รีวิว (Review) vivo V3
สมาร์ทโฟน 4G เพื่อคอเซลฟี่น้องใหม่ ด้วยกล้องหน้าออโต้โฟกัส 8 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ 360 องศา, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF, จอ HD ขนาด 5 นิ้ว, ชิปเซ็ต Snapdragon 616, แรมขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB และชิปเสียงระดับ Hi-Fi บนบอดี้โลหะดีไซน์เรียบหรู ในราคาเพียง 8,990 บาท
Review
Date (18-พฤษภาคม-2559)
หลังจากที่ได้นำเสนอบทความรีวิว vivo V3Max สมาร์ทโฟนดีไซน์สวยหรู เพื่อคอเซลฟี่ตัวจริง ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์การใช้งานที่ครบครันกันไปแล้วเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา ล่าสุดทาง vivo ได้วางจำหน่ายสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นในตระกูล V-Series นั่นคือ vivo V3 สมาร์ทโฟนสำหรับคนรักการถ่ายภาพเซลฟี่น้องใหม่ ในราคาที่ย่อมเยาลงมา โดยเปิดราคาออกมาเพียง 8,990 บาท พร้อมคุณสมบัติการใช้งานที่โดดเด่นไม่แพ้รุ่นพี่อย่าง vivo V3Max เลยก็ว่าได้
โดยดีไซน์ตัวเครื่องของ vivo V3 จะใช้เทคโนโลยีในการผลิตแบบ All-Metal Unibody พร้อมเคลือบพื้นผิวด้วยแร่ธาตุพิเศษที่ช่วยให้พื้นผิวตัวเครื่องเรียบลื่นน่าสัมผัส เช่นเดียวกับ vivo V3Max ซึ่งรวมถึงตัวฝาหลังก็ใช้สีเมทัลลิคเพื่อเพิ่มความแวววาวด้วยเช่นกัน
สำหรับจุดขายสำคัญของ vivo V3 จะมีอยู่หลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ ตัวเครื่องขนาดกะทัดรัดพกพาสะดวก และมีความบางเพียง 7.5 มิลลิเมตร ต่อด้วยกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมระบบออโต้โฟกัส และมีโหมดถ่ายภาพ Beauty Face ให้ใช้งาน ซึ่งสามารถปรับค่าผิวเนียนได้ตั้งแต่ 0-100% อีกทั้งยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน Gender identification ที่สามารถปรับค่าผิวนวลให้เหมาะสมตามเพศ เพื่อความสมจริง และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน พร้อมเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือแบบ 360 องศา ซึ่งสามารถสแกนลายนิ้วมือภายในเวลาเพียง 0.5 วินาที นอกจากนี้ ยังมากับชิปเสียงรุ่น Hi-Fi AK4375 ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับฟังคุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi
ทางด้านคุณสมบัติภายในก็ถือว่าครบเครื่อง เรียกได้ว่า สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลแบบ IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD (720p) พร้อมด้วยชิปเซ็ต 64-bit Octa-Core Qualcomm MSM8939v2 Snapdragon 616 (ARM Cortex-A53) ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 405, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB, กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมกับระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) ซึ่งสามารถโฟกัสภาพได้ภายในเวลาเพียง 0.2 วินาที พร้อมไฟแฟลช LED และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 2.5 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop)
ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ฟีเจอร์จะเพียบพร้อมขนาดไหน ดีไซน์ตัวเครื่องของ vivo V3 จะสวยเพียงใด กล้องถ่ายภาพคมจะชัดสมกับที่ทาง vivo โปรโมทไว้หรือไม่ วันนี้ทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์มีคำตอบให้กับทุกท่านครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์
vivo V3 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ IPS ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5 นิ้ว ส่วนตัวเครื่องจะมีขนาดอยู่ที่ 143.6x71x7.5 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 138 กรัม
ด้านหน้าส่วนบนประกอบไปด้วย กล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัส, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, สัญญาณไฟ LED สำหรับการแจ้งเตือนต่างๆ, ระบบ Accelerometer Sensor สำหรับช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานแบบสัมผัส (Touch Panel) ได้แก่ ปุ่มเมนู, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ
ด้านบนของตัวเครื่องประกอบไปด้วยช่องสำหรับเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ช่องสำหรับเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD และไมโครโฟน
ด้านล่างของตัวเครื่องประกอบไปด้วย ไมโครโฟร, ช่องเชื่อมต่อกับสาย microUSB สำหรับส่งผ่านข้อมูล หรือชาร์จแบตเตอรี่ และลำโพงเสียงภายนอก ที่มาพร้อมชิปเสียงรุ่นพิเศษ Hi-Fi AK4375 (ซึ่งทาง Vivo ได้จับมือร่วมกับ Asahi Kasei Microdevices Corporation บริษัทชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของคุณภาพเสียง โดยมีค่า SNR สูงถึง 105dB และต่ำสุด -97dB เพื่อให้คุณได้ฟังเสียงคุณภาพระดับ Hi-Fi)
ด้านขวาของตัวเครื่องประกอบไปด้วยปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับของเสียง
ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดที่ 1 และซิมการ์ดที่ 2 ซึ่งซิมการ์ดที่ใช้จะเป็นแบบ microSIM ในช่องซิมการ์ดที่ 1 และแบบ nanoSIM ในช่องซิมการ์ดที่ 2
ด้านหลังของตัวเครื่องประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มากับระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) ซึ่งสามารถโฟกัสภาพได้ภายในเวลาเพียง 0.2 วินาที พร้อมไฟแฟลช LED และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมื้อ สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน พร้อมเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือแบบ 360 องศา ซึ่งสามารถสแกนลายนิ้วมือภายในเวลาเพียง 0.5 วินาที นอกจากนี้ vivo V3 ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 2550 mAh
สำหรับ vivo V3 ได้ใช้เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ All-Metal Unibody โดยไม่สามารถเปิดฝาหลังได้ จึงทำให้ไม่สามารถถอด หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ด้วยตนเองได้
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ
vivo V3 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 2.5 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop)
โดยมีหน่วยความจำภายในขนาด 32 GB
vivo V3 ยังมีฟังก์ชันการแจ้งเตือนต่างๆ ให้ใช้งาน และสามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันลัด หรือการปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ต้องการใช้งานต่อได้
ในส่วนของบริการต่างๆ จากทาง Google ก็มีให้ใช้งานครบบน vivo V3
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าหน้าจอโฮมสกรีนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน, สามารถเปลี่ยนเอฟเฟกต์การปลดล็อกหน้าจอได้ อีกทั้งยังสามารถซ่อนแอปพลิเคชันก็ทำได้จากส่วนนี้
สามารถดาวน์โหลดธีมอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน i Theme
ทางด้านฟังก์ชันโทรศัพท์จะมีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย ปุ่มตัวเลขมีขนาดพอดีกับนิ้วมือ สามารถกดหมายเลขได้อย่างแม่นยำ และสามารถเข้าสู่รายชื่อทั้งหมดได้เพียงแค่กดที่ไอคอนรูปบุคคล
vivo V3 ยังมากับแอปพลิเคชัน i Manager สำหรับจัดการส่วนต่างๆ ภายในเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น การล้างข้อมูล (การเคลียร์แรม), การตั้งค่าเพื่อควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ต, การจัดการแอปพลิเคชัน และการจำกัดความเป็นส่วนตัว
ในส่วนของฟังก์ชันการประหยัดพลังงานขั้นสูงก็มีให้ใช้งานบน vivo V3 ด้วยเช่นกัน
อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยี USB OTG (USB On-the-Go) ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้โดยตรง
นอกจากนี้ vivo V3 สามารถเปิดอ่านไฟล์เอกสารได้ ไม่ว่าจะเป็น Word, Excel, Power Point และ PDF เรียกได้ว่า ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก
vivo V3 มีโหมดการใช้งานอัจฉริยะให้ใช้งานด้วยเช่นกัน ซึ่งจะประกอบไปด้วยโหมด Smart Wake เวอร์ชัน 2.0, การใช้งานโดยไม่สัมผัส, หน้าจอสว่างอัจฉริยะ, การโทรอัจฉริยะ, เขย่าเพื่อเปิดไฟฉาย, ซูมโดยการเอียงโทรศัพท์ และการเตือนอัจฉริยะ
สำหรับฟีเจอร์ Smart Wake เวอร์ชัน 2.0 จะได้รับการปรับปรุง และพัฒนา เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งสามารถสั่ง เปิด-ปิด การใช้งานต่างๆ ได้มากมาย เช่น การเลื่อนขึ้นเพื่อปลดล็อกหน้าจอ, การเลื่อนลงเพื่อถ่ายรูปภาพ รวมถึงการวาดตัวอักษรเพื่อสั่งเปิดใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น การวาดตัวอักษร C เพื่อเข้าสู่ฟังก์ชันโทรศัพท์ หรือการวาดตัวอักษร M เพื่อเข้าสู่แอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลง เป็นต้น
อีกหนึ่งความพิเศษบน vivo V3 คือ มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ สำหรับสำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน โดยคุณสามารถบันทึกลายนิ้วมือได้มากกว่า 1 ลายนิ้วมือ
นอกจากนี้ vivo V3 ยังมีฟังก์ชันการใช้งานมือเดียวเช่นเดียวกับ vivo V3Max ซึ่งสามารถปรับหน้าจอให้มีขนาดเล็กลง เพื่อให้สามารถใช้งานมือเดียวได้สะดวกมากขึ้น
ทางด้านฟังก์ชัน ภาพหน้าจอพิเศษ สำหรับถ่ายภาพหน้าเว็บเบราว์เซอร์ หรือเอกสารที่มีหลายหน้า หรือแม้แต่การถ่ายภาพที่เลือกเฉพาะส่วนแบบแนวนอน ก็มีให้ใช้งานบน vivo V3 ด้วยเช่นกัน
สำหรับแอปพลิเคชันเว็บเบราว์เซอร์ก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี สามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้ครบถ้วน
อัลบั้มภาพถ่ายสามารถแสดงภาพถ่ายได้ 2 แบบ คือ แบบแยกอัลบั้ม กับแบบรวมภาพถ่ายทั้งหมด
vivo V3 ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชัน i Music สำหรับฟังเพลง ซึ่งสามารถเปิดเอฟเฟกต์แบบสามมิติได้ อีกทั้งยังสามารถเพิ่มพลังเสียงทุ้ม หรือเพิ่มพลังเสียงแหลม ได้อีกด้วย
ส่วนแอปพลิเคชันสำหรับฟังวิทยุ FM ก็มีให้ใช้งานบน vivo V3 ด้วยเช่นกัน
vivo V3 สามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น และไม่มีอาการสะดุดให้พบเจอ
vivo V3 จะมาพร้อมกับชิปเซ็ต 64-bit Octa-Core Qualcomm MSM8939v2 Snapdragon 616 (ARM Cortex-A53) ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 405, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 2.5 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop)
ด้วยคุณสมบัติตัวเครื่องที่โดดเด่นจึงทำให้ vivo V3 สามารถตอบโจทย์ด้านการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติได้ไหลลื่น และไม่มีอาการหน่วงให้พบเจอ
และเมื่อนำ vivo V3 มาทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 38328 คะแนน
ต่อด้วยการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu 3DRating Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 7770 คะแนน
สำหรับ vivo V3 สามารถรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด
และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store
กล้องดิจิตอล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวีดีโอ
สำหรับ Interface แอปพลิเคชันกล้องถ่ายภาพจะมีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย ตามแบบฉบับของ vivo ซึ่งจะมีการแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ชัดเจน และมีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมด HDR, โหมดพาโนราม่า และโหมดกลางคืน
ไม่เพียงเท่านั้น กล้องดิจิทัลด้านหลังยังมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beauty Face) ให้ใช้งานอีกด้วย โดยสามารถปรับค่าผิวเรียบเนียนได้ตั้งแต่ 0-100% อีกทั้งยังมีเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพ และลายน้ำต่างๆ ให้ใช้งานอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังสามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันสำหรับถ่ายภาพได้อีกหลายอย่างด้วยกัน ได้แก่ การสั่งงานถ่ายภาพด้วยเสียง, สัมผัสหน้าจอเพื่อถ่ายภาพ, การยกฝ่ามือเพื่อถ่ายภาพ (Palm Capture), การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ
การเลือกสัดส่วนของภาพถ่าย และการเลือกความละเอียดของไฟล์วิดีโอ
ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็ใช้งานได้ง่ายไม่แพ้กัน แถมยังมีโหมดถ่ายภาพกลางคืนให้ใช้งานอีกด้วย
ส่วนโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beauty Face) จะสามารถปรับค่าผิวเนียนได้ตั้งแต่ 0-100 ตามความต้องการ และสามารถระบุค่าต่างๆ ด้วยตนเองได้ ไม่ว่าจะเป็น ผิวเนียน, ตาโต และใบหน้าเรียว
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานกล้องถ่ายภาพได้อีกหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การ เปิด-ปิด เสียงชัตเตอร์, การสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ, ฟังก์ชัน Palm Capture คือ ยกฝ่ามือเพื่อสั่งงานถ่ายภาพ, การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ และ ฟังก์ชัน Gender identification ที่สามารถปรับค่าผิวนวลให้เหมาะสมตามเพศ เพื่อความสมจริงมากยิ่งขึ้น, สามารถปรับอัตราส่วนของภาพถ่ายได้ 2 แบบ คือ 4:3 กับ 16:9
อีกทั้งยังมีเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพ และลายน้ำต่างๆ ให้ใช้งานอีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลด้านหลังความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล ของ vivo V3
ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลด้านหน้าความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล ในโหมด Beauty Face ของ vivo V3
ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมด Beauty Face พร้อมปรับค่าที่ระดับ 30
ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมด Beauty Face พร้อมปรับค่าที่ระดับ 60
ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมด Beauty Face พร้อมปรับค่าที่ระดับ 100
สรุปผลการทดสอบของ vivo V3
นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนเซลฟี่สเปคดี ในราคาที่เหมาะสมอีกหนึ่งรุ่น ซึ่งมาพร้อมกับการออกแบบดีไซน์ที่ทันสมัย อีกทั้งเลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ All-Metal Unibody พร้อมเคลือบพื้นผิวด้วยแร่ธาตุพิเศษ จึงทำให้ตัวเครื่องของ vivo V3 มีความแข็งแรงทนทาน และมีพื้นผิวเรียบลื่นน่าสัมผัส ไม่เพียงเท่านั้น ตัวฝาหลังจะทาด้วยสีเมทัลลิค ซึ่งช่วยเพิ่มความแวววาวให้มากขึ้นเป็นพิเศษ
นอกจากตัวเครื่องจะดูสวยหรู ทันสมัยแล้ว ในเรื่องของกล้องถ่ายภาพก็โดดเด่นไม่แพ้กัน โดยเฉพาะกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโตโฟกัส ซึ่งจากการทดสอบพบว่าภาพถ่ายที่ได้จะมีความคมชัด และสีสันสดใส และทำงานร่วมกับโหมดถ่ายภาพ Beauty Face ที่สามารถปรับค่าผิวเนียนได้ตั้งแต่ 0-100% ได้ดี อีกทั้งยังมีฟังก์ชัน Gender identification ที่สามารถปรับค่าผิวนวลให้เหมาะสมตามเพศ เพื่อความสมจริงให้ใช้งานอีกด้วย บอกได้เลยว่า ต้องถูกอกถูกใจคนรักการถ่ายภาพเซลฟีอย่างแน่นอน ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) สามารถโฟกัสภาพได้ภายในเวลาเพียง 0.2 วินาที ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานไม่พลาดการถ่ายภาพเหตุการณ์สำคัญๆ อีกด้วย
สำหรับจุดขายอื่นๆ ของ vivo V3 ก็น่าสนใจ และเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้เป็นอย่างมาก ได้แก่ เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน พร้อมเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือแบบ 360 องศา ซึ่งสามารถสแกนลายนิ้วมือภายในเวลาเพียง 0.5 วินาที นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับชิปเสียงรุ่น Hi-Fi AK4375 ที่จะช่วยให้คุณได้รับฟังคุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi เลยทีเดียว
ทางด้านคุณสมบัติภายในทาง vivo ก็จัดมาให้แบบครบเครื่อง เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลแบบ IPS ความละเอียดระดับ HD (720p) ขนาด 5 นิ้ว พร้อมด้วยชิปเซ็ต 64-bit Octa-Core Qualcomm MSM8939v2 Snapdragon 616 (ARM Cortex-A53) ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 405, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE หรือ 3G ได้ และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 2.5 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop) ซึ่งจากการทดสอบ vivo V3 สามารถตอบสนองต่อการใช้งานทั้งการเล่มเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติ หรือเปิดไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้แบบไหลลื่น ไม่มีอาการหน่วงให้พบเจอ
อย่างไรก็ดี เทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ Dual-Chip Flash-Charging กับฟังก์ชัน Smart Split สำหรับแบ่งการใช้งานออกเป็น 2 หน้าต่าง จะไม่มีให้ใช้งานบน vivo V3 ซึ่งคาดว่าทาง vivo ต้องการลดต้นทุนการผลิตให้ vivo V3 มีราคาย่อมเยาลงมาจาก vivo V3Max รุ่นใหญ่ ส่วนฟีเจอร์ที่มีอยู่ก็เพียงพอต่อการใช้งานได้แบบเหลือเฟือ และประหยัดเงินได้ถึง 4,000 บาท เลยทีเดียว
และจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็พอที่จะสรุปได้ว่า vivo V3 น่าจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนราคาไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ที่มาพร้อมกล้องหน้าถ่ายภาพสวยคมชัด, ดีไซน์เรียบหรู, วัสดุแข็งแรงทนทาน, มีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย, มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, มีเสียงคุณภาพระดับ Hi-Fi และคุณสมบัติภายในครบเครื่อง ซึ่ง vivo V3 ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่สมเหตุสมผลที่สุดรุ่นหนึ่ง ณ ชั่วโมงนี้ สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง vivo ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง vivo V3 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ vivo V3
- เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ All-Metal Unibody (อะลูมิเนียม) พร้อมการเคลือบผิวด้วยแร่ธาตุพิเศษ
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน พร้อมเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือแบบ 360 องศา และใช้เวลาในการสแกนลายนิ้วมือภายในเวลา 0.5 วินาที
- จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x720 Pixels ขนาด 5 นิ้ว พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno (TM) 405
- กระจกหน้าจอแบบ 2.5D Corning Gorilla Glass 3 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแรงกระแทก หรือรอยขีดข่วน
- ฟังก์ชัน Smart Wake 2.0 สำหรับเรียกใช้งานแอปพลิเคชันด้วยการวาดตัวอักษร
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต 64-bit Octa-Core Qualcomm MSM8939v2 Snapdragon 616 (ARM Cortex-A53) ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS เวอร์ชัน 2.5 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB
- กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels พร้อมไฟแฟลชแบบ LED, ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) (โฟกัสภาพได้ภายในเวลา 0.2 วินาที) และรองรับการถ่ายภาพวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 Pixels : 30 fps)
- กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้าน Pixels พร้อมระบบออโต้โฟกัส ที่มีฟังก์ชันสั่งถ่ายภาพด้วยเสียง, ฝ่ามือ และลายนิ้วมือ พร้อมรองรับการใช้งานร่วมกับฟังก์ชัน Gender Identification, โหมดถ่ายภาพใบหน้าสวย (Beauty Face) และรองรับการถ่ายภาพวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 Pixels : 30 fps)
- ชิปเสียงรุ่นพิเศษ Hi-Fi AK4375 ซึ่งทาง vivo ได้จับมือร่วมกับ Asahi Kasei Microdevices Corporation บริษัทชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อช่วยเพิ่มคุณภาพเสียง โดยมีค่า SNR สูงถึง 105dB และต่ำสุด -97dB ให้ผู้ใช้งานรับฟังเสียงคุณภาพระดับ Hi-Fi
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, WiFi, EDGE และ GPRS
- ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) พร้อมฟังก์ชัน A-GPS และรองรับระบบดาวเทียม GLONASS ของรัสเซีย
- ฟังก์ชัน Smart Click สามารถสั่งงาน เปิด-ปิด ไฟฉาย, การบันทึกเสียง หรือสั่งงานเปิดแอปพลิเคชัน Facebook ผ่านปุ่มลดระดับเสียงได้
- ชนิดแบตเตอรี่ Li-Ion ความจุ 2550 mAh
- มีวิทยุ FM ในตัว
- ราคา 8,990 บาท
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ vivo V3
- ดีไซน์ตัวเครื่องแบบไม่มีฝาหลัง จึงไม่สามารถถอด หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ด้วยตนเองได้
- ฟังก์ชัน Smart Split สำหรับแบ่งการใช้งานออกเป็น 2 หน้าต่างให้ใช้งานแบบเดียวกับ vivo V3
- ไม่รองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง (Dual-Chip Flash-Charging)
- แบตเตอรี่มีความจุค่อนข้างน้อย อาจจะไม่เพียงพอต่อการใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน
- หน้าจอมีความละเอียดเพียงระดับ HD (720p) ซึ่งอาจจะด้อยกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในระดับราคาเดียวกัน
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปคุณสมบัติเครื่อง
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ vivo V3 ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ vivo V3
title="Sony Xperia ZL Specification">
:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|