รีวิว (Review) nubia Z17 Mini
สมาร์ทโฟนกล้องคู่ Dual-Camera 13 ล้านพิกเซล ผสานกล้องหน้าสุดคมชัด 16 ล้านพิกเซล พร้อมจอ LTPS Full HD 2.5D Gorilla Glass ขนาด 5.2 นิ้ว, ชิปเซ็ต Snapdragon 652, RAM 4GB, ROM 64GB, เซ็นเซอร์สแกนนิ้ว, ถ่ายวิดีโอ 4K, เล่น Line ได้ 2 ไอดี และระบบเสียง DTS Sound บนบอดี้โลหะสวยพรีเมียม ในราคาคุ้มค่าไม่ถึงหมื่น!
Review
Date (1 มิถุนายน 2560)
สวัสดีครับ พบกันอีกครั้งกับการรีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นเด็ดโดยทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์ ซึ่งในครั้งนี้จะเป็นคิวของ nubia Z17 mini สมาร์ทโฟนกล้องคู่ พร้อมดีไซน์สวยหรู ในราคาไม่ถึงหมื่น โดย nubia Z17 mini นั้นได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งก็นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนกล้องคู่ (Dual-Camera) รุ่นแรกของตระกูล Z-Series ที่ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกด้วย
สำหรับจุดขายสำคัญของ nubia Z17 mini ก็คงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของกล้องถ่ายภาพ โดยเฉพาะด้านหลังที่เป็นกล้องดิจิทัล NeoVision 6.0 แบบคู่ (Dual-Camera) ที่มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งใช้เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX258 แบบ RGB และ MONO, กระจกชั้นนอกแบบ Sapphire Glass, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) ที่สามารถโฟกัสภาพได้ภายในเวลาเพียง 0.1 วินาที, ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ Handheld Anti-Shake, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.2 และไฟแฟลช LED ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้านั้นมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมมุมกว้าง 80 องศา, โครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์, รูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.2 พร้อมรองรับฟังก์ชันใช้แสงสว่างจากหน้าจอทำหน้าที่เป็นไฟแฟลช
ซึ่งนอกจากในเรื่องของกล้องถ่ายภาพแล้ว ทางด้านคุณสมบัติเด่นก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดขายสมาร์ทโฟนรุ่นด้วยเช่นกัน เริ่มตั้งแต่ ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Unibody จึงทำให้ตัวเครื่องมีความสวยหรูพรีเมียม และแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ, หน้าจอแสดงผลแบบ LTPS LCD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.2 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Gorilla Glass, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่สามารถปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 0.1 วินาที, รองรับการใช้งานได้พร้อมกันสองแอปพลิเคชัน, รองรับเทคโนโลยี Full NetCom 3.0, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, รองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ NFC, รองรับการโทรผ่านระบบ VoLTE, รองรับการใช้งานได้พร้อมกันสองแอปพลิเคชัน, รองรับการใช้งานแอปพลิเคชัน Facebook หรือ Line ได้พร้อมกันสองแอคเคานท์ผ่านฟังก์ชัน Dual instance, รองรับการสั่งงานที่ขอบหน้าจอ (Edge Gesture), รองรับการสั่งงานด้วยท่าทางได้, รองรับระบบเสียง DTS Sound และมีแบตเตอรี่ขนาด 2950 mAh
ในส่วนของคุณสมบัติพื้นฐานก็นับว่าจัดเต็มไม่แพ้สมาร์ทโฟนในระดับราคาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm MSM8976 Snapdragon 652 ความเร็วในการประมวลผล 1.80 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 510, หน่วยความจำแรมขนาด 4 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 64 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0.1 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย nubia UI 4.0
สำหรับ nubia Z17 mini นั้นจะวางจำหน่ายในราคาเพียง 9,990 บาท เท่านั้น! และจากข้อมูลในข้างต้นจะเห็นได้ว่า nubia Z17 mini นั้นมีความน่าสนใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับราคา ทั้งในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ กับเทคโนโลยีการผลิต, คุณสมบัติตัวเครื่องที่พร้อมตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกรูปแบบ และกล้องถ่ายภาพความละเอียดสูงทั้งด้านหน้าด้านหลัง ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร, ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน, กล้องถ่ายภาพสามารถถ่ายภาพได้คมชัดเพียงใด และมีฟีเจอร์อะไรให้ใช้งานกันบ้าง ขอเชิญทุกท่านไปชมรีวิว nubia Z17 mini พร้อมกันได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์
nubia Z17 mini จะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ LTPS LCD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.2 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Corning Gorilla Glass โดยมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 146.65x72.5x7.45 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 155 กรัม
ด้านหน้าส่วนบนประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่มีมุมกว้าง 80 องศา, โครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์, รูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.2 พร้อมรองรับฟังก์ชันใช้แสงสว่างจากหน้าจอทำหน้าที่เป็นไฟแฟลช, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, ระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน และระบบ Ambient Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานแบบสัมผัส ซึ่งประกอบไปด้วยปุ่มเมนู, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ
ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร และไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับตัดเสียงรบกวนขณะบันทึกเสียง หรือบันทึกวิดีโอ
ด้านล่างของตัวเครื่องมีลำโพงเสียงภายนอก, ไมโครโฟน และช่องเชื่อมต่อยุคใหม่แบบ USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล
ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง
ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีถาดสำหรับใส่ซิมการ์ด โดยรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด แต่ในช่องที่สองจะต้องเลือกใช้งานระหว่างซิมการ์ดที่ 2 หรือการเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD อีกทั้งยังสามารถพร้อมเทคโนโลยี Full NetCom 3.0 ได้
ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องดิจิทัล NeoVision 6.0 แบบคู่ (Dual-Camera) ที่มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งใช้เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX258 แบบ RGB และ MONO, กระจกชั้นนอกแบบ Sapphire Glass, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF ที่สามารถโฟกัสภาพได้ภายในเวลาเพียง 0.1 วินาที, ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ Handheld Anti-Shake, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.2 และไฟแฟลช LED
สำหรับตัวเครื่องของ nubia Z17 mini ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Unibody จึงทำให้ตัวเครื่องมีความสวยงาม และมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ อีกทั้งยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 2950 mAh
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ
nubia Z17 mini ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0.1 Marshmallow พร้อมรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด และรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้
โดยมีหน่วยความจำแรมขนาด 4 GB พร้อมด้วยหน่วยความจำภายในขนาด 64 GB
พร้อมรองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ NFC และรองรับการโทรผ่านระบบ VoLTE
อีกทั้งยังมีฟังก์ชันการแจ้งเตือน และสามารถเปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดต่างๆ ได้ เช่น การใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือ GPS
นอกจากนี้ ยังสามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน และสามารถจัดเรียงไอคอนแอปพลิเคชันได้ตามต้องการ
สำหรับฟังก์ชันโทรศัพท์ก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมด้วยปุ่มตัวเลขขนาดใหญ่ อีกทั้งยังสามารถดูรายชื่อโทรศัพท์ทั้งหมดได้ทันที
สำหรับฟังก์ชันแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งานสองแอปพลิเคชันพร้อมกันก็มีให้ใช้งานบน nubia Z17 mini ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งแบบแนวตั้ง และแนวนอน โดยผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันนี้ด้วยการ Swip จากขอบด้านล่างของหน้าจอขึ้นด้านบน
สามารถตั้งค่าการใช้งานเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือได้ โดยผู้ใช้งานสามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้มากกว่า 1 ลายนิ้วมือ อีกทั้งยังสามารถใช้เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในการสั่งถ่ายภาพ หรือปลดล็อกหน้าจอได้ อีกทั้งยังสามารถปลดล็อกหน้าจอได้ทันทีแม้ตัวเครื่องยังอยู่ในโหมดสลีป
ในส่วนของเว็บเบราว์เซอร์ก็ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างไหลลื่น พร้อมทั้งสามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน
nubia Z17 mini ยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน Dual Instance สำหรับโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน เช่น โคลนนิ่งแอปพลิเคชัน Facebook ซึ่งผู้ใช้งานสามารถล็อกอินเข้าใช้งาน Facebook ได้พร้อมๆ กันถึง 2 แอคเคานท์ (สามารถโคลนนิ่งได้เฉพาะบางแอปพลิเคชันเท่านั้น)
อีกหนึ่งความน่าสนใจบน nubia Z17 mini คือ รองรับการสั่งงานที่ขอบหน้าจอ (Edge Gesture) ไม่ว่าจะเป็น การแตะที่ขอบจอเพื่อเปลี่ยนหน้าเดสก์ทอป, สไลด์ขอบหน้าจอจากบนลงล่างเพื่อเปลี่ยนแอปพลิเคชัน, สไลด์เร็วๆ แบบบนล่างที่ขอบหน้าเพื่อเคลียร์แอปพลิเคชัน, สไลด์ขึ้น หรือลงที่ขอบจอทั้งสองข้างพร้อมๆ กันเพื่อปรับความสว่างของหน้าจอ และดับเบิ้ลคลิกที่ขอบหน้าจอ เพื่อย้อนกลับ
อีกทั้งยังสามารถปรับตำแหน่งของปุ่มเมนู และปุ่มย้อนกลับ ได้
nubia Z17 mini ยังสามารถถ่ายภาพหน้าจอได้ 3 แบบ ได้แก่ ถ่ายภาพหน้าจอแบบยาว, ถ่ายภาพหน้าจอแบบอิสระ และสามารถบันทึกวิดีโอบนหน้าจอได้อีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น nubia Z17 mini ยังรองรับการสั่งงานด้วยท่าทางได้ เช่น การพลิกคว่ำตัวเครื่องเพื่อปิดเสียง หรือเขย่าตัวเครื่องเพื่อเคลียร์หน่วยความจำแรม (RAM), การนำสมาร์ทโฟนแนบใบหูเพื่อโทรออก หรือรับสาย และการถ่ายภาพหน้าจอด้วยการลากสามนิ้วขึ้น หรือลง
ทางด้านแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลงก็มีให้ใช้งานบน nubia Z17 mini ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังสามารถเปิดใช้งานระบบเสียง DTS Sound ได้
ในส่วนของแอปพลิเคชันวิทยุก็มีให้ใช้งานด้วยเช่นกัน
และยังสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น และสามารถแสดงผลได้เต็มความละเอียดของไฟล์วิดีโอได้อย่างคมชัด และสีสันสดใส
และมีฟังก์ชัน Popup Play ให้ใช้งาน
สำหรับ nubia Z17 mini นั้นมาพร้อมกับชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm MSM8976 Snapdragon 652 ความเร็วในการประมวลผล 1.80 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 510, หน่วยความจำแรมขนาด 4 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 64 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0.1 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย nubia UI 4.0
ด้วยคุณสมบัติตัวเครื่องที่ไม่เป็นสองรองใคร จึงทำให้ nubia Z17 mini นั้นสามารถตอบโจทย์ด้านการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้พบเจอ
และเมื่อนำ nubia Z17 mini มาทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 83542 คะแนน ส่วนการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน Geekbench 4 พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 1352 สำหรับการประมวลผลแบบ Single-Core และ 4517 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Multi-Core
ต่อด้วยการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu 3DRating Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 8053 คะแนน
Nubia Z17 mini สามารถรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 3 จุด
และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store
กล้องดิจิทัล ถ่ายภาพนิ่ง และถ่ายภาพวิดีโอ
สำหรับ Interface กล้องถ่ายภาพของ nubia Z17 mini นั้นมีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที เช่น โหมดถ่ายภาพ HDR, ไฟแฟลช LED หรือการตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพการวาดแสง, โหมดถ่ายภาพโปร, โหมดถ่ายวิดีโอ Time-Lapse, โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า หรือโหมดถ่ายภาพดวงดาว
ในส่วนของโหมดถ่ายภาพโปรนั้นสามารถปรับค่าเพื่อถ่ายภาพได้หลายอย่างด้วยกัน เช่น ความเร็วชัตเตอร์, ไวท์บาลานซ์ หรือจุดโฟกัส
นอกจากนี้ กล้องดิจิทัลด้านหลังยังมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวยให้ใช้งานอีกด้วย ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับค่าผิวเนียนได้มากถึง 10 ระดับเลยทีเดียว อีกทั้งยังสามารถปรับให้เบลอฉากหลังได้ผ่านฟังก์ชันโบเก้
มีเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพให้ใช้งานหลากหลายรูปแบบ
สามารถตั้งค่าเพื่อถ่ายภาพได้อีกหลายอย่างด้วยกัน เช่น การเปิดใช้งานตาราง 9 ช่อง, ระบบตรวจจับใบหน้า, เสียงชัตเตอร์, เส้นวัดระดับน้ำ, สัดส่วนกล้องถ่ายภาพ, การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย และการสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ
ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกัน พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งาน 2 แบบ คือ โหมดถ่ายภาพปกติ และโหมดถ่ายภาพหน้าสวย
ซึ่งในโหมดถ่ายภาพหน้าสวยนั้นสามารถปรับค่าผิวเนียนได้มากถึง 10 ระดับ
และสามารถเปิดใช้งานแสงสว่างจากหน้าจอแทนไฟแฟลช LED และมีเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพให้ใช้งานหลากหลาย
และสามารถตั้งค่ากล้องถ่ายภาพได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใช้งานตารางเก้าช่อง, ระบบตรวจจับใบหน้า, การเปิด-ปิด เสียงชัตเตอร์, การปรับสัดส่วนของภาพถ่าย หรือการสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ, ระบบตรวจจับใบหน้า, ระบบตรวจจับรอยยิ้ม, การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย และสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าเพิ่มเติมได้อีกหลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ฟังก์ชันกระจกสะท้อน, กล้องดิจิทัลด้านหน้าสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p), กล้องดิจิทัลด้านหลังสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K Ultra HD และสามารถเพิ่มความสามารถให้กับปุ่มลดระดับเสียงให้เป็นชัตเตอร์ถ่ายภาพได้
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่องความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล ของ nubia Z17 mini
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพโปร พร้อมปรับความเร็วชัตเตอร์ที่ 1/4000
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าผิวเนียนระดับ 5
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าผิวเนียนระดับ 10
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าผิวเนียนระดับ 5 และเปิดใช้งานฟังก์ชันโบเก้ระดับน้อยสุด
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าผิวเนียนระดับ 5 และเปิดใช้งานฟังก์ชันโบเก้ระดับกลาง
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าผิวเนียนระดับ 5 และเปิดใช้งานฟังก์ชันโบเก้ระดับสูงสุด
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าสวยของ nubia Z17 mini
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าผิวเนียนระดับ 5
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าผิวเนียนระดับ 10
สรุปผลการทดสอบของ nubia Z17 mini
นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่มีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับสมาร์ทโฟนกล้องคู่ พร้อมดีไซน์สวยหรู ในราคาไม่ถึงหมื่นอย่าง nubia Z17 mini โดยเฉพาะในเรื่องการออกแบบดีไซน์ ที่บอกได้เลยว่าสวยงาม และดูมีความพรีเมียมเป็นอย่างมาก อีกทั้งตัวเครื่องยังใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal Unibody จึงทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ นอกจากนี้ พื้นผิวด้านหลังยังเป็นแบบด้าน บวกกับความโค้งมน พร้อมด้วยความบางเฉียบเพียง 7.45 มิลลิเมตร ซึ่งช่วยให้สามารถจับ หรือถือใช้งาน อีกทั้งยังพกพาไปใช้งานตามสถานที่ต่างๆ ได้อย่างคล่องตัว
สำหรับในเรื่องของกล้องถ่ายภาพนั้นถือเป็นจุดขายหลักของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะด้านหลังที่เป็นกล้องดิจิทัล NeoVision 6.0 แบบคู่ (Dual-Camera) ที่มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX258 แบบ RGB และ MONO, กระจกชั้นนอกแบบ Sapphire Glass, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) ที่สามารถโฟกัสภาพได้ภายในเวลาเพียง 0.1 วินาที, ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ Handheld Anti-Shake, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.2 และไฟแฟลช LED ซึ่งจากการทดสอบด้วยการถ่ายภาพในหลายๆ รูปแบบ พบว่ากล้องดิจิทัลด้านหลังนั้นสามารถถ่ายภาพออกมาได้สวยคมชัด สีสันสดใสสมจริง และสามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งการถ่ายภาพในสภาวะแสงปกติ หรือในสภาวะแสงน้อย นอกจากนี้ ยังมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพโปรที่สามารถปรับค่าเพื่อถ่ายภาพได้ประหนึ่งกล้อง DSLR ขนาดพกพา และโหมดถ่ายภาพหน้าสวยที่สามารถปรับค่าผิวเนียนได้มากถึง 10 ระดับ และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ สามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันโบเก้สำหรับเบลอฉากหลังได้อีกด้วย แน่นอนว่า ด้วยความสามารถเหล่านี้ จะเป็นตัวช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพแบบใหม่ๆ ได้ไม่รู้เบื่อ
ส่วนทางกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่มีมุมกว้าง 80 องศา, โครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์, รูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.2 พร้อมรองรับฟังก์ชันใช้แสงสว่างจากหน้าจอทำหน้าที่เป็นไฟแฟลช ก็ตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพได้ดีไม่แพ้กัน แถมยังสามารถทำงานร่วมกับโหมดถ่ายภาพหน้าสวยได้ดีเป็นอย่างมาก ซึ่งเหมาะกับผู้ที่รักการถ่ายภาพเซลฟี่เป็นพิเศษ
ในส่วนของคุณสมบัติเด่นก็เรียกได้ว่า สมน้ำสมเนื้อกับราคาค่าตัว อีกทั้งยังสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ดีเป็นอย่างมาก เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผล LTPS LCD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.2 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Gorilla Glass, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่สามารถปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 0.1 วินาที, รองรับการใช้งานได้พร้อมกันสองแอปพลิเคชัน, รองรับเทคโนโลยี Full NetCom 3.0, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, รองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ NFC, รองรับการโทรผ่านระบบ VoLTE, รองรับการใช้งานได้พร้อมกันสองแอปพลิเคชัน, รองรับการใช้งานแอปพลิเคชัน Facebook หรือ Line ได้พร้อมกันสองแอคเคานท์ผ่านฟังก์ชัน Dual instance, รองรับการสั่งงานที่ขอบหน้าจอ (Edge Gesture), รองรับการสั่งงานด้วยท่าทางได้, รองรับระบบเสียง DTS Sound และมีแบตเตอรี่ขนาด 2950 mAh
ทางด้านคุณสมบัติการประมวลผล ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm MSM8976 Snapdragon 652 ความเร็วในการประมวลผล 1.80 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 510, หน่วยความจำแรมขนาด 4 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 64 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0.1 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย nubia UI 4.0 นั้นสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย ทั้งการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K Ultra HD หรือเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติ อีกทั้งยังมีความไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรืออาการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องให้พบเจอ
ซึ่งหากเทียบกับคุณสมบัติโดยรวม ก็ถือว่าคุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง โดยจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็พอที่จะสรุปได้ว่า nubia Z17 mini น่าจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนดีไซน์สวยหรูพรีเมียม, วัสดุแข็งแรงทนทาน, จอใหญ่คมชัด, สเปกครบเครื่องทุกการใช้งาน, ฟังเพลงไพเราะ, กล้องถ่ายภาพสวยคมชัด และมีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย ซึ่ง nubia Z17 mini ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุ้มค่าในราคาไม่เกินหมื่น
สำหรับท่านใดที่สนใจ nubia Z17 mini ก็สามารถสั่งซื้อได้ในราคา 9,990 บาท เท่านั้น! ผ่านช่องทางออนไลน์ที่ nubia Store (Thailand) หรือสามารถไปเป็นเจ้าของได้ที่ห้างสรรพสินค้า Big C ในราคา 10,990 บาท โดย nubia Z17 mini จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยวันที่ 10 มิถุนายน 2560
สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง nubia ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง nubia Z17 mini มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ nubia Z17 mini
- ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Unibody จึงทำให้ตัวเครื่องมีความสวยหรูพรีเมียม และแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ด้านข้างของตัวเครื่อง สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน ซึ่งสามารถปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 0.1 วินาที
- จอแสดงผลแบบ LTPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.2 นิ้ว พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 510
- ครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Gorilla Glass
- รองรับการใช้งานได้พร้อมกันสองแอปพลิเคชัน
- รองรับการใช้งานแอปพลิเคชัน Facebook หรือ Line ได้พร้อมกัน 2 แอคเคานท์ผ่านฟังก์ชัน Dual instance
- รองรับการสั่งงานที่ขอบหน้าจอ (Edge Gesture) และรองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm MSM8976 Snapdragon 652 ความเร็วในการประมวลผล 1.80 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0.1 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย nubia UI 4.0
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 64 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash)
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB
- กล้องดิจิทัล NeoVision 6.0 แบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งใช้เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX258 แบบ RGB และ MONO, กระจกชั้นนอกแบบ Sapphire Glass, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) ที่สามารถโฟกัสภาพได้ภายในเวลาเพียง 0.1 วินาที, ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ Handheld Anti-Shake, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.2, ไฟแฟลช LED และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K Ultra HD
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่มีมุมกว้าง 80 องศา, โครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์, รูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.2 พร้อมรองรับฟังก์ชันใช้แสงสว่างจากหน้าจอทำหน้าที่เป็นไฟแฟลช และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว พร้อมรองรับเทคโนโลยี Full NetCom 3.0
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, WiFi, EDGE และ GPRS
- รองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ NFC
- รองรับการสนทนาผ่านระบบ VoLTE
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- ชนิดแบตเตอรี่แบบ Li-Ion ขนาด 2950 mAh
- รองรับระบบเสียง DTS Sound
- มีวิทยุ FM ในตัว
- มี 2 สีมาตรฐานให้เลือกคือ ดำทอง และขาวทอง
- ราคา 9,990 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณสมบัติโดยรวม
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ nubia Z17 mini
- ระบบปฏิบัติการพื้นฐานยังคงเป็น Android 6.0 Marshmallow ซึ่งยังไม่ใช่แอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่ล่าสุด
- เนื่องจากเป็นดีไซน์แบบ Metal-Unibody ที่ไม่มีฝาหลัง จึงไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่เองได้
- ในช่องซิมการ์ดที่ 2 จะต้องเลือกใช้งานระหว่างซิมการ์ดที่ 2 หรือใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ไม่สามารถใช้งานพร้อมกันได้
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
title="Sony Xperia ZL Specification">
:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|