ตอนนี้คุณอยู่ที่ >> หน้าแรก >> หน้ารวม mobile review >> รีวิว (Review) Wiko U FEEL


รีวิว (Review) Wiko U FEEL :: รีวิว ทดสอบ มือถือ :: Thaimobilecenter.com


 
TMC Point

  8.33

การออกแบบดีไซน์

  8.5

ใช้งานง่ายและสะดวก

  8.5

คุณสมบัติเครื่อง

  8.0

ฟังก์ชันการใช้งาน

8.5

เสถียรภาพและประสิทธิภาพ

  8.0

ความคุ้มค่าต่อราคา

  8.5

 
   

รีวิว (Review) Wiko U FEEL

สมาร์ทโฟน 4G ดีไซน์ Neo-Retro สุดคุ้มใหม่ล่าสุด ด้วยจอ IPS HD 2.5D Glass ขนาด 5 นิ้ว, ชิปเซ็ต Quad-Core MediaTek MT6735, RAM 3GB, ROM 32 GB, Android 6.0, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, ไฟแฟลชกล้องหน้า และเซ็นเซอร์สแกนนิ้ว บนบอดี้โลหะสุดแกร่ง ครบเครื่องคุ้มค่าในราคาเพียง 5,990 บาท

 

Review Date (16-กันยายน-2559)

อย่างที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบันสมาร์ทโฟนที่วางจำหน่ายอยู่ในประเทศไทยนั้นมาจากผู้ผลิตหลายประเทศด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Wiko แบรนด์สมาร์ทโฟนชั้นนำจากประเทศฝรั่งเศสที่ได้วางจำหน่ายสมาร์ทโฟนในบ้านเราหลากหลายรุ่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรุ่นที่มีราคาย่อมเยา พร้อมกับฟีเจอร์ที่ครบเครื่องคุ้มค่า และเมื่อช่วงเดือนเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทาง Wiko ก็ได้ทำการวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนดีไซน์เรียบหรูรุ่นใหม่ล่าสุด อย่าง Wiko U FEEL ในราคาสุดคุ้มเพียง 5,990 บาท เท่านั้น! นอกจากนี้ สมาร์ทโฟน Wiko ในตระกูล U-Series ยังมีวางจำหน่ายเพิ่มเติมอีกหนึ่งรุ่นด้วยกัน ได้แก่ Wiko U FEEL LITE (ราคา 4,590 บาท)

โดย Wiko U FEEL นั้นมีจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่หลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Neo-Retro ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และไม่เหมือนใคร พร้อมด้วยกรอบตัวเครื่องที่ทำมาจากโลหะ, หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5 นิ้ว ซึ่งเป็นกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Glass, เทคโนโลยี On-cell ที่ช่วยลดช่องว่างของกระจก กับชั้นจอแสดงผล จึงส่งผลให้สามารถตอบสนองต่อการสัมผัสได้ดียิ่งขึ้น, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ พร้อมเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือแบบ 360 องศา ที่สามารถปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 0.48 วินาที, รองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้, กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นเลนส์มุมกว้าง 100 องศา พร้อมไฟแฟลช LED, กล้องดิจิทัลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์รับภาพแบบ SONY IMX285 พร้อมไฟแฟลช LED

ทางด้านคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ทาง Wiko ก็จัดมาให้แบบไม่มีกั๊กเลยก็ว่าได้ เริ่มตั้งแต่ ชิปเซ็ต Quad-Core 64-bit MediaTek MT6735 ความเร็วในการประมวลผล 1.3 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T720 MP2, หน่วยความจำแรมขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่ล่าสุดอย่าง Android 6.0 (Marshmallow)

จากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวไว้ในข้างต้นจะเห็นได้ว่า Wiko U FEEL ถือเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่มีความครบเครื่อง และสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกรูปแบบ ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร, ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน และฟีเจอร์ต่างๆ จะตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีเพียงใด ขอเชิญทุกท่านไปชมรีวิว Wiko U FEEL พร้อมกันได้เลยครับ

 

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Wiko U FEEL มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5 นิ้ว ซึ่งเป็นกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Glass พร้อมเทคโนโลยี On-Cell ที่ช่วยลดช่องว่างของกระจก กับชั้นจอแสดงผล จึงส่งผลให้สามารถตอบสนองต่อการสัมผัสดียิ่งขึ้น โดยมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที 143x70.7x8.55 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 145 กรัม

 

ด้านหน้าส่วนบนของตัวเครื่องมีกล้องดิจิทัลความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นเลนส์มุมกว้าง 100 องศา พร้อมไฟแฟลช LED, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, สัญญาณไฟ LED สำหรับการแจ้งเตือนต่างๆ, ระบบ Accelerometer Sensor สำหรับช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน

 

ด้านหน้าส่วนล่างประกอบไปด้วยปุ่มการสั่งงานแบบ On Screen ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps  ถัดลงมาจะเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ 360 องศา (ทำหน้าที่เป็นปุ่มโฮมได้เช่นเดียวกัน) สำหรับตรวจสอบสิทธิ์การเข้าใช้งานตัวเครื่อง ซึ่งสามารถปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 0.48 วินาที

 

ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องสำหรับเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

 

ด้านล่างของตัวเครื่องมีไมโครโฟน และช่องเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ และโอนถ่ายข้อมูล

 

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับเสียง

 

ด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีปุ่มการสั่งงาน หรือปุ่มฟังก์ชันใดๆ ให้ใช้งาน

 

ด้านหลังของตัวเครื่องประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งใช้เซ็นเซอร์รับภาพแบบ SONY IMX285 พร้อมไฟแฟลช LED และลำโพงเสียงภายนอก

 

เมื่อเปิดฝาหลังออกมาจะพบกับช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดที่ 1 (microSIM), ช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดที่ 2 (microSIM), ช่องสำหรับเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD และแบตเตอรี่แบบยึดติดกับตัวเครื่องขนาด 2500 mAh

 

สำหรับดีไซน์ของ Wiko U FEEL จะเป็นแบบ Neo-Retro ที่ดูสวยงาม และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยกรอบตัวเครื่องที่ผลิตจากโลหะ จึงทำให้ตัวเครื่องมีความสวยงาม และแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ พร้อมกระจกขอบนูนแบบ 2.5D

 

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ

Wiko U FEEL ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow พร้อมหน่วยความจำภายในขนาด 32 GB

 

 

โดยมีหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด พร้อมรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE และ 3G ได้

 

 

ทางด้านบริการต่างๆ จากทาง Google ก็มีให้ใช้งานอย่างครบครัน

 

 

ในส่วนของฟังก์ชันโทรศัพท์ก็มีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย ซึ่งมาพร้อมกับปุ่มตัวเลขขนาดใหญ่ สามารถกดหมายเลขได้อย่างแม่นยำ และสามารถเข้าดูรายชื่อโทรศัพท์ทั้งหมดได้ทันทีอีกด้วย

 

 

นอกจากนี้ ยังสามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้หลากหลาย เริ่มตั้งแต่ การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน และการเปลี่ยนเอฟเฟกต์ปลดล็อกหน้าจอ

 

 

อีกทั้งยังมีฟังก์ชันสำหรับปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ต้องการใช้งานอย่าง Recent Apps มาให้ใช้งาน นอกจากนี้ หน้าจอแสดงผลของ Wiko U FEEL ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี MiraVision ที่ช่วยให้หน้าจอแสดงผลได้เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด

 

 

Wiko U FEEL ยังสามารถตั้งค่าเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือได้ และสามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้สูงสุดถึง 5 ลายนิ้วมือ อีกทั้งในแต่ละลายนิ้วมือยังสามารถตั้งค่าเพื่อเรียกใช้งานแอปพลิเคชัน หรือรายชื่อโทรศัพท์ ที่ตั้งค่าเอาไว้ได้ รวมไปถึงการล็อกแอปพลิเคชัน หรือไฟล์สำคัญๆ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

 

 

สำหรับเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตก็ตอบสนองการใช้งานได้อย่างไหลลื่น และสามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน

 

นอกจากนี้ Wiko U FEEL สามารถรองรับการสั่งงานด้วยท่าทางได้ เช่น ดับเบิ้ลคลิกที่หน้าจอสองครั้งเพื่อปลุกการทำงานของตัวเครื่อง, ดับเบิ้ลคลิ๊กที่ปุ่มโฮมเพื่อล็อกหน้าจอ, พลิกคว่ำตัวเครื่องเพื่อปิดเสียง, นำโทรศัพท์แนบหูเพื่อรับสายทันทีขณะที่มีสายเรียกเข้า และกดปุ่มเปิด-ปิด เครื่องหนึ่งครั้งเพื่อปลดล็อกหน้าจอ

 

 

ไม่เพียงเท่านั้น Wiko U FEEL ยังรองรับการสั่งงานด้วยการวาดตัวอักษรได้อีกด้วย เช่น วาดตัวอักษร C เพื่อเข้าสู่ฟังก์ชันโทรศัพท์ หรือวาดตัวอักษร M เพื่อเปิดแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลง

 

ทางด้านแอปพลิเคชันอัลบั้มภาพถ่ายนั้นสามารถแสดงภาพถ่ายได้หลักๆ 3 แบบ คือ แสดงแยกอัลบั้ม, แสดงรวมภาพถ่ายทั้งหมด และแสดงภาพถ่ายที่มีการแท็กสถานที่

 

 

ในส่วนของแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลงก็มีให้ใช้งานบน Wiko U FEEL ด้วยเช่นกัน และสามารถปรับค่าอีควอไลเซอร์ได้

 

 

และยังสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น เนื่องด้วยหน้าจอแสดงผลบน Wiko U FEEL มีความละเอียด 1280x720 พิกเซล จึงไม่สามารถแสดงผลได้เต็มความละเอียดของไฟล์วิดีโอ

 

 

และมีฟังก์ชัน Popup Play ให้ใช้งานด้วยเช่นกัน

 

Wiko U FEEL มาพร้อมกับชิปเซ็ต Quad-Core 64-bit MediaTek MT6735 ความเร็วในการประมวลผล 1.3 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T720 MP2, หน่วยความจำแรมขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0 (Marshmallow)

 

 

ถึงแม้ว่าคุณสมบัติตัวเครื่องของ Wiko U FEEL จะจัดอยู่ในระดับของการใช้งานทั่วไป แต่ก็สามารถตอบสนองต่อการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติได้ได้ดี แม้จะมีอาการหน่วงบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีผลต่อการเล่นเกมแต่อย่างใด

 

 

และเมื่อนำ Wiko U FEEL มาทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน Geekbench 4 พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 537 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Single-Core และ 1457 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Multi-Core

 

   

ต่อด้วยการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน 3DMark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 127 คะแนน

 

 

สำหรับ Wiko U FEEL สามารถรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 5 จุด

 

 

และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store

 

กล้องดิจิทัล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ

สำหรับฟังก์ชันกล้องถ่ายภาพนั้นมีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย พร้อมแสดงฟังก์ชันต่างๆ ไว้อย่างขัดเจน สามารถเลือกใช้งานได้ทันที และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า หรือโหมดถ่ายภาพ HDR

 

โดยโหมดถ่ายภาพโปรนั้นสามารถตั้งค่าการใช้งานได้หลากหลาย เช่น ไวท์บาลานซ์ หรือ ISO ส่วนโหมดถ่ายภาพหน้าสวยก็มีให้ใช้งานที่กล้องดิจิทัลด้านหลัง ซึ่งสามารถปรับค่าผิวเนียน, ตาโต และใบหน้าเรียว ได้ตั้งแต่ 0-100%

 

และยังสามารถปรับค่าการใช้งานไฟแฟลช LED ได้หลายแบบ เช่น เปิด หรือเปิดใช้งานเป็นไฟฉาย

 

นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานแบบอื่นๆ ได้อีกหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใช้งาน การสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ, การตรวจจับรอยยิ้มเพื่อถ่ายภาพ, เสียงชัตเตอร์, การระบุสถานที่บนภาพถ่าย และตารางเก้าช่อง

 

สามารถเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพได้สูงสุดที่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ Full HD (1080p)

 

ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็มีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกัน และมีการแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้งยังมีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลายแบบ เช่น โหมดถ่ายภาพหน้าสวย หรือโหมดถ่ายภาพเซลฟี่มุมกว้าง

 

สำหรับโหมดถ่ายภาพหน้าสวยนั้นสามารถปรับค่าผิวเนียนได้ 3 ระดับ และสามารถปรับค่าต่างๆ ด้วยตนเองได้ ทั้ง ผิวเนียน, ตาโต และใบหน้าเรียว โดยค่าต่างๆ สามารถปรับได้ตั้งแต่ 0-100

 

อีกทั้งยังสามารถตั้งค่าการใช้งานไฟแฟลช LED ได้แบบเดียวกับกล้องดิจิทัลด้านหลัง

 

นอกจากนี้  ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานแบบอื่นๆ ได้อีกหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใช้งานการสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ, การตรวจจับรอยยิ้มเพื่อถ่ายภาพ, เสียงชัตเตอร์, การระบุสถานที่บนภาพถ่าย, การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้นานสูงสุด 10 วินาที, กระจกเงาสะท้อน และตารางเก้าช่อง

 

สามารถเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพได้สูงสุดที่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และสามารถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)

 

และสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล ของ Wiko U FEEL


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

 


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

 


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

 


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

 


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

 


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

 

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าสวย ของ Wiko U FEEL


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

 


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมด Beautify ปรับค่าระดับ 1

 


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดหน้าสวยพร้อมปรับค่าระดับ 2

 


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดหน้าสวยพร้อมปรับค่าระดับ 3

 


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดหน้าสวยพร้อมปรับค่าผิวเนียน, ตาโต และใบหน้าเรียวระดับ 50%

 


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดหน้าสวยพร้อมปรับค่าผิวเนียน, ตาโต และใบหน้าเรียวระดับ 100%

 

สรุปผลการทดสอบของ Wiko U FEEL

จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับการรีวิวสมาร์ทโฟนดีไซน์เรียบหรูราคาสุดคุ้มอย่าง Wiko U FEEL อันดับแรกต้องขอยอมรับในเรื่องของดีไซน์ตัวเครื่องที่เป็นแบบ Neo-Retro ซึ่งทำให้ตัวเครื่องของ Wiko U FEEL นั้นดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และไม่เหมือนใคร อีกทั้งกรอบตัวเครื่องทำมาจากโลหะ จึงช่วยเพิ่มความความสวยงาม และมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ตรงมุมตัวเครื่องทั้งสี่ด้านยังมีความโค้งมน พร้อมฝาหลังที่เป็นพื้นผิวแบบด้าน ซึ่งช่วยให้สามารถจับ หรือถือใช้งานได้อย่างคล่องตัว

สำหรับจุดเด่นที่น่าสนใจของ Wiko U FEEL คงจะหนีไม่พ้นเรื่องเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือแบบ 360 องศา สามารถปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 0.48 วินาที นั้นสามารถปลดล็อกหน้าจอได้รวดเร็ว ฉับไวมากๆ นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้สูงสุดถึง 5 ลายนิ้วมือ อีกทั้งในแต่ละลายนิ้วมือยังสามารถตั้งค่าเพื่อเรียกใช้งานแอปพลิเคชัน หรือรายชื่อโทรศัพท์ได้ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และความคล่องตัวในการใช้งานเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ Wiko U FEEL ยังมีจุดขายที่น่าสนใจอีกหลายส่วนด้วยกัน ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า คุ้มค่าเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังตอบสนองต่อการใช้งานได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5 นิ้ว ซึ่งเป็นกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Glass พร้อมเทคโนโลยี On-cell ที่ช่วยลดช่องว่างของกระจก กับชั้นจอแสดงผล จึงส่งผลให้สามารถตอบสนองต่อการสัมผัสดียิ่งขึ้น, รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง (Motion Control), รองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด และรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้

อีกหนึ่งความน่าสนใจของ  Wiko U FEEL คือ เรื่องของกล้องถ่ายภาพ โดยกล้องดิจิทัลด้านหลังมีความละเอียดมากถึง 13 ล้านพิกเซล โดยใช้เซ็นเซอร์รับภาพแบบ SONY IMX285 พร้อมไฟแฟลช LED ซึ่งจากการทดสอบพบกว่า ภาพถ่ายที่ได้นั้นมีความคมชัด สีสันสมจริง และสามารถเก็บรายเอียดต่างๆ ได้ครบ ทั้งในสภาวะแสงปกติ และสภาวะแสงน้อย ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ที่เป็นเลนส์มุมกว้าง 100 องศา แถมยังมาพร้อมไฟแฟลช LED ก็สามารถถ่ายภาพออกมาได้ดีไม่แพ้กัน อีกทั้งยังสามารถถ่ายภาพพร้อมกับกลุ่มเพื่อนได้แบบไม่มีหลุดเฟรม และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ มีโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beauty) ที่สามารถปรับค่าผิวเนียนได้หลายระดับอีกด้วย ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเซลฟี่เป็นที่สุด

ในส่วนของคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ก็ถือว่าครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Quad-Core 64-bit MediaTek MT6735 ความเร็วในการประมวลผล 1.3 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T720 MP2, หน่วยความจำแรมขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB และระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0 (Marshmallow) ซึ่งจากการทดสอบด้วยการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD (1080p) แบบต่อเนื่อง หรือเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติพบว่า Wiko U FEEL ก็สามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างไหลลื่น แม้จะมีอาการหน่วงบ้างเพียงเล็กน้อยขณะใช้งานที่มีการประมวลผลหนักๆ แบบต่อเนื่อง แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

หลังจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมา ก็พอที่จะสรุปได้ว่า Wiko U FEEL น่าจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว, วัสดุแข็งแรงทนทาน, สเปกครบเครื่อง, กล้องถ่ายภาพสวยคมชัด, มีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย, รองรับ 4G และต้องมีราคาไม่เกิน 6,000 บาท ซึ่ง Wiko U FEEL ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สมเหตุสมผลเป็นอย่างมาก ถ้าหากท่านใดสนใจ Wiko U FEEL ก็สามารถหาซื้อได้ตาม Wiko Shop และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ในราคาสุดคุ้มเพียง 5,990 บาท เท่านั้น! สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Wiko ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Wiko U FEEL มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่โอกาสหน้า สวัสดีครับ

 

จุดเด่นของ Wiko U FEEL

- กรอบตัวเครื่องผลิตจากโลหะ พร้อมกระจกขอบนูนแบบ 2.5D ที่ด้านหน้า ซึ่งโดยรวมแล้วดูมีความสวยงามเรียบหรู
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน พร้อมเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือแบบ 360 องศา สามารถปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 0.48 วินาที และรองรับการใช้งานร่วมกับฟังก์ชัน Fast Unlock, Apps and Files Lock, Quick Applications Launch
- จอแสดงผลแบบ  IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x720 Pixels ขนาด 5 นิ้ว พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T720 MP2
- เทคโนโลยี On-cell ที่ช่วยลดช่องว่างของกระจก กับชั้นจอแสดงผล จึงส่งผลให้สามารถตอบสนองต่อการสัมผัสดียิ่งขึ้น
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Quad-Core 64-bit MediaTek MT6735 ความเร็วในการประมวลผล 1.3 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0 (Marshmallow)
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB และรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 64 GB
- กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล โดยใช้เซ็นเซอร์รับภาพแบบ SONY IMX285 พร้อมไฟแฟลช LED และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p
- กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้านพิกเซล ที่เป็นเลนส์มุมกว้าง 100 องศา พร้อมไฟแฟลช LED และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p
- รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual SIM)
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, EDGE และ GPRS
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- แบตเตอรี่แบบ Li-Ion Polymer 2500 mAh
- มีวิทยุ FM ในตัว
- ราคาเพียง 5,990 บาท ซึ่งหากเทียบกับคุณสมบัติโดยรวมแล้วนับว่ามีความคุ้มค่า

 

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Wiko U FEEL

- หน้าจอมีความละเอียดค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนคู่แข่งในระดับราคาเดียวกัน
- แบตเตอรี่เป็นแบบ Built-in Battery จึงไม่สามารถถอด หรือเปลี่ยนด้วยตนเองได้
-  แบตเตอรี่มีความจุเพียง 2500 mAh ซึ่งถือว่ายังไม่มากนัก
- มีอาการหน่วงบ้างเล็กน้อยขณะเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติ หรือใช้งานที่มีการประมวลผลหนักๆ

 

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

 

สรุปคุณสมบัติเครื่อง

ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Wiko U FEEL ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้

สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Wiko U FEEL

  title="Sony Xperia ZL Specification">

 

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::

 

 

 


 












 รีวิว OPPO A5x | Enco Buds3
สมาร์ตโฟนแบตอึด 6000 mAh พร้อมชาร์จไว 45W SUPERVOOC บนบอดี้สวยแกร่ง ในราคาไม่ถึง 4 พัน และ OPPO Enco Buds3 หูฟังไร้สายตัวคุ้ม

[รายละเอียด]
 รีวิว Alldocube iPlay60 Pad Pro
แท็บเล็ตจอใหญ่ 12.1 นิ้ว โทรได้ พร้อมคีย์บอร์ด ปากกา และรองรับ PC Mode ครบจบในเครื่องเดียว ในราคาไม่ถึง 9 พันบาท

[รายละเอียด]
 รีวิว OPPO Find N5
สมาร์ตโฟนจอพับบางที่สุดในโลก พร้อมกล้อง Hasselblad 3x Optical Zoom ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite พลังชาร์จไว 80W และฟีเจอร์ AI ใหม่ล่าสุด

[รายละเอียด]
 รีวิว POCO F7 Pro | F7 Ultra
สมาร์ตโฟนทรงพลังที่สุดของค่าย แรงระดับเรือธง ฟีเจอร์ AI พร้อมใช้ ในราคาแค่ครึ่งเดียว เริ่มเพียง 15,990 บาท

[รายละเอียด]
 รีวิว Xiaomi 15 | Xiaomi 15 Ultra
เรือธงกล้อง Leica ที่น่าจับจองกว่าเดิม เพิ่มกล้อง 200MP ใหม่ซูมได้ 120x พร้อมฟีเจอร์ AI จัดเต็ม

[รายละเอียด]
 รีวิว Alldocube iPlay 50 mini
แท็บเล็ตไซส์มินิสุดคุ้ม โทรได้ มี GPS พร้อมฟีเจอร์ตอบโจทย์คนชอบดูหนัง และอ่าน e-Book ในราคาประหยัดเพียง 3,990 บาท

[รายละเอียด]
รายการรีวิวมือถือทั้งหมด








วางจำหน่ายแล้ว OPPO Enco Buds3 หูฟังไร้สาย แบตอึด 48 ชม. น้ำหนัก 3.8 กรัม ราคา 799 บาท
วางจำหน่ายแล้ว OPPO Enco Buds3 หูฟังไร้สาย แบตอึด 48 ชม. น้ำหนัก  
วางจำหน่ายแล้ว หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ “OPPO Enco Buds3” พร้อมมอบการใช้งานที่ดื่มดำเต็มอรรถรสได้ตลอดวัน ในราค
realme Neo7 Turbo เตรียมเปิดตัวที่จีน 29 พฤษภาคมนี้ พร้อมดีไซน์ฝาหลังใสและชิป Dimensity 9400e
realme Neo7 Turbo เตรียมเปิดตัวที่จีน 29 พฤษภาคมนี้ พร้อมดีไซน์ฝา 
realme Neo7 Turbo สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดเตรียมเปิดตัวในประเทศจีนวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ โดยล่าสุดได้เผยภาพเ
iPhone 7 Plus และ iPhone 8 ถูกจัดเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นเก่า (Vintage) แล้ววันนี้
iPhone 7 Plus และ iPhone 8 ถูกจัดเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นเก่า (Vintage)  
Apple ได้อัปเดตรายการผลิตภัณฑ์เก่า (Vintage) และผลิตภัณฑ์ล้าสมัย (Obsolete) อีกครั้งในวันนี้ โดยมีการเปลี
เทคนิคตั้งค่ากล้องมือถือให้ถ่ายสวยระดับโปร ทำอย่างไรไปดู!
เทคนิคตั้งค่ากล้องมือถือให้ถ่ายสวยระดับโปร ทำอย่างไรไปดู! 
ในปัจจุบันกล้องถ่ายภาพของสมาร์ทโฟนได้รับการอัปเกรดให้ล้ำกว่าแต่ก่อนมาก ไม่ว่าจะเป็นจำนวนกล้องที่มากขึ้น,
AirPods หายข้างเดียวทำไงดี ซื้อใหม่ข้างเดียวได้ไหม?
AirPods หายข้างเดียวทำไงดี ซื้อใหม่ข้างเดียวได้ไหม? 
ฝันร้ายของคนที่ใช้ AirPods คงจะหนีไม่พ้นการที่หูฟังหาย ซึ่งเท่าที่เคยพบเจอมาส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้หายทั้งเค
มือถือราคาไม่เกิน 10,000 ปี 2025 อัปเดตล่าสุดเดือน มี.ค. 2025 มีรุ่นไหนบ้างไปดู!
มือถือราคาไม่เกิน 10,000 ปี 2025 อัปเดตล่าสุดเดือน มี.ค. 2025 มีร 
ปัจจุบันสมาร์ทโฟนมีหลายรุ่นหลายราคาให้เลือกสรรกันตามกำลังทรัพย์ โดยรุ่นที่มักจะเป็นที่ต้องการอยู่เสมอคือร
มือถือเล่นเกมราคาไม่เกิน 10,000 บาท สเปกคุ้มค่า อัปเดตราคาล่าสุด ก.พ. 2025
มือถือเล่นเกมราคาไม่เกิน 10,000 บาท สเปกคุ้มค่า อัปเดตราคาล่าสุด  
สมาร์ทโฟนเกมมิ่ง หรือมือถือเล่นเกมยังคงได้รับความสนใจอยู่เสมอ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีราคาไม่เกิน 10,000 บาท สำ
Samsung เปิดตัว Galaxy S25 Series ในไทย โชว์พลัง Galaxy AI ผ่านงานดนตรีสุดล้ำ ในงาน Here AI am Music Fest
Samsung เปิดตัว Galaxy S25 Series ในไทย โชว์พลัง Galaxy AI ผ่านงา 
ซัมซุงเปิดตัว Galaxy S25 Series สุดยิ่งใหญ่ในไทย โชว์ความเก่ง Galaxy AI ผู้ช่วยส่วนตัวคนใหม่ ผ่านงานดนตร
HMD Skyline วางขายในไทยแล้ววันนี้ในราคา 14,990 บาท มากับชิป Snapdragon 7s Gen 2, จอ 144Hz, ชาร์จไร้สาย และกล้องซูม
HMD Skyline วางขายในไทยแล้ววันนี้ในราคา 14,990 บาท มากับชิป Snapd 
HMD Skyline สมาร์ทโฟนผู้สืบทอดทางจิตวิญญาณของ Nokia Lumia ในตำนานเปิดตัวและวางจำหน่ายในประเทศไทยเรียบร้อย
อินฟินิกซ์ โปรกลางเดือน สมาร์ทโฟนรุ่นฮิต สเปคเทพ ราคาพิเศษ ส่วนลดจัดเต็ม [สิงหาคม 2024]
อินฟินิกซ์ โปรกลางเดือน สมาร์ทโฟนรุ่นฮิต สเปคเทพ ราคาพิเศษ ส่วนลด 
อินฟินิกซ์ อัดโปรฯ แรงกลางเดือน ขนสมาร์ทโฟนรุ่นฮิต สเปคเทพ ราคาโดน มาให้เลือกช้อป พร้อมส่วนลดจัดเต็มอีกเพ
รายการอัพเดททั้งหมด



ราคามือถือ อัพเดทล่าสุด !!


OPPO Reno13 5G 16,999 บาท ราคาลดลง 1,000 บาท จากราคาเดิม 17,999  บาท
Samsung Galaxy S25+ 34,900 บาท ราคาลดลง 2,000 บาท จากราคาเดิม 36,900  บาท
Samsung Galaxy S25 27,900 บาท ราคาลดลง 2,000 บาท จากราคาเดิม 29,900  บาท
Samsung Galaxy S25 Ultra 44,900 บาท ราคาลดลง 2,000 บาท จากราคาเดิม 46,900  บาท
Samsung Galaxy S24 FE 17,900 บาท ราคาลดลง 2,000 บาท จากราคาเดิม 19,900  บาท
OPPO Find N5 69,999 บาท
iPhone 13 128GB 15,900 บาท
iPhone 15 20,900 บาท ราคาลดลง 6,000 บาท จากราคาเดิม 26,900  บาท
OPPO Reno13 F 5G 12,999 บาท
Samsung Galaxy Z Fold6 58,900 บาท
Samsung Galaxy Z Flip6 34,900 บาท
POCO F6 Pro 13,490 บาท ราคาลดลง 2,500 บาท จากราคาเดิม 15,990  บาท
Samsung Galaxy A05s 4,499 บาท ราคาลดลง 500 บาท จากราคาเดิม 4,999  บาท
iPhone 15 Pro Max 39,500 บาท ราคาลดลง 7,400 บาท จากราคาเดิม 46,900  บาท
iPhone 15 Pro 35,400 บาท ราคาลดลง 3,100 บาท จากราคาเดิม 38,500  บาท
iPhone 15 Plus 29,900 บาท ราคาลดลง 3,300 บาท จากราคาเดิม 33,200  บาท
Redmi Pad SE 4,999 บาท
Samsung Galaxy Tab S9+ 35,900 บาท
vivo Y27 5G 6,999 บาท
รายการ ราคามือถือ ทั้งหมด



อัพเดท ข่าวสารล่าสุด (New update)

Xbox ปล่อย Copilot for Gaming (Beta) บนอุปกรณ์มือถือ พร้อมรองรับทั้ง iOS และ Android ผู้ช่วยเกมเมอร์อัจฉริยะ
Xbox ปล่อย Copilot for Gaming (Beta) บนอุปกรณ์มือถือ พร้อมรอ 
Xbox เปิดให้เหล่าเกมเมอร์ได้ทดลองใช้งานฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด Copilot for Gaming (Beta) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อยกร
LINE อัปเดตฟีเจอร์ “รีแอคชั่น” ใหม่! เพิ่มสีสันให้การแชทผ่านการส่งรีแอคชั่นข้อความด้วย LINE Emoji ได้ทุกรูปแบบแล้ววันนี้
LINE อัปเดตฟีเจอร์ “รีแอคชั่น” ใหม่! เพิ่มสีสันให้การแชทผ่าน 
LINE อัปเดตฟีเจอร์ “รีแอคชั่น” ใหม่ ผู้ใช้งานทุกท่านสามารถเลือกใช้ LINE Emoji ทุกรูปแบบในการส่งรีแอคชั่นต
MAHAJAK สบายใจ สบายจ่าย ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน อยู่ที่ไหนก็ผ่อนได้ กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ
MAHAJAK สบายใจ สบายจ่าย ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน อยู่ที่ไห 
มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จัดให้กับโปรโมชันผ่อนได้นานสูงสุดถึง 10 เดือน พร้อมให้ทุกคนได้เป็นเจ้าของเครื่องเสียง
Samsung เปิดตัวทีวี AI รุ่นใหม่ การันตีอัปเดต OS ฟรี 7 ปี พร้อมรับโปรพิเศษ 7 ต่อ
Samsung เปิดตัวทีวี AI รุ่นใหม่ การันตีอัปเดต OS ฟรี 7 ปี พร 
ซัมซุง มอบความมั่นใจให้ลูกค้า การันตีอัปเดต OS ฟรีนาน 7 ปี บนไลน์อัปทีวี AI รุ่นใหม่
Xiaomi รายได้พุ่งทะลุ 111.3 พันล้านหยวน ไตรมาสแรกปี 2025 กำไรโต 64.5%
Xiaomi รายได้พุ่งทะลุ 111.3 พันล้านหยวน ไตรมาสแรกปี 2025 กำไ 
เสียวหมี่ทำรายรับทะลุ 111.3 พันล้านหยวนในไตรมาสแรกของปี 2568 ซึ่งทำยอดทะลุ 1 แสนล้านหยวนเป็นไตรมาสที่สองต
รายการอัพเดททั้งหมด


    Catalog มือถือ     market     Review มือถือ      ราคามือถือ     forum
Catalog มือถือ
Catalog มือถือ Nokia
Catalog มือถือ Samsung
Catalog มือถือ SonyEricsson
Catalog มือถือ i-mobile
Catalog มือถือ LG
Catalog มือถือ BlackBerry
ลงประกาศสินค้ามือถือ
สมัครสมาชิก
หน้าแรกตลาดซื้อขายมือถือ
 
หน้าแรกรีวิว
รีวิว มือถือ Nokia
รีวิว มือถือ Samsung
รีวิว มือถือ Motorola
รีวิว มือถือ LG
 

ราคามือถือ Samsung
ราคามือถือ iPhone
ราคามือถือ Huawei
ราคามือถือ OPPO
ราคามือถือ Vivo
   
   
หน้าแรก cafe
Nokia club
ตั้งหัวข้อใหม่
 

© Copyright all rights reserved : ThaiMobileCenter.com