รีวิว (Review) OPPO A83
สมาร์ทโฟนกล้องหน้า A.I. Beauty ใหม่ล่าสุด พร้อมจอ Full Screen ไร้ขอบแบบ 18:9 ใหญ่เต็มตา 5.7 นิ้ว, ชิปเซ็ต Helio P23, RAM 3GB, ROM 32GB, กล้อง PDAF 13 ล้านพิกเซล, ระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า และแบตเตอรี่ 3180 mAh บนตัวเครื่อง Unibody สวยเพรียว ตอบโจทย์คอเซลฟี่ตัวจริง ในราคาไม่ถึง 8 พันบาท
Review
Date (26-มกราคม-2561)

เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา ทาง OPPO ได้ทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟน A-Series รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีว่า OPPO A83 พร้อมชูจุดเด่นในเรื่องของหน้าจอไร้ขอบแบบ Full Screen ในอัตราส่วน 18:9, ระบบสแกนใบหน้า, กล้องดิจิทัลด้านหน้าที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี A.I. Beauty, คุณสมบัติตัวเครื่องสำหรับตอบโจทย์การใช้งานในระดับกลางได้ครบทุกรูปแบบ
บนดีไซน์เรียบหรูจับถนัดมือแบบ Unibody ในราคาที่ใครๆ ก็เป็นเจ้าของได้ เรียกได้ว่า เป็นสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว นอกจากนี้ OPPO A83 ถือเป็นสมาร์ทโฟรรุ่นที่สอง ซึ่งจะสานต่อความสามารถในเรื่องของการถ่ายภาพหน้าสวยผ่านเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง A.I. Beauty แต่วางจำหน่ายในราคาที่ย่อมเยากว่าสมาร์ทโฟน A.I. Beauty รุ่นพี่อย่าง OPPO F5 เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้แก่ผู้ใช้นั่นเอง
สำหรับจุดขายหลักของ OPPO A83 นั้นเป็นในเรื่องของกล้องถ่ายภาพ โดยเฉพาะกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อมรองรับเทคโนโลยี A.I. Beauty, มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.2, มีฟังก์ชัน Bokeh สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ และมีฟังก์ชัน Screen Flash ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหลังจะมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.2, ระบบโฟกัสภาพแบบ
PDAF (Phase Detection Autofocus) และไฟแฟลช LED
ทางด้านคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ก็ถือเป็นจุดขายสำคัญของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน เริ่มตั้งแต่ ตัวเครื่องใช้เทคโนดลยีการผลิตแบบ Unibody พร้อมความบางเฉียบ 7.7 มิลลิเมตร จึงทำให้ตัวเครื่องมีความเรียบหรูจับถนัดมือ, หน้าจอแสดงผลแบบ TFT Full Screen Display ความละเอียด 1440x720 พิกเซล ขนาด 5.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 18:9, รองรับฟังก์ชัน Split-Screen สำหรับแบ่งหน้าจอ เพื่อให้ใช้งานได้พร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน,
รองรับการโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน, รองรับฟังก์ชันการถนอมสายตา (Blue Light Filter), รองรับฟังก์ชัน Hold of Distraction สำหรับเล่นเกม และสนทนาไปพร้อมๆ กัน, รองรับฟังก์ชันโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน, ระบบสแกนใบหน้า (Facial Unlock), ถาดซิมการ์ดแบบ Triple-Slot Tray ซึ่งเป็น 3 ช่องอิสระ ที่สามารถใส่ซิมการ์ดที่ 1, ซิมการ์ดที่ 2 และการ์ดหน่วยความจำภายนอกได้พร้อมๆ กัน, รองรับเทคโนโลยี Full NetCom 3.0 พร้อมรองรับการสนทนาผ่านระบบ VoLTE,
รองรับเทคโนโลยีเสียง Real Original Sound และแบตเตอรี่ขนาด 3180 mAh พร้อมรองรับการเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงานได้
ในส่วนของคุณสมบัติการประมวลผล ก็เรียกได้ว่าจัดเต็มไม่แพ้สมาร์ทโฟนแบรนด์คู่แข่งเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6763T Helio P23 ความเร็วในการประมวลผล 2.5 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิกแบบ Mali-G71, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB, หน่วยความจำแรม ขนาด 3 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.2 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat)
โดย OPPO A83 ได้เคาะราคาขายเพียง 7,990 บาท เท่านั้น! ซึ่งจากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า OPPO A83 นั้นมีความน่าสนใจอยู่หลายส่วนเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น ในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ที่มีความเรียบหรู พร้อมหน้าจอแสดงผลไร้ขอบ ใหญ่เต็มตา 5.7 นิ้ว, กล้องถ่ายภาพคมชัดทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง พร้อมรองรับเทคโนโลยี A.I. Beauty และฟีเจอร์ให้ใช้งานอย่างครบครัน ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร, การออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน กล้องถ่ายภาพได้สวยคมชัดเนียนตาหรือไม่
และฟีเจอร์ต่างๆ จะตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีเพียงใด ขอเชิญทุกท่านไปชมรีวิว OPPO A83 พร้อมกันได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

OPPO A83 มาในแพ็กเกจสีขาวที่ดูสะอาดตา

ซึ่งด้านหลังกล่องได้มีการระบุคุณสมบัติตัวเครื่องแบบคร่าวๆ เอาไว้ เช่น มาพร้อมกับระบบ A.I. Beauty, หน้าจอแบบ Full Screen ความละเอียดระดับ HD+ ขนาด 5.7 นิ้ว และหน่วยความจำแรมขนาด 3 GB


ซึ่งภายในกล่องก็มีอุปกรณ์พื้นฐานให้ใช้งานอย่างครบครัน เช่น Adapter, หูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร, สายเชื่อมต่อแบบ microUSB, คู่มือการใช้งาน, ใบรับประกัน, เคสใส

และ SIM Door Key

โดย OPPO A83 จะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลไร้ขอบแบบ TFT Full Screen Display ความละเอียด 1440x720 พิกเซล ขนาด 5.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 18:9 ซึ่งตัวเครื่องมีขนาดอยู่ที่ 150.5x73.1x7.7 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 143 กรัม

ด้านหน้าส่วนบนมีกล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับเทคโนโลยี A.I. Beauty, มีฟังก์ชัน Bokeh, มีรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.2 และมีฟังก์ชัน Screen Flash, ลำโพงเสียงภายนอกสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, เซ็นเซอร์ Accelerometer ที่ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และเซ็นเซอร์ Proximity สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน

ด้านหน้าส่วนล่างจะมาพร้อมกับปุ่มการสั่งงานแบบ On Screen ซึ่งประกอบไปด้วย ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ

ด้านบนของตัวเครื่องไม่มีปุ่มการสั่งงานใดๆ ให้ใช้งาน

ด้านล่างของตัวเครื่องมีลำโพงเสียงภายนอก, ช่องเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล, ไมโครโฟน และช่องเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และถาดใส่ซิมการ์ด

ซึ่งถาดใส่ซิมการ์ดของ OPPO A83 นั้นเป็นแบบ Triple-Slot Tray ซึ่งเป็น 3 ช่องอิสระ ที่สามารถใส่ซิมการ์ดที่ 1, ซิมการ์ดที่ 2 และการ์ดหน่วยความจำภายนอกได้พร้อมๆ กัน

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง

ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องดิจิทัลถ่ายภาพความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.2, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) และไฟแฟลช LED

ทางด้านตัวเครื่องของ OPPO A83 นั้นใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Unibody โดยตัวเครื่องถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน อีกทั้งยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 3180 mAh
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ
 
OPPO A83 ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.2 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat) ซึ่งรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด และสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้

รองรับเทคโนโลยี Full NetCom 3.0 โดยซิมการ์ดที่หนึ่ง สามารถเชื่อมต่อเครือข่าย 4G/3G/2G ได้ ซึ่งใช้งานได้ทั้งอินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์ ส่วนซิมการ์ดที่สอง สามารถเชื่อมต่อเครือข่าย 3G/2G ได้ ซึ่งใช้งานได้เฉพาะโทรศัพท์อย่างเดียว นอกจากนี้ ยังรองรับการสนทนาผ่านระบบ VoLTE

โดยมีหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB และหน่วยความจำภายในขนาด 32 GB
 
อีกทั้งยังมีฟังก์ชันการแจ้งเตือนต่างๆ และสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันลัดได้หลากหลาย เช่น การเปิดใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือฟังก์ชันการถนอมสายตา (Blue Light Filter)
 
ทางด้านบริการต่างๆ จากทาง Google ก็มีให้ใช้งานอย่างครบครัน
 
 
นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนธีม, การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน และการเปลี่ยนเอฟเฟกต์ปลดล็อกหน้า

รองรับการเปิดให้แสดงภาพพื้นหลัง และแมกกาซีน ขณะอยู่บนหน้า Lockscreen
 
สำหรับฟังก์ชันโทรศัพท์ก็สามารถใช้งานได้ง่าย ซึ่งปุ่มตัวเลขก็มีขนาดพอดีกับนิ้วมือ จึงช่วยให้กดหมายเลขได้อย่างแม่นยำ และสามารถเข้าดูรายชื่อโทรศัพท์ทั้งหมดได้
 
ทางด้านเบราว์เซอร์ก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างไหลลื่น และสามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้ครบถ้วน
 
ในส่วนของแอปพลิเคชัน ตัวจัดการโทรศัพท์ ที่สามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวต่างๆ ได้ โดยผู้ใช้สามารถเคลียร์ข้อมูลขยะที่ไม่ได้ใช้ เพื่อให้มีพื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลเพิ่มมากขึ้น, การสแกนไวรัส หรือการกำหนดสิทธิ์เข้าใช้งาน
 
มีแอปพลิเคชันจัดการส่วนต่างๆ ภายในเครื่อง พร้อมทั้งสามารถใช้บริการฝากไฟล์สำหรับเก็บรายชื่อโทรศัพท์ หรือข้อความ SMS ผ่านทางฟังก์ชัน OPPO Cloud ได้
 
นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชัน Split-Screen สำหรับแบ่งหน้าจอ เพื่อให้ใช้งานได้พร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน ส่วนทางด้านโคลนนิ่งแอปพลิเคชันก็สามารถใช้งานได้บน OPPO A83 ด้วยเช่นกัน ซึ่งผู้ใช้สามารถโคลนนิ่งแอปพลิเคชันไลน์ หรือ WhatsApp นั้นหมายว่าความว่าผู้ใช้สามารถล็อกอินเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน Line ได้ พร้อมๆ กัน ถึง 2 แอคเคานท์


อีกหนึ่งฟังก์ชันที่มาพร้อมกับ OPPO A83 คือ ฟังก์ชัน Hold of Distraction (ห้ามรบกวน) เมื่อมีสายเรียกเข้าผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะรับสายหรือไม่ ถ้าหากกดรับสาย ตัวฟังก์ชันก็จะเปิดลำโพงเสียงภายนอกให้ทันทีเพื่อสนทนากับอีกฝ่าย โดยที่หน้าจอไม่สลับไปเป็นฟังก์ชันโทรศัพท์ ซึ่งผู้ใช้ก็ยังสามารถเล่นเกมต่อได้ และสนทนาไปพร้อมๆ กัน

OPPO A83 ยังรองรับระบบสแกนใบหน้า (Facial Unlock) โดยตัวฟังก์ชันจะทำการสแกนใบหน้าหลายจุด เพื่อเก็บรายละเอียดใบหน้าของผู้ใช้ ซึ่งมีประโยชน์ในการป้องกันผู้อื่นแอบอ้างเองภาพถ่ายของผู้ใช้มาทำการปลดล็อกเครื่อง ซึ่งจากการทดสอบก็พบว่าระบบสแกนใบหน้าสามารถปลดล็อกหน้าจอได้อย่างรวดเร็วทันใจ
 
สำหรับอัลบั้มภาพถ่ายนั้นสามารถแสดงภาพต่างๆ ได้ 2 แบบ คือ แบบรวมภาพถ่ายทั้งหมด กับแสดงแบบแยกอัลบั้ม
 
สามารถเปิดใช้โหมดถนอมสายตาด้วยการลดแสงสีฟ้าได้ พร้อมทั้งการตั้งเวลาเปิด-ปิด ฟังก์ชันนี้ในเวลาที่กำหนดก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
 
OPPO A83 ยังรองรับการสั่งงานด้วยท่าทางได้ ไม่ว่าจะเป็น เช่น เคาะที่หน้าจอแสดงผล 2 ครั้ง เพื่อปลุกการทำงานของเครื่อง, วาดตัว V เพื่อเปิดไฟฉาย และสามารถกำหนดรูปแบบการลากนิ้วแบบอื่นๆ เข้ากับการสั่งงานต่างๆ เพิ่มเติมได้เองอีกมากมาย
 
สามารถ เปิด-ปิด การสั่งงานด้วยนิ้วมือได้อีกหลายแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การใช้ 3 นิ้วเลื่อนขึ้น หรือลง เพื่อจับภาพหน้าจอ และการเปิดโหมดการใช้งานมือเดียวด้วยการใช้นิ้วเลื่อนจากมุมขวาล่าง หรือซ้ายล่าง ของหน้าจอ นอกจากนี้ ยังมีโหมดการโทรอัจฉริยะให้ใช้งานอีกด้วย
 
ทางด้านแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลงก็มีให้ใช้งานบน OPPO A83 ด้วยเช่นกัน และสามารถเปิดใช้งานเทคโนโลยีเสียง Real Original Sound ได้ โดยผู้ใช้สามารถสามารถปรับรูปแบบอีควอไลเซอร์ได้หลากหลาย เช่น Pop หรือ Jazz (ระบบเสียง Real Original Sound จะต้องใช้งานร่วมกับหูฟังเท่านั้น)
 
และยังมีแอปพลิเคชันสำหรับฟังวิทยุ FM ให้ใช้งาน


สามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น
 
สำหรับ OPPO A83 มาพร้อมกับ ชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6763T Helio P23 ความเร็วในการประมวลผล 2.5 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิกแบบ Mali-G71 MP2, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB, หน่วยความจำแรม ขนาด 3 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.2 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat)


ซึ่งจากการทดสอบด้วยการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติ ก็พบว่า OPPO A83 นั้นสามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรืออาการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องให้พบเจอ

และเมื่อนำ OPPO A83 มาทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 58273 คะแนน

ต่อด้วยการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu 3DRating Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 8570 คะแนน
 
สามารถจับสัญญาณดาวเทียม GPS ในที่กลางแจ้งได้ดี พร้อมรองรับระบบดาวเทียม GLONASS ของรัสเซีย โดยจากภาพตัวอย่างการทดสอบข้างต้นจะเห็นว่าสามารถจับสัญญาณดาวเทียมได้ทั้งหมด 18 ดวง และมีค่าความแม่นยำอยู่ที่บวกลบ 2 เมตร (คลาดเคลื่อนไม่เกิน 2 เมตร) แต่ไม่รองรับระบบดาวเทียม Beidou ของจีน และคุณภาพของการจับสัญญาณอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่
 
มีเซ็นเซอร์พื้นฐานติดตั้งมาให้อย่างครบถ้วน รวมถึง Gyroscope ด้วยเช่นกัน

หน้าจอของ OPPO A83 สามารถรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด
 
และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ ได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน Google Play Store
กล้องดิจิทัล ถ่ายภาพนิ่ง และถ่ายภาพวิดีโอ
 
 
สำหรับ Interface กล้องถ่ายภาพด้านหลังบน OPPO A83 ก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมแสดงไอคอนฟังก์ชันไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที ได้แก่ ไฟแฟลช LED, ฟังก์ชัน HDR, การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ และการเลือกสัดส่วนของภาพถ่าย และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพปกติ, โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า และโหมดถ่ายภาพโปร
 
สำหรับโหมดถ่ายภาพโปรนั้นสามารถปรับค่าเพื่อถ่ายได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ไวท์บาลานซ์, การชดเชยแสง, ISO หรือความเร็วชัตเตอร์ นอกจากนี้ ยังมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวยให้ใช้งานอีกด้วย ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกปรับค่าผิวเนียนได้มากถึง 6 ระดับ
 
และมีเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลายรูปแบบ
 
นอกจากนี้ ยังสามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ Full HD (1080p) และมีโหมดถ่ายวิดีโอ Time-Lapse ให้ใช้งานด้วยเช่นกัน และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ ในขณะที่ถ่ายวิดีโอผู้ใช้สามารถปรับค่าผิวเนียนได้
 
 
ทางด้านกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็มี Interface ที่สามารถใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกับกล้องดิจิทัลด้านหลัง พร้อมแสดงไอคอนฟังก์ชันไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที ได้แก่ ไฟแฟลช LED, ฟังก์ชัน HDR, ฟังก์ชัน Bokeh, การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ และการเลือกสัดส่วนของภาพถ่าย และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพปกติ, โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า และโหมดถ่ายภาพหน้าสวย
 
สำหรับโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (A.I. Beauty) นั้นสามารถเลือกปรับค่าผิวเนียนได้มากถึง 6 ระดับ สำหรับการทำงานของเทคโนโลยี A.I. Beauty นั้น ตัวกล้องจะทำการสแกนและมาร์คจุดลงบนใบหน้าของตัวแบบมากกว่า 200 จุด เพื่อวิเคราะห์รูปแบบโครงหน้าว่าเป็นอย่างไร จากนั้นจึงแบ่งพื้นที่บนใบหน้าออกเป็น 15 โซน แล้วประมวลผลร่วมกับสภาพแสงในขณะนั้นว่าควรต้องมีการตกแต่งเพิ่มเติมอย่างไร เช่น การคอนทัวร์ (Contour) หรือการเติมไฮไลท์ (Highlight) เป็นต้น และที่สำคัญก็คือ การปรับแต่งทั้งหมดนี้จะแตกต่างกันออกไป
เพราะเทคโนโลยี A.I. Beauty จะปรับตั้งค่าให้เหมาะสมกับใบหน้าแต่ละแบบ แต่ละสถานการณ์ ไม่ว่าจะคุณจะมี สีผิว, อายุ หรือเพศ แบบไหนก็ตาม โดยคงความเป็นธรรมชาติ และเอกลักษณ์ของตัวแบบไว้ให้มากที่สุด
 
สำหรับฟังก์ชัน Bokeh นั้นก็ใช้งานได้ง่าย เพียงแค่กดเปิดตัวฟังก์ชันก็จะทำการเบลอฉากหลังให้แบบอัตโนมัติ เรียกได้ว่าสะดวกสบายเป็นอย่างมาก
 
และยังมีเอฟเฟกต์ให้ใช้งานหลากหลาย
 
นอกจากนี้ ยังสามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ซึ่งอีกหนึ่งความพิเศษสำหรับโหมดถ่ายภาพวิดีโอบน OPPO A83 คือ สามารถปรับค่าผิวเนียนขณะบันทึกวิดีโอได้ และมีโหมดถ่ายวิดีโอ Time-Lapse ให้ใช้งาน และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ ในขณะที่ถ่ายวิดีโอผู้ใช้สามารถปรับค่าผิวเนียนได้
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่องความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล ของ OPPO A83

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าผิวเนียนระดับ 3

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าผิวเนียนระดับ 6
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (A.I. Beauty) ของ OPPO A83
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (A.I. Beauty) พร้อมปรับค่าแบบอัตโนมัติ
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (A.I. Beauty) พร้อมปรับค่าผิวเนียนระดับ 3
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (A.I. Beauty) พร้อมปรับค่าระดับ 6
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (A.I. Beauty) พร้อมเปิดใช้งานฟังก์ชันหน้าชัดหลังเบลอ (Bokeh) และปรับค่าผิวเนียนแบบอัตโนมัติ
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (A.I. Beauty) พร้อมเปิดใช้งานฟังก์ชันหน้าชัดหลังเบลอ (Bokeh) และปรับค่าผิวเนียนระดับ 3
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (A.I. Beauty) พร้อมเปิดใช้งานฟังก์ชันหน้าชัดหลังเบลอ (Bokeh) และปรับค่าผิวเนียนระดับ 6
สรุปผลการทดสอบของ OPPO A83

จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับการรีวิวสมาร์ทโฟนจอไร้ขอบ พร้อมกล้องหน้า A.I. Beauty และคุณสมบัติตัวเครื่องครบครันทุกการใช้งานอย่าง OPPO A83 สำหรับการออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องก็เรียกได้ว่า มีความสวยงามลงตัว อีกทั้งตรงมุมทั้งสี่ด้านยังมีความโค้งมน พร้อมกับพื้นผิวแบบด้าน จึงช่วยให้สามารถจับ หรือถือใช้งานได้อย่างคล่องตัว และเกิดคราบเปื้อน หรือรอยนิ้วมือได้ยากอีกด้วย
และแน่นอนว่าสามารถอันโดดเด่นที่สุดของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็คงจะเป็นในเรื่องของการถ่ายภาพ โดยเฉพาะกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับเทคโนโลยี A.I. Beauty, มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.2, มีฟังก์ชัน Bokeh ก็สามารถถ่ายภาพเซลฟี่ออกมาได้ดีไม่แพ้รุ่นพี่อย่าง OPPO F5 เลยก็ว่าได้ ซึ่งภาพถ่ายก็มีความคมชัด สีสันสมจริง และด้วยความสามารถของเทคโนโลยี A.I. Beauty จึงช่วยให้ตัวแบบมีใบหน้าที่สมส่วน
ผิวเรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย บอกได้เลยว่า ต้องถูกอกถูกใจผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเซลฟี่อย่างแน่นอน
ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.2, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) และไฟแฟลช LED ก็สามารถตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพได้ดีไม่แพ้กัน อีกทั้งยังมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพได้หลากหลายมากขึ้น
ทางด้านคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับราคาค่าตัว เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลแบบ TFT Full Screen Display ความละเอียด 1440x720 พิกเซล ขนาด 5.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 18:9, รองรับฟังก์ชัน Split-Screen สำหรับแบ่งหน้าจอ เพื่อให้ใช้งานได้พร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน, รองรับการโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน, รองรับฟังก์ชันการถนอมสายตา (Blue Light Filter), รองรับฟังก์ชัน Hold of Distraction
สำหรับเล่นเกม และสนทนาไปพร้อมๆ กัน, รองรับฟังก์ชันโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน, ระบบสแกนใบหน้า (Facial Unlock), ถาดซิมการ์ดแบบ Triple-Slot Tray ซึ่งเป็น 3 ช่องอิสระ ที่สามารถใส่ซิมการ์ดที่ 1, ซิมการ์ดที่ 2 และการ์ดหน่วยความจำภายนอกได้พร้อมๆ กัน, รองรับเทคโนโลยี Full NetCom 3.0 พร้อมรองรับการสนทนาผ่านระบบ VoLTE, รองรับเทคโนโลยีเสียง Real Original Sound และแบตเตอรี่ขนาด 3180 mAh พร้อมรองรับการเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงาน

สำหรับคุณสมบัติพื้นฐานของ OPPO A83 นั้นจัดอยู่ในระดับกลาง ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6763T Helio P23 ความเร็วในการประมวลผล 2.5 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิกแบบ Mali-G71, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB, หน่วยความจำแรมขนาด 3 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.2 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat) ซึ่งจากที่ทดสอบผ่านการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติ หรือการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงระดับ
Full HD (1080p) OPPO A83 ก็สามารถตอบสนองต่อการใช้งานเหล่านี้ได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้พบเจอ อีกทั้งยังไม่มีการสะสมความร้อนภายในตัวเครื่องอีกด้วย
และจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็พอที่จะสรุปได้ว่า OPPO A83 น่าจะเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเซลฟี่ ซึ่งกำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับกล้องถ่ายภาพคมชัดทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง,
ดีไซน์เรียบหรูจับถนัดมือ, มีฟังก์ชันตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย ในราคาที่ใครๆ ก็เป็นเจ้าของได้ ซึ่ง OPPO A83 ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
โดย OPPO A83 ได้เคาะราคาจำหน่ายในประเทศไทยที่ 7,990 บาท เท่านั้น! สำหรับท่านใดที่สนใจก็สามารถหาซื้อได้ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทุกสาขาทั่วประเทศ สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง OPPO ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง OPPO A83 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ OPPO A83
- ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Unibody และมีความบางเฉียบเพียง 7.7 มิลลิเมตร
- มีระบบจดจำใบหน้า (Facial Unlock) สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน
- จอแสดงผลแบบ TFT Full Screen Display Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1440x720 พิกเซล ขนาด 5.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 18:9 พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-G71
- รองรับฟังก์ชันถนอมสายตาด้วยการลดแสงสีฟ้า
- รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง
- รองรับฟังก์ชัน Split-Screen สำหรับแบ่งหน้าจอ เพื่อให้ใช้งานได้พร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน
- รองรับฟังก์ชัน Hold of Distraction สำหรับเล่นเกม และสนทนาไปพร้อมๆ กัน
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6763T Helio P23 ความเร็วในการประมวลผล 2.5 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.2 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash)
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.2, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus), ไฟแฟลช LED และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับเทคโนโลยี A.I. Beauty, มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.2, มีฟังก์ชัน Bokeh และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
- ถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ Triple-Slot Tray ซึ่งเป็น 3 ช่องอิสระ ที่สามารถใส่ซิมการ์ดที่ 1, ซิมการ์ดที่ 2 และการ์ดหน่วยความจำภายนอกได้พร้อมๆ กัน
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, WiFi, EDGE และ GPRS
- รองรับเทคโนโลยี Full NetCom 3.0 โดยซิมการ์ดที่หนึ่ง สามารถเชื่อมต่อเครือข่าย 4G/3G/2G ได้ ซึ่งใช้งานได้ทั้งอินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์ ส่วนซิมการ์ดที่สอง สามารถเชื่อมต่อเครือข่าย 3G/2G ได้ แต่ใช้งานได้เฉพาะโทรศัพท์อย่างเดียว
- รองรับการสนทนาผ่านระบบ VoLTE (เฉพาะซิมการ์ดที่ 1)
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- รองรับเทคโนโลยีเสียง Real Original Sound (ผู้ใช้จะต้องเชื่อมต่อกับหูฟังเสียก่อนถึงจะสามารถเปิดใช้งานเทคโนโลยีนี้ได้)
- รองรับการถ่ายโอนไฟล์ระหว่างสมาร์ทโฟน OPPO ด้วยฟังก์ชัน O-Share ซึ่งเร็วกว่าบลูทูธ 100 เท่า
- มีวิทยุ FM ในตัว
- ชนิดแบตเตอรี่แบบ Li-Ion ขนาด 3180 mAh พร้อมอะแดปเตอร์แบบ 5V/2A (10W) และรองรับการเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงาน
- ราคา 7,990 บาท
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ OPPO A83
-
ไม่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ในขณะที่สมาร์ทโฟนในระดับราคาที่ใกล้เคียงกันมีมาให้
- ตัวเครื่องเป็นพลาสติก ในขณะที่สมาร์ทโฟนในระดับราคาที่ใกล้เคียงกันบางรุ่นเป็นโลหะ
- เทคโนโลยีจอแสดงผลยังคงเป็นแบบ TFT ซึ่งอาจมีสีสัน และความสามารถของการใช้งานในที่กลางแจ้งเป็นรองเทคโนโลยีใหม่ๆ
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปคุณสมบัติเครื่อง
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ OPPO A83 ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ OPPO A83
title="Sony Xperia ZL Specification">

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|