รีวิว (Review) Xiaomi Mi 6
สมาร์ทโฟนเรือธงตัวท็อปสเปกแรง พร้อมดีไซน์สุดพรีเมียม ในราคาที่คุ้มค่า ด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 835, RAM 6GB, ROM 128GB, กล้องคู่ 12 ล้านพิกเซล, ระบบกันสั่นแบบ 4 แกน และ Optical Zoom 2 เท่า บนบอดี้กระจกโค้งที่ไม่กลัวน้ำ ในราคาเพียง 15,990 บาท!
Review
Date (2-พฤศจิกายน-2560)

สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ กลับมาพบกับทีมงาน Thaimobilecenter ในรีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นเด็ดกันอีกครั้งนะครับ เรียกได้ว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แบรนด์สมาร์ทโฟนหลายๆ แบรนด์ต่างพากันเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่กันอย่างเนืองแน่น ตั้งแบรนด์เล็กไปจนแบรนด์ใหญ่ และมีสมาร์ทโฟนบางแบรนด์ที่เริ่มเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเองด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Xiaomi แบรนด์สมาร์ทโฟนสุดคุ้มที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะ Xiaomi นั้นขึ้นชื่อในเรื่องของการผลิตสมาร์ทโฟนที่มีคุณสมบัติระดับท็อป แต่วางจำหน่ายในราคาที่ค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ทำให้ผู้ใช้ชาวไทยหลายคนต่างสรรหามือถือ Xiaomi มาใช้งานกันอย่างเนืองแน่น แม้จะเป็นเครื่องหิ้วก็ตาม
ล่าสุดหลังจากที่ Xiaomi ได้ประกาศเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเต็มตัว ทางแบรนด์เองก็ได้นำสมาร์ทโฟนเรือธงของค่ายในชื่อ Xiaomi Mi 6 เข้ามาประเดิมการวางจำหน่ายในไทยด้วย ซึ่ง Xiaomi Mi 6 นั้นมีจุดเด่นอยู่หลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลแบบ Full HD 1080p ขนาด 5.15 นิ้ว พร้อมฟีเจอร์ 1nit ultra-dark night display สำหรับปรับลดความสว่างหน้าจอให้น้อยลงมากกว่าปกติถึง 4 เท่า, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Under-Glass Fingerprint Scanner, รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM) บนเทคโนโลยี Full Netcom 4.0, รองรับการเชื่อมต่อแบบ 2x2 Dual Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0 และ NFC, ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat และมีแบตเตอรี่ความจุ 3350 mAh พร้อมเทคโนโลยี Quick Charge 4.0
นอกจากนี้ Xiaomi Mi 6 ยังพกพาความเร็วแรง และลื่นไหลในการใช้งานมาอย่างเต็มเปี่ยมด้วย ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 835 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด, หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 540, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาดใหญ่ถึง 6GB และหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาดจุใจ 128GB
หรือว่าจะเป็นในส่วนของกล้องถ่ายภาพก็มีความโดดเด่น และน่าใช้งานเช่นเดียวกัน โดย Xiaomi Mi 6 ใช้งานกล้องถ่ายภาพแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบคู่ (Dual-Tone LED), รองรับเทคโนโลยีซูมภาพด้วยเลนส์แบบ Optical Zoom, การซูมแบบดิจิทัล 10 เท่า (X10 Digital Zoom), ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS ทั้งหมด 4 แกน (4-axis OIS), ระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) และรองรับการถ่ายภาพในฟังก์ชัน Bokeh ส่วนกล้องด้านหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
จะเห็นได้ว่าในส่วนของจุดเด่นบน Xiaomi Mi 6 นั้นเรียกได้ว่ามีมาให้แบบจัดเต็มสมฐานะเรือธงเลยทีเดียว แต่ในการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร เร็วแรงสมคำร่ำลือหรือไม่ และรูปลักษณ์ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยหรูพรีเมียมขนาดไหน สามารถติดตามชมได้ใน รีวิว (Review) Xiaomi Mi 6 ไปพร้อมกันได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Xiaomi Mi 6 มาพร้อมตัวเครื่องแบบ Metal-Glass โดยมีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 145.17x70.49x7.45 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 168 กรัม ส่วนหน้าจอแสดงผลเป็นแบบ Full HD 1080p ขนาด 5.15 นิ้ว ความละเอียด 1080x1920 พิกเซล พร้อมฟีเจอร์ 1nit ultra-dark night display สำหรับปรับลดความสว่างหน้าจอให้น้อยลงมากกว่าปกติถึง 4 เท่า เพื่อถนอมสายตาสำหรับการใช้งานในสภาวะที่มีแสงน้อย

ด้านหน้าส่วนบนประกอบด้วย : กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์ Accelerometer ที่ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้, เซ็นเซอร์ Proximity สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน และลำโพงสำหรับการสนทนา หรือลำโพงตัวที่สอง

ด้านหน้าส่วนล่างประกอบด้วย : ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) และปุ่มย้อนกลับ

ด้านซ้ายประกอบด้วย : ถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Dual-SIM

ด้านขวาประกอบด้วย : ปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับเสียง

ด้านบนประกอบด้วย : เซ็นเซอร์ Infrared สำหรับใช้เป็นรีโมทคอนโทรลกับผลิตภัณฑ์ของ Xiaomi และไมโครโฟนตัวที่สอง

ด้านล่างประกอบด้วย : ลำโพงเสียงแบบคู่ (Dual-Speaker) และช่องเชื่อมต่อ USB Type-C

ด้านหลังประกอบด้วย : กล้องถ่ายภาพแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบคู่ (Dual-Tone LED), รองรับเทคโนโลยีซูมภาพด้วยเลนส์แบบ Optical Zoom, การซูมแบบดิจิทัล 10 เท่า (X10 Digital Zoom), ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS ทั้งหมด 4 แกน (4-axis OIS), ระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) และรองรับการถ่ายภาพในฟังก์ชัน Bokeh

ตัวเครื่องด้านหลังของ Xiaomi Mi 6 ใช้ดีไซน์แบบ Metal-Glass ซึ่งเป็นการใช้งานกระจกครอบทับที่ฝาหลัง ทำให้ดูสวยงาม และพรีเมียมมากยิ่งขึ้น แต่ก็อาจทำให้เป็นรอยนิ้วมือค่อนข้างง่ายด้วยเช่นกัน
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ
 
Xiaomi Mi 6 ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat ซึ่งถูกครอบทับด้วย MIUI 8.2 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด โดย Interface ของ Mi 6 นั้นดูเรียบง่าย สะอาดตา ช่วยให้ผู้ใช้ไม่สับสนมากนัก
 
เมื่อแตะค้างบริเวณที่ว่างบนหน้าจอจะเป็นการเข้าสู่เมนูการปรับแต่งหน้าจอ โดยสามารถปรับแต่งได้ทั้ง Wallpaper, Themes, Widget และเอฟเฟกต์การเปลี่ยนหน้าจอ
 
สำหรับ Themes และ Wallpaper ก็มีให้เลือกดาวน์โหลดมากมาย ซึ่งมีทั้งแบบฟรี และแบบชำระเงิน
 
หากปัดนิ้วจากด้านบนหน้าจอลงมา จะพบกับเมนู Quick Setting ฉบับย่อ พร้อมแถบแสดงการแจ้งเตือนต่างๆ แต่ถ้าหากปัดนิ้วลงมาอีกครั้งก็จะเป็นเมนู Quick Setting ฉบับเต็ม โดยผู้ใช้สามารถตั้งค่าต่างๆ ผ่านทางเมนูนี้ได้ทันที
 
สำหรับแอปพลิเคชันของ Google ก็มีให้ใช้งานอย่างครบครัน รวมไปถึงแอปพลิเคชันจากทาง Xiaomi ก็มีให้ใช้งานในเบื้องต้นด้วยเช่นกัน

หากท่านใดที่ชื่นชอบการใช้งานผลิตภัณฑ์ของ Xiaomi ก็สามารถลงทะเบียนสมัคร Mi Account เพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้ทันที
 
นอกจากนี้ Xiaomi Mi 6 ยังมีแอปพลิเคชัน Mi Forum สำหรับผู้ใช้ Xiaomi ทั่วโลกให้มาแชร์ประสบการณ์ หรือตั้งกระทู้ถาม-ตอบกันได้ทั่วโลก
 
เมนู Battery ในแอปพลิเคชัน Settings ก็มีฟังก์ชัน Optimize ที่ช่วยจัดการปิดแอปพลิเคชัน หรือโปรแกรมที่ใช้พลังงานสูง เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ให้มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงโหมด Battery Saver ที่ช่วยประหยัดพลังงานแบบอัตโนมัติก็มีให้ใช้งานเช่นเดียวกัน
 
Xiaomi Mi 6 มีระบบรักษาความปลอดภัยด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) ที่สามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้สูงสุดถึง 5 แบบด้วยกัน

หน้าจอแสดงผลของ Xiaomi Mi 6 สามารถใช้ฟังก์ชันการแตะ 2 ครั้ง เพื่อเปิดหน้าจอขึ้นมาโดยไม่ต้องกดปุ่ม เปิด-ปิด หน้าจอได้ด้วย
 
Xiaomi Mi 6 มีฟีเจอร์ Child Mode หรือโหมดสำหรับเด็กให้ใช้งานด้วย โดยผู้ปกครองสามารถกำหนดแอปพลิเคชันที่จะแสดงบน Child Mode ได้เอง ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการป้องกันความผิดพลาดจากการเล่นของเด็กๆ ที่อาจกดผิดไปโดนข้อมูลสำคัญ หรือกดซื้อสินค้าโดยไม่ได้ตั้งใจ

Xiaomi Mi 6 ยังมีฟีเจอร์ Second Space ที่เป็นการจำลองสมาร์ทโฟนขึ้นมาใหม่อีกหนึ่งเครื่อง (แต่ใช้ ROM ตัวเดียวกัน) โดยพื้นที่ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่จะแยกจากพื้นที่เดิมอย่างสิ้นเชิง ผู้ใช้คนที่สองจะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันใหม่ และใช้ User ใหม่ได้ด้วย เสมือนเป็นการใช้สมาร์ทโฟนสองคนในเครื่องเดียวกันนั่นเอง
 

หรือถ้าหากผู้ใช้ไม่ต้องการแยกเครื่องออกจากกันแบบ Second Space เพียงแต่ต้องการแยกใช้งานแอปพลิเคชันแบบคนละ User ทาง Xiaomi Mi 6 ก็มีฟังก์ชัน Dual Apps ที่จะเป็นการสร้างแอปพลิเคชันนั้นๆ ขึ้นมาใหม่ และแยกการใช้งานออกจากกันได้ด้วย

หากผู้ใช้ท่านใดที่ต้องการเก็บรักษาข้อมูลเพื่อความเป็นส่วนตัว Xiaomi Mi 6 ก็มีฟังก์ชัน App Lock ที่สามารถกำหนดรหัสผ่านสำหรับแอปพลิเคชันแต่ละโปรแกรมได้ทันที
 
ขยับมาดูในส่วนของคุณสมบัติตัวเครื่องกันบ้าง โดย Xiaomi Mi 6 มาพร้อมกับ ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 835 รุ่นใหม่ล่าสุด, หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 540, หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4x ขนาด 6GB และหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB
 
ทดสอบประสิทธิภาพการประมวลผลของ Xiaomi Mi 6 ด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu BenchMark ได้คะแนนทดสอบ 148,893 คะแนน และได้ผลคะแนนทดสอบจากแอปพลิเคชัน GeekBench 4 ได้คะแนนในส่วนของ Single-Core ที่ 1,935 คะแนน และในส่วนของ Multi-Core ได้ 5,716 คะแนน


ด้วยการใช้งานคุณสมบัติตัวเครื่องที่จัดเต็มทั้งชิปเซ็ตประมวลผล และหน่วยความจำแรม (RAM) ทำให้ Xiaomi Mi 6 สามารถเล่นเกม หรือใช้งานที่มีการประมวลผลภาพกราฟิกหนักๆ ได้อย่างลื่นไหล โดยไม่มีอาการกระตุก หรือหน่วงช้าให้เห็นแต่อย่างใด


นอกจากนี้ หน้าจอแสดงผลแบบ Full HD 1080p ยังให้ภาพที่คมชัด สีสันจัดจ้าน ผนวกกับลำโพงคู่บน-ล่าง ก็ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับอรรถรสในการรับชมภาพยนตร์ หรือฟังเพลงได้มากยิ่งขึ้น
กล้องดิจิตอล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวีดีโอ

เมนูกล้องถ่ายภาพของ Xiaomi Mi 6 มีลักษณะที่เรียบง่ายเช่นเดียวกับ Interface ภายนอก โดยไอคอนด้านบนประกอบด้วย ไฟแฟลช, Bokeh Mode และ HDR ส่วนสัญลักษณ์ 1x เป็นการใช้งาน Optical Zoom โดยสามารถซูมภาพแบบไม่สูญเสียรายละเอียดได้สูงสุด 2 เท่า
 
เมนูทางด้านซ้ายจะเป็นฟิลเตอร์สำหรับการแต่งรูปในลักษณะต่างๆ ส่วนโหมดการถ่ายภาพก็มีให้เลือกใช้งานหลากหลายทีเดียว
 
เรามาดูกันที่โหมด Manual ของ Xiaomi Mi 6 ว่าจะมีอะไรให้ปรับแต่งกันบ้าง โดยในเมนู White Balance มีให้เลือกปรับถึง 6 แบบ ตามสภาพแสง ส่วนระยะโฟกัสก็สามารถปรับได้เช่นเดียวกัน โดยยิ่งปรับให้ตัวเลขน้อย ก็จะยิ่งโฟกัสได้ใกล้ขึ้น ขณะที่ถ้าตัวเลขมาก จะเป็นการโฟกัสสิ่งที่อยู่ไกลออกไป
 
สำหรับชัตเตอร์สปีดนั้นสามารถปรับได้เร็วสุดที่ 1/1000s และปรับได้ช้าสุดอยู่ที่ 1/4s
 
ค่าความไวแสง (ISO) มีให้เลือกปรับตั้งแต่ 100-3200 นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถเลือกไลนส์ในกล้องได้อีกด้วยว่าจะใช้เลนส์ใดถ่ายระหว่าง เลนส์ Wide และ Telephoto
 
 
 
มาดูกันต่อที่กล้องด้านหน้า จะเห็นเมนูของกล้องหน้าก็ค่อนข้างเรียบง่าย ไม่มีไอคอนที่เยอะจนเกินไป โดยรูปแบบการใช้งานก็จะคล้ายกับกล้องด้านหลังเป็นส่วนใหญ่ แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามา คือ โหมด Beauty ที่มีโหมดย่อยให้เลือกอีกสองแบบ คือ โหมด Smart ที่กล้องจะปรับระดับทุกอย่างให้แบบอัตโนมัติ กับโหมด Pro ที่ผู้ใช้จะต้องตั้งค่าความเรียวของใบหน้า และค่าสีผิวเอง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียดระดับ 12 ล้านพิกเซล ของ Xiaomi Mi 6








ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดปกติ


ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยการซูมแบบ 2x Optical Zoom



ตัวอย่างภาพถ่ายแบบปกติ, ซูม 2X และ ซูม 10X
 
ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยโหมด Bokeh
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลของ Xiaomi Mi 6
 

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยโหมด Beauty แบบ Smart
  
ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยโหมด Beauty แบบ Pro
สรุปผลการทดสอบของ Xiaomi Mi 6

หลังจากที่ได้ทดลองใช้งาน Xiaomi Mi 6 มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ก็ต้องขอบอกเลยว่า Xiaomi Mi 6 นั้นน่าจะถูกใจผู้ใช้หลายๆ คนที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่เร็วแรง และมีดีไซน์สวยงามพรีเมียมอย่างแน่นอน เพราะ Xiaomi Mi 6 มาพร้อมกับดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Metal-Glass ที่ใช้กระจกขอบโค้งทั้ง 4 ด้านบริเวณด้านหลังตัวเครื่อง พร้อมใช้งานกรอบตัวเครื่อง Stainless Steel ทำให้มีความสวยหรู และดูพรีเมียมในการจับถือทุกท่วงท่า
สำหรับจุดเด่นของ Xiaomi Mi 6 นั้นก็เรียกได้ว่าจัดเต็มมาให้ในหลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลเป็นแบบ Full HD 1080p ขนาด 5.15 นิ้ว ความละเอียด 1080x1920 พิกเซล พร้อมฟีเจอร์ 1nit ultra-dark night display สำหรับปรับลดความสว่างหน้าจอให้น้อยลงมากกว่าปกติถึง 4 เท่า เพื่อถนอมสายตาสำหรับการใช้งานในสภาวะที่มีแสงน้อย, ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 835 ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.45GHz ที่ประมวลผลได้เร็วแรง และลื่นไหล สามารถรองรับการใช้งานหนักๆ ได้เป็นอย่างดี , หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4x ขนาดใหญ่ถึง 6GB ที่ช่วยให้ผู้ใช้เปิดแอปพลิเคชันใช้งานได้หลากหลายโดยไม่มีอาการหน่วง, หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาดจุใจ 128GB ที่เพียงพอในทุกๆ การใช้งาน, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Under-Glass Fingerprint Scanner, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM) บนเทคโนโลยี Full Netcom 4.0, รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C, แบตเตอรี่ความจุ 3350 mAh พร้อมเทคโนโลยี Quick Charge 4.0 และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat
ส่วนฟีเจอร์กล้องถ่ายภาพก็ถือเป็นอีกจุดเด่นประการหนึ่งสำหรับ Xiaomi Mi 6 ด้วยเช่นกัน โดย Xiaomi Mi 6 ใช้งานกล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบคู่ (Dual-Tone LED), รองรับเทคโนโลยีซูมภาพด้วยเลนส์แบบ Optical Zoom, การซูมแบบดิจิทัล 10 เท่า (X10 Digital Zoom), ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS ทั้งหมด 4 แกน (4-axis OIS), ระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) และรองรับการถ่ายภาพในฟังก์ชัน Bokeh ซึ่งตัวกล้องคู่นี้สามารถถ่ายภาพออกมาได้คมชัด สีสันสดใส และเก็บทุกรายละเอียดในภาพได้เป็นอย่างดี อีกทั้ง Interface ยังมีหน้าตาค่อนข้างเรียบง่าย ดูแล้วไม่สับสนด้วย ส่วนโหมดโปร (Manual) ก็มีเมนูให้เลือกปรับค่าค่อนข้างหลากหลายเช่นเดียวกัน และฟีเจอร์สำคัญอย่าง Bokeh ก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ดี เพราะกล้องคู่ของ Xiaomi Mi 6 สามารถเบลอฉากหลังได้ค่อนข้างเนียนตา ทำให้ตัวแบบมีความโดดเด่น ซึ่งประสิทธิภาพของกล้องคู่จาก Xiaomi Mi 6 ก็ถือว่าไม่แพ้เรือธงแบรนด์อื่นๆ เลยทีเดียว ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ก็ถ่ายภาพได้คมชัด และมีโหมด Beauty ที่สามารถปรับค่าผิวเนียน หรือหน้าเรียวได้ทันที
หากจะสรุปการใช้งานของ Xiaomi Mi 6 แบบรวบรัดก็อาจสรุปได้ง่ายๆ ว่า Xiaomi Mi 6 เป็นสมาร์ทโฟนที่ค่อนข้างเน้นความเรียบง่ายในการใช้งาน ไม่เน้นฟังก์ชันหวือหวา ซึ่งฟังก์ชันที่มีก็สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่วนคุณสมบัติตัวเครื่องก็อัดแน่นมาด้วยความเร็วแรง และประสิทธิภาพการประมวลผลในระดับท็อป ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมกราฟิกสูงๆ หรือการใช้งานหนักๆ ก็ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ส่วนกล้องถ่ายภาพถือว่าทำได้ตามมาตรฐานสมาร์ทโฟนเรือธง หากสรุปในภาพรวมแล้ว Xiaomi Mi 6 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนเรือธงระดับเร็วแรง ดีไซน์มีเอกลักษณ์สวยงาม ไม่เน้นฟีเจอร์ล้ำยุค แต่เน้นการใช้งานจริง และที่สำคัญคือคุ้มค่าคุ้มราคาด้วย
Xiaomi Mi 6 เปิดวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว โดยแบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อย คือ รุ่นความจุ 64GB ราคา 13,790 บาท ส่วนรุ่นความจุ 128GB ราคา 15,990 บาท โดยวางจำหน่ายผ่านทาง IT City Studio Phone และร้านค้าตัวแทนจำหน่าย (บางร้าน) หรือสั่งซื้อผ่านทาง Xiaomi Store (Lazada) ได้ทันที สำหรับวันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter ก็ต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ Xiaomi Mi 6
- ดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยหรูเงางามดูสะดุดตา ด้วยกระจกขอบโค้ง 4 ด้าน พร้อมกรอบโลหะสแตนเลส
- ตัวเครื่องมีขนาด 145.17x70.49x7.45 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 168 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ Full HD 1080p ขนาด 5.15 นิ้ว ความละเอียด 1080x1920 พิกเซล พร้อมฟีเจอร์ 1nit ultra-dark night display สำหรับปรับลดความสว่างหน้าจอให้น้อยลงมากกว่าปกติถึง 4 เท่า เพื่อถนอมสายตาสำหรับการใช้งานในสภาวะที่มีแสงน้อย
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 835
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 540
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) มีให้เลือก 2 ความจุคือขนาด 64GB (ราคา 13,790 บาท) และ 128GB (15,990 บาท)
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบคู่ (Dual-Tone LED), รองรับเทคโนโลยีซูมภาพด้วยเลนส์ได้ 2 เท่า (2x Optical Zoom), การซูมแบบดิจิทัล 10 เท่า (X10 Digital Zoom), ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS ทั้งหมด 4 แกน (4-axis OIS), ระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) และรองรับการถ่ายภาพในฟังก์ชัน Bokeh
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ความจุ 3350 mAh พร้อมเทคโนโลยี Quick Charge 4.0
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat พร้อมครอบทับด้วย MIUI 8.2
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Under-Glass Fingerprint Scanner
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM) บนเทคโนโลยี Full Netcom 4.0
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ 2x2 Dual Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0 และ NFC
- ราคาวางจำหน่าย 13,790 บาท (64GB) และ 15,990 บาท (128GB)
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Xiaomi Mi 6
- จอแสดงผลมีความละเอียดเพียงแค่ระดับ Full HD 1080p ซึ่งน้อยกว่าสมาร์ทโฟนเรือธงตัวท็อปจากแบรนด์อื่น
- ไม่รองรับการเพิ่มหน่วยความจำด้วยการ์ด microSD หรืออื่นๆ
- ตัวเครื่องเป็นดีไซน์แบบไม่มีฝาหลัง จึงไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่เองได้
- ตัวเครื่องมีการสะสมความร้อนบ้างเล็กน้อย เมื่อมีการประมวลผลระดับสูงติดต่อกันเป็นเวลานาน
- ช่องทางการวางจำหน่าย และศูนย์บริการอาจยังไม่แพร่หลายมากนัก
- ฟิล์มกันรอย และเคสป้องกันตัวเครื่องอาจมีตัวเลือกไม่มากนัก
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปคุณสมบัติเครื่อง
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Xiaomi Mi 6 ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Xiaomi Mi 6 128GB
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Xiaomi Mi 6 64GB

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|