รีวิว (Review) Vivo Y55

สมาร์ทโฟนเซลฟี่รุ่นเล็กสเปกดี ด้วย Smart Screen Flash สำหรับกล้องหน้า พร้อมจอ IPS HD ขนาด 5.2 นิ้ว ผสานฟังก์ชัน Smart Split, ชิปเซ็ต Snapdragon 430, RAM 2 GB, ROM 16 GB, Android 6.0 และกล้อง 8 ล้านพิกเซล บนบอดี้โลหะ Ultra-Slim Unibody บางเฉียบเรียบหรู ในราคาเบาๆ เพียง 5,990 บาท

Review Date (20-ตุลาคม-2559)

เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาทาง Vivo ได้ทำการเปิดตัว Vivo Y55 สมาร์ทโฟน 4G รุ่นเล็กสเปกดี บนดีไซน์บางเฉียบเรียบหรูรุ่นใหม่ล่าสุดจากตระกูล Y-Series ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย Vivo Y55 นั้นมีความโดดเด่นในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องที่ดูทันสมัย และใช้เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Ultra-Slim Unibody จึงทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ และมีความบางเฉียบเพียง 7.5 มิลลิเมตร โดย Vivo Y55 ได้เคาะราคาออกมาที่ 5,990 บาท เท่านั้น อีกทั้งยังมีให้เลือก 2 สี ด้วยกัน คือ สีทอง (Gold) และสีทองกุหลาบ (Rose Gold)

ซึ่งนอกจากจะมีความโดดเด่นในเรื่องของการออกแบบดีไซน์แล้ว Vivo Y55 ยังมีจุดขายที่น่าสนใจอยู่หลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5.2 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกหน้าจอขอบนูนแบบ 2.5D Glass, โหมดถนอมสายตา (Eye Protection Mode), ฟังก์ชัน Smart Split, รองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสง F/2.0 พร้อมไฟแฟลช LED, กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งรองรับการทำงานร่วมกับฟังก์ชัน Smart Screen Flash และฟังก์ชัน Gender Identification ได้

ทางด้านคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ก็ถือว่าครบเครื่อง และสามารถตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ เริ่มตั้งแต่ ชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm Snapdragon 430 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผล 1.4 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 505, หน่วยความจำแรมขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB, แบตเตอรี่ขนาด 2650 mAh พร้อมรองรับโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 2.6 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow)

จากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า Vivo Y55 ถือเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่มีความครบเครื่อง และสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกรูปแบบ ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร, ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน และฟีเจอร์ต่างๆ จะตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีเพียงใด ขอเชิญทุกท่านไปชมรีวิว Vivo Y55 พร้อมกันได้เลยครับ

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Vivo Y55 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5.2 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Glass โดยมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 147.9x72.9x7.5 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 142 กรัม

ด้านหน้าส่วนบนประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับการใช้งานฟังก์ชัน Smart Screen Flash, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, ระบบ Accelerometer Sensor สำหรับช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน

ด้านหน้าส่วนล่างมาพร้อมกับปุ่มการสั่งงานแบบสัมผัส (Touch Panel) ได้แก่ ปุ่เมนู, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ

ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องสำหรับเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD และช่องสำหรับเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านล่างของตัวเครื่องมีไมโครโฟน, ช่องสำหรับเชื่อมต่อกับสาย microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล และลำโพงเสียงภายนอก

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ, ปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับเสียง

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดที่ 1 และซิมการ์ดที่ 2 โดยซิมการ์ดที่ใช้จะเป็นแบบ nanoSIM ในช่องซิมการ์ดที 1 และแบบ miniSIM ในช่องซิมการ์ดที่ 2

ด้านหลังของตัวเครื่องมาพร้อมกับกล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงขนาด F/2.0 พร้อมไฟแฟลช LED อีกทั้งยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 2650 mAh

สำหรับตัวเครื่องของ Vivo Y55 นั้นใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Ultra-Slim Unibody พร้อมพื้นผิวแบบด้านที่ด้านหลัง จึงทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ และไม่เกิดเกิดคราบเปื้อน หรือรอยนิ้วมืออีกด้วย

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ

Vivo Y55 ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 2.6 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow) อีกทั้งยังรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด และรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้

โดยมีหน่วยความจำภายในขนาด 16 GB พร้อมรองรับเทคโนโลยี USB OTG (USB On-the-Go) ที่สามารถเชื่อมต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้โดยตรง โดยไม่ต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นทางผ่าน

Vivo Y55 ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันการแจ้งเตือน และสามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้ ไม่ว่าจะเป็น WiFi หรือ GPS

นอกจากนี้ ยังสามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, การเปลี่ยนเอฟเฟกต์ปลดล็อกหน้าจอ หรือการซ่อนแอปพลิเคชันก็สามารถทำได้จากส่วนนี้

ไม่เพียงเท่านั้น ผู้ใช้งานยังสามารถดาวน์โหลดธีม, วอลเปเปอร์ และเอฟเฟกต์การปลดล็อกหน้าจอมาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน iTheme

ทางด้านบริการต่างๆ จากทาง Google ก็มีให้ใช้งานอย่างครบครัน

Vivo Y55 ยังมากับแอปพลิเคชัน i Manager สำหรับจัดการส่วนต่างๆ ภายในเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น การล้างข้อมูล (การเคลียร์แรม), การตั้งค่าเพื่อควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ต, การจัดการแอปพลิเคชัน และการจำกัดความเป็นส่วนตัว

นอกจากนี้ Vivo Y55 ยังสามารถเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงได้อีกด้วย

สำหรับแอปพลิเคชันสำหรับสร้างไฟล์ หรือเปิดอ่านไฟล์เอกสาร อย่างแอปพลิเคชัน WPS Office ก็มีให้ใช้งานบน Vivo Y55 ด้วยเช่นกัน

ผู้ใช้งานยังสามารถจดบันทึกสิ่งต่างๆ เช่น วันเกิดเพื่อนสนิท, นัดหมายสำคัญ หรือวันสัมภาษณ์งาน ได้ผ่านแอปพลิเคชัน โน้ต

ทางด้านเว็บเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างไหลลื่น พร้อมทั้งสามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน

แอปพลิเคชันอัลบั้มภาพถ่ายสามารถแสดงภาพถ่ายได้ 2 แบบ คือ แสดงแบบรวมภาพถ่ายทั้งหมด กับแสดงภาพถ่ายแบบแยกอัลบั้ม

อีกหนึ่งความพิเศษบน Vivo Y55 คือ มาพร้อมกับฟังก์ชัน Eye Protection Mode คือ การลดแสงสีฟ้าเพื่อถนอมสายตาขณะใช้งานในสภาวะแสงน้อย หรือใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน

นอกจากนี้ Vivo Y55 ยังมีโหมดการใช้งานอัจฉริยะให้ใช้งานด้วยเช่นกัน ซึ่งจะประกอบไปด้วยโหมด Smart Wake เวอร์ชัน 2.0, การใช้งานโดยไม่สัมผัส, หน้าจอสว่างอัจฉริยะ, การโทรอัจฉริยะ, เขย่าเพื่อเปิดไฟฉาย, ซูมโดยการเอียงโทรศัพท์ และการเตือนอัจฉริยะ

สำหรับฟีเจอร์ Smart Wake เวอร์ชัน 2.0 จะได้รับการปรับปรุง และพัฒนา เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งสามารถสั่ง เปิด-ปิด การใช้งานต่างๆ ได้มากมาย เช่น การเลื่อนขึ้นเพื่อปลดล็อกหน้าจอ, การเลื่อนลงเพื่อถ่ายรูปภาพ รวมถึงการวาดตัวอักษรเพื่อสั่งเปิดใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น การวาดตัวอักษร C เพื่อเข้าสู่ฟังก์ชันโทรศัพท์ หรือการวาดตัวอักษร M เพื่อเข้าสู่แอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลง เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชัน “ภาพหน้าจอพิเศษ” สำหรับถ่ายภาพหน้าเว็บเบราว์เซอร์ หรือเอกสารที่มีหลายๆ หน้าให้เป็นภาพเดียวได้

และรวมถึงการถ่ายภาพหน้าจอแบบแนวนอนเฉพาะส่วนที่ต้องการ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

ไม่เพียงเท่านั้นบน Vivo Y55 คือ ฟังก์ชันการใช้งานมือเดียว โดยคุณสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันการปรับหน้าจอให้มีขนาดเล็กลงสำหรับการใช้งานมือเดียวเดียว

และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ Vivo Y55 นั้นสามารถเปิดใช้งานพร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน บน 2 หน้าต่างได้ ด้วยฟังก์ชัน Smart Split 2.0 และสามารถเปิดฟังก์ชันเริ่มใช้งานด่วนด้วยการกดปุ่มลดระดับเสียงขณะที่ตัวเครื่องอยู่ในโหมดสลีป ไม่ว่าจะเป็น การเปิดไฟฉาย หรือการบันทึกเสียง ให้ใช้งานอีกด้วย

ทางด้านแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลงก็มีให้ใช้งานบน Vivo Y55 อีกทั้งยังสามารถปรับค่าอีควอไลเซอร์ได้อีกด้วย

และยังมีแอปพลิเคชันสำหรับฟังวิทยุ FM ไว้ให้ใช้งานด้วยเช่นกัน

Vivo Y55 สามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น แต่ไม่สามารถแสดงผลได้เต็มความละเอียดของไฟล์วิดีโอ เนื่องจากมีความละเอียดหน้าจอเพียง 1280x720 พิกเซล เท่านั้น

และยังสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชัน Popup Play ได้อีกด้วย

Vivo Y55 มาพร้อมกับชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm Snapdragon 430 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผล 1.4 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 505, หน่วยความจำแรมขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 2.6 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow)

ถึงแม้ว่าคุณสมบัติตัวเครื่องของ Vivo Y55 จะจัดอยู่ในระดับการใช้งานทั่วไป แต่ก็สามารถตอบสนองต่อการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้พบเจอ และไม่สะสมความร้อนที่ตัวเครื่อง

และเมื่อนำ Vivo Y55 มาทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน GeekBench 4 พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 614 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Single-Core และ 1799 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Multi-Core

ต่อด้วยการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu 3DRating Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 3682 คะแนน

Vivo Y55 นั้นสามารถรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด

และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store

กล้องดิจิทัล ถ่ายภาพนิ่ง และถ่ายภาพวิดีโอ

สำหรับ Interface กล้องถ่ายภาพบน Vivo Y55 นั้นมีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงฟังก์ชันต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน ซึ่งสามารถกดเลือกใช้งานได้ทันที และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพ HDR, โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า, โหมดถ่ายภาพกลางคืน และโหมดถ่ายภาพ Ultra HD

อีกทั้งยังสามารถตั้งค่าการใช้งานไฟแฟลช LED ได้ และยังมีเอฟเฟกต์ให้เลือกใช้งานหลายรูปแบบอีกด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น Vivo Y55 ยังมีโหมดถ่ายวิดีโอ และโหมดถ่ายภาพหน้าสวยให้ใช้งาน ซึ่งโหมดถ่ายภาพหน้าสวยนั้นสามารถปรับค่าผิวเนียนได้ตั้งแต่ 0-100% เลยทีเดียว

นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ ได้อีกหลายอย่างด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ การ เปิด-ปิด เสียงชัตเตอร์, ไมโครโฟน,สัมผัสเพื่อถ่ายภาพ, การยกฝ่ามือเพื่อถ่ายภาพ (Palm Capture), สามารถเลือกสัดส่วนของภาพถ่ายได้ 2 แบบ คือ 4:3 กับ 16:9

สามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้ตั้งแต่ 3 วินาที และ 10 วินาที รวมทั้งสามารถเลือกความละเอียดของการถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ระดับ 1080p

ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็มีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกับกล้องดิจิทัลด้านหลัง อีกทั้งยังแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งาน 2 อย่าง คือ โหมดถ่ายภาพอัตโนมัติ และโหมดถ่ายภาพหน้าสวย

ซึ่งโหมดถ่ายภาพหน้าสวยนั้นสามารถปรับค่าผิวเนียนได้ตั้งแต่ 0-100% ทั้งผิวเนียน, ตาโต และใบหน้าเรียว ส่วนโหมดถ่ายวิดีโอก็มีให้ใช้งานด้วยเช่นกัน

สามารถเปิดใช้งานฟังก์ชัน Smart Screen Flash ได้  และยังมีเอฟเฟกต์ให้เลือกใช้งานหลายรูปแบบอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมได้อีกหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การ เปิด-ปิด เสียงชัตเตอร์, การสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ, ฟังก์ชัน Palm Capture คือ ยกฝ่ามือเพื่อสั่งงานถ่ายภาพ, การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ และ ฟังก์ชัน Gedder identification ที่สามารถปรับค่าผิวนวลให้เหมาะสมตามเพศ เพื่อความสมจริงมากยิ่งขึ้น, สามารถปรับอัตราส่วนของภาพถ่ายได้ 2 แบบ คือ 4:3 กับ 16:9

สามารถปรับความละเอียดของไฟล์วิดีโอได้ 3 แบบ ได้แก่ 720p, 480p และ 240p และสามารถ เปิด-ปิด การใช้งานฟังก์ชันการถ่ายภาพกลับด้าน

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล ของ Vivo Y55

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beauty) ของ Vivo Y55

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 20

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 40

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 60

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 80

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 100

ภาพซ้ายถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ ส่วนภาพขวาถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ พร้อมเปิดใช้งานฟังก์ชัน Smart Screen Flash จะเห็นได้ว่าภาพถ่ายทางขวามีความสว่าง และสีสันที่เป็นธรรมชาติมากกว่า

ภาพซ้ายถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ ส่วนภาพขวาถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ พร้อมเปิดใช้งานฟังก์ชัน Smart Screen Flash จะเห็นได้ว่าภาพถ่ายทางขวามีความสว่าง และสีสันที่เป็นธรรมชาติมากกว่า

สรุปผลการทดสอบของ Vivo Y55

จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับการรีวิวสมาร์ทโฟนสุดคุ้มดีไซน์เรียบหรูรุ่นใหม่ล่าสุดจากตระกูล Y-Series อย่าง Vivo Y55 อันดับแรกต้องขอยอมรับในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ที่ทาง Vivo ได้เลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Ultra-Slim Unibody ที่มีความบางเฉียบเพียง 7.5 มิลลิเมตร ซึ่งทำให้ตัวเครื่องของ Vivo Y55 นั้นมีความสวยงามลงตัว อีกทั้งยังมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ตรงมุมตัวเครื่องทั้งสี่ด้านยังมีความโค้งมน บวกกับพื้นผิวแบบด้านที่ด้านหลัง จึงช่วยให้สามารถจับ หรือถือใช้งานได้อย่างคล่องตัว และไม่เกิดคราบเปื้อน หรือรอยนิ้วมือได้ง่ายอีกด้วย

อีกหนึ่งความน่าสนใจ คือ กล้องดิจิทัลบน Vivo Y55 ที่ตอบสนองต่อการถ่ายภาพได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกล้องดิจิทัลด้านหน้าที่มีความละเอียดมากถึง 5 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับการสัมผัสหน้าจอเพื่อเลือกจุดวัดแสง และปรับค่าชดเชยแสงได้อย่างอิสระ ซึ่งจากการทดสอบพบว่าภาพถ่ายที่ได้นั้นมีความคมชัด และสีสันสดใส พร้อมทั้งรองรับฟังก์ชัน Smart Screen Flash จึงสามารถถ่ายภาพใบหน้าให้สว่างในที่แสงน้อยได้ นอกจากนี้ ยังสามารถทำงานร่วมกับโหมดถ่ายภาพหน้าสวยที่สามารถปรับค่าผิวเนียนได้ตั้งแต่ 0-100% ได้ดี อีกทั้งยังมีฟังก์ชัน Gender identification สำหรับปรับค่าผิวเนียนให้เหมาะสมตามเพศเพื่อความสมจริงให้ใช้งานอีกด้วย ซึ่งช่วยเพิ่มความสนุกสนานต่อการถ่ายภาพเซลฟี่เป็นอย่างมาก ส่วนทางด้านกล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสง F/2.0 พร้อมไฟแฟลช LED ก็ตอบสนองต่อการถ่ายภาพได้ดีไม่แพ้กัน โดยภาพถ่ายที่ได้ก็มีความคมชัด และสีสันสดใส

ทางด้านคุณสมบัติอื่นๆ ของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้นั้นก็นับว่าครบเครื่อง และสามารถตอบสนองต่อการใช้งานทุกรูปแบบได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5.2 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกหน้าจอขอบนูนแบบ 2.5D Glass, โหมดถนอมสายตา (Eye Protection Mode), ฟังก์ชัน Smart Split, รองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, ชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm Snapdragon 430 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผล 1.4 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 505, หน่วยความจำแรมขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB, แบตเตอรี่ขนาด 2650 mAh พร้อมรองรับโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 2.6 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow) ซึ่งจากการทดสอบด้วยการถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) แบบต่อเนื่อง หรือเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติ Vivo Y55 ก็สามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้พบเจอ และไม่มีการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องอีกด้วย

หลังจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็พอที่จะสรุปได้ว่า Vivo Y55 น่าจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มีตัวเครื่องที่ดูบางเฉียบเรียบหรูน่าใช้งาน, วัสดุแข็งแรงทนทาน, สเปกครบเครื่อง, กล้องถ่ายภาพสวยคมชัดทั้งด้านหน้าด้านหลัง, มีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย, รองรับ 4G และต้องมีราคาไม่เกิน 6,000 บาท ซึ่ง Vivo Y55 ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม ถ้าหากท่านใดที่สนใจ Vivo Y55 ก็สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ Vivo Shop หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดย Vivo Y55 ได้วางจำหน่ายในราคาเบาๆ เพียง 5,990 บาท เท่านั้น! และมีเลือก 2 สี ด้วยกัน คือ สีทอง (Gold) และสีทองกุหลาบ (Rose Gold) สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Vivo ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Vivo Y55 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ

จุดเด่นของ Vivo Y55

- ตัวเครื่องผลิตจากโลหะ พร้อมดีไซน์แบบ Ultra-Slim Unibody และมีความบางเฉียบเพียง 7.5 มิลลิเมตร
- จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x720 Pixels (HD 720p : กว้าง 5.2 นิ้ว) พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 505
- ครอบทับด้วยกระจกหน้าจอแบบ 2.5D Glass
- โหมดถนอมสายตา (Eye Protection Mode)
- ฟังก์ชัน Smart Wake 2.0 สำหรับเรียกใช้งานแอปพลิเคชันด้วยการวาดตัวอักษร
- ฟังก์ชัน Smart Split สำหรับแบ่งการใช้งานออกเป็น 2 หน้าต่าง
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit Qualcomm MSM8937 Snapdragon 430 ความเร็วในการประมวลผล 1.4 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 2.6 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสง F/2.0 พร้อมไฟแฟลช LED และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
- กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ  5 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับการทำงานร่วมกับฟังก์ชัน Smart Screen Flash และฟังก์ชัน Gender Identification ได้ และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ HD (720p)
- รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง (Gesture & Motion Control)
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว (Dual SIM : Dual Standby)
- ช่องใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD กับช่องใส่ซิมการ์ด แยกออกจากกันอย่างอิสระ
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, WiFi, EDGE และ GPRS
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- วิทยุ FM Stereo ในตัว
- ชนิดแบตเตอรี่แบบ Li-Ion ขนาด 2650mAh พร้อมรองรับโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง
- ราคา 5,990 บาท

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Vivo Y55

- เนื่องจากตัวเครื่องเป็นดีไซน์แบบไม่มีฝาหลัง จึงไม่สามารถถอด หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ด้วยตนเองได้
- หน้าจอแสดงผลยังมีความละเอียดอยู่ที่ระดับ HD 720p ในขณะที่สมาร์ทโฟนบางรุ่นที่มีราคาระดับเดียวกันใช้หน้าจอที่มีความละเอียดระดับ Full HD 1080p
- แบตเตอรี่มีความจุเพียง 2650 mAh ซึ่งอาจยังไม่มากพอสำหรับการใช้งานต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
- ความละเอียดของกล้องดิจิทัลด้านหลัง (8 ล้านพิกเซล) ถือว่ายังไม่มากนัก หากเทียบกับสมาร์ทโฟนที่มีระดับราคาใกล้เคียงกัน

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

สรุปคุณสมบัติเครื่อง

ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Vivo Y55 ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้

สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Vivo Y55

  title="Sony Xperia ZL Specification">

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::