต์ Lazada เจ้าเก่าในวันที่ 25 เมษายน 2559 นี้ ตั้งแต่เวลา 12.00-14.00 น. สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อน พบกันใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ ZTE Blade L5 Plus
- ตัวเครื่องมีขนาดที่กะทัดรัดเหมาะมือ
- จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5 นิ้ว พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-400 MP
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Quad-Core MediaTek MT6580 ความเร็วในการประมวลผล 1.3 GHz ที่มีความเร็วในการประมวลผล 1.3 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.1 (Lollipop)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 8 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 32 GB (ใช้งานร่วมกับช่องใส่ซิมการ์ดที่สอง)
- กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่องความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p
- กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 2 ล้านพิกเซล พร้อมระบบตรวจจับใบหน้าอัตโนมัติ และรองรับการใช้งานร่วมกับโหมดการถ่ายหน้าสวย (Beauty)
- รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง (Motion Control)
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 3G, WiFi, EDGE และ GPRS
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) พร้อมรองรับระบบดาวเทียม GLONASS ของรัสเซีย
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว (Dual SIM : Dual Standby)
- วิทยุ FM Stereo ในตัว พร้อมฟังก์ชันบันทึกเสียงจากรายการวิทยุ
- ราคาเพียง 2,990 บาท
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ ZTE Blade L5 Plus
- หน่วยความจำขนาด 8 GB อาจไม่เพียงพอต่อการเก็บข้อมูล จำเป็นต้องอาศัยการเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD
- หน่วยความจำแรม (RAM) 1 GB ถือว่าค่อนข้างน้อย
- ตัวเครื่องมีการสะสมความร้อนแบบรู้สึกได้ ขณะใช้งานที่มีการประมวลผลหนักๆ
- ไม่รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบเครือข่ายความเร็วสูงแบบ 4G LTE ในขณะที่สมาร์ทโฟนบางรุ่นในระดับราคาใกล้เคียงกันสามารถใช้งานได้
- ไม่รองรับคลื่นความถี่ 900 MHz
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปคุณสมบัติเครื่อง
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติ (Specification) ของ ZTE Blade L5 Plus ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้
สรุปคุณสมบัติของ ZTE Blade L5 Plus
สั่งซื้อ ZTE Blade L5 Plus ในราคาเพียง 2,990 บาท
ท่านสามารถสั่งซื้อ ZTE Blade L5 Plus ได้ในวันที่ 25 เมษายน 2559 ณ ช่วงเวลา 12.00-14.00 น. โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้

title="Sony Xperia ZL Specification">

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|